ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 35 จากทั้งหมด 482 หน้า แสดงรายการที่ 681 - 700 จากข้อมูลทั้งหมด 9627 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
681 | เป้าหมายของนโยบายการเงิน ประจำปี 2565 | กค. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป้าหมายของนโยบายการประเงิน
ประจำปี ๒๕๖๕ พร้อมข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินสำหรับระยะปานกลาง
และเป้าหมายสำหรับปี ๒๕๖๕
ซึ่งกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินไว้ที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงร้อยละ ๑-๓
และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้วจะได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคณะกรรมการนโยบายการเงินรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า
หากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเคลื่อนไหวอยู่นอกกรอบเป้าหมาย
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นสำหรับการบริโภคและการลงทุน
เห็นควรให้คณะกรรมการนโยบายการเงินเร่งพิจารณาหาแนวทางแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวและรายงานผลการดำเนินการต่อคณะรัฐนตรี
รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้กับสาธารณชนถึงแนวทางในการแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่อไป
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
การดำเนินนโยบายการเงินในปี ๒๕๖๕
จำเป็นจะต้องมีความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายอย่างเหมาะสม
เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ
รวมทั้งการใช้เครื่องมือและมาตรการทางการเงินเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ยังมีข้อจำกัดในการฟื้นตัว
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
682 | รายงานผลการให้บริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2563 และประจำงวดครึ่งปีงบประมาณ 2564 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และรายงานผลการให้บริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2563 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | กค. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการให้บริการสาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ และประจำงวดครึ่งปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และรายงานผลการให้บริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓
ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ในคราวประชุมคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
ที่ประชุมได้มีมติรับทราบและมีข้อสังเกตเกี่ยวกับรายงานผลการให้บริการสาธารณะดังกล่าว
โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ ๑) บันทึกข้อตกลงการให้บริการสาธารณะขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย
และ ๒) รายงานผลฯ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
683 | แนวทางปฏิบัติสำหรับการนำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้กับโครงการที่ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โดยอนุโลม | กค. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบแนวทางปฏิบัติสำหรับการนำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้กับโครงการที่ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยอนุโลม เช่น ขอบเขตการดำเนินการ คุณสมบัติของผู้สังเกตการณ์
และค่าตอบแทนของผู้สังเกตการณ์ และเห็นชอบมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจดำเนินการทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อกำหนดค่าตอบแทนของผู้สังเกตการณ์และให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเสนอ ๒. ให้คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นว่า สำหรับค่าตอบแทนการดำเนินงานของผู้สังเกตการณ์
เห็นควรให้ทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพี่อกำหนดค่าตอบแทนที่มีความเหมาะสมตามอัตราที่กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดเพื่อให้หน่วยงานเจ้าของโครงการสามารถดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจพิจารณาความเหมาะสมของการนำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้ในขั้นตอนการแก้ไขสัญญาโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
โดยเฉพาะกรณีที่เป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่
เพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าการดำเนินโครงการร่วมลงทุนของภาครัฐเป็นไปอย่างโปร่งใส
ตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
684 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. .... | กค. | 07/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการคงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราเดิม
ตามบทเฉพาะกาล มาตรา ๙๔ แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒
สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี ๒๕๖๕-๒๕๖๖ และในปี ๒๕๖๗
กระทรวงการคลังจะพิจารณาภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้มีความเหมาะสม
และสอดคล้องกับสภาพทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการคงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราเดิม ตามบทเฉพาะกาล
มาตรา ๙๔ แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒ สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
โดยใช้อัตราภาษีตามมูลค่าของฐานภาษี ดังนี้ ๒.๑
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม อัตราภาษี ร้อยละ
๐.๐๑-๐.๑ ตามมูลค่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ๒.๒ ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย
อัตราภาษีร้อยละ ๐.๐๒-๐.๑ ตามมูลค่าที่ดินและ/หรือสิ่งปลูกสร้าง ๒.๓
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่น นอกจาก ๒.๑ และ ๒.๒ อัตราภาษีร้อยละ
๐.๓-๐.๗ ตามมูลค่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ๒.๔
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ
อัตราภาษีร้อยละ ๐.๓-๐.๗ ตามมูลค่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรจะต้องพิจารณาถึงแหล่งเงินรายได้อื่น
และเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประกอบด้วย
รวมทั้งการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ ตลอดจนการรายงานผลการดำเนินงานและผลกระทบตามมาตรการภาษีที่ผ่านมา
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย
และเร่งสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนถึงภาระภาษีที่แท้จริงตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พ.ศ. ๒๕๖๒ ควบคู่กับการดำเนินการพัฒนาระบบฐานข้อมูล
และระบบการบริหารจัดการฐานข้อมูลการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ให้มีความครบถ้วนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เพื่อให้สามารถประกาศใช้อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีความเหมาะสมได้ในปี
๒๕๖๗ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ให้กระทรวงการคลังได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
685 | รายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2564 | กค. | 07/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่
๓ ปี ๒๕๖๔ ประกอบด้วย (๑)
การดำเนินนโยบายการเงินในช่วงไตรมาสที่ ๓ ปี ๒๕๖๔ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน
เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๔ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ ๐.๕ ต่อปี และคาดว่าในปี
๒๕๖๔ และ ๒๕๖๕ เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ ๐.๗ และ ๓.๙ ตามลำดับ (๒) การประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจการเงินเพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงิน
ประเมินว่าเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าในปี ๒๕๖๔ มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-๑๙
และในปี ๒๕๖๕ คาดว่าเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น และ (๓)
แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของไทย คาดว่าในปี ๒๕๖๔ เศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ ๐.๗
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรควิด-๑๙ โดยคาดว่าประมาณการเศรษฐกิจในปี
๒๕๖๕ จะขยายตัวเร่งขึ้นร้อยละ ๓.๙ โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะทยอยฟื้นตัวและสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
686 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ... (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยื่นรายการ แบบ คำร้อง คำขอ หรือเอกสารอื่นใดตามประมวลรัษฎากร บนระบบอิเล็กทรอนิกส์ | กค. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง
ฉบับที่ ... (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยื่นรายการ แบบ
คำร้อง คำขอ หรือเอกสารอื่นใดตามประมวลรัษฎากร บนระบบอิเล็กทรอนิกส์
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีอากร ผู้มีหน้าที่นำส่งภาษี
ผู้ประกอบการจดทะเบียนหรือบุคคลใด สามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษี
แบบยื่นรายการนำส่งภาษี แบบยื่นรายการภาษี แบบนำส่งภาษี รายงาน บัญชีพิเศษ
บัญชีงบดุลหรือบัญชีอื่น ๆ ประกอบแบบแสดงรายการคำร้องคืนภาษีอากร คำร้องอุทธรณ์
คำร้อง คำขอ หรือเอกสารหรือหนังสืออื่นใดต่อกรมสรรพากร ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
687 | การเสนอความเห็นการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียนของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน | กค. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ
(กองทุนฯ)
ตามร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. ....
ในคราวประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน ครั้งงที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๔
เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้และสวัสดิการสำหรับแรงงานนอกระบบ
โดยมีข้อสังเกต ดังนี้ (๑) แผนรายรับของกองทุนฯ
ควรมีความชัดเจนและมีแหล่งรายได้ที่แน่นอน
พร้อมทั้งจัดทำแผนประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อหาสมาชิกให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรม (๒)
แผนการดำเนินงานและวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ
จะต้องมีความชัดเจนและไม่ซ้ำซ้อนกับทุนหมุนเวียนอื่น และ (๓)
ไม่ควรกำหนดให้กองทุนฯ
เป็นแหล่งเงินงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานนโยบายแรงงานนอกระบบ
ควรดำเนินงานผ่านงบประมาณปกติของหน่วยงาน
รวมทั้งการกำหนดให้จ่ายเงินกองทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดให้มีสิทธิอื่นใดแก่แรงงานนอกระบบ
ควรระบุสิทธิประโยชน์อื่นแก่แรงงานนอกระบบให้ชัดเจน ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
และให้กระทรวงแรงงาน (สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน) รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน เช่น ควรกำหนดแผนหรือมาตรการเพื่อรองรับกรณีรายรับไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ควรมีระบบติดตามและประเมินผลการใช้จ่ายกองทุนฯ อย่างเนื่อง เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
688 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุข) | กค. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุข)
มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
โดยให้หักลดหย่อนหรือหักเป็นรายจ่ายได้ ๒ เท่า ของจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาค
สำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร ให้แก่ศิริราชมูลนิธิ
หรือมูลนิธิจุฬาภรณ์ และยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ
และอากรแสตมป์ สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สินหรือการขายสินค้า
หรือสำหรับการกระทำตราสาร
อันเนื่องมาจากการบริจาคให้แก่มูลนิธิดังกล่าวที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับถึงวันที่
๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
โดยให้กำหนดวันเริ่มต้นการดำเนินการตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุขในร่างพระราชกฤษฎีกาตั้งแต่วันที่
๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
รับทราบหลักเกณฑ์เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการบริจาคด้านสาธารณสุข
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
ตลอดจนติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
689 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
พ.ศ. ๒๕๓๙
โดยกำหนดให้กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการสามารถรับโอนเงินของสมาชิกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
หรือกองทุนอื่นที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักประกันในกรณีการออกจากงานหรือชราภาพได้
แก้ไขเพิ่มเติมอัตราการส่งเสริมของสมาชิก โดยให้ส่งได้ไม่เป็นเกินร้อยละ ๓๐
ของเงินเดือน เพิ่มหลักเกณฑ์การบริหารเงินของสมาชิกผู้ถึงแก่ความตายในกรณีที่ผู้มีสิทธิรับมรดกยังไม่ยืนคำขอรับเงินที่สมาชิกมีสิทธิได้รับ
แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารเงินของสมาชิกซึ่งสิ้นสุดสมาชิกภาพ
และแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการลงทุนของเงินของกองทุนในบัญชีเงินสำรองและบัญชีรายบุคคลของสมาชิกแต่ละคน
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
690 | ขอความเห็นชอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย | กค. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน ๒,๒๗๙.๗๘๑ ล้านบาท และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
จำนวน ๓,๒๗๘.๘๖๖ ล้านบาท (รวมเป็นภาระที่รัฐต้องชดเชยทั้งสิ้น
๕,๕๕๘.๖๔๗ ล้านบาท) ตามมติคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ
ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔
เพื่ออุดหนุนทางการเงินโดยจ่ายชดเชยผลขาดทุนให้กับ ขสมก. และ รฟท. ในรูปของเงินงบประมาณ
ตามจำนวนส่วนต่างของประมาณการรายได้และต้นทุนการให้บริการสาธารณะ
เพื่อลดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของ ขสมก. และ รฟท ในการดำเนินการตามภารกิจ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม (องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย)
รับความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น ขสมก. และ รฟท. ควรหาแนวทางในการลดกรอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ
โดยเพิ่มรายได้ ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการให้บริการสาธารณะ
และปรับตัวแปรตามอัตราที่ใช้ในการคำนวณรายได้และต้นทุนค่าใช้จ่ายในการให้บริการสาธารณะตามผลที่เกิดขึ้นจริง
ให้ ขสมก. เร่งดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการที่สอดคล้องกับแผนการปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานคร
และจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ให้ รฟท.
เร่งดำเนินการฟื้นฟูกิจการ โดยเฉพาะการหารายได้เพิ่มจากการถ่ายโอนสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทลูกของ
รฟท. เพื่อให้มีเงินสดเพียงพอต่อการดำเนินกิจการได้อย่างยั่งยืน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ในครั้งต่อ ๆ ไป
ในกรณีที่กระทรวงคมนาคม (องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย) มีความประสงค์จะปรับปรุงการให้บริการสาธารณะเพื่อคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะพิจารณาไม่น้อยกว่า
๕ เดือน ก่อนสิ้นปีงบประมาณ ตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. ๒๕๕๔ อย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
691 | รายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา 50 และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ และความเสี่ยงทางการคลัง ตามมาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันสิ้นปีงบประมาณ 2564 | กค. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา ๕๐
และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ และความเสี่ยงทางการคลัง ตามมาตรา ๗๖
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ วันสิ้นปีงบประมาณ ๒๕๖๔
ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ภาระหนี้ประกอบกับแผนการกู้เงินและการชำระหนี้ในอนาคตพบว่า
อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
และยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐที่กำหนดไว้
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
692 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 10 แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 และมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | กค. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา ๑๐
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ และมาตรา ๘ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งเป็นการรายงานความเป็นมาและข้อเท็จจริง
รายละเอียดของการกู้เงิน วัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงินกู้และรายละเอียดโครงการ
และผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่ได้รับของโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
693 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2564 | กค. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา
๑๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งประกอบด้วย ๒ ส่วน ได้แก่ ๑) รายงานการกู้เงินและการค้ำประกันที่ทำในปีงบประมาณที่ล่วงมาแล้ว
และรายงานหนี้สาธารณะ และ ๒) รายงานผลการประเมินความสำเร็จของโครงการหรือแผนงานที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ
จำนวน ๒๓ โครงการ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
694 | รายงานการรับจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | กค. | 23/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการรับจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยรายงานดังกล่าวมีเกณฑ์ในการจัดทำ ขอบเขตของรายงาน
และข้อมูลที่ใช้ในการจัดทำ ประกอบด้วย
ข้อมูลการรับและการจ่ายเงินของหน่วยงานของรัฐที่ได้รับจัดสรรตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ได้แก่ รายได้แผ่นดินที่หน่วยงานของรัฐจัดเก็บและนำเงินส่งคลัง
(รายได้จากภาษีอากร รายได้ค่าธรรมเนียม รายได้จากรัฐพาณิชย์)
รายรับจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ รายจ่ายตามงบประมาณ
(รายจ่ายของหน่วยงานและรายจ่ายงบกลาง) ข้อมูลรายจ่ายจากเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี
และรายจ่ายตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง ซึ่งกระทรวงการคลังได้ประมวลข้อมูลดังกล่าวจากรายงานระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร
(MIS)
และข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐบันทึกเข้ามาในระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์
(GFMIS) ณ วันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้เสนอรัฐสภาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
695 | มาตรการสินเชื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ | กค. | 23/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการสินเชื่อสร้างงาน
สร้างอาชีพ รวมถึงอนุมัติงบประมาณวงเงินรวม ๑,๕๐๐ ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเยียวยาฟื้นฟูให้แก่ประชาชน ผู้เริ่มประกอบการ
ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบการขนาดย่อม
และผู้ขับขี่รถสาธารณะที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเริ่มต้นในการประกอบอาชีพหรือเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ
ให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารออมสิน) รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่เห็นควรปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดต่อไป
จัดลำดับความสำคัญของผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งติดตามดูแล
และควบคุมการดำเนินมาตรการให้เป็นไปตามคำสั่งและระเบียบภายในของธนาคาร
และพิจารณาเพิ่มกรอบวงเงินของมาตรการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
รวมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นและเป็นภาระต่องบประมาณให้ธนาคารออมสินดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
696 | การโอนเงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF 1 และ FIDF 3 | กค. | 23/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนเงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
(กองทุนฯ) เข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดเชยความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
(บัญชีสะสมฯ) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ จำนวน ๒,๕๐๐ ล้านบาท โดยให้กองทุนฯ
ทยอยโอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีสะสมฯ ตามปริมาณสภาพคล่องของกองทุนฯ
เนื่องจากจำนวนเงินดังกล่าวมีความเหมาะสมกับประมาณการกระแสเงินรับ-จ่ายของกองทุนฯ
ซึ่งจะทำให้กองทุนฯ มีเงินสดคงเหลือพอเพียงเพื่อสำรองเป็นการใช้จ่ายดำเนินงาน
และภาระชดเชยที่ต้องดำเนินการ อย่างไรก็ดี หากกองทุนฯ ได้รับเงินที่มีนัยสำคัญให้พิจารณาทบทวนเพื่อขออนุมัตินำส่งเงินเข้าบัญชีสะสมฯ
เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
697 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช 2485 | กค. | 23/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน
พุทธศักราช ๒๔๘๕ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเพิ่มเติมรูปแบบการอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจปัจจัยชำระเงินต่างประเทศที่มีรูปแบบเป็นนวัตกรรม
ซึ่งนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ ผ่อนคลายหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ
ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศซึ่งได้รับอนุญาตหรือได้ขึ้นทะเบียนเพิ่มเติม
และเพิ่มเติมลักษณะต้องห้ามของกรรมการ
ผู้มีอำนาจในการจัดการและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของผู้ประกอบธุรกิจปัจจัยชำระเงินต่างประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรจะพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช
๒๔๘๕ ให้เหมาะสมต่อไป
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรติดตามประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งติดตามผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่อนคลายหลักเกณฑ์ดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
698 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (นายพรชัย ฐีระเวช) | กค. | 23/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายพรชัย ฐีระเวช เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
แทนประธานกรรมการเดิมที่ลาออก ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔) เป็นต้นไป
และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทน
อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการซึ่งตนแทน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
699 | ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อจัดให้รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเช่าที่ราชพัสดุเพื่อเป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดสงขลา | กค. | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ วันที่ ๒๓ กรกฎาคม
๒๕๓๔ วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ และวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ เพื่อจัดให้รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเช่าที่ราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ สข.๑๑๐๐
(บางส่วน) ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เนื้อที่ประมาณ ๕-๐-๖๕.๘๐ ไร่ เพื่อเป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน
ณ จังหวัดสงขลา
โดยกรมธนารักษ์จะได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖
โดยจัดสรรงบประมาณให้กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อมไม่น้อยกว่า
๒๐ เท่าของพื้นที่ป่าชายเลนที่ใช้ประโยชน์ตามระเบียบกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งว่าด้วยการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลนทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อม
กรณีการดำเนินโครงการใด ๆ
ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน พ.ศ. ๒๕๕๖
อย่างเคร่งครัดต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ควรพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร และต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง ครบถ้วนในทุกขั้นตอน
ควรเร่งรัดให้มีการดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการว่าด้วยการบริหารศูนย์ราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๒ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
700 | ร่างพระราชกฤษฎีกาการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุด และการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 09/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุด
และการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุด
และการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑
โดยเพิ่มหลักเกณฑ์การคำนวณจำนวนเงินสะสมสูงสุดในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการบริหารการคลังของรัฐ
และการกำหนดให้ทุนหมุนเวียนที่ใช้จ่ายเงินบรรลุตามวัตถุประสงค์หรือแผนการดำเนินงานของทุนหมุนเวียนแล้วและมีเงินคงเหลือหรือมีเงินคงเหลือเกินความจำเป็นในรอบบัญชีนั้น
ให้นำเงินดังกล่าวส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าในการใช้จ่ายเงินของทุนหมุนเวียนต่าง
ๆ ตามภารกิจ จะต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่าและประหยัด
รวมถึงการใช้จ่ายของทุนหมุนเวียนจะต้องเป็นไปตามความจำเป็นของภารกิจ
ตลอดจนความสำคัญกับการจัดให้มีระบบการติดตามและประเมินผลอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|