ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 40 จากทั้งหมด 482 หน้า แสดงรายการที่ 781 - 800 จากข้อมูลทั้งหมด 9627 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
781 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสำหรับเงินสนับสนุนที่ได้รับจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน) | กค. | 22/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำหรับเงินสนับสนุนที่ได้รับจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
สำหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่ากระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์
และรายงานการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
782 | รายงานผลการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลโดยการดำเนินธุรกรรมแลกเปลี่ยนพันธบัตร (Bond Switching) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ครั้งที่ 2 | กค. | 22/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลโดยการดำเนินธุรกรรมแลกเปลี่ยนพันธบัตร
(Bond Switching) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๒ ซึ่งกระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ ก่อนครบกำหนดเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๔ ซึ่งมีการดำเนินธุรกรรมแลกเปลี่ยนพันธบัตร (Bond Switching) วงเงิน ๑๔,๔๑๐ ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นที่กระทรวงการคลัง รับแลกเปลี่ยน (Source Bond) คือพันธบัตรรัฐบาลรุ่น LB236A อายุ ๒.๑๓ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๖๒๕ ต่อปี
และพันธบัตรรัฐบาลรุ่นที่กระทรวงการคลัง กำหนดเพื่อนำมาแลกเปลี่ยน (Destination
Bond) จำนวน ๒ รุ่น ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาลรุ่น LB26DA อายุ ๕.๖๔ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๒.๑๒๕ ต่อปี จำนวน ๙,๐๒๙ ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาลรุ่น LB28DA อายุ ๗.๖๔ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๒.๘๗๕ ต่อปี จำนวน ๕,๓๘๑ ล้านบาท
ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสามารถลดการกระจุกตัวของหนี้
ลดความเสี่ยงในการปรับโครงสร้างหนี้ในอนาคต และช่วยยืดหยุ่นอายุเฉลี่ยของหนี้
ภายใต้ พ.ร.ก. กู้เงินฯ พ.ศ. ๔๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
783 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการประกอบกิจการอันพึงเป็นงานธนาคารของธนาคารออมสิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 15/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการประกอบกิจการอันพึงเป็นงานธนาคารของธนาคารออมสิน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงว่าด้วยการประกอบกิจการอันพึงเป็นงานธนาคารของธนาคารออมสิน
พ.ศ. ๒๕๔๗
เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการประกอบกิจการให้สินเชื่อของธนาคารออมสิน
และหลักเกณฑ์การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่ตกเป็นของธนาคาร
เพื่อให้การดำเนินงานของธนาคารออมสินเป็นมาตรฐานเดียวกันกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจอื่น
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้พิจารณาให้ครอบคลุมถึงการที่ธนาคารออมสินได้มาซึ่งทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการบังคับหลักประกันตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
784 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 ครั้งที่ 24 | กค. | 15/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 ครั้งที่ ๒๔ (ASEAN+3
Finance Ministers’ and Central Bank Govemors’
Meeting : AFMGM+3) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่
๓ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ในรูปแบบการประชุมทางไกล มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุม โดยมีสาระสำคัญประกอบด้วย (๑) ผลการประชุม AFMGM+3 เช่น
การพัฒนาและแนวโน้มเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาค
โดยที่ประชุมคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปี ๒๕๖๔ จะขยายตัวที่ร้อยละ ๖ และในปี ๒๕๖๕
จะขยายตัวที่ร้อยละ ๔ ตามลำดับ และ (๒) การรับรองแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 ครั้งที่ ๒๔
ซึ่งที่ประชุมได้มีการปรับปรุงเพื่อให้มีความเหมาะสมและสะท้อนข้อเท็จจริงมากขึ้น
โดยไม่กระทบหรือขัดต่อการประโยชน์ของไทยและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้เมื่อวันที่
๒๗ เมษายน ๒๕๖๔ เช่น การเพิ่มข้อความเพื่อแสดงการสนับสนุนโครงการกองทุนประกันภัยพิบัติของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และการแสดงความยินดีกับความสำเร็จของการลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
785 | รายงานรายรับจากการจำหน่ายหลักทรัพย์ของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2550 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 | กค. | 15/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานรายรับจากการจำหน่ายหลักทรัพย์ของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๐ เรื่อง การจำหน่ายหุ้นบริษัท หินอ่อน จำกัด และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๗ กันยายน ๒๕๕๙ เรื่อง
การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ เรื่อง
การจำหน่ายหลักทรัพย์ของรัฐ สรุปได้ ดังนี้ (๑) ให้กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จำหน่ายหุ้นบริษัท หินอ่อน จำกัด
โดยกระทรวงการคลังได้รับเงินจำนวน ๓๐๒,๕๐๐๐,๐๐๐ บาท (๒) จำหน่ายหุ้นสามัญบริษัท
บางกอกเดินเรือและการค้า จำกัด และหุ้นสามัญบริษัท สยามซิตี้ประกันภัย จำกัด
(มหาชน) โดยกระทรวงการคลังได้รับเงินจำนวน ๑,๐๗๕,๐๐๐ บาท
และได้นำเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝาก
เพื่อการซื้อหุ้นตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของส่วนราชการ
พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
786 | การยกเว้นอากรศุลกากรและภาษีสรรพสามิต สำหรับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจพร้อมระบบภาคพื้นดินและระบบแอปพลิเคชันภูมิสารสนเทศ สำหรับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) | กค. | 15/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจพร้อมระบบภาคพื้นดินและระบบแอปพลิเคชันภูมิสารสนเทศ
สำหรับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับเครื่องมือและอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นของตามพิกัดประเภทใด
ซึ่ง สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.)
นำเข้ามาเพื่อใช้ภายใต้โครงการระบบดาวเทียมฯ สำหรับโครงการ c]t-2
และของที่จะได้รับการยกเว้นอากรจะต้องมีหนังสือรับรองจากผู้อำนวยการ สทอภ. ว่านำมาใช้สำหรับโครงการระบบดาวเทียมฯ
โครงการ THEOS-2 ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ๒. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง การยกเว้นภาษีสรรพสามิตสำหรับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจพร้อมระบบภาคพื้นดินและระบบแอปพลิเคชันภูมิสารสนเทศ
สำหรับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีสรรพสามิตสำหรับเครื่องมือและอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นสินค้าตามพิกัดประเภทใด
ซึ่ง สทอภ. นำเข้ามาเพื่อใช้ภายใต้โครงการระบบดาวเทียมฯ สำหรับโครงการ THEOS-2 ทั้งนี้
ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ร่างประกาศกระทรวงการคลังรวม ๒ ฉบับ
มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๕ ๓. ให้หน่วยงานของรัฐที่จะดำเนินโครงการต่าง
ๆ ต่อไปในอนาคต ขอรับจัดสรรงบประมาณให้ครอบคลุมค่าภาษีและอากรโดยครบถ้วน
เพื่อประโยชน์ต่อการบริหารนโยบายการคลังและภาษีอากรของประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
787 | รายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 | กค. | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔ ซึ่งสัดส่วนหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นจริง ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔
ยังคงอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะ
ที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
788 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565 สำหรับโครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อติดตามประเมินผลแผนงาน หรือโครงการภายใต้พระราชกำหนด ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 | กค. | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕ สำหรับโครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อติดตามประเมินผลแผนงาน
หรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะดำเนินโครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อติดตามประเมินผลแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-พ.ศ. ๒๕๖๕ ภายในกรอบวงเงิน ๓๗,๙๖๖,๙๐๐ บาท
ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นกรณีเฉพาะราย
โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๗,๕๙๓,๔๐๐ บาท ที่ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายแล้ว ส่วนที่เหลือ จำนวน ๓๐,๓๗๓,๕๐๐ บาท
ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
ซึ่งได้เสนอตั้งงบประมาณในชั้นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ รองรับไว้แล้ว และให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
คำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสม และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญด้วย
และให้กระทรวงการคลัง
หน่วยงานรับผิดชอบโครงการหน่วยงานที่ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ที่เห็นว่าควรกำหนดแนวทางการดำเนินโครงการจ้างที่ปรึกษาดังกล่าว เพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงหน่วยงานรับผิดชอบโครงการสามารถนำข้อมูลจากรายงานผลการติดตามและประเมินผลโครางการไปประกอบการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้แก่ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้อย่างสะดวก
และให้คณะรัฐมนตรีกำชับให้หัวหน้าหน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินโครงการโดยใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดกู้เงินฯ
พ.ศ. ๒๕๖๓ รายงานผลการดำเนินโครงการในระบบ eMENSCR และให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เป็นประจำทุกเดือนโดยเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
789 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ครั้งที่ 25 การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 7 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | กค. | 01/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน
(ASEAN Finance Ministers’ Meeting : AFMM) ครั้งที่ ๒๕
การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน (ASEAN
Finance Ministers’ and Central Bank Governors’ Meeting : AFMGM) ครั้งที่ ๗
และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งบรูไนดารุสซาลามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่
๓๐ มีนาคม ๒๕๖๔ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเข้าร่วมประชุม
ซึ่งมีประเด็นสำคัญ เช่น (๑)
การหารือกับผู้แทนสถาบันการเงินระหว่างประเทศในประเด็นแนวโน้มต่อสถานการณ์เศรษฐกิจของภูมิภาค
และแนวทางการสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนของอาเซียน เช่น การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล
นโยบายเศรษฐกิจสีเขียว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว
การพัฒนาระบบภาษีและความร่วมมือด้านภาษีระหว่างประเทศ
และความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อการระดมทรัพยากรภายในประเทศ และ (๒)
รับทราบความคืบหน้าที่สำคัญของความร่วมมือทางการเงินในอาเซียน ได้แก่ ด้านศุลกากร
ด้านภาษีอากร ด้านการประกันภัยจากภัยพิบัติ
และด้านการกำกับดูแลตลาดทุนและการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน ทั้งนี้
ที่ประชุมได้รับรองแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๗ ซึ่งมีสาระสำคัญไม่แตกต่างจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๒๓
มีนาคม ๒๕๖๔ โดยมีการปรับปรุงถ้อยคำแถลงการณ์ร่วมฯ
เพื่อให้มีความเหมาะสมและสะท้อนข้อเท็จจริงมากขึ้นโดยไม่กระทบสาระสำคัญ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
790 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (นางสาวพัดชา พงศ์กีรติยุต) | กค. | 01/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวพัดชา พงศ์กีรติยุต เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ)
ในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล แทน พลตำรวจเอก
สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ลาออก เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๓ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ มิถุนายน ๒๕๖๔) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ในครั้งต่อ ๆ ไป
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย
ตามนัยมติตณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ (เรื่อง
การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ
ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย)
และมติตณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง
การแต่งตั้งกรรมการตามกฎหมาย/กรรมการและผู้บริหารขององค์การมหาชน)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
791 | การแก้ไขเอกสารประกอบสัญญาเงินกู้ระหว่างกระทรวงการคลังกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศเพื่อรองรับการยุติการใช้ London Interbank Offered Rate (LIBOR) เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง | กค. | 25/05/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแก้ไขเอกสารประกอบสัญญาเงินกู้ระหว่างกระทรวงการคลังกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศเพื่อรองรับการยุติการใช้
London Interbank Offered Rate (LIBOR) เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ซึ่งมีสัญญาเงินกู้ระหว่างกระทรวงการคลังกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศอยู่จำนวน ๕ สัญญา ได้แก่
โครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น ๔ ช่องจราจร (ระยะที่ ๒)
โครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
โครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น ๔ ช่องจราจร (ระยะที่ ๒) โครงการเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ (ธนาคารพัฒนาเอเชีย)
และโครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจาก (ธนาคารโลก) เพื่อรองรับการยุติการใช้
LIBOR เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง เนื่องจากองค์การกำกับนโยบายทางการเงินของสหราชอาณาจักร
ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะยุติการเผยแพร่และจะไม่รับรอง LIBOR ให้เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงทางการโดยเริ่มหลังจากปี ๒๕๖๔ เป็นต้นไป
โดยธนาคารโลกและธนาคารพัฒนาเอเชียจะพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่เป็นธรรมเพื่อใหเกิดความเท่าเทียมกันและเป็นมาตรฐานสากล
และจะแจ้งต่อคู่สัญญาเพื่อให้มีผลผูกพันในโอกาสแรกต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
792 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาล ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 | กค. | 25/05/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาล
ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔ วงเงิน ๖๙,๐๐๐
ล้านบาท ซึ่งได้ชำระคืนเงินต้นพันธบัตรรัฐบาลจากเงินนำส่งจากบัญชีผลประโยชน์ จำนวน
๑๘,๙๔๖.๗๔ ล้านบาท แล ะดำเนินการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินระยะยาวและตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้น จำนวนรวม ๕๐,๐๕๓.๒๖
ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้ (๑) การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (พ.ร.ก. กู้เงินฯ พ.ศ.
๔๕) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๑ วงเงิน ๑๗,๔๔๘.๕๐ ล้านบาท (๒) การกู้เงินระยะสั้นเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก. กู้เงินฯ พ.ศ.
๔๕) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๑ วงเงิน ๗,๖๐๔.๗๖ ล้านบาท และครั้งที่ ๒ วงเงิน ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
793 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทนในที่ดินของรัฐให้แก่กระทรวงการคลัง ตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... | กค. | 25/05/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง กำหนดอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทนในที่ดินของรัฐให้แก่กระทรวงการคลัง ตามมาตรา ๑๗
แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทนในที่ดินของรัฐให้แก่กระทรวงการคลัง
กรณีที่ดินจะเวนคืนนั้นมีแนวเขตผ่านที่ดินของรัฐ ๔ ประเภท ได้แก่ (๑)
ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองที่ใช้ร่วมกัน (๒) ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ
หรือที่ดินที่ได้สงวนหวงห้ามไว้ตามความต้องการของทางราชการ (๓)
ที่ดินรกร้างว่างเปล่า
หรือที่ดินซึ่งมีผู้เวนคืนอยู่นอกเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี และ (๔)
ที่ดินที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นควรคำนึงถึงภาระงบประมาณและความซ้ำซ้อน
เงื่อนไขและวัตถุประสงค์ของการเวนคืนเป็นสำคัญ ประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับ
ความคุ้มค่า ต้นทุน
รวมถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นควรพิจารณาถึงความรอบคอบ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรคำนึงถึงภาระงบประมาณและความซ้ำซ้อน
เงื่อนไขและวัตถุประสงค์ของการเวนคืนเป็นสำคัญ ประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับ
ความคุ้มค่า ต้นทุน
รวมถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบในทุกมิติ ทั้งนี้
การกำหนดค่าตอบแทนดังกล่าว จะต้องเป็นไปเท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสม
และไม่ซ้ำซ้อนกับการชดเชยค่าเสียหายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ของรัฐที่ถูกเวนคืนด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
794 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) กรณีการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อรองรับการใช้บังคับพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 53) พ.ศ. 2564 | กค. | 25/05/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
กรณีการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขเพื่อรองรับการใช้บังคับพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร
(ฉบับที่ ๕๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำ ส่ง รับ
และเก็บรักษาเอกสารหลักฐานหรือหนังสืออื่นใดด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้ประกอบการที่มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา
๘๒/๑๓ วรรคสองและวรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดการจัดทำ การส่ง การรับ และการเก็บรักษาหมายเรียก หนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากร
แบบ รายงาน เอกสารหลักฐานหรือหนังสืออื่นใดด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศและอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม
โดยดำเนินการผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ๒ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่
.. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไข เกี่ยวกับการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและการแจ้งเปลี่ยนแปลงรายการทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศและอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มในสาระสำคัญ
เช่น ชื่อผู้ประกอบการ เว็บไซต์ของผู้ประกอบการ
และจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ประกอบการ เป็นต้น
โดยให้ดำเนินการด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร
ทั้งนี้ ให้รับประเด็นตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยการกำหนดกระบวนการจัดทำ
ส่ง และรับเอกสาร
หลักฐานหรือหนังสืออื่นใดระหว่างผู้มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรไว้ให้ชัดเจนในกฎกระทรวงซึ่งให้สอดคล้องกับมาตรา
๓ โสฬส แห่งประมวลรัษฎากร และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔
ที่ให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับการเสนอร่างกฎหมายที่ต้องไม่มีบทบัญญัติซึ่งมีลักษณะเป็นการมอบอำนาจช่วง
(sub-delegation) โดยกฎหมายแม่บทมิได้ให้อำนาจไว้ด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓ ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรกำหนดหลักการให้ส่วนราชการนำแนวทางดังกล่าวไปใช้ในกรณีที่มีการกำหนดวิธีการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียน
การอนุมัติ อนุญาต ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการดำเนินงาน
และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
795 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตจัดตั้งและการเลิกดำเนินการเขตปลอดอากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการอนุญาตประกอบกิจการในเขตปลอดอากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | กค. | 25/05/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการอนุญาตจัดตั้งและการเลิกดำเนินการเขตปลอดอากร
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการอนุญาตประกอบกิจการในเขตปลอดอากร
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงการอนุญาตจัดตั้งและการเลิกดำเนินการเขตปลอดอากร พ.ศ. ๒๕๖๐
และแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงการอนุญาตประกอบกิจการในเขตปลอดอากร พ.ศ.
๒๕๖๐ โดยแก้ไขคำนิยาม “โครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”
ให้ครอบคลุมพื้นที่อื่นใดที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้เป็นเมืองต้นแบบในการพัฒนาให้เกิดความมั่นคง
มั่งคั่ง ยั่งยืน
และแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขออนุญาตจัดตั้งเขตปลอดอากร
รวมทั้งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเลิกประกอบกิจการในเขตปลอดอากรเพื่อให้มีความถูกต้องและเหมาะสมมากขึ้น
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
796 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 25/05/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายและเลื่อนระยะเวลาการใช้บังคับอัตราภาษีสำหรับสินค้าเครื่องดื่ม
และผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นเครื่องดื่มที่มีลักษณะผง เกล็ด
หรือเครื่องดื่มเข้มข้นที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและสามารถละลายน้ำได้
แต่ไม่รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์นมที่อยู่ในรูปแบบผง
ตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร ออกไปอีก ๑
ปีเพื่อเป็นการเยียวยาและฟื้นฟูอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะสถานการณ์
ความจำเป็น และประโยชน์ที่ได้รับให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก และมอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามนัยของมาตรา
๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้ครบถ้วนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
797 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 4 ฉบับ [ขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 และมาตรการภาษีเพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ (Thailand Plus Package)] | กค. | 25/05/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
๑. คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๔ ฉบับ
[ขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐
และมาตรการภาษีเพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ (Thailand Plus Package)] ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม
๔.๐) มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
สำหรับการบริจาคเครื่องจักร ส่วนประกอบ อุปกรณ์
เครื่องมือเพื่อระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครื่องจักรเพื่อระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ ให้แก่ศูนย์การส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษา
ออกไปอีก ๒ ปี จากเดิมสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ เป็นสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๕ แต่ไม่รวมถึงโรงเรียนนอกระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในระบบอัตโนมัติ) มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในเครื่องจักรและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครื่องจักรตามโครงการลงทุนในระบบอัตโนมัติแต่ไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม
ออกไปอีก ๒ ปี จากเดิมสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๓ เป็นสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจ้างบุคคลกรที่มีทักษะสูง) มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นเงินเดือนให้แก่การจ้างลูกจ้างที่มีทักษะสูงด้านวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ ออกไปอีก ๒ ปี จากเดิมสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๓ เป็นสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ๑.๔ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรให้ที่มีทักษะสูง)
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรม
หรือค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมลูกจ้างในหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของรัฐที่กำหนด ออกไปอีก ๒ ปี จากเดิมสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓
เป็นสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ๒ ให้กระทรวงคลังรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ให้มีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นหลักสูตรซึ่งสถานประกอบการจะสามารถใช้บริการฝึกอบรม
เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี สร้างความรับรู้ ความเข้าใจ และอำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนเข้ามาใช้สิทธิประโยชน์จากภาษีดังกล่าวควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคของนักลงทุนในด้านอื่น
ๆ และให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามนัยของมาตรา ๒๗
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้ครบถ้วนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
798 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม) | กค. | 25/05/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม)
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
พ.ศ. ๒๕๖๒
โดยยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการวิสาหกิจเพื่อสังคม
และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้สนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม
ตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ ๓๑ธันวาคม ๒๕๖๖ ทั้งนี้
เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินกิจการของวิสาหกิจเพื่อสังคม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(สศช.) ที่เห็นสมควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจและประโยชน์ที่จะได้รับเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งการประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจการของวิสาหกิจเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
เพื่อใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
และจัดให้มีระบบการติดตาม ประเมินผลสัมฤทธิ์
และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป และควรพิจารณาเปรียบเทียบการสูญเสียรายได้และผลประโยชน์ที่เกิดจากการดำเนินมาตรการทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๖๒๑) พ.ศ. ๒๕๕๙
เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการออกประกาศ/กฎระเบียบภายใต้ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
(การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม)
เพื่อให้การกำหนดมาตรการทางภาษีสามารถตอบสนองวัตถุประสงค์ได้อย่างแท้จริง และภาครัฐควรให้การสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมในด้านอื่น
ๆ ควบคู่กับการดำเนินมาตรการทางภาษี
เช่น การสนับสนุนสินเชื่อ การสนับสนุนการวิจัย
และนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ
รวมถึงการพัฒนาศักยภาพในการบริหารจัดการของวิสาหกิจเพื่อสังคม
เพื่อส่งเสริมให้วิสาหกิจเพื่อสังคมสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และมีความสามารถในการแข่งขันกับธุรกิจในระบบตลาดปกติได้
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของ
สศช. ที่เห็นควรพิจารณาเปรียบเทียบการสูญเสียรายได้และผลประโยชน์ที่เกิดจากการดำเนินมาตรการทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๖๒๑) พ.ศ. ๒๕๕๙
เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการออกประกาศ/กฎระเบียบภายใต้ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
(การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม)
เพื่อให้การกำหนดมาตรการทางภาษีสามารถตอบสนองวัตถุประสงค์ได้อย่างแท้จริง
และภาครัฐควรให้การสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมในด้านอื่น ๆ ควบคู่กับการดำเนินมาตรการทางภาษี เช่น
การสนับสนุนสินเชื่อ การสนับสนุนการวิจัย และนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ
รวมถึงการพัฒนาศักยภาพในการบริหารจัดการของวิสาหกิจเพื่อสังคม
เพื่อส่งเสริมให้วิสาหกิจเพื่อสังคมสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และมีความสามารถในการแข่งขันกับธุรกิจในระบบตลาดปกติได้
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ ๔. ให้กระทรวงการคลังพิจารณาความจำเป็นและเหมาะสมในการกำหนดมาตรการภาษี
เพื่อสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจดังกล่าวต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
799 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การลดเงินเพิ่ม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... | กค. | 18/05/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การลดเงินเพิ่ม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ....
โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของออกซึ่งชำระอากรไม่ครบถ้วน
โดยไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียอากรและได้นำอากรที่ยังชำระไม่ครบถ้วนมาชำระต่อกรมศุลกากร
ให้ได้รับการลดเงินเพิ่มเหลือร้อยละ ๐.๒๕ ต่อเดือน
ของอากรที่ต้องเสียหรือเสียเพิ่ม นับแต่วันที่นำของออกไปจากอารักขาของศุลกากรหรือส่งของออกไปนอกราชอาณาจักรจนถึงวันที่นำเงินมาชำระ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว โดยเฉพาะสถานการณ์ความจำเป็น
และประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการการสูญเสียรายได้ เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว
และดำเนินการตามนัยมาตรา ๒๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
ให้ครบถ้วนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
800 | ร่างกฎหมายตามมาตรการภาษีอากรเพื่อสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ | กค. | 18/05/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่
สถาบันการเงิน
ผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินและเจ้าของทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันการชำระหนี้ของผู้ประกอบธุรกิจเป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินในบางกรณี
อันเนื่องมาจากการดำเนินมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ตามพระราชกำหนดให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๔ และร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ของเจ้าหนี้ซึ่งเป็นสถาบันการเงิน
ในส่วนของหนี้ที่เจ้าหนี้ดังกล่าวได้ปลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้
อันเนื่องมาจากมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ตามพระราชกำหนดให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๔ รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
โดยเฉพาะสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการสูญเสียรายได้
เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์
ตลอดจนการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ เพื่อหาแนวทางในการลดผลกระทบต่อภาระการคลังในระยะต่อไป และดำเนินตามนัยมาตรา
๒๗ ของ พระราชบัญญัติการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้ครบถ้วนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|