ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 40 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 781 - 800 จากข้อมูลทั้งหมด 9657 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 781 | รายงานผลการดำเนินงานมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาภาระหนี้สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 | กค. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาภาระหนี้สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ
COVID-19 ประกอบด้วย (๑) มาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้
ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม Small and Medium Enterprises (SMEs) และลูกหนี้รายย่อยด้วยการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของสถาบันการเงินเฉพาะกิจและสถาบันการเงิน
โดยพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมเป็นระยะเวลาอย่างน้อย ๒ เดือน และ (๒)
มาตรการควบคุมการทวงถามหนี้ที่ดำเนินการไม่เป็นธรรมกับประชาชน เช่น
การจัดทำร่างประกาศคณะกรรมการกำกับติดตามทวงถามหนี้ เรื่อง
การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการทวงถามหนี้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 782 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวชุติมา ศรีปราชญ์) | กค. | 03/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวชุติมา ศรีปราชญ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมธนารักษ์
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารเหรียญกษาปณ์และทรัพย์สินมีค่า
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 783 | รายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ 12 เดือน ปี 2563 | กค. | 03/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ
รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๓ มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ ๑)
ภาพรวมธุรกิจประกันภัยเดือนมกราคม-ธันวาคม ปี ๒๕๖๓ มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง
รวมทั้งสิ้น ๘๕๒,๗๒๙ ล้านบาท หดตัวร้อยละ ๐.๒๒
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ๒)
รายงานผลการดำเนินงานที่สำคัญตามนโยบายรัฐบาลของสำนักงาน คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(คปภ.) และนโยบายที่กำหนดโดย คปภ. ภายใต้แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ ๓ (พ.ศ.
๒๕๕๙-๒๕๖๓) ประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์ชาติ ได้แก่
การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมประกันภัย การเสริมสร้างความรู้และการเข้าถึงประกันภัย
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขัน
การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านประกันภัย ๓) รายงานผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดของสำนักงาน
คปภ. รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๓ เป็นการประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรการและแผนการดำเนินงานในปี
๒๕๖๓ ของสำนักงาน คปภ. ประกอบด้วย ๑๖ ตัวชี้วัด มีค่าคะแนนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักรวมอยู่ที่
๔.๖๒๕ จากคะแนนเต็ม ๕ และ ๕)
รายงานผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการกับสำนักงาน คปภ. รวม ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๓
มีระดับความพึงพอใจภาพรวมอยู่ที่พึงพอใจมากที่สุด คือ อยู่ที่ร้อยละ ๙๒.๒๐
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 784 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับงวดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 23 กันยายน 2563 (วันยุบเลิกบรรษัท) | กค. | 03/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
สำหรับงวดตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๓ (วันยุบเลิกบรรษัท) ประกอบด้วย รายงานผลการดำเนินงานปีบัญชี ๒๕๖๓
เปรียบเทียบกับปีบัญชี ๒๕๖๒ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้รับรองแล้ว และเป็นไปตามพระราชกำหนดบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๒๖ ทั้งนี้ พระราชบัญญัติยุบเลิกบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๓ ซึ่งมีผลให้บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยควบรวมกิจการเข้ากับธนาคารอาคารสงเคราะห์แล้ว นับแต่วันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ
และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ถือเอาวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๓ เป็นวันยุบเลิกบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
และปิดงบการเงิน ประจำปี ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 785 | มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | กค. | 03/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ซึ่งมีแนวทางการช่วยเหลือ ๔
แนวทาง ประกอบด้วย มาตรการช่วยเหลือโดยการหักกลบจำนวนค่าปรับ
ให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจที่จะพิจารณาการงด หรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญาหรือการขยายเวลาการทำสัญญา
ตามพระราชบัญญัติฯ มาตรา ๑๐๒ วรรคหนึ่ง การนำเงินงบประมาณหรือเงินอื่นมาจ่ายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ
การกำหนดอัตราค่าปรับเป็นอัตราร้อยละ ๐ ทั้งนี้ การคิดค่าปรับในอัตราร้อยละ ๐
ให้คิดตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๓
จนถึงก่อนวันที่มีประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงทั่วราชอาณาจักรอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ และกรณีที่หน่วยงานของรัฐได้พิจารณางดหรือลดปรับให้แก่คู่สัญญา
หรือการขยายระยะเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง
ก็ให้นำจำนวนวันดังกล่าวมาหักออกจากจำนวนวันตามมาตรการนี้ และจำนวนที่เหลือ
ให้คิดค่าปรับในอัตราร้อยละ ๐ สำหรับค่าปรับส่วนที่เกินจำนวนวันตามมาตรการนี้
ให้คิดในอัตราที่กำหนดในสัญญาหรือข้อตกลงตามปกติ โดยให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๑๘๓ ต่อไป ตามที่
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 786 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งที่ 3 | กค. | 27/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติการปรับปรุงแผนการก่อหนี้ใหม่
ที่ปรับเพิ่มขึ้นสุทธิ ๑๕๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท จากเดิม ๑,๖๔๗,๑๓๑.๗๔ ล้านบาท เป็น ๑,๗๙๗,๑๓๑.๗๔ ล้านบาท แผนการบริหารหนี้เดิม คงเดิม ๑,๕๒๖,๕๖๔.๑๗ ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ คงเดิม ๓๘๗,๘๖๐.๗๒
ล้านบาท การบรรจุรายการเพิ่มเติมในการปรับปรุงแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ครั้งที่
๓ จำนวน ๑ รายการ และการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่
การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันให้กับรัฐวิสาหกิจ
ตามมาตรา ๗ แห่ง พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะฯ มาตรา ๓ แห่ง พ.ร.ก.กู้เงินโควิด-๑๙
พ.ศ. ๒๕๖๓ และมาตรา ๓ แห่ง พ.ร.ก.กู้เงินโควิด-๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ
และให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น ควรกำกับ
ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการให้มีการดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
คุ้มค่า และเกิดประสิทธิผลต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวมอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เองก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น
ๆ
และรัฐบาลควรเร่งพิจารณากำหนดรายละเอียดโครงการและแผนการใช้จ่ายเงินกู้ให้มีความชัดเจนโดยเร็ว
โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับศักยภาพของระบบสาธารณสุขและการเร่งจัดหาวัคซีนเพื่อบรรเทาสถานการณ์ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
พร้อมทั้งเตรียมการออกมาตรการสนับสนุนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อรักษาระดับศักยภาพการผลิตและการแข่งขันของประเทศไปพร้อมกัน
และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนการกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
(Gross Domestic Product : GDP) ให้มีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับความจำเป็นในการใช้จ่ายและการลงทุนของประเทศ ๓. ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 787 | รายงานผลการกู้เงินโดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นก่อนครบกำหนดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 | กค. | 20/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินโดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นก่อนครบกำหนดเมื่อวันที่
๔ มิถุนายน ๒๕๖๔
ซึ่งกระทรวงการคลังได้กู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๕ (LB246A) อายุ ๓.๐๔ ปี จำนวน ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท ประมูลเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๔
โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ ๐.๖๔๘๐ ต่อปี
และได้จัดทำประกาศเกี่ยวกับผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวข้างต้น
เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไปด้วยแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 788 | การแต่งตั้งและกำหนดอัตราเงินเดือนของผู้อำนวยการสำนักงานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (พันโท หนุน ศันสนาคม) | กค. | 20/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พันโท หนุน ศันสนาคม ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และกำหนดอัตราค่าตอบแทนคงที่ในอัตรา ๒๘๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน โดยในระหว่างอายุสัญญา สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ในวันที่ ๑ ตุลาคม ของทุกปี ในอัตราไม่เกินกว่าร้อยละ ๑๐ ของอัตราค่าตอบแทนคงที่ที่ผู้รับจ้างได้รับ ทั้งนี้ ให้ขึ้นกับผลการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยการปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ตลอดอายุสัญญาจ้างจะต้องไม่มีผลให้อัตราค่าตอบแทนคงที่ที่ได้รับเกินกว่าอัตราขั้นสูงตามกรอบอัตราค่าตอบแทนคงที่ที่กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบไว้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ระบุในสัญญาจ้างผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ตามมติคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในการประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๔ และครั้งที่ ๗/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 789 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 70 ปี สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... | กค. | 20/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๗๐ ปี
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล)
ชนิดราคายี่สิบบาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ ๗๐ ปี สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 790 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 | กค. | 20/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 791 | การปรับปรุงหลักการและแนวทางการพิจารณาการออกสลากการกุศล | กค. | 20/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักการและแนวทางการพิจารณาการออกสลากการกุศลให้มีความชัดเจน
รอบคอบ เกิดประโยชน์ และสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เช่น
ปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล
โดยเปลี่ยนประธานกรรมการจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมาย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
และเพิ่มเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นกรรมการ กำหนดประเภทของหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนให้เป็นไปตามกฎหมายที่ใช้ในปัจจุบัน
ให้ความสำคัญกับโครงการที่มีผลลัพธ์และผลสัมฤทธิ์ต่อประชาชนและสังคม
สามารถยกเลิกโครงการได้ในกรณีที่การดำเนินโครงการไม่เป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้
เป็นต้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลัง
คณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจำแนกกิจกรรมภายใต้โครงการ
เพื่อให้การจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินรายเดือนมีความชัดเจน จัดลำดับความสำคัญของโครงการ
ความพร้อมของการดำเนินโครงการ และประเด็นทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนด้วย ทั้งนี้
ควรกำหนดให้ครอบคลุมหน่วยงานในกำกับของรัฐซึ่งไม่เป็นส่วนราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายวิธีการงบประมาณด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 792 | การโอนเงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF 1 และ FIDF 3 | กค. | 20/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนเงินกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฯ)เข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (บัญชีสะสมฯ)
ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ เพิ่มเติมจำนวน ๒,๘๗๕ ล้านบาท ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔
จะมีเงินของกองทุนฯ ที่นำส่งเข้าบัญชีสะสมฯ เพื่อชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF 1 และ FIDF 3
รวมจำนวนทั้งสิ้น ๕,๒๗๕ ล้านบาท และยอดหนี้ต้นเงินกู้ FIDF 1 และ FIDF 3 ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ คงเหลือจำนวน ๗๑๑,๕๔๒.๖๗ ล้านบาท โดยต้นเงินกู้ลดลง
๔๒๖,๗๖๓.๒๒ ล้านบาท จากยอดหนี้ต้นเงินกู้ ณ วันที่ ๒๗ มกราคม
๒๕๕๕ ที่มีอยู่จำนวน ๑,๑๓๘,๓๐๕.๘๙
ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 793 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 60 ปี การสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พ.ศ. .... | กค. | 13/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๖๐ ปี
การสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว
(ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ ๖๐ ปี การสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 794 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย | กค. | 13/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายปรเมธี วิมลศิริ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย
ต่อไปอีกวาระหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 795 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยื่นคำร้องขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายสำหรับดอกเบี้ยที่ได้จากตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ | กค. | 13/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง
ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยื่นคำร้องขอคืนภาษีเงินได้หัก
ณ
ที่จ่ายสำหรับดอกเบี้ยที่ได้จากตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นคำร้องขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายสำหรับดอกเบี้ยที่ได้จากพันธบัตรออมทรัพย์ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก
เพื่อให้ผู้เสียภาษีสามารถขอคืนเงินภาษีเงินได้ตามกฎหมาย โดยยื่นผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินที่มีความตกลงเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการขอคืนภาษีอากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้กับกรมสรรพากรแล้ว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 796 | รายงานผลการดำเนินงานและงบการเงินของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | กค. | 13/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานและงบการเงินของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ประกอบด้วย (๑) ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ได้รายงานผลการดำเนินงาน
ฐานะทางการเงิน
และงบการเงินที่ผู้สอบบัญชีรับรองแล้วต่อกรมบัญชีกลางเป็นประจำทุกปี (๒)
ผลการดำเนินงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๓ กองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
ได้บริหารการเงินที่ได้รับจากการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะพันธบัตรรัฐบาลรุ่น
LB206A จำนวน
๘๙,๑๕๘.๗๒ ล้านบาท และผลตอบแทนจากการลงทุน รวม ๔๘๘.๕๓
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑.๑๘ ต่อปี และมีผลการประเมิน ๔.๙๐๕๗ คะแนน จากคะแนนเต็ม ๕
คะแนน (๓) ฐานะทางการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรายงานของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
แล้วเห็นว่า งบการเงินและผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน
โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 797 | ยุทธศาสตร์ความเป็นหุ้นส่วนระดับประเทศระหว่างประเทศไทยและธนาคารพัฒนาเอเชีย ฉบับที่ 3 สำหรับปี 2564 - 2568 | กค. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบยุทธศาสตร์ความเป็นหุ้นส่วนระดับประเทศระหว่างประเทศไทยกับธนาคารพัฒนาเอเชีย
(Asian Development Bank : ADB) ฉบับที่
๓ สำหรับปี ๒๕๖๔-๒๕๖๘ โดยคณะกรรมการบริหาร ADB ได้มีมติรับรองยุทธศาสตร์ฯ
ฉบับที่ ๓ แล้ว เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๔ โดยมีสาระสำคัญประกอบด้วย (๑)
วัตถุประสงค์ ได้แก่ เสริมสร้างความสามารถในการแข่งงขันและความเชื่อมโยง
เสริมสร้างความสามารถในการปรับตัว และสนับสนุนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ (๒)
แนวทางการดำเนินงาน เช่น การสนับสนุนโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
และการสนับสนุนนวัตกรรมในโครงการต่าง ๆ เป็นต้น และ (๓)
การพัฒนาเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและการฟื้นฟูหลังโควิด-19 โดย
ADB จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคให้สามารถฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
รวมถึงพัฒนาการค้าในภูมิภาคผ่านกรอบความร่วมมือที่สำคัญ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 798 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งที่ 2 | กค. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๔ ครั้งที่ ๒ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เช่น
การปรับปรุงแผนการก่อหนี้ใหม่ การบรรจุโครงการพัฒนา โครงการ
และรายการเพิ่มเติมในการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๒ จำนวน ๑๒ โครงการ/รายการ เป็นต้น และการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่
การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้
และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ
พ.ศ. ๒๕๔๘ และตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมทั้งอนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา
และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน
วิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ
ในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ
และให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นว่าควรกำกับ
ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกู้ของหน่วยงานในสังกัดให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่กำหนดไว้
ให้ความสำคัญกับการบริหารเงินคงคลังและบริหารเงินกู้ชดเชยการขาดดุลอย่างเหมาะสมและรัดกุม
และรัฐบาลควรเตรียมความพร้อมในการจัดหาแหล่งเงินเพื่อดูแลให้มีสภาพคล่องเพียงพอต่อการดำเนินนโยบายของรัฐในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด
19 ที่มีความยืดเยื้อและยังมีความไม่แน่นอนสูง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 799 | มาตรการสินเชื่ออิ่มใจ | กค. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบมาตรการสินเชื่ออิ่มใจ และอนุมัติงบประมาณวงเงินรวม ๑,๐๐๐ ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อดำเนินมาตรการสินเชื่ออิ่มใจ
พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
โดยมาตรการสินเชื่ออิ่มใจ
มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
COVID-19 ที่เป็นร้านจำหน่ายแบบถาวร
เช่น ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารที่เปิดในห้องแถวหรืออาคารพาณิชย์
ภัตตาคาร ร้านที่มีลักษณะเป็นบูธ เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่เป็นร้านแบบเคลื่อนที่ได้ เช่น
หาบเร่ แผงลอย รถเข็น เป็นต้น โดยธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม ๒,๐๐๐
ล้านบาท วงเงินสินเชื่อต่อรายสูงสุด ๑๐๐,๐๐๐ บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๙๙
ต่อปี (Effective Rate) ระยะเวลากู้ไม่เกิน ๕ ปี
(ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ๖ งวดแรก)
ระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔
โดยมีกรอบวงเงินงประมาณรัฐบาลชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
(Non-Performing Loans : NPLs) ร้อยละ ๑๐๐ สำหรับ NPLs ที่ไม่เกินร้อยละ ๕๐
ของสินเชื่อที่อนุมัติทั้งหมด ๒,๐๐๐ ล้านบาท รวมทั้งสิ้นไม่เกิน ๑,๐๐๐ ล้านบาท
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
เพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณเกินความจำเป็นและกรอบที่กำหนดไว้ และควรพิจารณาให้สินเชื่อตามกลุ่มเป้าหมายอย่างเหมาะสม
โดยให้กระจายไปยังกลุ่มที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ
และไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเป้าหมายของโครงการภาครัฐอื่นซึ่งมีอยู่แล้ว
รวมทั้งควรทบทวนหลักเกณฑ์การพิจารณาการให้สินเชื่อดังกล่าวให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 800 | การนำแนวทางการจัดทำข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ตามโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ สำหรับหน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างหรือการร่วมลงทุนภายใต้กฎหมายอื่น นอกเหนือจากพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ไปกำหนดใช้โดยอนุโลม | กค. | 29/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการนำแนวทางการจัดทำข้อตกลงคุณธรรม
(Integrity Pact)
ตามโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
สำหรับหน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างหรือการร่วมลงทุนภายใต้กฎหมายอื่น
นอกเหนือจากพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐
ไปกำหนดใช้โดยอนุโลม
เพื่อสนับสนุนให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
รวมถึงสร้างความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้อย่างครอบคลุมทุกโครงการจัดซื้อจัดจ้างในทุกหน่วยงานของรัฐ
ตามที่คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐเสนอ ทั้งนี้
ให้คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ กระทรวงการคลัง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ควรมีการจัดทำข้อกำหนดของเป้าหมายการดำเนินงานดัชนี
และตัวชี้วัดของข้อตกลงคุณธรรมดังกล่าว
และควรกำหนดให้ชัดเจนว่าจะนำไปใช้ในกรณีใดในทางปฏิบัติต่อไป เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกแห่งถือปฏิบัติตามแนวทางการจัดทำข้อตกลงคุณธรรม
(Integrity Pact) ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบตามข้อ ๑ อย่างเคร่งครัด |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
