ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 38 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 741 - 760 จากข้อมูลทั้งหมด 9657 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 741 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเก็บอากรศุลกากรตามมาตรการปกป้องพิเศษ ตามความตกลงการเกษตรขององค์การการค้าโลก และความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน สำหรับสินค้ามะพร้าว พ.ศ.2564 | กค. | 19/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง การเก็บอากรศุลกากรตามมาตรการปกป้องพิเศษ
ตามความตกลงการเกษตรขององค์การการค้าโลก และความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน
สำหรับสินค้ามะพร้าว พ.ศ. ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการปกป้องพิเศษ (SSG) สำหรับสินค้ามะพร้าวที่นำเข้ามาในประเทศไทยปี
๒๕๖๔ ตามประเภทพิกัด ๐๘๐๑.๑๒.๐๐ (มะพร้าวทั้งกะลา) ๐๘๐๑.๑๙.๑๐ (มะพร้าวอ่อน) และ
๐๘๐๑.๑๙.๙๐ (มะพร้าวอื่น ๆ) ภายใต้ความตกลงการเกษตรขององค์การการค้าโลก (WTO)
อัตรานอกโควตา และความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) รวมกันเกินกว่าปริมาณที่กำหนด (Trigger Volume) โดยให้กรมศุลกากรจัดเก็บภาษีอากรในอัตราที่เพิ่มขึ้น
มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศกำหนดให้เริ่มใช้มาตรการปกป้องพิเศษ จนถึงวันที่
๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 742 | โครงการสินเชื่อ EXIM Biz Transformation Loan | กค. | 12/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 743 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายพิพัฒน์ชัย ภัครัชตานนท์) | กค. | 12/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายพิพัฒน์ชัย ภัครัชตานนท์ เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายสันติ พร้อมพัฒน์) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒
ตุลาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 744 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ด่านศุลกากรนครพนม) | กค. | 12/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ด่านศุลกากรนครพนม) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ๒๕๖๐
เนื่องจากด่านศุลกากรนครพนมได้ย้ายสถานที่ปฏิบัติราชการไปสถานที่แห่งใหม่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยให้กรมศุลกากรแจ้งให้ภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบถึงการย้ายสถานที่ปฏิบัติราชการด่านศุลกากรนครพนม
และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดำเนินการผ่านช่องทางนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิอภาพ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 745 | รายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน 2564) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค. | 12/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๔) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย (๑)
ภาวะเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี ๒๕๖๔ ขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ
๒.๐ เสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในประเทศเปราะบางมากขึ้น
ส่วนเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยยังคงเข้มแข็ง และ (๒)
การดำเนินงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายการเงิน
แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายสถาบันการเงิน
และแนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายระบบการชำระเงิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 746 | การลงนามร่างพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ 9 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน | กค. | 12/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ ๙
ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน (ASEAN Framework
Agreement on Services : AFAS) และร่างตารางข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน
ฉบับที่ ๙ ซึ่งเป็นภาคผนวกแนบท้ายร่างพิธีสารฯ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงตารางข้อผูกพันเพิ่มเติมในสาขาการธนาคาร
สาขาย่อยการบริการชำระเงินและการส่งเงิน สำหรับธุรกิจตัวแทนโอนเงินระหว่างประเทศ (Cross-border Money Transfer Services) ให้มีสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติได้สูงสุดร้อยละ
๔๙ และปรับปรุงถ้อยคำในส่วนอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับกฎหมายปัจจุบันของธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งนี้
ไม่มีผลกระทบต่อระดับการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินของไทย
โดยจะมีการลงนามในร่างพิธีสารฯ
ในช่วงการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซี่งจะจัดขึ้นในวันที่
๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นการลงนามร่วมกันแบบเสมือนจริง (Virtual Signing) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒.
อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ลงนามในร่างพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน
ฉบับที่ ๙ฯ และเมื่อลงนามแล้ว ให้ส่งพิธีสารฯ และตารางข้อผูกพันฯ
ซี่งเป็นภาคผนวกแนบท้ายพิธีสารฯ ดังกล่าว
ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
แล้วเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันต่อไป ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ (เรื่อง
แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการเสนอหนังสือสัญญาตามบทบัญญัติมาตรา ๑๗๘
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย) ๓.
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนามในร่างพิธีสารฯ
ดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขร่างพิธีสารฯ และร่างตารางข้อผูกพันฯ ดังกล่าว
ในส่วนที่เกี่ยวกับถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๔.
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจัดทำสัตยาบันสารของพิธีสารและตารางข้อผูกพันดังกล่าว
และส่งมอบให้สำนักเลขาธิการอาเซียน
เมื่อรัฐสภามีมติเห็นชอบต่อพิธีสารและตารางข้อผูกพันดังกล่าวแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 747 | การร่วมลงทุน (Venture Capital) กับผู้ประกอบการภาคการเกษตรไทยของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร | กค. | 05/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการร่วมลงทุน (Venture Capital) กับผู้ประกอบการภาคการเกษตรไทยของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งได้ร่วมทุนกับผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีการเกษตร
จำนวน ๒ ราย ได้แก่ บริษัท คิว บ็อคซ์ พอยท์ จำกัด และบริษัท อินฟิวส์ จำกัด
ซึ่งการร่วมทุนดังกล่าวสามารถเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานราก ประกอบกับสามารถช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงเงินทุนและมีโอกาสเข้าถึงตลาดอีกด้วย
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 748 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี กระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. .... | กค. | 05/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
๑๐๐ ปี กระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว
(ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๐๐
ปี กระทรวงพาณิชย์ ในวันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 749 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) | กค. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) (โรคโควิด ๑๙) โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ
เช่น (๑) ปรับวัตถุประสงค์การกู้ให้ครอบคลุมถึงการลงทุน ขยาย และปรับปรุงกิจการ
เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ (๒) ขยายระยะเวลากู้เงิน
จากเดิมไม่เกิน ๕ ปี เป็นไม่เกิน ๑๐ ปี (ปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน ๒ ปี) และ
(๓) ปรับเงื่อนไขการชดเชยของรัฐบาล
โดยรัฐบาลจะชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing
Loans : NPLs) ร้อยละ ๑๐๐ สำหรับ NPLs ไม่เกินร้อยละ
๔๐
ของวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ ๑.๒ อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน
๑๓๕ ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พร้อมทั้งมอบหมายให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
(ธพว.) ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป
เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดย่อมสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น
และแบ่งเบาภาระในการผ่อนชำระหนี้เพื่อประคับประคองและฟื้นฟูภาคธุรกิจให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
รวมถึงช่วยให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ๒. ให้กระทรวงการคลัง
โดย ธพว. รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น ควรดำเนินการตามนัยมาตรา
๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้ครบถ้วน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 750 | ขอความเห็นชอบในหลักการโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย ฤดูการผลิต 2562/2563 และรายงานผลการดำเนินการของคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการส่งเสริมเกษตรกรให้เพาะปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกยาสูบ | กค. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย
ฤดูการผลิต ๒๕๖๒/๒๕๖๓ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบเนื่องจากขาดรายได้เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต
และรับทราบรายงานผลการดำเนินการของคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการส่งเสริมเกษตรกรให้เพาะปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกยาสูบ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง การยาสูบแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรเร่งดำเนินโครงการในส่วนของการเพาะปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกยาสูบ
เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่ต่อเนื่องและดำรงชีพได้อย่างยั่งยืนต่อไป
และการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ควรพิจารณาให้เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
พ.ศ. ๒๕๖๒
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการให้การยาสูบแห่งประเทสไทยจัดทำรายละเอียด
หลักเกณฑ์ และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือ
พร้อมทั้งตรวจสอบสิทธิของเกษตรกรผู้ปลูกต้นยาสูบที่จะได้รับความช่วยเหลือให้เกิดความโปร่งใส
ตรวจสอบได้
โดยปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี
พ.ศ. ๒๕๕๙ ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 751 | แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565 | กค. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติและรับทราบตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ ๔/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๔
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕
ที่ประกอบด้วย แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน ๑,๓๔๔,๗๘๓.๘๔ ล้านบาท
แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงิน ๑,๕๐๕,๓๖๙.๖๔ ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ วงเงิน
๓๓๙,๒๙๑.๘๗ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติให้รัฐวิสาหกิจ จำนวน ๔ แห่ง
ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย การเคหะแห่งชาติ
และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ที่มีสัดส่วน DSCR ต่ำกว่า ๑ สามารถกู้เงินและบริหารหนี้ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕
โดยให้รัฐวิสาหกิจทั้ง ๔
แห่งดังกล่าวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการด้วย ๑.๓ รับทราบแผนความต้องการเงินกู้ระยะปานกลาง
๕ ปี (ปีงบประมาณ ๒๕๖๕-๒๕๖๙) และมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดประสานงานกับรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการในกลุ่มโครงการที่ยังขาดความพร้อมในการดำเนินการ
เพื่อเร่งรัดการดำเนินการและการลงทุนเพื่อเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในระยะต่อไป ๑.๔
อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ
การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ
ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะฯ มาตรา ๗
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๗ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๓
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
รวมทั้งอนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้
ภายใต้กรอบวงเงินของแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕
และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข
และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกัน
และการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ทั้งนี้
หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง
ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ๒. ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรติดตามและเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้ให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่กำหนดไว้
และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะแผนการกู้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
คุ้มค่า และเกิดประสิทธิผลต่อการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมอย่างแท้จริง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓.
ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 752 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กค. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น ๑,๐๐๘ ล้านบาท ให้แก่กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดสรรสวัสดิการแบบไม่กำหนดระยะเวลาสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแก่ผู้มีรายได้น้อยภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
(รอบใหม่) ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเสนอ ๒. ให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 753 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับอัตราภาษีที่ใช้ในการจัดเก็บอัตราภาษียาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังพิจารณาทบทวนโครงสร้างและอัตราภาษียาสูบทั้งในระยะปานกลางและระยะยาวเพื่อนำไปสู่โครงสร้างแบบอัตราเดียวในอนาคตที่เหมาะสม
เป็นธรรม และคำนึงถึงการแข่งขันในตลาด รวมทั้งการดูแลสุขภาพของประชาชน
ตลอดจนกำหนดมาตรการควบคุมการลักลอบนำเข้าบุหรี่โดยผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ๓.
ให้การยาสูบแห่งประเทศไทยรับผิดชอบดูแลเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบ
ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
เพื่อให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบเปลี่ยนมาปลูกพืชทดแทนเพื่อลดพื้นที่การเพาะปลูกยาสูบ ๔. ให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพมีบทบาทมากขึ้นในการสร้างองค์ความรู้
หรือสนับสนุนทางวิชาการให้กับเกษตรกรในการปลูกพืชทดแทนเพื่อลดพื้นที่การเพาะปลูกยาสูบ ๕.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวรวมถึงสถานการณ์
ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
ตลอดจนการกำหนดมาตรการในการช่วยเหลือการปรับเปลี่ยนอาชีพทางเลือกหรือปลูกพืชทดแทนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๖.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 754 | รายงานประจำปี 2563 ของกองทุนการออมแห่งชาติ | กค. | 21/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๓ ของกองทุนการออมแห่งชาติ ประกอบด้วย
ผลการดำเนินงาน รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนการออมแห่งชาติ
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว และแผนการดำเนินงานในปี
๒๕๖๕ และประมาณการรายรับที่ขอจัดสรรจากรัฐบาลสำหรับปี ๒๕๖๔-๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 755 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 21/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยเพิ่มความ
การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เกี่ยวกับการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
และการประชุมที่เกี่ยวข้องทุกระดับ รวมทั้งการเตรียมการ
การประชาสัมพันธ์หรือการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้สามารถใช้วิธีเฉพาะเจาะจง
เพื่อให้การจัดงานดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมกับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว
(ตั้งแต่ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงพฤศจิกายน ๒๕๖๕) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 756 | รายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | กค. | 21/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการและเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายด้านการคลัง
โดยแบ่งการตรวจสอบเป็น (๑) การตรวจสอบการเงินและบัญชี (๒)
การตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และ (๓)
การตรวจสอบการดำเนินงาน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 757 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการเฝ้าระวัง สอบสวน ป้องกัน ควบคุม และรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019) | กค. | 21/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการเฝ้าระวัง
สอบสวน ป้องกัน ควบคุม และรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙) มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการเฝ้าระวัง
สอบสวน ป้องกัน ควบคุม และรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ที่ได้รับจากกระทรวงสาธารณสุข ออกไปอีก ๑ ปีภาษี
(สำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปีภาษี ๒๕๖๔) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 758 | แนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารถาวรที่ส่วนราชการเป็นเจ้าภาพจัดงานหรือเข้าร่วมเทศกาล/งานนิทรรศการนานาชาติในต่างประเทศในนามประเทศไทย [ขอความเห็นชอบมอบบ้านไทยในโครงการร่วมงาน The International Horticultural Exhibition 2019 (Beijing Expo 2019) ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน] | กค. | 21/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการมอบบ้านไทยที่กรมส่งเสริมการเกษตรจัดสร้างในโครงการร่วมงาน
The International Horticultural
Exhibition 2019 (Beijing Expo 2019) ณ
กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้กับที่ว่าการเขตเหยียนชิ่ง เทศบาลนครปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าการมอบบ้านไทยดังกล่าว ขอให้ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ในกรณีที่ส่วนราชการใดจะเป็นเจ้าภาพจัดงานหรือเข้าร่วมงานเทศกาล/
งานนิทรรศการนานาชาติในต่างประเทศในนามประเทศไทย และมีความประสงค์หรือจำเป็นจะต้องมีสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารถาวรขึ้นในงาน
ให้ส่วนราชการดังกล่าวจัดทำรายละเอียดของแผนการดำเนินงาน
แผนงบประมาณและแผนการใช้ประโยชน์จากสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารถาวรดังกล่าวภายหลังจากสิ้นสุดการจัดงานให้ชัดเจน
เพื่อเสนอประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ต้น อย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 759 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กค. | 21/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการและการขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา
และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น ๒๗,๐๐๕,๖๕๕,๔๐๐ บาท ให้แก่กองทุนฯ
สำหรับเป็นค่าใช้จ่าย ได้แก่ (๑) มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา (๒)
การจัดสรรสวัสดิการแบบไม่กำหนดระยะเวลาให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ (๓) การดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
(รอบใหม่) และ (๔) การจัดสรรสวัสดิการแบบไม่กำหนดระยะเวลาสำหรับผู้มีรายได้น้อย
ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่)
ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเสนอ ๒.
ให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 760 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของกองทุนการออมแห่งชาติ | กค. | 21/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ของกองทุนการออมแห่งชาติ จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น ๕๐๕.๓๙๔๐ ล้านบาท ให้แก่กองทุนการออมแห่งชาติ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเบิกจ่ายเงินสมทบให้กับสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ ตามกฎหมายพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๕๔ ต่อไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
