ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 38 จากทั้งหมด 482 หน้า แสดงรายการที่ 741 - 760 จากข้อมูลทั้งหมด 9627 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
741 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 30/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อกำหนดประเภทของพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนเพิ่มเติม
และกำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างสำหรับพัสดุส่งเสริมวิสาหกิจและการประกอบอาชีพ
พัสดุการเรียนการสอน พัสดุส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ
พัสดุส่งเสริมความมั่นคงด้านความปลอดภัยทางอาหารและสินค้าเกษตร
และประเภทของที่ปรึกษาที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงพลังงาน ที่เห็นว่าควรให้กรมบัญชีกลางติดตามประเมินผลการส่งเสริมหรือสนับสนุนดังกล่าวเป็นระยะ
เพื่อให้การกำหนดขั้นต้นเป็นไปอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ
และเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต่อประเทศต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
742 | การต่ออายุความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตรา (Bilateral Swap Agreement) ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลังญี่ปุ่น | กค. | 30/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการต่ออายุความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตรา
(Bilateral Swap
Agreement) ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลังญี่ปุ่น โดยมีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญใน
๒ ประเด็น ได้แก่ (๑) การเพิ่มวัตถุประสงค์ของการใช้วงเงิน และ (๒)
การปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับความตกลงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่สู่การเป็นพหุภาคี
ซึ่งความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตรา
ได้มีการปรับปรุงและต่ออายุอย่างต่อเนื่อง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
743 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 | กค. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ประกอบด้วย รายงานผลการดำเนินงานปีบัญชี
๒๕๖๓ เปรียบเทียบกับปีบัญชี ๒๕๖๒ ผลการดำเนินงานด้านสินเชื่อและรับประกัน และทิศทางและแผนงานปี
๒๕๖๔-๒๕๖๘ ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว และเป็นการดำเนินการตามข้อกฎหมาย
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
744 | การใช้เงินของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อการเพิ่มทุนธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย | กค. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการใช้เงินของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อการเพิ่มทุนธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
โดยกำหนดให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.)
เป็นสถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้นแต่มิได้เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจตามพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
พ.ศ. ๒๕๕๘ สามารถใช้เงินจากกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (กองทุนฯ) เพื่อการเพิ่มทุนได้
และอนุมัติกรอบวงเงินที่จัดสรรจากกองทุนฯ
เพื่อการเพิ่มทุนเพื่อขยายการดำเนินงานให้แก่ ธสน. จำนวนไม่เกิน ๔,๑๙๘ ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
(คณะกรรมการกองทุนฯ) เสนอ และหากในอนาคต ธสน.
ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินทุน สามารถนำเสนอกระทรวงการคลัง
และคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และเห็นควรให้กองทุนฯ
มีการกำหนดตัวชี้วัดเพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์จากการเพิ่มทุน ธสน.
อย่างน้อยให้ครอบคลุมตัวชี้วัด เช่น ด้านการขยายสินเชื่อ ด้านฐานะทางการเงิน
ด้านผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง
คณะกรรมการกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นว่าคณะรัฐมนตรีควรมอบหายให้คณะกรรมการกองทุนฯ
และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
ร่วมกันจัดสรรเงินเป็นงวดเวลาตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ และกำหนดตัวชี้วัดในการประเมินผลสัมฤทธิ์ของการเพิ่มทุน
ธสน. ให้ครอบคลุมตัวชี้วัด และมุ่งเน้นให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(SMEs)
เป็นหลัก และให้กองทุนฯ กำหนดปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวชี้วัด
รวมทั้งใช้เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาในการขอเพิ่มทุนในครั้งถัดไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
745 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม) | กค. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
(มาตรการขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะครบกำหนดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔
ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา ๒ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖
โดยยังคงจัดเก็บในอัตราร้อยละ ๖.๓ (ไม่รวมภาษีท้องถิ่น) หรือร้อยละ ๗
(รวมภาษีท้องถิ่น) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ซึ่งกระทรวงการคลังควรให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล
โดยการขยายฐานภาษีให้มีความครอบคลุม
และกำหนดกรอบระยะเวลาและแนวทางในการทยอยปรับเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม
และสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยข้องในโอกาสแรก
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
746 | การขอแก้ไขสัญญาเงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น เลขที่ TXXXV-1 สำหรับโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม สนับสนุนการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค | กค. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขอแก้ไขสัญญาเงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น
(Japan International Cooperation Agency : JICA) เลขที่ TXXXV-1 สำหรับโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์
เทคโนโลยีและนวัตกรรม
สนับสนุนการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค (โครงการพัฒนากำลังคนฯ) เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงหน่วยงานรับผิดชอบโครงการพัฒนากำลังคนฯ จาก กระทรวงศึกษาธิการ
โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม ดังนี้ (๑) เปลี่ยนชื่อหน่วยงานรับผิดชอบโครงการพัฒนากำลังคนฯ (Executing Agency) ใน Article
III Section 4 Administration of Loan และใน Schedule 1
Section 1 Outline of the Project (๒)
เปลี่ยนชื่อบัญชีหน่วยงานเพื่อรองรับเงินกู้ (Designated Account) ใน Schedule 2
Section 1 Allocation และ Schedule 7 Advance Procedure และ (๓) ประเด็นอื่น ๆ (ถ้ามี) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายลงนามในร่างหนังสือถึง
JICA เพื่อแจ้งขอเปลี่ยนแปลงหน่วยงานรับผิดชอบโครงการฯ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอเพิ่มเติม |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
747 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรทั้งหมดหรือแต่บางส่วน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการยกเว้นให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ในกรณีที่มีพฤติการณ์พิเศษ
โดยมีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ.
๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
748 | รายงานประจำปีกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 และ พ.ศ. 2563 รวม 2 ฉบับ | กค. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งได้ปรับปรุงรูปเล่ม ปรับเพิ่มเนื้อหาข้อมูล
ผลสัมฤทธิ์ และประสิทธิภาพการใช้จ่ายของกองทุนฯ
ตามความเห็นของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย (๑)
ผลต่อประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการ มีโครงการสำคัญ เช่น โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
(๒) ผลต่อความยากจน (๓) ผลต่อผู้มีรายได้น้อย (๔) ผลต่อระบบเศรษฐกิจไทย (๕)
ผลด้านอื่น ๆ และรายงานประจำปีกองทุนฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ประกอบด้วย (๑)
ผลการดำเนินงานของกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เช่น
สวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใน ๒ รูปแบบ ได้แก่
สวัสดิการที่ไม่ได้กำหนดระยะเวลา และสวัสดิการที่กำหนดระยะเวลา (๒)
ผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพการใช้จ่ายของกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
เช่น ผลต่อประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการ ผลต่อความยากจน ผลต่อระบบเศรษฐกิจไทย
ผลด้านอื่น ๆ และ (๓) รายงานของผู้สอบบัญชี และรายงานการเงินของกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ กองทุนฯ มีสินทรัพย์รวม ๗,๒๔๔.๖๙ ล้านบาท มีรายได้รวม ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายรวม ๔๖,๗๑๓.๒๐ ล้านบาท
ทำให้รายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ ๖,๗๑๓.๒๐ ล้านบาท
ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
749 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมของทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2562 | กค. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมของทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี
๒๕๖๒ ซึ่งได้ปรับปรุงแก้ไขตามข้อสังเกตของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๑๖
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ ๒) วันพฤหัสบดีที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๔
และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยเป็นการเพิ่มรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของทุนหมุนเวียน
โครงสร้างคณะกรรมการการบริหารทุนหมุนเวียน รายงานผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน
และวิเคราะห์ผลการประเมินการดำเนินงานทุนหมุนเวียนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
750 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารออมสิน (นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ และนางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา) | กค. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารออมสิน
จำนวน ๒ คน แทนผู้พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากลาออก
และมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ กรรมการ ๒. นางสาวปิยวรรณ
ล่ามกิจจา กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
751 | รายงานผลการดำเนินงานมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาภาระหนี้สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 | กค. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาภาระหนี้สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ
COVID-19 ประกอบด้วย (๑) มาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้
ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม Small and Medium Enterprises (SMEs) และลูกหนี้รายย่อยด้วยการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของสถาบันการเงินเฉพาะกิจและสถาบันการเงิน
โดยพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมเป็นระยะเวลาอย่างน้อย ๒ เดือน และ (๒)
มาตรการควบคุมการทวงถามหนี้ที่ดำเนินการไม่เป็นธรรมกับประชาชน เช่น
การจัดทำร่างประกาศคณะกรรมการกำกับติดตามทวงถามหนี้ เรื่อง
การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการทวงถามหนี้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
752 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวชุติมา ศรีปราชญ์) | กค. | 03/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวชุติมา ศรีปราชญ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมธนารักษ์
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารเหรียญกษาปณ์และทรัพย์สินมีค่า
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
753 | รายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ 12 เดือน ปี 2563 | กค. | 03/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ
รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๓ มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ ๑)
ภาพรวมธุรกิจประกันภัยเดือนมกราคม-ธันวาคม ปี ๒๕๖๓ มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง
รวมทั้งสิ้น ๘๕๒,๗๒๙ ล้านบาท หดตัวร้อยละ ๐.๒๒
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ๒)
รายงานผลการดำเนินงานที่สำคัญตามนโยบายรัฐบาลของสำนักงาน คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(คปภ.) และนโยบายที่กำหนดโดย คปภ. ภายใต้แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ ๓ (พ.ศ.
๒๕๕๙-๒๕๖๓) ประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์ชาติ ได้แก่
การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมประกันภัย การเสริมสร้างความรู้และการเข้าถึงประกันภัย
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขัน
การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านประกันภัย ๓) รายงานผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดของสำนักงาน
คปภ. รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๓ เป็นการประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรการและแผนการดำเนินงานในปี
๒๕๖๓ ของสำนักงาน คปภ. ประกอบด้วย ๑๖ ตัวชี้วัด มีค่าคะแนนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักรวมอยู่ที่
๔.๖๒๕ จากคะแนนเต็ม ๕ และ ๕)
รายงานผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการกับสำนักงาน คปภ. รวม ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๓
มีระดับความพึงพอใจภาพรวมอยู่ที่พึงพอใจมากที่สุด คือ อยู่ที่ร้อยละ ๙๒.๒๐
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
754 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับงวดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 23 กันยายน 2563 (วันยุบเลิกบรรษัท) | กค. | 03/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
สำหรับงวดตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๓ (วันยุบเลิกบรรษัท) ประกอบด้วย รายงานผลการดำเนินงานปีบัญชี ๒๕๖๓
เปรียบเทียบกับปีบัญชี ๒๕๖๒ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้รับรองแล้ว และเป็นไปตามพระราชกำหนดบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๒๖ ทั้งนี้ พระราชบัญญัติยุบเลิกบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๓ ซึ่งมีผลให้บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยควบรวมกิจการเข้ากับธนาคารอาคารสงเคราะห์แล้ว นับแต่วันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ
และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ถือเอาวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๓ เป็นวันยุบเลิกบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
และปิดงบการเงิน ประจำปี ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
755 | มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | กค. | 03/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ซึ่งมีแนวทางการช่วยเหลือ ๔
แนวทาง ประกอบด้วย มาตรการช่วยเหลือโดยการหักกลบจำนวนค่าปรับ
ให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจที่จะพิจารณาการงด หรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญาหรือการขยายเวลาการทำสัญญา
ตามพระราชบัญญัติฯ มาตรา ๑๐๒ วรรคหนึ่ง การนำเงินงบประมาณหรือเงินอื่นมาจ่ายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ
การกำหนดอัตราค่าปรับเป็นอัตราร้อยละ ๐ ทั้งนี้ การคิดค่าปรับในอัตราร้อยละ ๐
ให้คิดตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๓
จนถึงก่อนวันที่มีประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงทั่วราชอาณาจักรอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ และกรณีที่หน่วยงานของรัฐได้พิจารณางดหรือลดปรับให้แก่คู่สัญญา
หรือการขยายระยะเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง
ก็ให้นำจำนวนวันดังกล่าวมาหักออกจากจำนวนวันตามมาตรการนี้ และจำนวนที่เหลือ
ให้คิดค่าปรับในอัตราร้อยละ ๐ สำหรับค่าปรับส่วนที่เกินจำนวนวันตามมาตรการนี้
ให้คิดในอัตราที่กำหนดในสัญญาหรือข้อตกลงตามปกติ โดยให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๑๘๓ ต่อไป ตามที่
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
756 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งที่ 3 | กค. | 27/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติการปรับปรุงแผนการก่อหนี้ใหม่
ที่ปรับเพิ่มขึ้นสุทธิ ๑๕๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท จากเดิม ๑,๖๔๗,๑๓๑.๗๔ ล้านบาท เป็น ๑,๗๙๗,๑๓๑.๗๔ ล้านบาท แผนการบริหารหนี้เดิม คงเดิม ๑,๕๒๖,๕๖๔.๑๗ ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ คงเดิม ๓๘๗,๘๖๐.๗๒
ล้านบาท การบรรจุรายการเพิ่มเติมในการปรับปรุงแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ครั้งที่
๓ จำนวน ๑ รายการ และการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่
การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันให้กับรัฐวิสาหกิจ
ตามมาตรา ๗ แห่ง พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะฯ มาตรา ๓ แห่ง พ.ร.ก.กู้เงินโควิด-๑๙
พ.ศ. ๒๕๖๓ และมาตรา ๓ แห่ง พ.ร.ก.กู้เงินโควิด-๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ
และให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น ควรกำกับ
ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการให้มีการดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
คุ้มค่า และเกิดประสิทธิผลต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวมอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เองก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น
ๆ
และรัฐบาลควรเร่งพิจารณากำหนดรายละเอียดโครงการและแผนการใช้จ่ายเงินกู้ให้มีความชัดเจนโดยเร็ว
โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับศักยภาพของระบบสาธารณสุขและการเร่งจัดหาวัคซีนเพื่อบรรเทาสถานการณ์ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
พร้อมทั้งเตรียมการออกมาตรการสนับสนุนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อรักษาระดับศักยภาพการผลิตและการแข่งขันของประเทศไปพร้อมกัน
และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนการกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
(Gross Domestic Product : GDP) ให้มีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับความจำเป็นในการใช้จ่ายและการลงทุนของประเทศ ๓. ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
757 | รายงานผลการกู้เงินโดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นก่อนครบกำหนดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 | กค. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินโดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นก่อนครบกำหนดเมื่อวันที่
๔ มิถุนายน ๒๕๖๔
ซึ่งกระทรวงการคลังได้กู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๕ (LB246A) อายุ ๓.๐๔ ปี จำนวน ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท ประมูลเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๔
โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ ๐.๖๔๘๐ ต่อปี
และได้จัดทำประกาศเกี่ยวกับผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวข้างต้น
เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไปด้วยแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
758 | การแต่งตั้งและกำหนดอัตราเงินเดือนของผู้อำนวยการสำนักงานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (พันโท หนุน ศันสนาคม) | กค. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พันโท หนุน ศันสนาคม ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และกำหนดอัตราค่าตอบแทนคงที่ในอัตรา ๒๘๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน โดยในระหว่างอายุสัญญา สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ในวันที่ ๑ ตุลาคม ของทุกปี ในอัตราไม่เกินกว่าร้อยละ ๑๐ ของอัตราค่าตอบแทนคงที่ที่ผู้รับจ้างได้รับ ทั้งนี้ ให้ขึ้นกับผลการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยการปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ตลอดอายุสัญญาจ้างจะต้องไม่มีผลให้อัตราค่าตอบแทนคงที่ที่ได้รับเกินกว่าอัตราขั้นสูงตามกรอบอัตราค่าตอบแทนคงที่ที่กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบไว้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ระบุในสัญญาจ้างผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ตามมติคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในการประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๔ และครั้งที่ ๗/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
759 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 70 ปี สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... | กค. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๗๐ ปี
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล)
ชนิดราคายี่สิบบาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ ๗๐ ปี สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
760 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 | กค. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|