คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1.2  (ฝ่าย
ความมั่นคงและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ)  ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอการแก้ไข
ระบบบำเหน็จบำนาญของรัฐวิสาหกิจ  (การท่าเรือแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย และธนาคาร
ออมสิน)  โดยให้รัฐวิสาหกิจดังกล่าวดำเนินการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแทนระบบบำเหน็จบำนาญ  โดย
ให้สิทธิแก่พนักงานปัจจุบันที่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญ   สามารถเลือกเข้าเป็นสมาชิกระบบกองทุนสำรอง
เลี้ยงชีพ ซึ่งมีหลักการให้ผลประโยชน์ที่ได้รับจากระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่น้อยไปกว่าระบบบำนาญเดิม
และองค์กรรัฐวิสาหกิจได้ตั้งสำรองภาระเงินบำเหน็จบำนาญ  โดยใส่เงินสมทบให้พนักงานในรูปแบบของกอง
ทุนสำรองเลี้ยงชีพ    และแต่งตั้งให้ผู้บริหารกองทุนที่เป็นมืออาชีพมาบริหารเงินกองทุน  เพื่อแสวงหาผลตอบ
แทน   สำหรับการคำนวณหามูลค่าปัจจุบันของเงินบำนาญและบำเหน็จตกทอด ให้ใช้วิธีการคำนวณตามสูตร
การคำนวณปกติของแต่ละรัฐวิสาหกิจที่กำหนดไว้ในระเบียบ  ส่วนการกำหนดเงินเดือนเดือนสุดท้ายของพนัก
งานให้ใช้สมมติฐานที่กระทรวงการคลังกำหนด  ทั้งนี้  ให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ
ที่เห็นว่าผลประโยชน์ที่พนักงานรัฐวิสาหกิจจะได้รับจากการปรับไปใช้ระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่แตกต่าง
จากระบบกองทุนบำเหน็จบำนาญเดิม  ดังนั้น  จำนวนสมาชิกที่จะเข้าร่วมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอาจมีจำนวน
ไม่มาก  อย่างไรก็ดี ภาระที่ตกกับรัฐวิสาหกิจในกรณีจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะน้อยกว่า มีเพียงกรณีของ
การรถไฟแห่งประเทศไทย   ซึ่งรัฐบาลอาจจะต้องตั้งงบประมาณสนับสนุนสมทบ   จึงขอให้กระทรวงการคลัง
พิจารณาหาแนวทางจูงใจให้พนักงานรัฐวิสาหกิจทั้ง   3 แห่ง  เข้าร่วมเป็นสมาชิก  และประชาสัมพันธ์ให้พนัก
งานได้รับทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการปรับเปลี่ยนระบบบำนาญ เป็นระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไป
พิจารณาดำเนินการต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของ
เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ  เนื่องในโอกาสพระราช
พิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา  6  รอบ 12 สิงหาคม 2547  พ.ศ. ....  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้เป็น
การกำหนดชนิด ราคา โลหะ  อัตราเนื้อโลหะ  น้ำหนัก  ขนาด  อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด  ลวดลายและลักษณะ
อื่นๆ ของเหรียญกษาปณ์ทองคำ ราคาเก้าพันบาท สองชนิด เหรียญกษาปณ์เงิน ราคาหกร้อยบาท สองชนิด
เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคายี่สิบบาท  สองชนิด   และเหรียญกษาปณ์โลหะสองสี
(สีขาวและสีทอง)  ราคาสิบบาท  หนึ่งชนิด   ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา  6  รอบ ในวันที่ 12 สิงหาคม
พ.ศ. 2547

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่  1.2
(ฝ่ายความมั่นคง และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ) ที่มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการใน
การแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุ ประกอบด้วย  มาตรการที่กำหนดให้ส่วนราชการ  หน่วยงานของรัฐ
รัฐวิสาหกิจ  และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุต้องดำเนินการ  มาตร
การที่กำหนดให้กระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์) ต้องดำเนินการ  และมาตรการเสริมที่กำหนดให้หน่วย
งานอื่นให้การสนับสนุน  โดยให้ปรับปรุงจากมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวที่มีอยู่เดิม จำนวน  10
มติ ได้แก่ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2532  วันที่ 21 สิงหาคม 2533  วันที่  4  พฤษภาคม
2536 วันที่ 27 ธันวาคม 2537 วันที่ 30 พฤษภาคม 2538 วันที่ 22 เมษายน 2539  วันที่ 29 กรกฎาคม
2540 วันที่ 25 มิถุนายน 2545  วันที่  8  เมษายน  2546  และวันที่  3  มิถุนายน  2546  มารวมให้เป็น
มติเดียว   โดยให้รับความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรอง  ฯ  ที่เห็นว่า  มาตรการเพิ่มเติมที่กรมธนารักษ์
กำหนดให้ส่วนราชการ   หน่วยงานของรัฐ   รัฐวิสาหกิจ   และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ครอบครองใช้
ประโยชน์ในที่ราชพัสดุต้องดำเนินการนั้น   กรมธนารักษ์ควรมีเกณฑ์ปฏิบัติและกลไกในการกำกับดูแลให้
ชัดเจน เช่น การกำหนดบทบาท อำนาจ  และหน้าที่ของส่วนราชการ  หน่วยงานของรัฐ  รัฐวิสาหกิจ  และ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ    และตารางเวลาสำหรับให้หน่วยงาน
ผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง  เป็นต้น   รวมทั้งเรื่องความรับผิดชอบกรณี
ที่เกิดการบุกรุกที่ราชพัสดุ     ควรเป็นความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างกรมธนารักษ์และหน่วยงานผู้ครอบ
ครองใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ไปดำเนินการด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอการขายที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน
ที่ กท.034898 โฉนดเลขที่ 2433 แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ประมาณ 13-3-75
ไร่ คืนในราคาที่การเคหะแห่งชาติจัดซื้อมา เป็นเงิน 17,561,250 บาท เพื่อนำที่ดินมารองรับผู้เดือดร้อนที่อยู่
อาศัยที่มีรายได้น้อยตามโครงการฉุกเฉินเพื่อที่อยู่อาศัยคนจนเมืองของการเคหะแห่งชาติ

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อ
การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2509  ในส่วนของสถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่  จำนวน
หุ้นที่บุคคลใดจะถือได้  วัตถุประสงค์ของธนาคาร   อำนาจของธนาคาร   อำนาจของคณะกรรมการในการแต่ง
ตั้งคณะกรรมการบริหาร    รวมทั้งอำนาจหน้าที่ของผู้จัดการ   และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไป
ประกอบการตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติธนาคารดังกล่าวต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการลงนามร่างกรอบการดำเนินการ
เกี่ยวกับการค้ำประกันการกู้เงินของภาคเอกชน (Framework for Guarantees for Private Sector Operations)
ระหว่างกระทรวงการคลังกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เมื่อวันที่  22  มกราคม  2547   โดยร่างกรอบการ
ดำเนินการเกี่ยวกับการค้ำประกันการกู้เงินของภาคเอกชนฉบับนี้ได้กำหนดให้รัฐบาลไทยจะต้องให้การคุ้มกัน
และเอกสิทธิ์แก่ ADB ในการดำเนินธุรกรรมในการค้ำประกัน ดังนี้ การค้ำประกันเงินกู้ของ ADB  จะได้รับการ
คุ้มกันจากข้อบังคับ การควบคุม และคำสั่งการพักชำระหนี้ชั่วคราวในรูปใด ๆ  และ  ADB  สามารถดำเนินการ
ประกันต่อ หรือขายการค้ำประกันต่อ และส่งคืนเงินตราต่างประเทศ ที่ ADB  ได้รับจากการค้ำประกัน  โดยได้
รับการยกเว้นภาษีอากรใด  ๆ  รวมทั้งค่าธรรมเนียมต่าง ๆ  ส่วนกรณีที่มีการทำสัญญาที่จะชำระหนี้แทนหรือ
ชำระหนี้แทนให้แก่ผู้ให้กู้ ADB  จะเปรียบเสมือนเป็นผู้ให้กู้โดยตรงแก่ภาคเอกชนรายนั้น  ๆ  ในการค้ำประกัน
ต่าง ๆ ADB จะเป็นผู้รับช่วงสิทธิ (Subrogate) แทนผู้ให้กู้  ซึ่ง ADB จะได้รับการคุ้มกันและเอกสิทธิ์ภายใต้การ
ให้กู้แก่ภาคเอกชน   โดยรัฐบาลไม่ต้องค้ำประกัน   และที่ได้กำหนดไว้ในกรอบความตกลงว่าด้วยการสถาปนา
ธนาคารพัฒนาเอเชีย สำหรับเงินบาทที่  ADB  ได้รับในฐานะผู้รับช่วงสิทธิ  ADB  สามารถนำมาดำเนินการใช้
จ่าย แลกเปลี่ยน และส่งกลับ เสมือนประหนึ่งว่า ADB ได้รับเงินดังกล่าวจากการให้กู้โดยตรงจากภาคเอกชน

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอเรื่อง การบริจาคเงินเพื่อเพิ่มทุนในกอง
ทุนพัฒนาเอเชีย  ครั้งที่ 8  สรุปได้ว่า  ในการประชุมกลุ่มประเทศผู้บริจาคเงินเพื่อเพิ่มทุนในกองทุนพัฒนา
เอเชีย ครั้งที่ 8 ใน 3 รอบที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้มีการเพิ่มทุน และให้ประเทศผู้บริจาคคงสัดส่วน
การบริจาคเงินในกองทุน ฯ ในอัตราเท่าเดิมโดยในส่วนของประเทศไทยคงสัดส่วนในการบริจาคในสัดส่วน
เดิมในกองทุน ฯ (ร้อยละ 0.09) และจะต้องเพิ่มวงเงินบริจาคจาก 100 ล้านบาท เป็น  120.86  ล้านบาท
หรือเท่ากับ  2.09  ล้าน SDR  โดยธนาคารพัฒนาเอเชีย  (Asian Development Bank : ADB)  จะนำอัตรา
แลกเปลี่ยนเฉลี่ยระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2546-31 มีนาคม 2547 มาใช้ในการคำนวณสัดส่วนการบริจาค
เงิน  ซึ่ง  1 SDR  เท่ากับ  57.876  บาท  (1 เหรียญสรอ. เท่ากับ 39.498 บาท)  สำหรับการประชุมกลุ่ม
ประเทศผู้บริจาคเงินเพื่อเพิ่มทุนในกองทุนพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 8 รอบที่ 4 ระหว่างวันที่ 10-12 พฤษภาคม
2547 ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี กระทรวงการคลังเห็นควรเสนอท่าทีในการประชุมครั้งนี้ว่า  ประเทศ
ไทยจะบริจาคเงินเพื่อเพิ่มทุนในกองทุน ฯ จำนวน 120.86 ล้านบาท  เพื่อคงสัดส่วนในกองทุน ฯ  ในอัตรา
เท่าเดิม  โดยมีเงื่อนไขว่า การบริจาคเงินดังกล่าวจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีก่อน และการบริจาค
เงินเพื่อเพิ่มทุนในครั้งนี้ในรูปเงินบาทโดยการชำระเงินบริจาคจะทำโดยกระทรวงการคลังออกตั๋วสัญญาใช้
เงินคลัง (Promissory Notes) ประเภทจ่ายเงินเมื่อทวงถามและไม่มีดอกเบี้ยแก่ธนาคาร  ฯ  และมีระยะเวลา
การเรียกเก็บเงินบริจาคจากตั๋วสัญญาใช้เงินคลังดังกล่าวประมาณ 10 ปี  ซึ่งการชำระเงินจริงจะเกิดขึ้นเมื่อ
มีการเบิกเงินจากกองทุน ฯ  ไปให้กู้ต่อแก่ประเทศผู้กู้  ธนาคาร ฯ  จึงจะนำตั๋วสัญญาใช้เงินคลังดังกล่าวมา
ขอขึ้นเงินสด

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอการให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
ในเขตพื้นที่ที่ได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกใน  3  จังหวัดชายแดนภาคใต้  ดังนี้   ให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิ
ในการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณแก่ข้าราชการซึ่งประจำปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขตที่ได้มีการประกาศใช้กฎอัยการ
ศึกเพิ่มเติมในพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา  โดยกำหนดให้นับได้ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2547
จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2547  หากครบกำหนดระยะเวลาแล้ว  สถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง  กระทรวงการ
คลังจะพิจารณาเสนอให้สิทธิในการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณของข้าราชการ ซึ่งประจำปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขต
พื้นที่ดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป และหากได้มีการประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึก ก่อนวันที่ 30
กันยายน  2547   ก็ให้สิทธิในการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณเป็นอันสิ้นสุดลงด้วย   สำหรับจังหวัดสตูล  เนื่อง
จากสถานการณ์ในพื้นที่เป็นเพียงพื้นที่ที่กลุ่มโจรหลบซ่อนพักพิงชั่วคราว  เมื่อถูกฝ่ายเจ้าหน้าที่กดดันจากพื้นที่
จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา เท่านั้น  ประกอบกับปัจจุบันยังไม่ได้มีการก่อเหตุร้ายรุนแรง เมื่อพิจารณา
ถึงความเสี่ยงภัยของเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบกับจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา แล้วเห็นว่า ยังไม่สมควรที่จะ
นับเวลาราชการเป็นทวีคูณ  แต่อย่างไรก็ดี  หากในอนาคตสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปจนมีความเสี่ยงภัยเทียบ
ได้กับ 3 จังหวัดดังกล่าว ก็จะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อนับเวลาราชการเป็นทวีคูณต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานในเขตพื้น
ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้  รับทราบการกำหนดให้สิทธิแก่ข้าราชการลูกจ้าง
ประจำ ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ  และพนักงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข  ตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการ
เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2523  และที่แก้ไขเพิ่มเติม   โดยในกรณีที่เกิดการเจ็บป่วยได้รับสิทธิค่ารักษา
พยาบาล สำหรับตนเองและบุคคลในครอบครัว ในกรณีที่ข้าราชการ  ลูกจ้างประจำ  เสียชีวิตลงแม้ว่าสิทธิตาม
พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวหมดลง    บุคคลในครอบครัวก็ยังมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนหลักประกัน
สุขภาพแห่งชาติ และอนุมัติการช่วยเหลือให้บุตรของข้าราชการ และลูกจ้างประจำที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงาน
ในเขตพื้นที่ดังกล่าวได้รับสิทธิสวัสดิการ   เกี่ยวกับการศึกษาบุตรตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา
เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาบุตร พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไปจนกว่าจะหมดสิทธิ ทั้งนี้ ในการจ่าย
เงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่ข้าราชการ  ลูกจ้างประจำ  หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นจากเงินงบประมาณ   งบ
ดำเนินงาน   รายการค่าตอบแทนของส่วนราชการ   หากไม่มีหรือไม่เพียงพอให้ส่วนราชการเสนอต่อสำนักงบ
ประมาณเพื่อจัดสรรเงินงบประมาณเพิ่มเติม  ตามที่กำหนดในระเบียบกระทรวงกระทรวงการคลังปี 2547 ซึ่ง
หากจำเป็นต้องจัดสรรเงินงบประมาณเพิ่มเติม กระทรวงการคลังจะเป็นผู้ประสานงานกับสำนักงบประมาณ โดยตรง

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลัง  โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล  รายงาน
ผลการดำเนินงานโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว ไตรมาสที่ 2 ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2547 โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่งวดวันที่  1  สิงหาคม  2546 มียอดจำหน่ายเฉลี่ยประมาณ 1,405
ล้านบาทต่องวด ยอดเงินรางวัลเฉลี่ย 52% ยอดค่าใช้จ่าย 20%  ยอดรายได้สุทธิ 25%  และการนำเงินราย
ได้กลับคืนสู่สังคม เป็นเงินรวมทั้งสิ้น  736,190,000  บาท  สำหรับผลการดำเนินงานเครื่องจำหน่ายอิเลค
ทรอนิกส์ (Online) สำนักงาน ฯ ได้ดำเนินการประกวดราคาจัดจ้างบริการระบบจำหน่ายสลากพิเศษ ฯ  แต่
ได้ยกเลิกการประกวดราคา  เนื่องจากเอกสารการประกวดราคาจ้างมีประเด็นปัญหาที่ไม่ชัดเจน   ขณะนี้อยู่
ระหว่างขั้นตอนการประกวดราคาใหม่ ส่วนปัญหาและอุปสรรคการดำเนินงาน  ได้แก่  ระบบการจำหน่ายมี
ความยุ่งยากต่อผู้แทนจำหน่ายและประชาชน  มีผลทำให้ยอดจำหน่ายลดลง  และระบบไม่มีการจำกัดวงเงิน
การซื้อตัวเลขทำให้มีความเสี่ยงในด้านการจ่ายเงินรางวัลที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าเงินประกันและกองทุนเงินราง
วัล   ในการนี้  สำนักงาน ฯ  ได้กำหนดแนวทางการปรับปรุงวิธีการและขั้นตอนการจำหน่ายสลากพิเศษ  ฯ
โดยในงวดวันที่ 16 เมษายน 2547 เป็นต้นไป คาดว่าจะมีผลทำให้ประชาชนให้ความสนใจมากขึ้น  และจะมี
ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ  7   และเนื่องจากระบบจำหน่ายสลากพิเศษ  ฯ  ที่เป็นสลากใบอาจมีผู้ดัดแปลงการ
ดำเนินงานผ่านช่องทางอื่น   ซึ่งจะทำให้รัฐไม่สามารถกำกับดูแลควบคุม   และให้ความคุ้มครองแก่ผู้บริโภค
ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งช่องทางดังกล่าวยังสามารถแอบแฝงจำหน่ายสลากนอกระบบได้  และปัญหาเรื่องความ
เสี่ยงในด้านการจ่ายเงินรางวัลเกินกว่ากองทุนที่มีอยู่   จึงเห็นสมควรเร่งดำเนินการโครงการจำหน่ายสลาก
อิเลคทรอนิกส์ (Online) เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการแต่งตั้ง นายบุญศักดิ์  เจียมปรีชา
รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารออมสิน แทน นายสมใจนึก
เองตระกูล ที่ขอลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (27 เมษายน 2547) เป็นต้นไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้แต่งตั้ง นายทวีทอง  หงษ์วิวัฒน์ เป็นกรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมานุษยวิทยาทางการแพทย์และการประเมินผลในคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของ
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ แทน นายไพบูลย์ สุริยะวงศ์ไพศาล ที่ลาออก โดยให้แต่งตั้งนับตั้งแต่วันที่
คณะรัฐมนตรีมีมติ (27 เมษายน 2547) เป็นต้นไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยก
เว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530  และให้ดำเนินการต่อไป
ได้  โดยสาระสำคัญของร่างประกาศกระทรวงการคลังฉบับนี้เป็นการยกเว้นอากรศุลกากรแก่ของใด ๆ ที่นำเข้า
หรือส่งออกตามภาค 2  และ  3  แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร  พ.ศ. 2530  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระ
ราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร  (ฉบับที่ 2)  พ.ศ. 2541  ในพระปรมาภิไธย  และพระนามาภิไธยของพระมหา
กษัตริย์ พระราชินี และสมเด็จพระยุพราชมกุฎราชกุมาร

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือค่าครอง
ชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ  (ฉบับที่  ..)  พ.ศ. ....  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่อง
ด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้  โดยสาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้เป็นการกำหนดให้ผู้ได้รับหรือมีสิทธิ
ได้รับเบี้ยหวัดตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ผู้ได้รับหรือมีสิทธิได้รับบำนาญปกติ  บำนาญพิเศษเพราะเหตุทุพพล
ภาพ   บำนาญพิเศษหรือบำนาญตกทอดในฐานะทายาทหรือผู้อุปการะหรือผู้อยู่ในอุปการะ  ตามกฎหมายว่าด้วย
บำเหน็จบำนาญข้าราชการอยู่แล้ว  ในวันที่  1  เมษายน  2547   ให้ได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ
เพิ่มขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 3 ของจำนวนเบี้ยหวัดหรือบำนาญและเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.)
ที่ได้รับหรือมีสิทธิได้รับ การคำนวณ ช.ค.บ. ถ้ามีเศษของบาทให้ปัดทิ้ง

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (คกก.7) ที่
(ฝ่ายกฎหมายฯ) มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาด
หลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  โดยสาระสำคัญของ
ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ เป็นการปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับคุณสมบัติและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ
กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (คณะกรรมการ ก.ล.ต.) เพิ่มเติมบทบัญญัติเพื่อส่งเสริมบรรษัทภิบาลของ
บริษัทที่มีการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นการทั่วไป บริษัทที่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
และบริษัทที่มีหลักทรัพย์ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์  ปรับปรุงและเพิ่มเติมบทกำหนดโทษและการเปรียบเทียบ
ความผิด  รวมทั้งปรับปรุงบทพิสูจน์ความรับผิดของบุคคลธรรมดา  เมื่อผู้กระทำผิดมีฐานะเป็นนิติบุคคลให้มีความ
เหมาะสมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น   และกำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อให้กรรมการ  ก.ล.ต.  ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งที่
ยังไม่พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับอยู่ในตำแหน่งเพื่อดำเนินงานต่อไปจนกว่าครบวาระ  
ทั้งนี้  ให้รับประเด็นอภิปรายของ คกก.7  ไปประกอบการพิจารณาด้วย    แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงาน
สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป   โดยสาระสำคัญของประเด็นอภิปราย 
มีดังนี้  แก้ไขบทบัญญัติ    เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ  ก.ล.ต.    โดยกำหนดให้บุคคลอื่นที่มี
คุณสมบัติที่เหมาะสมเป็นประธานกรรมการ ก.ล.ต. แทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  เนื่องจากเป็นผู้ดำรง
ตำแหน่งทางการเมืองในฝ่ายบริหารอันอาจมีข้อครหาเรื่องความเป็นกลาง   และการแทรกแซงตลาดหลักทรัพย์
ที่เป็นการดำเนินธุรกรรมทางการเงินที่ต้องมีความเป็นอิสระจากทางการเมือง    ส่วนคำว่า "บรรษัทภิบาล" ที่ได้
กำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัติ  ฯ  เป็นคำใหม่   ยังไม่มีการใช้ในกฎหมายใดมาก่อนและยังมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับ
ความหมายและความถูกต้องของหลักภาษาไทย      สมควรมอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณา
ว่าจะใช้ถ้อยคำใดให้เหมาะสม เช่น อาจใช้คำว่า "การบริหารกิจการที่ดีของบริษัท" มาใช้แทนคำดังกล่าว   นอกจากนี้  
โดยที่รัฐบาลไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003  ซึ่งมีความจำเป็นจะ
ต้องพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับอนุสัญญาดังกล่าวก่อนมีการให้สัตยาบัน   ดังนั้น การ
แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัตินี้ในส่วนที่ว่าด้วยบรรษัทภิบาล     จึงควรพิจารณาหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และข้อกำหนด
ของอนุสัญญาดังกล่าวในส่วนที่ว่าด้วยภาคเอกชน (Private Sector) มาพิจารณาประกอบด้วย

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอโครงการให้เอกชนลงทุนก่อ
สร้างบริหาร  และประกอบการท่าเทียบเรือ A3  และท่าเทียบเรือในโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 2 (ท่า
เทียบเรือ C1, C2, D1,  D2  และ  D3) ในคราวเดียวกัน  ภายใต้ผู้ประกอบการรายเดียว  เนื่องจากผลตอบ
แทนทางการเงินกรณีรวมท่าเทียบเรือ A3 ของท่าเทียบเรือแหลมฉบัง และท่าเทียบเรือในโครงการท่าเทียบ
เหลือแหลมฉบัง  ขั้นที่ 2  ฯ   ที่เหลือเป็นโครงการเดียวจะสูงกว่าผลตอบแทนทางการเงินเมื่อเทียบกับกรณี
การแยกท่าเทียบเรือแต่ละท่าเป็นโครงการย่อย    ประกอบกับการรวมท่าเทียบเรือเป็นโครงการเดียวจะทำ
ให้การบริหารจัดการท่าเทียบเรือมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการขนถ่ายสินค้า และทำให้เกิดการประหยัด
ในขนาด  (Economy of Scale)  ทั้งด้านเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและค่าดอกเบี้ยจ่าย  ทั้งนี้
ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการด้วย ดังนี้  ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
เร่งดำเนินการคัดเลือกเอกชนลงทุนก่อสร้าง  บริการ  และประกอบการท่าเทียบเรือดังกล่าวตามขั้นตอนใน
พระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ  พ.ศ. 2535    ให้แล้วเสร็จ
และดำเนินการต่อไปโดยเร็ว  เพื่อให้ท่าเทียบเรือดังกล่าวแล้วเสร็จทันต่อการรองรับการขยายตัวทางเศรษฐ
กิจและการขนส่งสินค้าทางทะเลที่มีแนวโน้มจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต นอกจากนี้ในการคัดเลือก ควร
พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก  โดยไม่ถือเอาผลประโยชน์ตอบแทนเป็นตัวเงินสูงสุดที่เอกชนจะ
เสนอแก่ภาครัฐเป็นเงื่อนไขหลักในการพิจารณาคัดเลือกเพียงประการเดียว เนื่องจากการเสนอผลตอบแทน
เป็นตัวเงินสูงสุดอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการและการคิดค่าบริการจากผู้ใช้บริการท่าเทียบ
เรือโดยรวม ซึ่งในที่สุดจะส่งผลกระทบไปถึงประชาชนส่วนรวม  ตลอดจนขีดความสามารถในการแข่งขันของ
ประเทศ แต่ควรให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและประสบการณ์ของเอกชนนั้น ๆ ด้วย โดยควรคัดเลือกเอกชน ฯ
ที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการท่าเทียบเรือ  มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับกันในระดับโลก  (World Class)
และสามารถเสนอแผนการดำเนินงานบริหารจัดการท่าเทียบเรือที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ
โดยรวม ประกอบกันไปด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ยกเว้น
ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) เพื่อยกเว้นภาษีสรรพสามิตให้สำหรับสินค้าที่นำเข้าในพระปรมาภิไธยพระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  หรือ ในพระนามาภิไธยสมเด็จพระบรมราชินีนาถหรือสมเด็จพระยุพราชมกุฎราชกุมาร
ร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยการงดเว้นไม่เรียกเก็บภาษีสุรา พ.ศ. .... เพื่องดเว้นไม่เรียกเก็บภาษีสุราที่นำเข้ามาใน
ราชอาณาจักรในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  หรือ ในพระนามาภิไธยสมเด็จพระบรมราชินี
นาถหรือสมเด็จพระยุพราชมกุฎราชกุมาร   ร่างกฎกระทรวง  ฉบับที่ ..  (พ.ศ. ....)  ออกตามความในพระราช
บัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509  เพื่อกำหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบในอัตราศูนย์ สำหรับยาเส้นหรือยาสูบที่นำเข้า
มาในราชอาณาจักร ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ ในพระนามาภิไธยสมเด็จพระบรม
ราชินีนาถหรือสมเด็จพระยุพราชมกุฎราชกุมาร และร่างกฎกระทรวง  ฉบับที่ ..  (พ.ศ. ....)  ออกตามความใน
พระราชบัญญัติไพ่   พุทธศักราช  2486   เพื่อกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับการประทับตราไพ่ในอัตรา
ศูนย์สำหรับไพ่ที่นำไพ่เข้ามา ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ ในพระนามาภิไธยสมเด็จ
พระบรมราชินีนาถหรือสมเด็จพระยุพราชมกุฎราชกุมาร และให้ดำเนินการต่อไปได้

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยก
เว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530  และให้ดำเนินการต่อไป
ได้  โดยสาระสำคัญของร่างประกาศกระทรวงการคลังฉบับนี้เป็นการยกเว้นอากรศุลกากรแก่ของใด ๆ ที่นำเข้า
หรือส่งออกตามภาค 2  และ  3  แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร  พ.ศ. 2530  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระ
ราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร  (ฉบับที่ 2)  พ.ศ. 2541  ในพระปรมาภิไธย  และพระนามาภิไธยของพระมหา
กษัตริย์ พระราชินี และสมเด็จพระยุพราชมกุฎราชกุมาร

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการตรวจสอบรายงานการรับ-จ่ายเงิน
ของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร และเงินกองทุนหมุนเวียนสำหรับอุดหนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตาม
โครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญี่ปุ่น  ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  ซึ่งสำนัก
งานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองงบดุล  ณ  วันที่ 30 กันยายน 2545  พร้อมงบรายรับ-รายจ่าย
และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงเงินกองทุน สิ้นสุด ณ วันเดียวกัน  ในการนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ให้ข้อ
สังเกตและข้อเสนอแนะกรณีการเร่งรัดการชำระหนี้สำหรับเงินให้กู้ยืมค้างชำระ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2546 ใน
ส่วนของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร  มีลูกหนี้เงินให้กู้ยืมที่ครบชำระคืนแล้วแต่ยังไม่ส่งคืน จำนวน  33  โครงการ
เป็นเงิน  1,383.65  ล้านบาท   และเงินกองทุนหมุนเวียนสำหรับอุดหนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตาม
โครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งมีลูกหนี้เงินให้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระคืน
แล้วแต่ยังไม่ส่งคืน จำนวน 2 หน่วยงาน 3 โครงการ เป็นเงิน 459.67 ล้านบาท  รวมทั้งเงินจากการจำหน่ายโภค
ภัณฑ์ค้างนำส่งคืนกองทุน ฯ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2546  หน่วยงานที่ต้องนำส่งเงินจากการจำหน่ายโภคภัณฑ์
ค้างนำส่งคืนกองทุน ฯ จำนวน 2 หน่วยงาน คือ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรค้างนำส่งนับจากปีที่ได้รับความช่วย
เหลือ ปี พ.ศ. 2525  เป็นเงิน  666.90  ล้านบาท   และกรมส่งเสริมสหกรณ์ค้างนำส่งนับจากปีที่ได้รับความช่วย
เหลือ ปี พ.ศ. 2520 เป็นเงิน 1.27 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 668.17 ล้านบาท