ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 589 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 11761 - 11780 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
11761 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายไกรเสริม โตทับเที่ยง) | ดศ | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายไกรเสริม โตทับเที่ยง เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11762 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายสุเทพ แก่งสันเทียะ และคณะ รวม 6 ราย) | ศธ | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ๒. นายสุทิน แก้วพนา ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายวีระ แข็งกสิการ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายสุรินทร์ แก้วมณี ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค ๕ สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายยศพล เวณุโกศล ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงาน ศึกษาธิการภาค ๘ สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11763 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร | กค | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทนผู้ที่ลาออก จำนวน ๓ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งแทนนี้ให้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นางฤชุกร สิริโยธิน กรรมการ ๒. พลโท กานต์ กลัมพสุต กรรมการ ๓. นายจรุูญเดช เจนจรัสสกุล กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11764 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (จำนวน 5 ราย 1. นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ฯลฯ) | อก | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จำนวน ๕ ราย ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ยกเว้นลำดับที่ ๓ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ และลำดับที่ ๔ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๒ ดังนี้
๑. นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ประธานกรรมการ ๒. นายสรัญ รังคสิริ กรรมการ ๓. นายวิริยะ รามสมภพ กรรมการ ๔. นางสิรินทร์ แดงไชยวัฒน์ กรรมการ ๕. นายณกฤศพรรชธ์ ธนัตถ์อนนตชัย กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11765 | รายงานการดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี : แนวทางการสร้างความเข้มแข็งของบวร เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง | วธ | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีในการจัดทำแนวทางการสร้างความเข้มแข็งของ “บวร” เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ของชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้มีการประชุมหน่วยงานบูรณาการเพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางดังกล่าว เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ โดยมีผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ รวมทั้งยังได้มีการดำเนินการทดลองปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวในพื้นที่เป้าหมายจังหวัดนำร่องที่ได้คัดเลือกจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางที่มีความหลากหลายของชุมชนในเขตเมือง เขตชนบท และปริมณฑล ประกอบด้วย จังหวัดปทุมธานี นครนายก นครปฐม และกาญจนบุรี ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการเรียนรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการสร้างความเข้มแข็งของ “บวร” (บ้าน-ชุมชน/วัด-ศาสนสถาน-โรงเรียน-ส่วนราชการ) แก่ทุกภาคส่วนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากสถานที่ดังกล่าวในการเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน โดยอาจปรับเปลี่ยนแนวทางดังกล่าวให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับบริบท/สถานการณ์ของสังคมในปัจจุบัน เช่น การนำเทคโนโลยีสารสนเทศหรือสื่อการเรียนรู้ด้านดิจิทัลมาปรับใช้ด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสำรวจความพร้อมของสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ห้องน้ำสาธารณะ ทางลาดคนพิการ/ผู้สูงอายุ และดำเนินการจัดหาหรือปรับปรุงให้มีความพร้อมเพื่อรองรับการขยายผลการขับเคลื่อนแนวทางการสร้างความเข้มแข็งของ “บวร” ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11766 | มาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ "ชิมช้อปใช้" | กค | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการดำเนินมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” เพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศผ่าน g-Wallet ช่อง ๒ สำหรับประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ ๑๘ ปิบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน และมีบัตรประจำตัวประชาชน จำนวนไม่เกิน ๒ ล้านคน โดยจะกันสิทธิ์บางส่วนสำหรับผู้ที่มีอายุ ๖๐ ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในวันลงทะเบียน และขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” และมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” จนถึงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาแนวทางที่สามารถดึงดูดให้ประชาชนมาเข้าร่วมมาตรการดังกล่าวมากขึ้น ตลอดจนประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจในหลักเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ในการเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว โดยมีการรายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11767 | รณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP ผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิโครงการหลวง และผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นของขวัญ ของที่ระลึกเทศกาลปีใหม่ 2563 | มท | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการรณรงค์ให้ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิโครงการหลวง และผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นของขวัญ ของที่ระลึกเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11768 | การลงนามพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชในการนำเข้ารำสกัดน้ำมันและกากเนื้อในเมล็ดปาล์มจากประเทศไทยระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย และสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน | กษ | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชในการนำเข้ารำสกัดน้ำมันและกากเนื้อในเมล็ดปาล์มจากประเทศไทยระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยและสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างพิธีสารฯ ในช่วงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยร่างพิธีสารฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการด้านสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกรำสกัดน้ำมันและกากเนื้อในเมล็ดปาล์มจากประเทศไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน เช่น การกำหนดศัตรูพืชที่ห้ามปรากฏในรำสกัดน้ำมันและกากเนื้อในเมล็ดปาล์มที่จะส่งออก การรับรองสถานประกอบการ การตรวจสอบการควบคุมสุขอนามัยในกระบวนการที่เกี่ยวข้อง การออกใบรับรองสุขอนามัยพืช และการปฏิบัติต่อผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด เป็นต้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยกระทรวงการต่างประเทศไม่ต้องออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงถ้อยคำหรือสาระสำคัญของร่างพิธีสารฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรจัดทำคู่มือหรือข้อปฏิบัติในการดำเนินงานตามมาตรการการนำเข้ารำสกัดน้ำมันและกากเนื้อในเมล็ดปาล์มจากประเทศไทยระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยและสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเตรียมการและดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ของประเทศไทยในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11769 | การประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (GMS) ครั้งที่ 23 ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา | นร11 | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีแผนงาน GMS ครั้งที่ ๒๓ (Joint Ministerial Statement : JMS) มีสาระสำคัญเป็นการแสดงความยินดีและรับทราบความสำเร็จล่าสุดของแผนงานความร่วมมือ GMS ใน ๘ สาขา ได้แก่ สาขาคมนาคม สาขาการอำนวยความสะดวกทางการค้าและคมนาคมขนส่ง สาขาพลังงาน สาขาเกษตร สาขาสิ่งแวดล้อม สาขาท่องเที่ยว สาขาสุขภาพ และสาขาการพัฒนาเมืองและชายแดน รวมทั้งแสดงความยินดีกับผลการประชุมเวทีหารือเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ ครั้งที่ ๑๐ (ECF-10) เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๑ ณ กรุงเนปยิดอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และเห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์แผนงาน GMS สำหรับระยะเวลาการดำเนินการหลังปี ค.ศ. ๒๐๒๒ (พ.ศ. ๒๕๖๕) ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้แทนเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยและปฏิบัติหน้าที่เป็นรัฐมนตรีประจำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ (GMS Minister) ในการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ (GMS) ครั้งที่ ๒๓ (The 23rd GMS Ministerial Conference) ในวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ๑.๓ เห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้แทนได้ร่วมกับรัฐมนตรีของประเทศลุ่มแม่น้ำโขงให้การรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ โดยไม่มีการลงนามในการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงาน GMS ครั้งที่ ๒๓ ในวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11770 | การปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านภาษีอากร เรื่องการแลกเปลี่ยนข้อสนเทศ | กค | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบให้ประเทศไทยมีหนังสือซึ่งลงนามโดยระดับรัฐมนตรี จำนวน ๒ ฉบับ ดังนี้ ๑.๑ หนังสือถึง Secretary-General ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Cooperation and Development : OECD) มีสาระสำคัญเป็นการขอให้ OECD ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาเชิญประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงพหุภาคีว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านการบริหารภาษี (Multilateral Convention on Mutual Administrative Assistance in Tax Matters : MAC) ๑.๒ หนังสือถึงประธานกรอบความร่วมมือ Global Forum on Transparency and Exchange of Information for Tax Purposes (Global Forum) มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของประเทศไทยในการให้คำมั่นว่าประเทศไทยจะแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินแบบอัตโนมัติจาก AEOI Standard เป็นไปตามรูปแบบกลางที่ Global Forum ซึ่งระบุว่าประเทศไทยจะสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลดังกล่าวได้ภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๖ กับรัฐคู่สัญญาที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดและมีการรักษาความลับของข้อมูลอย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11771 | โครงการประกันรายได้และมาตรการบริหารจัดการมันสำปะหลัง ปี 2562/63 | พณ | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี ๒๕๖๒/๖๓ ในวงเงิน ๙,๖๗๑,๕๘๒,๘๐๐ บาท โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง ปี ๒๕๖๒/๖๓ ในวงเงินชดเชย ๖๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปี ๒๕๖๒/๖๓ ในวงเงินชดเชย ๔๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท และให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้มีระบบหรือกลไกในการตรวจสอบที่มีมาตรฐานเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน ชัดเจน ทั้งเรื่องการลงทะเบียน จำนวนเกษตรกร ผลผลิตต่อไร่ รวมถึงมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขพื้นที่เป้าหมาย การใช้เงิน วิธีการจ่ายเงิน โดยให้คำนึงถึงข้อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดให้มีระบบการประเมินผลสัมฤทธิ์ที่ได้จากการดำเนินการต่าง ๆ อันจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการประกันรายได้ที่เหมาะสมและยั่งยืนต่อไป ๒. รับทราบมาตรการคู่ขนานเพื่อรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง ได้แก่ การบริหารจัดการการนำเข้าส่งออก การส่งเสริมการใช้มันสำปะหลังในประเทศเพิ่มขึ้น และการเพิ่มช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๓. มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการตามมาตรการดูแลความเป็นธรรมในการซื้อขายมันสำปะหลัง มาตรการเพิ่มช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และโครงการป้องกันและกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลัง ตามลำดับ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๔. ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินมาตรการเพิ่มช่องทางจำหน่ายและใช้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เช่น การแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้โรงงานผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังสามารถผลิตและจำหน่ายเอทานอลให้แก่อุตสาหกรรมอื่นได้นอกเหนือจากการใช้เป็นเชื้อเพลิง หรือเป็นผู้รับจ้างผลิตให้แก่องค์การสุรา เป็นต้น รวมทั้งการแก้ไขปัญหาและผลกระทบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังให้ครอบคลุมในทุกมิติ เช่น การควบคุมดูแลพื้นที่เพาะปลูกและป้องกันมิให้เกิดการบุกรุกที่ดินในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิเพื่อเพาะปลูกมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น การทำสัญญาเช่าที่ดินของรัฐให้ชัดเจนเพื่อป้องกันปัญหาการอ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินของรัฐ เป็นต้น โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ กรณีการดำเนินการแก้ไขปัญหาใด ๆ ที่ต้องนำเสนอคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติพิจารณา ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติโดยด่วนต่อไป ๕. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11772 | แนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร | นร05 | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๓ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ และครั้งที่ ๔ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11773 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 6/2562 | นร11 | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ครั้งที่ ๖/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ตามที่คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เรื่องเพื่อพิจารณา : นโยบาย แนวทาง และมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises : SMEs) ที่ประชุมฯ มีมติรับทราบมาตรการ MSME 2020 : Micro SME 2020 รวม ๑๓ มาตรการ ตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเสนอ โดยให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรับประเด็นความเห็นของคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ พร้อมทั้งหารือรายละเอียดร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเสนอให้คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมพิจารณา ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ๑.๒ เรื่องเพื่อพิจารณา : โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบให้นำผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการฯ ตามที่กรุงเทพมหานครและกระทรวงมหาดไทยเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนต่อไปได้ โดยให้กรุงเทพมหานครเร่งดำเนินการตามความเห็นและข้อสังเกตเพิ่มเติมของที่ประชุมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ๑.๓ เรื่องเพื่อทราบ : มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๒ (เรื่อง สรุปผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๒ และสถานการณ์เศรษฐกิจล่าสุด (เดือนกันยายน ๒๕๖๒) ที่ประชุมฯ มีมติรับทราบและมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจไทย และชี้แจงข้อมูลแก่ประชาชนให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ๒. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามสรุปผลการประชุมฯ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทยในประเด็นที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11774 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับประกันความเสี่ยงทางการเมือง พ.ศ. .... | กค | 06/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับประกันความเสี่ยงทางการเมือง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับประกันความเสี่ยงทางการเมือง พ.ศ. ๒๕๔๗ เพื่อให้ครอบคลุมการรับประกันความเสี่ยงทางการเมืองแก่ผู้ลงทุนในกรณีที่ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยไม่ได้สนับสนุนการให้สินเชื่อ และกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการรับประกันความเสี่ยงในการให้สินเชื่อของธนาคารของผู้ลงทุน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11775 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) (การยกเว้นอากรขาเข้ายาในกลุ่มยากำพร้า) | กค | 06/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ (ฉบับที่ ..) ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นอากรขาเข้าผลิตภัณฑ์ยารักษาหรือยาป้องกันโรคในกลุ่มยากำพร้า เฉพาะที่ได้รับการขึ้นทะเบียน และระบุ (P) ต่อท้ายใบเลขทะเบียนตำรับยา เว้นแต่ยากำพร้าที่มีการผลิตในประเทศ ๑๑ รายการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11776 | ขออนุมัติร่างบันทึกความเข้าใจร่วมว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง | อว | 06/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง [Mekong-Lancang Cooperation (MLC) Special Fund] ซึ่งภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ ระบุว่า จีนได้อนุมัติโครงการและสนับสนุนงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (มหาวิทยาลัยขอนแก่น) จำนวน ๒ โครงการ จำนวนเงิน ๔,๑๖๐,๐๐๐ หยวน (ประมาณ ๑๗,๗๒๑,๖๐๐ บาท) ได้แก่ (๑) โครงการคัดกรองอาหารที่ไม่ปลอดภัยเบื้องต้นโดยอาศัยองค์ความรู้เรื่องการแยกแยะด้วยความเสี่ยง (Early detection of Unsafe Feed by risk) จำนวน ๓๑๐,๐๐๐ หยวน (ประมาณ ๑,๓๒๐,๖๐๐ บาท) และ (๒) โครงการนำร่องการควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับในประเทศลุ่มน้ำโขง (Mekong Liver Fluke Control Initiative) จำนวน ๓,๘๕๐,๐๐๐ หยวน (ประมาณ ๑๖,๔๐๑,๐๐๐ บาท) โดยฝ่ายจีนจะจัดสรรงบประมาณให้ฝ่ายไทยภายใน ๒๐ วันทำการ หลังจากที่ได้มีการลงนาม โดยจะมีการลงนามระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๒ ๑.๒ อนุมัติให้ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเผยแพร่ผลการดำเนินโครงการ เมื่อเสร็จสิ้นแก่สถาบันการศึกษาอื่น ๆ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ต่อยอดองค์ความรู้ และสามารถนำงานศึกษาวิจัยไปใช้ในทางปฏิบัติได้อย่างแท้จริง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11777 | ร่างนโยบายป่าไม้แห่งชาติ | ทส | 06/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างนโยบายป่าไม้แห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ที่เหมาะสม หยุดยั้งและป้องกันการทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าของชาติ ก่อให้เกิดการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นฐานการพัฒนาประเทศและคุณภาพชีวิตของประชาชน ประกอบด้วยบทบัญญัตินโยบายป่าไม้แห่งชาติ จำนวน ๒๔ ข้อ ครอบคลุม ๓ ด้าน ได้แก่ (๑) นโยบายด้านการจัดการป่าไม้ (๒) นโยบายด้านการใช้ประโยชน์ผลิตผลและการบริการจากป่าไม้และอุตสาหกรรมป่าไม้ และ (๓) นโยบายด้านการพัฒนาระบบบริหารและองค์กรเกี่ยวกับการป่าไม้ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพลังงานและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรให้มีการบูรณาการในการอนุญาตการเข้าใช้พื้นที่ร่วมกันระหว่างกรมป่าไม้และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นกระบวนการเดียวกัน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11778 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก | 06/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เลขที่ มอก. ๒๙๑๕-๒๕๖๑ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๕๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๖๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์เฉพาะด้านความปลอดภัย-สารมลพิษจากเครื่องยนต์ ระดับที่ ๗ ลงวันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11779 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ พ.ศ. .... | กษ | 06/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ให้ครอบคลุมถึงกรณีการยกสิทธิการทำการประมง การโอนใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำ และการแก้ไขรายการในใบอนุญาต เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้สอดคล้องกับขีดความสามารถในการทำการประมงและปริมาณผลิตผลสูงสุดของสัตว์น้ำให้สามารถทำการประมงได้อย่างยั่งยืน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11780 | รัฐบาลแคนาดาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งแคนาดาประจำประเทศไทย (นางซาราห์ เทย์เลอร์) | กต | 06/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางซาราห์ เทย์เลอร์ (Mrs. Sarah Taylor) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งแคนาดาประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นางโดนิกา พอตตี (Ms. Donica Pottie) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
.....