ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 581 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 11601 - 11620 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
11601 | มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2562 (ครั้งที่ 148) | พน | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ (ครั้งที่ ๑๔๘) เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับแนวนโยบายพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โรงไฟฟ้าชุมชน) แนวทางการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล และกรอบนโยบายการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ๒. ให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น นโยบายส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชน ควรพิจารณาศักยภาพในการผลิตไฟฟ้ารายพื้นที่เป็นสำคัญ เพื่อป้องกันการขาดแคลนวัสดุสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ควรพิจารณาความพร้อมของระบบไฟฟ้าในการรองรับกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมในแต่ละพื้นที่ และให้ความสำคัญกับการจัดเก็บข้อมูลการผลิตและการใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อให้ประเทศสามารถวางแผนการบริหารจัดการด้านพลังงานได้อย่างเป็นระบบ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11602 | รายงานประจำปี 2561 ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) | สธ | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๑ ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินงานของ สวรส. ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามภารกิจหลักในการพัฒนางานวิจัย ๗ แผนงาน ได้แก่ แผนงานวิจัยและพัฒนาระบบยา เวชภัณฑ์ และเทคโนโลยี แผนงานวิจัยและพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพ แผนงานวิจัยและพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ แผนงานวิจัยและพัฒนาระบบบริการสุขภาพ แผนงานวิจัยและพัฒนาการเงินการคลังสุขภาพ แผนงานวิจัยและพัฒนาระบบอภิบาลสุขภาพ และแผนงานวิจัยและพัฒนากลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ๒. ผลการประเมินตามตัวชี้วัดกรมบัญชีกลาง ปีงบประมาณ ๒๕๖๑ สวรส. มีคะแนนประเมินรวม ๔.๕๓๓๘ คะแนน (จาก ๕.๐๐ คะแนน) หรือร้อยละ ๙๐.๖๘ (ลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ ๐.๕๓ เนื่องจากการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย) ๓. รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของ สวรส. สิ้นสุด ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่างบการเงินของ สวรส. และผลการดำเนินงานทางการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันมีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังประกาศใช้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11603 | การระงับโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อปลูกพืชทดแทนพืชเสพติด หมู่บ้านอุดมไซ เมืองเวียงทอง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | ยธ | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการระงับโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อปลูกพืชทดแทนพืชเสพติด หมู่บ้านอุดมไซ เมืองเวียงทอง แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งกระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ได้รับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด สปป.ลาว ว่าไม่สามารถดำเนินโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อปลูกพืชทดแทนพืชเสพติด หมู่บ้านอุดมไซ เมืองเวียงทอง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษของกระทรวงป้องกันประเทศ สปป.ลาว จึงไม่สามารถดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๒ ได้ และสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด สปป.ลาว เสนอให้ไปใช้เมืองคำเกิด หรือเมืองปากกระดิ่ง แขวงบอลิคำไซ แทน สำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้ให้สำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด สปป.ลาว ส่งแผนการสำรวจพื้นที่ใหม่ เพื่อเริ่มดำเนินโครงการดังกล่าว และกระทรวงยุติธรรมจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาการเปลี่ยนแปลงพื้นที่และงบประมาณต่อไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11604 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองดึสเซลดอร์ฟ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมรัฐนอร์ทไรน์ - เวสต์ฟาเลีย และรัฐโลว์เออร์แซกโซนี (นายเคลาส์ เอ็ม. เซ็ลเซอร์) | กต | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเคลาส์ เอ็ม. เซ็ลเซอร์ (Mr. Klaus M. Salzer) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองดึสเซลดอร์ฟ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลีย และรัฐโลว์เออร์แซกโซนี สืบแทน นายซเตฟาน เจ. โฮล์ทโฮฟฟ์-เฟิร์ทเนอร์ (Mr. Stephan J. Holthoff-Pfortner) ที่ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ โดยคงสถานะสถานที่ทำการกงสุล เป็น สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ เมืองดึสเซลดอร์ฟ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11605 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 จำนวน 2 ฉบับ | สธ | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับขั้นตอนและหลักฐานประกอบการยื่นขออนุญาต การจัดทำรายงาน การผลิตยา การกระจายยา การปฏิบัติตามเงื่อนไขและคำรับรองที่ให้ไว้ในทะเบียนตำรับยา และเงื่อนไขในการต่ออายุใบอนุญาต ๑.๒ ร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการจัดทำรายงาน การนำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร การเก็บรักษายา การกระจายยา การปฏิบัติตามเงื่อนไขและคำรับรองที่ให้ไว้ในทะเบียนตำรับยา และเงื่อนไขในการต่ออายุใบอนุญาต ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาควรพัฒนาระบบแจ้งเตือนการทบทวนทะเบียนตำรับยาสำหรับยานำเข้าจากต่างประเทศที่ปัจจุบันยังไม่เป็นไปตามมาตรฐาน GMP PIC/S ซึ่งเป็นมาตรฐานวิธีการที่ดีในการผลิตยาเพื่อควบคุมคุณภาพมาตรฐานยาที่จำหน่ายในต่างประเทศอย่างเท่าเทียมและคุ้มครองผู้บริโภคอย่างทั่วถึง และควรนำข้อมูลที่ได้จากผู้ประกอบการมาใช้ประโยชน์โดยพิจารณาจัดทำบทวิเคราะห์ในประเด็นสำคัญต่าง ๆ อาทิ แนวโน้มความต้องการใช้ยาในประเทศ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นต้น สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อไปได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11606 | ขออนุมัติวงเงินราคากลางและเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพัน รวมถึงขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการทำนบดินหัวงานและอาคารประกอบ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สลิด จังหวัดตาก | กษ | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างทำนบดินและอาคารประกอบโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สลิด จังหวัดตาก จากวงเงินเดิม ๓๓๐,๓๐๐,๐๐๐ บาท เป็นวงเงิน ๔๒๐,๘๙๑,๓๙๓ บาท โดยให้นำวงเงินค่าก่อสร้างส่วนที่เหลือจำนวน ๒๗๘,๘๕๒,๐๐๐ บาท เป็นกรอบวงเงินในการประกวดราคาจ้างก่อสร้างรายการดังกล่าว และอนุมัติให้ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๘ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๖๕ โดยค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณที่ได้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีของรายการดังกล่าว จำนวน ๖๑,๖๗๖,๗๓๐ บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป จำนวน ๒๑๗,๑๗๕,๒๗๐ บาท ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามความสามารถในการใช้จ่ายภายในปีงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ให้กรมชลประทานดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ สำหรับกรณีการยกเลิกสัญญาการก่อสร้างดังกล่าวซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ เห็นควรที่กรมชลประทานจะพิจารณาดำเนินการตามระเบียบ ข้อสัญญา และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้รับจ้างอย่างเคร่งครัดด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานเร่งรัดการดำเนินการประกวดราคาและการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11607 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติ ครัวเรือนละ 5,000 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 และวันที่ 7 ตุลาคม 2562 | มท | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๒ และวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๒ จากเดิมกำหนดสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการในวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ โดยขยายระยะเวลาดำเนินการออกไปถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นวันที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายงบประมาณรายการนี้ ๑.๒ อนุมัติหลักการให้นำงบประมาณที่เหลือจากการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๒ และวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๒ ไปใช้ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่อื่น ๆ เช่น ภาคใต้ ภาคตะวันออก เป็นต้น โดยใช้เหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการจ่ายเงินช่วยเหลือเช่นเดียวกันกับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น กระทรวงมหาดไทยจะต้องมีการตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดภัยและสำรวจข้อมูลผู้ประสบภัยให้ชัดเจนเพื่อให้การจ่ายเงินช่วยเหลือเป็นไปอย่างถูกต้องและไม่ซ้ำซ้อน โดยระยะเวลาในการจ่ายเงินช่วยเหลือจะต้องอยู่ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ ด้วย และให้กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่ ๓๒ จังหวัดที่ได้ผ่านการสำรวจและคัดกรองข้อมูลเบื้องต้นแล้วเป็นลำดับแรก เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11608 | ขอผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2530 วันที่ 23 กรกฎาคม 2534 วันที่ 22 สิงหาคม 2543 และวันที่ 17 ตุลาคม 2543 ที่ห้ามมิให้อนุญาตการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลน ในทุกกรณี เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะต่าง ๆ (เกาะพระทอง จังหวัดพังงา) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | มท | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ วันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ และวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ ที่ห้ามมิให้อนุญาตการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนในทุกกรณี เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะต่าง ๆ (เกาะพระทอง จังหวัดพังงา) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลให้ กฟภ. ดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทนไม่น้อยกว่า ๒๐ เท่า ของพื้นที่ป่าชายเลนที่ใช้ประโยชน์ตามระเบียบกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งว่าด้วยการปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อม กรณีการดำเนินโครงการใด ๆ ของหน่วยงานรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน พ.ศ. ๒๕๕๖ ด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น (๑) ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการติดตามตรวจสอบการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินโครงการฯ รวมถึงติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และ (๒) กำหนดมาตรการแนวทางในการกำหนดกิจกรรมในพื้นที่ชุมชนและการใช้ประโยชน์ให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ การจัดทำผังการใช้ประโยชน์ที่ดินบนเกาะ โดยคำนึงถึงขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว เป็นต้น ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11609 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินสนับสนุนและเงินชดเชยตามมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ "ชิมช้อปใช้" ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2562) | กค | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินสนับสนุนและเงินชดเชยตามมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ "ชิมช้อปใช้" ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี ๒๕๖๒) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินสนับสนุนและเงินชดเชยที่ผู้มีเงินได้ได้รับตามมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เนื่องจากการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าหรือรับบริการจากผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการผ่านระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11610 | ร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงที่ต้องจัดทำตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จำนวน 3 ฉบับ | กค | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง จำนวน ๓ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างบางประเภท โดยลดภาษีในอัตราร้อยละ ๕๐ ของภาษีที่ต้องเสีย ในกรณีเช่นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาได้มาทางมรดก โดยใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และได้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินนั้นก่อนวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๒ และลดภาษีอัตราร้อยละ ๙๐ ของภาษีที่ต้องเสีย ในกรณีเช่นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นอสังหาริมทรัพย์รอการขายของสถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น บริษัทบริหารสินทรัพย์ และที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในกิจการของโรงเรียนเอกชน สถาบันอุดมศึกษา ๒. ร่างกฎกระทรวงการงดหรือลดเบี้ยปรับ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการงดเบี้ยปรับภาษีค้างชำระสำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ถูดยึดหรืออายัดตามกฎหมาย ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณมูลค่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มีราคาประเมินทุนทรัพย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณมูลค่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มีราคาประเมินทุนทรัพย์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11611 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของเครื่องพันธนาการที่ใช้แก่เด็กและเยาวชน พ.ศ. .... | ยธ | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของเครื่องพันธนาการที่ใช้แก่เด็กและเยาวชน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของเครื่องพันธนาการที่ใช้แก่เด็กและเยาวชน โดยกำหนดให้เครื่องพันธนาการที่ใช้แก่เด็กและเยาวชนให้ใช้ได้เฉพาะสายรัดข้อมือและกุญแจมือ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11612 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด และเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษและได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ พ.ศ. .... | ยธ | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด และเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษและได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้ประโยชน์แก่นักโทษเด็ดขาด และเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษและได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11613 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทาน การประดับและกรณีที่ให้ประดับเหรียญพิทักษ์เสรีชน สิทธิ บัตรประจำตัว และการเรียกเหรียญกับบัตรประจำตัวผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนคืน พ.ศ. .... | กห | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทาน การประดับและกรณีที่ให้ประดับเหรียญพิทักษ์เสรีชน สิทธิ บัตรประจำตัว และการเรียกเหรียญกับบัตรประจำตัวผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนคืน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทาน การประดับและกรณีที่ให้ประดับเหรียญพิทักษ์เสรีชน สิทธิ บัตรประจำตัว และการเรียกเหรียญกับบัตรประจำตัวผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนคืน พ.ศ. ๒๕๑๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ สิทธิ บัตรประจำตัว และการเรียกเหรียญกับบัตรประจำตัวผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนคืน ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรแก้ไขร่างข้อ ๕(๑) เป็น “ให้ส่วนงาน หน่วย หรือส่วนราชการขึ้นตรงต่อ กอ.รมน. กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือส่วนราชการอื่นระดับกรมหรือเทียบเท่าขึ้นไป เสนอรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติตามร่างข้อ ๔ ไปยังหัวหน้าส่วนราชการดังกล่าวเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการของส่วนราชการนั้น พิจารณาตรวจสอบรายชื่อและคุณสมบัติของบุคคลตามร่างข้อ ๔ เมื่อตรวจสอบแล้วเห็นว่า บุคคลนั้นมีคุณสมบัติครบถ้วน ให้ส่วนราชการเสนอรายชื่อตามแนบท้ายระเบียบนี้ต่อหัวหน้าส่วนราชการนั้น พร้อมใบรับรองผลการปฏิบัติหรือการสนับสนุนการปฏิบัติการแล้วเสนอต่อกระทรวงมหาดไทยเพื่อรวบรวมและดำเนินการขอพระราชานเหรียญพิทักษ์เสรีชนต่อไปได้” และควรยกเลิกร่างข้อ ๕(๓) เนื่องจากมีความซ้ำซ้อนกับร่างข้อ ๕(๑) นอกจากนี้ ร่างข้อ ๔ วรรคสอง ควรกำหนดให้ผู้ที่จะได้รับการพิจารณาเสนอขอพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนต้องไม่เป็นผู้เคยถูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เพื่อให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดการออกพระราชกฤษฎีกาตามร่างข้อ ๔(๒) ของร่างระเบียบฯ เพื่อกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับภารกิจ สถานการณ์ พื้นที่ และระยะเวลาการปฏิบัติการที่เหมาะสมของการปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ อันเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงของประเทศ เพื่อให้หน่วยงานใช้เป็นกรอบแนวทางดำเนินการและแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11614 | คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 15/2562 เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2562 | พน | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๕/๒๕๖๒ เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นการปรับปรุงคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๔/๒๕๔๗ เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11615 | การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัติ | นร11 | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๒ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการกำหนดหน่วยงานเจ้าภาพและภารกิจในการขับเคลื่อนประเด็นแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ หน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนเป้าหมายระดับประเด็นของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และหน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนเป้าหมายระดับแผนย่อยของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และมอบหมายให้หน่วยงานเจ้าภาพประสานและบูรณาการการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ๑.๒ เห็นชอบแนวทางการจัดทำแผนระดับที่ ๓ ในส่วนของแผนปฏิบัติการด้าน... และมอบหมายสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณากำกับการดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว เพื่อให้เกิดการถ่ายระดับของแผนทั้งสามระดับอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งเห็นชอบให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนเร่งรัดดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติราชการ แผนวิสาหกิจ และแผนปฏิบัติการ ตามลำดับ และขอความร่วมมือให้หน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติราชการ โดยให้ใช้ชื่อตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้เกิดการถ่ายทอดเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งนำเข้าแผนในระบบการติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (Electronic Monitoring and Evaluation System of National Strategy and Country Reform : eMENSCR) ๑.๓ เห็นชอบให้คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานของรัฐในการจัดทำโครงการสำคัญ นำไปสู่การก่อให้เกิดการสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติให้บรรลุผลตามเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่วางไว้ได้อย่างเป็นรูปธรรม และใช้เป็นคำของบประมาณประจำปี ๒๕๖๔ ต่อไป ๑.๔ มอบหมายให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการ (๑) นำเข้าข้อมูลผลการดำเนินโครงการ/การดำเนินงานในความรับผิดชอบในระบบ eMENSCR ให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๒ และ (๒) นำเข้าข้อมูลสถิติ สถานการณ์ หรือข้อมูลอื่นใดในระบบ eMENSCR สำหรับการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ให้เกิดการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายเดียวกันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป รวมทั้งเชื่อมโยงระบบข้อมูลสารสนเทศในความรับผิดชอบ โดยเฉพาะระบบข้อมูลสารสนเทศด้านงบประมาณของสำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเข้ากับระบบ eMENSCR นอกจากนี้ ให้หน่วยงานที่อยู่ระหว่างหรือจะดำเนินการพัฒนาระบบการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลใช้ระบบ eMENSCR ในการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล ก่อนที่จะมีการพัฒนาระบบ ๑.๕ เห็นชอบการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายคณะกรรมการปฏิรูปประเทศดำเนินการตามขั้นตอนและกรอบระยะเวลาของกฎหมาย ทั้งนี้ ในการรับฟังความคิดเห็นของภาคส่วนต่าง ๆ ให้ดำเนินการร่วมกัน เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินการ การประหยัดเวลาและงบประมาณต่อไป ๒. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เช่น ควรให้ทบทวนความคุ้มค่าของผลสัมฤทธิ์ที่ได้ตามแผนระดับที่ ๓ และควรให้คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง เป็นผู้กำหนดแนวทางในการขับเคลื่อนและบูรณาการการปฏิรูปประเทศด้วย เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11616 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2562) | นร04 | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๒ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๑๐ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11617 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน | กค | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางกฤษณา ลิ่มสุวรรณ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายในคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11618 | การเข้าร่วม Nitric Acid Climate Action Group (NACAG) Initiative ของประเทศไทย | ทส | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าร่วม Nitric Acid Climate Action Group (NACAG) Initiative เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแสดงเจตจำนงในคราวการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ ๒๕ (United Nations Framework Convention on Climate Change, the 25th Session of the Conference of the Parties : UNFCCC COP 25) ระหว่างวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน-๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปน ๑.๒ เห็นชอบปฏิญญาว่าด้วยการลดก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) ในการผลิตกรดไนตริก (Declaration on N2O Mitigation in Nitric Acid production) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนประเทศไทยลงนามในปฏิญญาฯ โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศไทยในการสนับสนุนวัตถุประสงค์ของข้อริเริ่ม NACAG และความตั้งใจมีส่วนร่วมในการลดก๊าซไนตรัสออกไซต์จากการผลิตกรดไนตริกเพื่อมุ่งสู่การยุติการปล่อยก๊าซดังกล่าวอย่างถาวรให้เร็วที่สุด ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่เห็นควรพิจารณาผลกระทบและแนวทางการดำเนินงานในการลดใช้สารเคมีไนโตรเจนทางการเกษตร ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11619 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติแทนตำแหน่งที่ว่าง (จำนวน 2 คน 1. นายสุวัฒน์ มีมุข 2. นายทรงศัก สายเชื้อ) | อว | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน ๒ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ ธันวาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายสุวัฒน์ มีมุข ๒. นายทรงศัก สายเชื้อ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11620 | การแต่งตั้งกรรมการผู้แทนวิสาหกิจชุมชนและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 (จำนวน 13 คน 1. นายกิติศักดิ์ ขจรภัย ฯลฯ) | กษ | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้แทนวิสาหกิจชุมชนและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน จำนวน ๑๓ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ ธันวาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. กรรมการผู้แทนวิสาหกิจชุมชน ๑.๑ นายกิติศักดิ์ ขจรภัย (จังหวัดสระบุรี) ๑.๒ นายนฤทธิ์ คำธิศรี (จังหวัดสกลนคร) ๑.๓ นายแรม เชียงกา (จังหวัดกาญจนบุรี) ๑.๔ นางพิชชาภา พลสว่าง (จังหวัดพิจิตร) ๑.๕ นายเสกสรรค์ สะอาดใจ (จังหวัดเพชรบูรณ์) ๑.๖ นายไพฑูรย์ ฝางคำ (จังหวัดศรีสะเกษ) ๑.๗ นายอิทธิ แจ่มแจ้ง (จังหวัดระยอง) ๑.๘ นายสุริยา ศรีโพธิ์ทอง (จังหวัดสุพรรณบุรี) ๑.๙ นางมนัสนันท์ ปาสาวัน (จังหวัดพะเยา) ๑.๑๐ นางบังอร อภิญญาวงศ์เลิศ (จังหวัดเชียงใหม่) ๒. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๒.๑ นายภาคภูมิ เพิ่มมงคล (ด้านการบริหารธุรกิจ) ๒.๒ นายชัยวัฒน์ ปกป้อง (ด้านการเงิน) ๒.๓ นายวิวัฒน์ ไม้แก่นสาร (ด้านการค้าและอุตสาหกรรม)
|
.....