ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 407 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 8121 - 8140 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
8121 | ขอขยายขอบเขตมาตรการบรรเทาผลกระทบและการปรับปรุงรายละเอียดของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 เรื่อง มาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน กลุ่มแรงงาน และผู้ประกอบการอันเนื่องมาจากข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) | นร.11 สศช | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการปรับปรุงถ้อยคำในมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
เพื่อให้กระทรวงแรงงานสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
และการขยายขอบเขตมาตรการบรรเทาผลกระทบและให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม
ดำเนินการจัดทำรายละเอียดและนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
และให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดดำเนินการเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์
โดยดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของพระราชกำหนดให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมถึงการปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
ตลอดจนการสร้างความรับรู้และความเข้าใจ และคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างครอบคลุม
เป็นธรรม อย่างโปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกมิติ ไปดำเนินการต่อไป ๒. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม ติดตามและประเมินผลการดำเนินมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน
กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการฯ ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
รวมทั้งให้เผยแพร่ผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือให้สาธารณชนได้รับทราบ
และทั่วถึงเป็นระยะ ๆ ด้วย ๓. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8122 | การปรับปรุงหลักการและแนวทางการพิจารณาการออกสลากการกุศล | กค. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักการและแนวทางการพิจารณาการออกสลากการกุศลให้มีความชัดเจน
รอบคอบ เกิดประโยชน์ และสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เช่น
ปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล
โดยเปลี่ยนประธานกรรมการจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมาย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
และเพิ่มเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นกรรมการ กำหนดประเภทของหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนให้เป็นไปตามกฎหมายที่ใช้ในปัจจุบัน
ให้ความสำคัญกับโครงการที่มีผลลัพธ์และผลสัมฤทธิ์ต่อประชาชนและสังคม
สามารถยกเลิกโครงการได้ในกรณีที่การดำเนินโครงการไม่เป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้
เป็นต้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลัง
คณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจำแนกกิจกรรมภายใต้โครงการ
เพื่อให้การจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินรายเดือนมีความชัดเจน จัดลำดับความสำคัญของโครงการ
ความพร้อมของการดำเนินโครงการ และประเด็นทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนด้วย ทั้งนี้
ควรกำหนดให้ครอบคลุมหน่วยงานในกำกับของรัฐซึ่งไม่เป็นส่วนราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายวิธีการงบประมาณด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
8123 | การประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | นร.12 | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) และกรอบและแนวทางการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามมติคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ในการประชุมครั้งที่
๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ ทั้งนี้
ให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) สำนักงบประมาณ
สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่เห็นว่าควรมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาระบบบริการดิจิทัลแบบครบวงจร
(end-to-end Service) ที่สอดคล้องกับความต้องการพื้นฐานของประชาชน ความคุ้มค่าในการลงทุน
และออกแบบให้รองรับการเชื่อมต่อกระบวนงานและข้อมูลระหว่างบริการดิจิทัลที่เกี่ยวเนื่องในอนาคตด้วย
กำหนดรูปแบบ (Format) ของรายงานการปฏิบัติราชการให้เป็นรูปแบบเดียวกัน
เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติงานของส่วนของราชการ การปรับแนวทางการประเมินส่วนราชการฯ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของหลายส่วนราชการ
ทำให้การปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามแผนหรือเป้าหมายที่กำหนดไว้ และแนวทางการประเมินส่วนราชการฯ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
จะทำให้ตัวชี้วัดระดับกระทรวงและกรมสอดคล้องกับการบรรลุเป้าหมายระดับชาติในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ
แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ และแผนระดับชาติอื่นๆ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.
ในส่วนของการเชื่อมโยงการประเมินส่วนราชการกับการประเมินผลการปฏิบัติงานรายบุคคลในระดับหัวหน้าส่วนราชการ
(ปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า อธิบดีหรือเทียบเท่า ผู้ว่าราชการจังหวัด) ให้สำนักงาน
ก.พ.ร. ร่วมกับสำนักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงานรายบุคคลให้ชัดเจนและเหมาะสม
เพื่อถือปฏิบัติต่อไป
โดยอาจพิจารณากำหนดตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นถึงภาวะความเป็นผู้นำ มีการทำงานเชิงรุกสามารถบริหารงานและแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างทันท่วงที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสภาวะวิกฤตให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้
อาจพิจารณาหลักเกณฑ์และแนวทางดังกล่าวไปใช้ในการประเมินเพื่อเลื่อนระดับหรือพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นด้วย ๓. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับประเด็นการปรับปรุงพัฒนาเว็บไซต์ของส่วนราชการให้เป็นปัจจุบัน
มีความทันสมัย สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการนำเสนอที่น่าสนใจ
และง่ายต่อการเข้าถึงของประชาชน
เพื่อพิจารณากำหนดเป็นส่วนหนึ่งของตัวชี้วัดในการประเมินส่วนราชการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
8124 | การโอนเงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF 1 และ FIDF 3 | กค. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนเงินกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฯ)เข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (บัญชีสะสมฯ)
ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ เพิ่มเติมจำนวน ๒,๘๗๕ ล้านบาท ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔
จะมีเงินของกองทุนฯ ที่นำส่งเข้าบัญชีสะสมฯ เพื่อชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF 1 และ FIDF 3
รวมจำนวนทั้งสิ้น ๕,๒๗๕ ล้านบาท และยอดหนี้ต้นเงินกู้ FIDF 1 และ FIDF 3 ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ คงเหลือจำนวน ๗๑๑,๕๔๒.๖๗ ล้านบาท โดยต้นเงินกู้ลดลง
๔๒๖,๗๖๓.๒๒ ล้านบาท จากยอดหนี้ต้นเงินกู้ ณ วันที่ ๒๗ มกราคม
๒๕๕๕ ที่มีอยู่จำนวน ๑,๑๓๘,๓๐๕.๘๙
ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8125 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 เรื่อง ขออนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง | กษ. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบการขอทบทวนเงื่อนไขวรรคท้ายของข้อ
๕.๒.๒ ของโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
จากเดิม “ทั้งนี้
ให้ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสามารถนำค่าใช้จ่ายในการกันสำรองที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้เพื่อบวกกลับเป็นรายได้ของธนาคาร
และเป็นส่วนหนึ่งในการปรับตัวชี้วัดทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจได้
และให้แยกบัญชีการดำเนินงานตามโครงการนี้ออกจากการดำเนินงานปกติ ภายใต้ระบบบัญชี PSA (Public Service Account)” เป็น “ทั้งนี้
ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสามารถนำค่าใช้จ่ายในการกันสำรองที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้เพื่อบวกกลับเป็นรายได้ของธนาคาร
และเป็นส่วนหนึ่งในการปรับตัวชี้วัดทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจได้
และให้แยกบัญชีการดำเนินงานตามโครงการนี้ออกจากการดำเนินงานปกติ ภายใต้ระบบ PSA
(Public Service Account)
และธนาคารออมสินสามารถนำค่าใช้จ่ายในการกันสำรองที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้เพื่อบวกกลับในการคำนวณโบนัสประจำปีของพนักงานได้และเป็นส่วนหนึ่งในการปรับตัวชี้วัดทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจได้
และให้แยกบัญชีการดำเนินงานตามโครงการนี้ออกจากการดำเนินงานปกติ ภายใต้ระบบบัญชี PSA
(Public Service Account)” ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่ากรณีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรที่กำหนดให้นำค่าใช้จ่ายในการกันสำรองที่เกิดขึ้นจากโครงการสินเชื่อฯ
เพื่อบวกกลับเป็นรายได้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
หากเงื่อนไขดังกล่าวมีเจตนารมณ์ให้เป็นการบันทึกบัญชีในงบการเงินเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในทางปฏิบัติควรหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8126 | การเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | นร.07 | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี
พ.ศ. ๒๕๖๕ ซึ่งสำนักงบประมาณได้เสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามแนวทางและขั้นตอนที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๔
ที่กำหนดให้หน่วยรับงบประมาณขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายเฉพาะรายการที่มีความจำเป็นอย่างแท้จริงสอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ
ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-๑๙
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕ แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) และนโยบายสำคัญของรัฐบาล
ที่ต้องดำเนินการภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ จำนวนทั้งสิ้น ๑๒๔,๒๙๑.๘๔๗๒ ล้านบาท เพื่อเป็นรายจ่ายที่ต้องดำเนินการตามข้อผูกพันที่เกิดจากกฎหมาย
สัญญา ข้อตกลง
และเป็นรายจ่ายเพื่อการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
รายจ่ายเพื่อป้องกันหรือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หรือค่าใช้จ่ายในการบรรเทา
แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ เป็นต้น และฟื้นฟูผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
รวมวงเงินทั้งสิ้น ๘๗,๕๒๐.๑๑๖๖ ล้านบาท ทั้งนี้ การเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี
พ.ศ. ๒๕๖๕ ดังกล่าว เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้าน (๖)
การบริหารราชการแผ่นดิน การปรับปรุง กฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8127 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวทิพานัน ศิริชนะ) | นร.04 | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางสาวทิพานัน ศิริชนะ เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8128 | ขออนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (1. นายปรีชาพร สุวัฒโนดม) | มท. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน ๔ คน เนื่องจากกรรมการเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายปรีชาพร สุวัฒโนดม ๒. พันเอก ศรัณยู วิริยเวชกุล ๓. รองศาสตราจารย์ธีร เจียศิริพงษ์กุล ๔. รองศาสตราจารย์พรอนงค์ บุษราตระกูล
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8129 | โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศ | อว. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์
และศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศ โดยมีวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทยเป็นกลสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน
และเห็นชอบองค์ประกอบของคณะกรรมการระดับนโยบายและระดับบริหารสำหรับโครงการฯ
โดยมีคณะกรรมการอำนวยการวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย
และคณะกรรมการวิชาการในแต่ละด้าน ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
และให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และความเห็นของสำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น การสร้างและพัฒนากำลังคน
และทุนทางปัญญา การพัฒนาองค์ความรู้ในประเด็น สุวรรณภูมิศึกษา โลกคดีศึกษา
เศรษฐกิจพอเพียง พิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ และช่างศิลป์ท้องถิ่น
การสร้างเครือข่ายในรูปแบบ Consortium การสนับสนุนการพัฒนาบนฐานทุนทางสังคมและวัฒนธรรม
การนำเสนอผลงานทางวิชาการ และการจัดเวทีวิชาการ ควรกำหนดค่าเป้าหมาย ตัวชี้วัด
ผลสัมฤทธิ์
และประโยชน์ที่จะได้รับตามกลุ่มเป้าหมายหรือประชาชนจะได้รับเชิงคุณภาพเป็นสำคัญ
และควรพิจารณาถึงความเหมาะสมในการขับเคลื่อนโครงการที่เสนอให้มีการจัดตั้งวิทยสถานสังคมศาสตร์
มนุษยศาสตร์
และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทยให้เป็นสถาบันเฉพาะทางดำเนินงานด้านสุวรรณภูมิศึกษา โลกคดีศึกษา เศรษฐกิจพอเพียง
พิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ และช่างศิลป์ท้องถิ่น ที่ปัจจุบันมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ
เอกชน และภาคประชาสังคมดำเนินการอยู่แล้ว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8130 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ของอ่างเก็บน้ำห้วยวังใหญ่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 13/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ของอ่างเก็บน้ำห้วยวังใหญ่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย
ของอ่างเก็บน้ำห้วยวังใหญ่ ในท้องที่ตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน และตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน
จังหวัดอุบลราชธานี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้ เพื่อกิจการโรงงาน การประปา
หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8131 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองเสาธง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 13/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองเสาธง
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองเสาธง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้ เพื่อกิจการโรงงาน การประปา
หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8132 | ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมการพ้นจากตำแหน่งของข้าราชการตุลาการ) [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม 2564)] | ปสส. | 13/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8133 | ร่างพระราชบัญญัติกิจการอวกาศ พ.ศ. .... | อว. | 13/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติกิจการอวกาศ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยกิจการอวกาศ
โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่จัดทำนโยบายและแผนกิจการอวกาศ
และจัดตั้งสำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติ
เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านอวกาศของประเทศรวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคี
และเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมเป็นภาคีสนธิสัญญาเกี่ยวกับอวกาศ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงคมนาคม กระทรวงยุติธรรม สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงาน กสทช.
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น ตามร่างมาตรา ๒๕
อาจไม่จำเป็นต้องกำหนดให้รายได้ทั้งปวงของสำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติไม่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
ควรพิจารณากำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติเป็นคณะกรรมการอีกชุดหนึ่ง
การดำเนินกิจการอวกาศของภาครัฐจะต้องเป็นไปอย่างประหยัด
ลดความซ้ำซ้อนอย่างเป็นรูปธรรม โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
ควรวางแผนการยืมตัวข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความชัดเจน
วางแผนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน
กำหนดให้มีสำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติเป็นนิติบุคคล ให้กระทรวงอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ศึกษาและจัดทำแผนการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาพรวมทั้งหมด
กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ
และสำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติยังไม่ชัดเจนและอาจทับซ้อนกับอำนาจหน้าที่ของ
กสทช. และควรที่จะต้องเพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับการสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการดำเนินกิจกรรมทางอวกาศของภาคเอกชนในอนาคต
รวมทั้งการอำนวยความสะดวกเพื่อดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมนี้ให้เข้ามาลงทุนในประเทศด้วย
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอรัฐสภาต่อไป โดยให้แจ้งประธานรัฐสภาทราบด้วยว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ตราขึ้น
เพื่อดำเนินการตามหมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ๓. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น การดำเนินกิจการอวกาศของภาครัฐจะต้องเป็นไปอย่างประหยัด ลดความซ้ำซ้อนอย่างเป็นรูปธรรม
โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
ควรวางแผนการยืมตัวข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความชัดเจน วางแผนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน
กำหนดให้มีสำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติเป็นนิติบุคคล ให้กระทรวงอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ศึกษาและจัดทำแผนการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาพรวมทั้งหมด
และพิจารณากำหนดอำนาจหน้าที่และขอบเขตของการดำเนินงานให้เกิดการบูรณาการการพัฒนากิจการอวกาศอย่างมีเอกภาพ
ซึ่งการมีหน่วยงานกลางของประเทศที่ทำหน้าที่ในการประสานการขับเคลื่อนในระดับนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. สำหรับการจัดตั้ง “สำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติ”
ในระยะเริ่มแรกให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)
ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติ ไปพลางก่อน เป็นระยะเวลาอย่างน้อย
๒-๓ ปี และประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานอีกครั้งหนึ่ง
หากมีความจำเป็นและคุ้มค่าในการจัดตั้งสำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติให้กระทรวงอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมดำเนินการตามมติคณะรรัฐมนตรี (๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๐)
เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ
ตามความเห็นของ ก.พ.ร. ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
8134 | ร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำ และกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการลุ่มน้ำ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร.14 | 13/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำ และกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการลุ่มน้ำ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำ และกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการลุ่มน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการลุ่มน้ำ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8135 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 60 ปี การสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พ.ศ. .... | กค. | 13/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๖๐ ปี
การสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว
(ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ ๖๐ ปี การสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8136 | ร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินท่างปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม 2564)] | ปสส. | 13/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๓ ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎร
เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8137 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท. | 13/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่าโดยที่กฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม
พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยที่กฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๑ จะสิ้นผลใช้บังคับในวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ ดังนั้น
การขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎหมายดังกล่าว
จึงควรกำหนดระยะเวลาให้สอดคล้องกับมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้
ภายใต้พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและการฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๔ เห็นควรให้กระทรวงมหาดไทยหารือร่วมกับกระทรวงการคลังอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติว่า ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม
พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยที่กฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งจะสิ้นผลใช้บังคับในวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ โดยให้มีการต่ออายุการใช้บังคับไปจนกว่าจะมีการออกกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดลักษณะและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมใช้บังคับ
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณา
แล้วส่งผลการพิจารณาให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8138 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว พ.ศ. .... | คค. | 13/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๒ สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๒ สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว เป็นทางหลวงที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ที่เห็นควรให้กรมทางหลวงเร่งจัดทำแผนการติดตั้งงานระบบให้บริการในลักษณะทยอยเปิดให้บริการเป็นช่วง ๆ (Phasing) เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรบนถนนพระรามที่ ๒ ให้มีประสิทธิภาพ และดำเนินการให้สอดคล้องกับระยะเวลาการพัฒนาโครงการทางหลวงพิเศษ ระหว่างเมืองหมายเลข ๘๒ สายบางขุนเทียน-บ้านแพร้ว ด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
8139 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย | กค. | 13/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายปรเมธี วิมลศิริ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย
ต่อไปอีกวาระหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8140 | ร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. .... | นร 05 | 13/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง
พ.ศ. .... (ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔)
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|