ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 410 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 8181 - 8200 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
8181 | ผลการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 | ดศ. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๔
ซึ่งผ่านการรับรองจากคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว
ประกอบด้วย (๑) เรื่องเพื่อทราบ (จำนวน ๓ เรื่อง) เช่น การปรับแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปี
๒๕๖๓ ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และการดำเนินงานเกี่ยวกับเรื่องดิจิทัลไอดี เป็นต้น
และ (๒) เรื่องพิจารณา (จำนวน ๗ เรื่อง) เช่น ร่างแนวทางการจัดทำยุทธศาสตร์ข้อมูลของประเทศไทย
(Thailand National Data Strategy) และร่างแผนปฏิบัติการด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีดิจิทัล
ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐) เป็นต้น
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
๒.
ในการดำเนินการครั้งต่อไป หากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมประสงค์จะนำข้อเสนอแนะของคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการดำเนินงานตามนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8182 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์
และสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์เพิ่มขึ้น รวมทั้งสีประจำสาขาวิชาดังกล่าว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8183 | การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-รัสเซีย สมัยพิเศษ | กต. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-รัสเซีย
สมัยพิเศษ และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-รัสเซีย
สมัยพิเศษ มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล
โดยร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ มีสาระสำคัญเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
โดยเฉพาะความร่วมมือด้านสาธารณสุขเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) การฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจและสังคมภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
รวมทั้งประเด็นที่มีความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ความร่วมมือด้านความมั่นคง
ความร่วมมือด้านความมั่นคงของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติและการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ
วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
และความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงระดับประชาชน
โดยยึดถือความเป็นแกนกลางของอาเซียนและการใช้ประโยชน์จากกลไกที่อาเซียนมีบทบาทนำเป็นสำคัญ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8184 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งที่ 2 | กค. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๔ ครั้งที่ ๒ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เช่น
การปรับปรุงแผนการก่อหนี้ใหม่ การบรรจุโครงการพัฒนา โครงการ
และรายการเพิ่มเติมในการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๒ จำนวน ๑๒ โครงการ/รายการ เป็นต้น และการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่
การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้
และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ
พ.ศ. ๒๕๔๘ และตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมทั้งอนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา
และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน
วิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ
ในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ
และให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นว่าควรกำกับ
ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกู้ของหน่วยงานในสังกัดให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่กำหนดไว้
ให้ความสำคัญกับการบริหารเงินคงคลังและบริหารเงินกู้ชดเชยการขาดดุลอย่างเหมาะสมและรัดกุม
และรัฐบาลควรเตรียมความพร้อมในการจัดหาแหล่งเงินเพื่อดูแลให้มีสภาพคล่องเพียงพอต่อการดำเนินนโยบายของรัฐในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด
19 ที่มีความยืดเยื้อและยังมีความไม่แน่นอนสูง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8185 | รายงานผลการดำเนินงานของมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | นร.01 | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของมูลนิธิปิดทองหลังพระ
สืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ
สืบสานแนวพระราชดำริ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. ผลการดำเนินงานของมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ
และสถาบันส่งเสริมฯ ๑๘ ตัวชี้วัด งบประมาณรวม ๒๐๖.๒๒ ล้านบาท ประกอบด้วย ๕ แผนงาน
ได้แก่ (๑)
แผนการส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบบูรณาการการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเชิงพื้นที่ (๒)
แผนอบรมแบบปิดทองหลังพระฯ และการจัดการความรู้ (๓) แผนการส่งเสริมการรับรู้และเข้าใจแนวพระราชดำริ
(การประชาสัมพันธ์ในสังคมวงกว้าง) (๔) แผนการสื่อสารสาธารณะและภาคีสัมพันธ์
(ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ต้นแบบและโดยรอบ) และ (๕) แผนการบริหารจัดการ
๒.
ผลการดำเนินงานของมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ และสถาบันส่งเสริมฯ
ที่สอดคล้องกับสถานการณ์และสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ประกอบด้วย ๓ กิจกรรม ได้แก่ (๑)
การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพตามศาสตร์พระราชา
ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (๒)
การประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริในพื้นที่ที่มีปัญหาการค้าและลำเลียงยาเสพติดบริเวณจังหวัดชายแดนภาคเหนือ
และ (๓) โครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานรากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโรคโควิด-๑๙
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8186 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา
และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในสาขาวิชาการจัดการเพิ่มขึ้น และกำหนดสีประจำคณะและสถาบัน
ของสถาบันเทคโนโลยีการบินและอวกาศ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นว่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกจะได้ดำเนินการแก้ไขชื่อของสถาบันเทคโนโลยีการบินตามประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามบทบัญญัติมาตรา
๔ ให้สอดคล้องกับชื่อที่กำหนดไว้ในร่างพระราชกฤษฎีกานี้ไปในคราวเดียวกัน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8187 | รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (นายหาน จื้อเฉียง) | กต. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายหาน จื้อเฉียง (Mr. Han Zhiqiang) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายหลี่ว เจี้ยน (Mr.
Lyu Jian) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8188 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับรังสี พ.ศ. .... | รง. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ
และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับรังสี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการทำงานเกี่ยวกับรังสี เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้างมากขึ้น ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข ที่เห็นว่าควรเพิ่มข้อความในหมวด ๒
สัญลักษณ์ทางรังสี และสัญญาณเตือนภัย ข้อ ๑๘ “(๕)
ในกรณีสตรีมีครรภ์ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านรังสีควรเว้นการปฏิบัติหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่อื่นแทนจนกว่าจะคลอด
และสตรีมีครรภ์ ที่อยู่ใกล้บริเวณรังสีให้อยู่ห่างจากบริเวณรังสี”
เนื่องจากการได้รับปริมาณรังสีสะสมจะมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8189 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์
ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาอุตสาหกรรมศาสตร์
และสาขาวิชารัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น รวมทั้งสีประจำสาขาวิชาดังกล่าว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8190 | มาตรการสินเชื่ออิ่มใจ | กค. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบมาตรการสินเชื่ออิ่มใจ และอนุมัติงบประมาณวงเงินรวม ๑,๐๐๐ ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อดำเนินมาตรการสินเชื่ออิ่มใจ
พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
โดยมาตรการสินเชื่ออิ่มใจ
มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
COVID-19 ที่เป็นร้านจำหน่ายแบบถาวร
เช่น ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารที่เปิดในห้องแถวหรืออาคารพาณิชย์
ภัตตาคาร ร้านที่มีลักษณะเป็นบูธ เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่เป็นร้านแบบเคลื่อนที่ได้ เช่น
หาบเร่ แผงลอย รถเข็น เป็นต้น โดยธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม ๒,๐๐๐
ล้านบาท วงเงินสินเชื่อต่อรายสูงสุด ๑๐๐,๐๐๐ บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๙๙
ต่อปี (Effective Rate) ระยะเวลากู้ไม่เกิน ๕ ปี
(ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ๖ งวดแรก)
ระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔
โดยมีกรอบวงเงินงประมาณรัฐบาลชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
(Non-Performing Loans : NPLs) ร้อยละ ๑๐๐ สำหรับ NPLs ที่ไม่เกินร้อยละ ๕๐
ของสินเชื่อที่อนุมัติทั้งหมด ๒,๐๐๐ ล้านบาท รวมทั้งสิ้นไม่เกิน ๑,๐๐๐ ล้านบาท
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
เพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณเกินความจำเป็นและกรอบที่กำหนดไว้ และควรพิจารณาให้สินเชื่อตามกลุ่มเป้าหมายอย่างเหมาะสม
โดยให้กระจายไปยังกลุ่มที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ
และไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเป้าหมายของโครงการภาครัฐอื่นซึ่งมีอยู่แล้ว
รวมทั้งควรทบทวนหลักเกณฑ์การพิจารณาการให้สินเชื่อดังกล่าวให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8191 | ขอเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการกองบัญชาการกองทัพไทย พื้นที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย และขอผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ | กห. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
โครงการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการกองบัญชาการกองทัพไทย
พื้นที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย โดยเพิ่มวงเงิน จากเดิม วงเงิน ๒๖๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ๓ ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖ เป็น วงเงิน ๗๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ๓ ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖ และผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์
๒๕๕๒ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
กรณีได้รับการจัดสรรงบประมาณในปีแรกต่ำกว่าร้อยละ ๒๐ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
และให้กระทรวงกลาโหม (กองบัญชาการกองทัพไทย) รับความเห็นของสำนักงบประมาณและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ในการประชุม ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ เกี่ยวกับการดำเนินการตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑
และให้สำนักงานยุทธโยธาทหารปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม
อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการ ทั้งนี้ ให้กระทรวงกลาโหม
(กองบัญชาการกองทัพไทย) ดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการกองบัญชาการกองทัพไทย
พื้นที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยให้ถูกต้อง โปร่งใส เป็นไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบ
หลักเกณฑ์ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8192 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการค่าควบคุมงานโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดยโสธร พร้อมบ้านพักและสิ่งก่อสร้างประกอบและโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดแม่สอด พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ | อส. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการค่าควบคุมงานโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดยโสธร
พร้อมบ้านพักและสิ่งก่อสร้างประกอบและโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดแม่สอด
พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ได้แก่ รายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดยโสธร
พร้อมบ้านพักและสิ่งก่อสร้างประกอบ (สำนักงานอัยการจังหวัดยโสธรฯ) จากเดิมวงเงิน ๑,๘๕๕,๘๐๐ บาท เป็นวงเงิน ๔,๙๕๐,๐๐๐ บาท
และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผู้กพันข้ามปีงบประมาณ จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔
เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖ และรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดแม่สอด
พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ (สำนักงานอัยการจังหวัดแม่สอดฯ) จากเดิมวงเงิน ๒,๔๙๔,๙๐๐ บาท เป็นวงเงิน ๒,๘๑๙,๘๘๐ บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๖
ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
กรณีการเพิ่มวงเงินดังกล่าวอยู่ภายใต้กรอบสัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย
ที่กำหนดไว้ว่าต้องไม่เกินร้อยละแปดสิบของงบประมาณรายจ่ายประจำปี
ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กำหนดสัดส่วนต่าง ๆ
เพื่อเป็นกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8193 | ความเห็นและข้อเสนอแนะตามรายงานคู่ขนานการปฏิบัติตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี | ยธ. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาความเห็นและข้อเสนอแนะตามรายงานคู่ขนานการปฏิบัติตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติ
หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
เช่น กฎหมายอนุวัติการตามพันธกรณีตามอนุสัญญา
ปัญหาสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน
การตรวจเยี่ยมสถานที่คุมขังบุคคล
การคุ้มครองผู้เสียหายจากการถูกกระทำทรมานและการเยียวยา
และการเยียวยาผู้เสียหายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8194 | ร่างปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมกลางวาระระดับรัฐมนตรีกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด | กต. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมกลางวาระระดับรัฐมนตรีกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองปฏิญญาฯ
โดยร่างปฏิญญาฯ
เป็นเอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมกลางวาระระดับรัฐมนตรีกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
ผ่านระบบออนไลน์ (Online Mid-term Ministerial Conference of the
Non-Aligned Movement) ภายใต้หัวข้อ “กลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดที่อยู่ศูนย์กลางของความพยายามพหุภาคีในการรับมือกับความท้าทายต่าง
ๆ ของโลก” ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔
มีสาระสำคัญเป็นการระบุการดำเนินการต่าง ๆ ของกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
และความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน
ตามที่กระทรวงงการต่างประเทศเสนอ และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับข้อสังเกตของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติในประเด็นข้อเรียกร้องต่ออิสราเอล
กรณีความขัดแย้งในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง ซึ่งรวมถึงนครเยรูซาเล็มตะวันออก
ควรมีการกำหนดท่าทีของประเทศไทยอย่างรอบคอบและเหมาะสมบนพื้นฐานของการคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและการมีดุลยภาพในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8195 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการนำสายไฟลงใต้ดินเพื่อส่งเสริมสภาพพื้นที่สำหรับเมืองการบินภาคตะวันออก | กห. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพิ่มเติม
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๔๕๑,๓๖๔,๒๐๐ บาท ให้กองทัพเรือ
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการนำสายไฟลงใต้ดินเพื่อส่งเสริมสภาพพื้นที่สำหรับเมืองการบินภาคตะวันออก
จำนวน ๓ เส้นทาง ได้แก่ ช่วงจากปากทางเข้าสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาถึงแยกวงเวียนอู่ตะเภา
วงเงิน ๑๙๐,๑๗๒,๐๐๐ บาท ช่วงจากแยกวงเวียนอู่ตะเภาถึงหน้าอาคารจอดรถอาคารผู้โดยสารหลังที่ ๒ วงเงิน ๘๘,๕๔๗,๐๐๐ บาท และช่วงจากแยกอู่ราชนาวีมหิดลถึงท่าเรือจุกเสม็ด วงเงิน
๑๗๒,๖๔๕,๒๐๐ บาท โดยเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการติดตั้งสายไฟฟ้า
จากระบบเดินอากาศ (ปักเสาพาดสาย) เป็นแบบร้อยท่อฝังดินตามเส้นทางต่าง ๆ
บริเวณฐานทัพเรือสัตหีบ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
และให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับ ดูแล
และถือปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งเร่งดำเนินการก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
และให้กองทัพเรือเร่งดำเนินการจัดทำแผนแม่บทรองรับการบริหารเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของกองทัพเรือ
ปีงบประมาณ ๒๕๖๕-๒๕๗๐ โดยให้มีความสอดคล้องกับแผนภาพรวมเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ให้เกิดการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่องและบูรณาการร่วมกันต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8196 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง [นางสาวพัชรินรุจา จันทโรนานนท์] | อว. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นางสาวพัชรินรุจา จันทโรนานนท์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ กรกฎาคม
๒๕๖๔) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8197 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่
และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่
และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๖๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การจ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานยาเสพติดกรณียึดได้แต่ยาเสพติด
และระยะเวลาการยื่นคำขอรับเงินค่าตอบแทนในกรณีดังกล่าว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นว่าเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทนดังกล่าวอาจซ้ำซ้อนกับการจ่ายเงินตามร่างข้อ
๑๘ (๒) คดีที่จับกุมได้ทั้งผู้ต้องหาและยาเสพติดของกลาง
อีกทั้งการกำหนดเงื่อนในลักษณะดังกล่าวไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจ่ายค่าตอบแทนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
ที่มุ่งหมายในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
มิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8198 | การแก้ไขปัญหาและเตรียมความพร้อมในการเผชิญเหตุการณ์อันเป็นสาธารณภัย | นร. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
สืบเนื่องจากเหตุกาณ์ถังบรรจุสารเคมีระเบิดและเกิดเพลิงไหม้บริษัท หมิงตี้เคมีคอล
จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
ส่งผลกระทบให้อาคารสถานที่ บ้านเรือน และทรัพย์สินต่าง ๆ
ของประชาชนชำรุดเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐและอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยเสียชีวิต ๑ ราย
และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้
ผลจากการระเบิดและเผาไหม้ของสารเคมียังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมีอีกด้วย
เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาและอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการสถานการณ์ไฟไหม้ที่มีความเกี่ยวข้องกับวัตถุหรือสารเคมีอันตรายให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
และลดการสูญเสียในด้านต่าง ๆ ให้มากที่สุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดข้อมูลและความพร้อมด้านอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับป้องกันภัยของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย
ประกอบกับนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม
๒๕๖๐ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
ร่วมกับกระทรวงกลาโหมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เร่งจัดทำแผนเผชิญเหตุสำหรับเหตุการณ์ต่าง ๆ
ที่อาจจะเกิดขึ้นและกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมากทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ทั่วประเทศ
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติ ดังนี้ ๑ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เร่งตรวจสอบและให้การช่วยเหลือดูแล รวมทั้งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ข้างต้น ให้รวดเร็ว ครบถ้วน
และทั่วถึง ๒
ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงกลาโหมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เร่งรัดการดำเนินการตามนัยข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีดังกล่าว
โดยให้ถอดบทเรียนจากเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ในครั้งนี้
และให้จัดให้มีการอบรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
รวมไปถึงอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยและมูลนิธิต่าง ๆ ให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเหมาะสมในการเผชิญเหตุด้วย ๓ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเผชิญเหตุที่มีความเสี่ยงต่อมลพิษ เช่น
หน้ากากอนามัย N95 ชุดป้องกันสารเคมี
ชุดกันฝุ่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยสามารถนำมาใช้ได้อย่างเหมาะเท่าทันสถานการณ์ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8199 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อควบคุมโรคลัมปี สกินในโค กระบือ | กษ. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อควบคุมโรคลัมปี
สกิน ในโค กระบือ ตามข้อมูลที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ พร้อมขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา
๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
ในวงเงินงบประมาณจำนวนทั้งสิ้น ๖๘๔,๒๑๘,๐๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมโรคลัมปี สกิน ในโค กระบือ ดังนี้ ๑)
ค่าตอบแทนอาสาปศุสัตว์ จำนวน ๑๔,๕๑๐,๐๐๐
บาท ๒) ค่าจัดซื้อวัคซีนโรคลัมปี สกิน จำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐ โด๊ส เป็นเงิน ๒๓๐,๑๓๘,๐๐๐ บาท ๓) ค่าจัดซื้อเวชภัณฑ์เพื่อการฆ่าเชื้อในฟาร์มและพาหนะในการเคลื่อนย้ายสัตว์
จำนวน ๒๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๔)
ค่าจัดซื้อเวชภัณฑ์เพื่อการรักษาโค กระบือ จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ ตัว
เป็นเงิน ๓๖๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท
และเพื่อการฟื้นฟู บำรุงสุขภาพสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร จำนวน จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ ตัว เป็นเงิน ๓๙,๘๐๐,๐๐๐
บาท ๕) ค่าวัสดุวิทยาศาสตร์เพื่อการแพทย์ สำหรับการเก็บตัวอย่าง
ฉีดวัคซีนและรักษาเป็นเงิน ๑๔,๗๗๐,๐๐๐
บาท และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(ตามหนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๘/๑๓๔๓๒ ลงวันที่ ๒๙ มิถุนายน
๒๕๖๔) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยกรมปศุสัตว์ ควรดำเนินการควบคุมและเฝ้าระวังการเคลื่อนย้ายโคและกระบือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคเพื่อไม่ให้โคและกระบือที่เป็นโรคไปแพร่เชื้อในพื้นที่อื่น
ๆ ที่ยังไม่เกิดโรค ตลอดจนสนับสนุนการศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวสำหรับใช้ในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ
ควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมการระบาดของโรค และยกระดับมาตรฐานฟาร์มของเกษตรกรรายย่อย
โดยเร่งรัดให้เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการเป็นลำดับแรกและดำเนินการกับปศุสัตว์ทุกชนิดไม่เฉพาะโค
กระบือ เท่านั้น
เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับกับสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นและมีการแพร่กระจายเชื้อโรคอย่างรวดเร็ว
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑
ควบคุมดูแลไม่ให้มีการนำเข้าหรือลักลอบนำเข้าโคและกระบือที่ติดโรคลัมปี สกิน
จากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเข้มงวด ๒.๒ บริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน
ให้เพียงพอกับความต้องการใช้งาน รวมทั้งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในการจำกัดแมลงที่เป็นพาหะของโรคและสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการป้องกันโรคลัมปี
สกิน ให้แก่เกษตรกรอย่างทั่วถึงโดยเร็วต่อไป ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8200 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและโรคระบาดร้ายแรงในสุกรหรือหมูป่า | กษ. | 06/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและโรคระบาดร้ายแรงในสุกรหรือหมูป่าเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๔๐,๒๗๗,๔๒๖ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและโรคระบาดร้ายแรงในสุกรหรือหมูป่า
ประกอบด้วย ค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลาย ตั้งแต่วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่
๒๒ มีนาคม ๒๕๖๔ ตามมาตรา ๑๓ (๔) แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘
จำนวนเงิน ๙๓,๗๗๒,๒๒๖ บาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเกี่ยวกับการเฝ้าระวังโรคตรวจวินิจฉัยและทำลายเชื้อโรคหรือซากสัตว์
จำนวนเงิน ๔๖,๕๐๕,๒๐๐ บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าในการดำเนินการ และให้ความสำคัญกับกระบวนการตรวจสอบสุกรให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่ถูกทำลายจริง
และเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การบริหารงบประมาณเป็นไปด้วยความรอบคอบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และกรมปศุสัตว์
ควรดำเนินการหารือกับสำนักงบประมาณในการพิจารณาแหล่งงบประมาณที่สามารถดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากโรคระบาดในสุกรทั้งในระดับฟาร์มและระดับประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตรวจสอบและทำลายสุกรและหมูป่าที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคและบูรณาการป้องกันการนำเข้าหรือลักลอบนำเข้าสุกรและหมูป่าและวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคดังกล่าวอย่างเข้มงวด
รวมทั้งให้เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและโรคระบาดร้ายแรงในสุกรหรือหมูป่าที่ถูกต้องให้แก่เกษตรกรอย่างทั่วถึงด้วย ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|