ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 406 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 8101 - 8120 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
8101 | การแต่งตั้งและกำหนดอัตราเงินเดือนของผู้อำนวยการสำนักงานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (พันโท หนุน ศันสนาคม) | กค. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พันโท หนุน ศันสนาคม ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และกำหนดอัตราค่าตอบแทนคงที่ในอัตรา ๒๘๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน โดยในระหว่างอายุสัญญา สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ในวันที่ ๑ ตุลาคม ของทุกปี ในอัตราไม่เกินกว่าร้อยละ ๑๐ ของอัตราค่าตอบแทนคงที่ที่ผู้รับจ้างได้รับ ทั้งนี้ ให้ขึ้นกับผลการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยการปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ตลอดอายุสัญญาจ้างจะต้องไม่มีผลให้อัตราค่าตอบแทนคงที่ที่ได้รับเกินกว่าอัตราขั้นสูงตามกรอบอัตราค่าตอบแทนคงที่ที่กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบไว้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ระบุในสัญญาจ้างผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ตามมติคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในการประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๔ และครั้งที่ ๗/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
|
||||||||||||||||||||||||
8102 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 พ.ศ. .... | นร.11 สศช | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ รายละเอียด การเสนอโครงการ
วิธีการดำเนินโครงการ ตลอดจนการติดตามประเมินผลการใช้จ่ายเงินกู้ เพื่อให้การดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน
เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม
พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นไปอย่างรัดกุม และมีประสิทธิภาพ
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
โดยมอบหมายให้ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เพิ่มเติมวันใช้บังคับของร่างระเบียบดังกล่าวให้สมบูรณ์และแก้ไขการเรียงลำดับข้อในร่างระเบียบให้เป็นไปตามรูปแบบร่างกฎหมาย
รวมทั้งให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์
รายละเอียด การเสนอโครงการ วิธีการดำเนินโครงการ
ตลอดจนการติดตามประเมินผลการใช้จ่ายเงินกู้ของร่างระเบียบดังกล่าว
ไปประกอบการพิจารณาและให้ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
8103 | ข้อกำหนดและคำสั่งที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 รวม 2 ฉบับ | นร.05 | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อกำหนดและคำสั่งที่ออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ รวม ๒ ฉบับ ดังนี้ ๑. ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๘)
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการที่จำเป็นและต้องเร่งดำเนินการโดยด่วน เพื่อลดการออกนอกเคหสถานของประชาชน
เช่น การปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ การลดและจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทาง
การห้ามออกนอกเคหสถานของบุคคลในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การขนส่งสาธารณะ โดยจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละห้าสิบของความจุผู้โดยสารสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท
เป็นต้น ๒. คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ที่ ๑๐/๒๕๖๔ เรื่อง
พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด
พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ฉบับประกาศและงานทั่วไป เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑๖๐ ง วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔
|
||||||||||||||||||||||||
8104 | สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นจากประชาชนไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | นร.01 | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นจากประชาชนไตรมาสที่ ๒ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
และแนวทางการบูรณาการการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์
และการประสานขอความร่วมมือส่วนราชการเพื่อสนับสนุนการดำเนินการในระยะต่อไป สรุปได้
ดังนี้ (๑) สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นจากประชาชน
และการประมวลผลและการวิเคราะห์เรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็น
ไตรมาสที่ ๒ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์
เช่น ประชาชนแจ้งเรื่องร้องทุกข์ผ่าน ๑๑๑๑ รวม ๔๓,๔๕๕ ครั้ง และประเด็นเรื่องร้องทุกข์ที่ประชาชนยื่นเรื่องมากที่สุดคือ
การเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายและโครงการของรัฐ (๒)
แนวทางการบูรณาการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์
และการประสานขอความร่วมมือส่วนราชการ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการในระยะต่อไป รวม ๓
แนวทาง เช่น เร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
การปรับปรุงโทรศัพท์สายด่วนต่าง ๆ ที่มีจำนวนมาก
และเร่งรัดผลักดันความเดือดร้อนของประชาชนในด้านอื่น ๆ
คู่ขนานไปกับการแก้ปัญหาเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
8105 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) ครั้งที่ 1/2564 | นร.11 สศช | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบและเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ
(กพศ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม
๒๕๖๔ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (VDO Conference) โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบเรื่องที่สำคัญ ได้แก่ (๑)
การขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ๑๐ แห่ง (๒)
การกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษและกรอบแนวทางการให้สิทธิประโยชน์ และ (๓)
กลไกขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ
รวมทั้งได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทย เช่น
ควรมีการวิเคราะห์ห่วงโซ่มูลค่าของสินค้าอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร
ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง
เพิ่มการพัฒนาฝีมือแรงงานและการพัฒนาผู้ประกอบการเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการส่งเสริมการลงทุน
ให้มีการอำนวยความสะดวกการทำธุรกรรมข้ามแดน ควรพิจารณาบูรณาการโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นแกนสำคัญของแนวทางการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษในภาคต่าง
ๆ ที่จะพัฒนาโดยใช้ศักยภาพของพื้นที่เป็นหลัก ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
และนวัตกรรมเป็นกลไกสำคัญอย่างหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษในแต่ละภูมิภาค
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างความรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติ
รวมถึงปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
พิจารณาแต่งตั้งผู้แทนจากภาคประชาชนมามีส่วนร่วมในการจัดตั้งกลไกการบริหารจัดการในระดับพื้นที่เพื่อประสานการขับเคลื่อนการพัฒนาให้เป็นไปตามนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และควรทบทวนสิทธิและประโยชน์และกิจการเป้าหมายจูงใจนักลงทุนยิ่งขึ้นและลดความซับซ้อน
รวมถึงแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในแต่ละพื้นที่
รวมทั้งพิจารณาคัดเลือกพื้นที่โดยให้ความสำคัญกับศักยภาพความพร้อมของการพัฒนาพื้นที่
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
8106 | การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร | นร.08 | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
ตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔ จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ๒.
เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ ดังนี้ ๒.๑
เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ ๑๓)
และร่างประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ
จนกว่าคณะรัฐมนตรีจะกำหนดเป็นอย่างอื่น ๒.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง การให้ข้อกำหนด ประกาศ
และคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ
จนกว่านายกรัฐมนตรีจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
|
||||||||||||||||||||||||
8107 | ขออนุมัติรายชื่อผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร ประจำปีการศึกษา 2564 - 2565 จากคณะรัฐมนตรี | กห. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
รวมรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.)
รุ่นที่ ๖๔ เพื่อเข้ารับการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔-๒๕๖๕ ห้วงเวลาการศึกษาตั้งแต่ตุลาคม ๒๕๖๔ ถึง กันยายน
๒๕๖๕ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรเสนอ ๒. ให้กระทรวงกลาโหมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การเสนอเรื่องเร่งด่วนคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||
8108 | ร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง - คงคา ครั้งที่ 11 | กต. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-คงคา
ครั้งที่ ๑๑ มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมและกระชับความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ
ความเชื่อมโยง สิ่งแวดล้อม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ตลอดจนมุ่งเน้นการบูรณาการด้านสาธารณสุขเพื่อรับความร่วมมือกับผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานของไทยตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ประเด็นการต่างประเทศ และกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๓ ในหมุดหมายที่ ๕ ซึ่งสนับสนุนให้ไทยมีฐานเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับห่วงโซ่มูลค่าโลก
ตลอดจนพัฒนาสู่การเป็นประตูการค้าการลงทุนของภูมิภาค
อีกทั้งยังมีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมายที่
๑๗ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าอาจพิจารณาเพิ่มเติมประเด็นความก้าวหน้าและแนวทางการดำเนินการของความร่วมมือด้านการเกษตรและสาขาที่เกี่ยวข้อง
และด้านการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs)
รวมทั้งประเด็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับโรคโควิด-๑๙
ซึ่งจะช่วยให้ประเทศสมาชิกสามารถรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-คงคา
ครั้งที่ ๑๑ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย |
||||||||||||||||||||||||
8109 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 10/2564 | นร.04 | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-
19) (ศบค.) ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๔ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ สรุปได้ดังนี้ ๑) การประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ในห้วงปัจจุบัน และวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคต
พร้อมข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการรองรับ ๒) การตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ Antigen Test Kit ๓) มาตรการการควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ
(Bubble and Seal) มาตรการแยกกักตัวที่บ้าน (Home
Isolation) และมาตรการแยกกักตัวที่ศูนย์ดูแลโควิดชุมชน (Community
Isolation) ๔) ประเด็นเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ๕)
ที่ประชุมได้หารือแนวทางในการออกข้อกำหนดตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๘)
และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(โควิด-19) ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๔ เรื่อง
พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดพื้นที่ควบคุมสูงสุด
พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
8110 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ 24/2564 | นร.11 สศช | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๒๔/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ (ฉบับที่..)
พ.ศ. ....
โดยเพิ่มข้อความที่เกี่ยวข้องกับกรณีโครงการที่ต้องใช้เงินกู้เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ
ให้กรมพัฒนาชุมชนเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินโครงการ
โดยใช้จ่ายเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๓ โครงการ ให้จังหวัดพังงา จังหวัดลำพูน จังหวัดหนองคาย
และจังหวัดปัตตานี ปรับแผนการดำเนินโครงการภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนของจังหวัด
จำนวน ๘ โครงการ และมอบหมายให้หัวหน้าหน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
เป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาความเหมาะสมของการปรับรูปแบบหรือวิธีการจัดกิจกรรมในลักษณะฝึกอบรม
การศึกษาดูงานและการถ่ายทอดความรู้ในรูปแบบต่าง ๆ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้กำหนด
และไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของโครงการ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงบประมาณ เช่น ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
จัดอบรม สัมมนา หรือการประชุมโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักในทางปฏิบัติ
และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระยะเวลาดำเนินการ
ความเหมาะสมของค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติ ซึ่งจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์
อัตราค่าใช้จ่าย และมาตรการของทางราชการอย่างประหยัด
และเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
ตลอดจนให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์ เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. เห็นชอบหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ (ฉบับที่..)
พ.ศ. .... และให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เพิ่มเติมวันใช้บังคับของร่างระเบียบดังกล่าวให้สมบูรณ์ก่อนดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
8111 | ร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนด้านสารเคมีและของเสียสำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาบาเซลฯ สมัยที่ 15 การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญารอตเตอร์ดัมฯ สมัยที่ 10 และการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสตอกโฮล์มฯ สมัยที่ 10 ปี พ.ศ. 2564 | ทส. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนด้านสารเคมีและของเสียสำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาบาเซลฯ
สมัยที่ ๑๕ การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญารอตเตอร์ดัมฯ สมัยที่ ๑๐
และการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสตอกโฮล์มฯ สมัยที่ ๑๐ ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญเพื่อแสดงจุดยืนร่วมกันของประเทศสมาชิกอาเซียน
ไม่ได้เป็นหนังสือสัญญาและมีผลผูกผันทางกฎหมายซึ่งเป็นไปตามมาตรา ๑๗๘
แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมด้านสารเคมีและของเสียฯ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนด้านสารเคมีและของเสียสำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาบาเซลฯ สมัยที่ ๑๕
การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญารอตเตอร์ดัมฯ สมัยที่ ๑๐
และการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสตอกโฮล์มฯ สมัยที่ ๑๐ ปี พ.ศ. ๒๕๖๔
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||
8112 | รายงานตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 ประจำปี 2563 | สสส. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานตามมาตรา ๓๖
แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๔๔ ประจำปี ๒๕๖๓ มีสาระสำคัญ
ดังนี้ ๑) สถานการณ์ปัจจัยเสี่ยงหลักต่อสุขภาพและผลงานเด่นในปี ๒๕๖๓ ๒)
ผลการดำเนินงานสำคัญตามเป้าประสงค์ และ ๓) การตรวจสอบ
ติดตามและประเมินผลการทำงานในปี ๒๕๖๓ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
8113 | การขยายระยะเวลาความตกลงให้การสนับสนุนทางการเงินของโครงการ Integrated Programme in Enhancing the Capacity of AHA Centre and ASEAN Emergency Response Mechanisms (EU-SAHA) | มท. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างเอกสารแนบท้ายความตกลง (Addendum No.1)
เพื่อขยายระยะเวลาความตกลงในการสนับสนุนทางการเงิน (Financing Agreement) ในการดำเนินโครงการ EU-SAHA และให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทน เป็นผู้ลงนามในร่างเอกสารฯ
ของฝ่ายอาเซียน เนื่องจากการดำเนินงานตามความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน
(ASEAN Agreement on Disaster
Management Response : AADMER) ซึ่งเป็นพันธกรณีที่ประเทศไทยได้ลงนามรับรองไว้แล้ว
เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๘ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารแนบท้ายความตกลง
(Addendum No.1) เพื่อขยายระยะเวลาความตกลงในการสนับสนุนทางการเงิน
(Financing Agreement) ในการดำเนินโครงการ Integrated Programme in Enhancing the Capacity of AHA Centre
and ASEAN Emergency Response Mechanisms (EU-SAHA)
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
8114 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ไทยแลนด์ดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Thailand Di¬gital Platform) “One Country One Platform”ของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา | สว. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
ไทยแลนด์ดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Thailand Digital Platform)
“One Country One Platform”
ของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
สรุปได้ว่าการพัฒนาแพลตฟอร์มได้ดำเนินการพัฒนาระบบ Digital ID เพื่อให้บริการของภาครัฐนำไปใช้ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตน
และสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการนำ Digital ID ไปใช้ในการบริการประชาชน
และบริการระบบเครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ รองรับการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงาน
ปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ
รวมทั้งดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการต่าง ๆ ของประชาชน
รวมถึงงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐและการจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการรับบริการภาครัฐของประชาชน
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
8115 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 70 ปี สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... | กค. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๗๐ ปี
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล)
ชนิดราคายี่สิบบาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ ๗๐ ปี สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
8116 | แผนระดับที่ 3 ของกระทรวงสาธารณสุข (ร่าง) แผนจัดการเพื่อคุ้มครองสมุนไพรในพื้นที่เขตอนุรักษ์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2564 - 2565 | สธ. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนระดับที่ ๓ ของกระทรวงสาธารณสุข (ร่าง)
แผนจัดการเพื่อคุ้มครองสมุนไพรในพื้นที่เขตอนุรักษ์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับที่ ๑) พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕
มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสมุนไพรและบริเวณถิ่นกำเนิดของสมุนไพรที่มีความหลากหลายทางชีวภาพหรืออาจได้รับผลกระทบจากการกระทำของมนุษย์ในพื้นที่เขตอนุรักษ์
รวมทั้งเป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานเชิงบูรณาการ เพื่อเสนอแผนจัดการฯ
รายพื้นที่อย่างน้อย ๑๒ แห่ง ครอบคลุมทั้ง ๑๒ เขตสุขภาพต่อไป ทั้งนี้
แผนการบริหารจัดการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงาน จำนวน ๑,๗๓๕ ล้านบาท ให้ใช้จ่ายจากกองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่เห็นว่าควรสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบต่าง
ๆ ในการค้าสมุนไพรระหว่างประเทศ และการขอรับใบอนุญาตเพื่อการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
การดำเนินการในพื้นที่ป่าต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานตามแผนดังกล่าวให้ใช้จ่ายจากเงินกองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำหรับแผนจัดการเพื่อคุ้มครองสมุนไพรในระดับพื้นที่
ซึ่งจะประกาศในอนาคต ให้ยึดกรอบทิศทางของแผนจัดการฯ ฉบับนี้
โดยไม่ต้องนำเสนอตามแนวทางของแผนระดับที่ ๓
ให้คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และควรพิจารณาถึงการศึกษาวิจัยวิธีการเก็บารักษาที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสมุนไพรในแต่ละชนิด
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
8117 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 24/2564 (โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้) และครั้งที่ 25/2564 | นร.11 สศช | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๒๔/๒๕๖๔ (โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้) เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม
๒๕๖๔ และครั้งที่ ๒๕/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้กระทรวงต้นสังกัดและหน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่าควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจให้ถูกต้องครบถ้วนถึงความเท่าเทียมและสิทธิที่กลุ่มเป้าหมายจะได้รับ
การเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||
8118 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 | กค. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
8119 | การเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล และหน่วยงานขององค์กรอิสระและองค์กรอัยการ | นร.07 | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ของหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล
และหน่วยงานขององค์กรอิสระและองค์กรอัยการ ตามแนวทางและขั้นตอนการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๔ จำนวน ๘
หน่วยรับงบประมาณ วงเงิน ๑,๔๘๔.๑๖๒๙ ล้านบาท และมอบหมายให้สำนักงบประมาณนำเรื่องการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ของหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล และหน่วยงานขององค์กรอิสระและองค์กรอัยการ
เสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
8120 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับการปฏิบัติของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 รวม 123 วัน | ตช. | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โรคโควิด
19) ภายในวงเงิน ๓๙๒.๗๗ ล้านบาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง
เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง
(ศปม.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๔ รวม ๑๒๓
วัน
หรือจนกว่าสถานการณ์ดังกล่าว จะยุติลง ได้แก่
ภารกิจการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง เช่น การตั้งด่านตรวจจุดคัดกรองโรค
การตั้งชุดปฏิบัติการชุดเคลื่อนที่เร็วประจำสถานีตำรวจ และภารกิจในการเฝ้าระวัง
ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เป็นการจัดหาวัสดุและครุภัณฑ์สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด
19 เป็นต้น ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
|