ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 400 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 7981 - 8000 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7981 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมถุงมือสำหรับการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ชนิดใช้ครั้งเดียวต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมถุงมือสำหรับการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ชนิดใช้ครั้งเดียวต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมถุงมือสำหรับการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ชนิดใช้ครั้งเดียวต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนทั่วไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7982 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 6 | กต. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง
ครั้งที่ ๖ และพิจารณามอบหมายให้ส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามตารางติดตามผลการประชุมฯ
โดยที่ประชุมฯ ได้หารือผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ เช่น
การเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียม การส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ
และการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรด้านน้ำ รวมทั้งได้รับรองเอกสารผลลัพธ์ฯ เช่น
ข้อริเริ่มว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐบาลท้องถิ่นของประเทศแม่โขง-ล้านช้าง
และแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการส่งเสริมความมร่วมมือด้านการแพทย์แผนดั้งเดิมในกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง
เป็นต้น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้มีการพิจารณาหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างระเบียงทางการค้าเชื่อมทางบก-ทางทะเลระหว่างประเทศแห่งใหม่กับระเบียงทางการพัฒนาเศรษฐกิจแม่โขง-ล้านช้าง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7983 | ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สองของปี 2564 และแนวโน้มปี 2564 | นร.11 สศช | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สองของปี ๒๕๖๔
และแนวโน้มปี ๒๕๖๔ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้
ดังนี้ ๑.
ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สองของปี ๒๕๖๔ ขยายตัวร้อยละ ๗.๕ ปรับตัวดีขึ้น
จากการลดลงร้อยละ ๒.๖ ในไตรมาสก่อนหน้า (%YoY) และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว
เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สองของปี ๒๕๖๔ ขยายตัวจากไตรมาสแรกของปี ๒๕๖๔ ร้อยละ ๐.๔ (QoQ_SA) รวมครึ่งแรกของปี ๒๕๖๔ เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ ๒.๐ ๒.
แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี ๒๕๖๔ คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ ๐.๗-๑.๒ ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ
จากการลดลงร้อยละ ๖.๑ ในปี ๒๕๖๓ แต่เป็นการปรับลดจากร้อยละ ๑.๕-๒.๕
ในการประมาณการครั้งก่อน ๓.
ประเด็นการบริหารเศรษฐกิจในปี ๒๕๖๔
นโยบายการบริหารเศรษฐกิจมหาภาคในช่วงที่เหลือของปี ๒๕๖๔ ควรให้ความสำคัญกับ (๑)
การควบคุมสถานการณ์การระบาดให้อยู่ในวงจำกัด (๒) การช่วยเหลือเยียวยาประชาชน
แรงงาน
และภาคธุรกิจในช่วงที่การระบาดของโรคมีความรุนแรงและมีการดำเนินมาตรการควบคุมการระบาดอย่างเข้มงวด
(๓) การดำเนินมาตรการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเมื่อสถานการณ์การระบาดผ่อนคลาย
(๔) การขับเคลื่อนการส่งออกสินค้า (๕)
การรักษาแรงขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ (๖)
การส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน และ (๗) การรักษาบรรยากาศทางการเมืองและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7984 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองลาดและตำบลขมิ้น อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร พ.ศ. .... | กษ. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองลาดและตำบลขมิ้น อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน เพื่อดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินในท้องที่ตำบลหนองลาดและตำบลขมิ้น อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการสำรวจพื้นที่ที่จะจัดทำเป็นโครงการจัดรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรจัดเตรียมแนวทางสนับสนุนการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ ความต้องการผลผลิตทางการเกษตรของตลาด และนโยบายด้านการพัฒนาภาคเกษตรที่สำคัญ ๆ ของรัฐบาล เช่น การส่งเสริมการทำเกษตรแปลงใหญ่ เกษตรแม่นยำสูง วนเกษตร และเกษตรผสมผสาน เป็นต้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและชุมชนในระยะยาว รวมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างทัศนคติให้เกษตรกรร่วมกันบำรุงรักษาระบบชลประทานให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7985 | การจัดทำข้อตกลงแบ่งปันทรัพย์สินระหว่างราชอาณาจักรไทยและสมาพันธรัฐสวิส รายนางอัญชลี แซ่โค้ว หรือ นางชนาธร คุณวุฒิวัฒนา | อส. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติให้อัยการสูงสุดหรือผู้ซึ่งอัยการสูงสุดมอบหมาย
และผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กระทรวงการต่างประเทศ
และกระทรวงการคลัง เป็นองค์คณะผู้มีอำนาจเจรจา
และอัยการสูงสุดหรือผู้ซึ่งอัยการสูงสุดมอบหมายเป็นผู้มีอำนาจลงนามในข้อตกลงฝ่ายราชอาณาจักรไทย ๒.
เห็นชอบในหลักการของร่างข้อตกลงแบ่งปันทรัพย์สินที่ฝ่ายราชอาณาจักรไทยได้ปรับแก้ไขจากร่างมาตรฐานของสมาพันธรัฐสวิสเป็นกรอบในการเจรจาข้อตกลงแบ่งปันทรัพย์สินระหว่างสมาพันธรัฐสวิสและประเทศไทย
รายนางอัญชลี แซ่โค้ว หรือ นางชนาธร คุณวุฒิวัฒนา
เพื่อให้ได้รับทรัพย์สินคืนเต็มจำนวน
และให้พิจารณาปรับแก้ไขถ้อยคำเพื่อความเหมาะสมยิ่งขึ้น ตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศด้วย ๓.
กรณีองค์คณะผู้มีอำนาจเจรจาไม่สามารถเจรจาให้ได้รับทรัพย์สินคืนเต็มจำนวนตามกรอบการเจรจา
เห็นชอบให้องค์คณะผู้มีอำนาจเจรจามีอำนาจเจรจาและปรับแก้ไขร่างข้อตกลงฯ โดยฝ่ายไทยต้องได้รับสัดส่วนการแบ่งปันไม่น้อยกว่าร้อยละ
๕๐ ๔. สำหรับรูปแบบการแลกเปลี่ยนร่างข้อตกลงฯ
ที่แต่ละฝ่ายได้ลงนามแล้วให้ดำเนินการผ่านช่องทางการทูตตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ๕.
อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) เพื่อให้อัยการสูงสุดหรือผู้ซึ่งอัยการสูงสุดมอบหมายเป็นผู้ลงนามข้อตกลงฝ่ายราชอาณาจักรไทย ๖.
ในส่วนของค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศ (หากมี)
ให้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ตามระเบียบสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๗ ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7986 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2559 จำนวน 3 ฉบับ | อว. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ
พ.ศ. ๒๕๕๙ ดังกล่าว รวม ๓ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างกฎกระทรวงศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์
เพื่อให้ผู้ขอรับใบอนุญาตมีศักยภาพทางเทคนิคเพียงพอในการดูแลความปลอดภัย
ความมั่นคงปลอดภัย และการพิทักษ์ความปลอดภัยของวัสดุนิวเคลียร์ที่ขออนุญาตการดำเนินการเมื่อเลิกใช้งาน
การจัดการกากกัมมันตรังสี และการจัดการเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว ๒ ร่างกฎกระทรวงศักยภาพของผู้ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี
การอนุญาตและการเลิกดำเนินการให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดศักยภาพทางเทคนิคและการเงินของผู้ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสีและกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาต
และการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการดำเนินการให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี
รวมทั้งการเลิกดำเนินการให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี ๓. ร่างกฎกระทรวงการพิทักษ์ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการพิทักษ์ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7987 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมของทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2562 | กค. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมของทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี
๒๕๖๒ ซึ่งได้ปรับปรุงแก้ไขตามข้อสังเกตของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๑๖
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ ๒) วันพฤหัสบดีที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๔
และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยเป็นการเพิ่มรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของทุนหมุนเวียน
โครงสร้างคณะกรรมการการบริหารทุนหมุนเวียน รายงานผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน
และวิเคราะห์ผลการประเมินการดำเนินงานทุนหมุนเวียนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7988 | รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2563 ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) | ส.ส.ท | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี ๒๕๖๓ ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
(ส.ส.ท.) โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ
เช่น การส่งสัญญาณในระบบดิจิทัลภาคพื้นดินผ่านทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
การทดลองออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ Active Learning TV (AL TV) การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารบนช่องทางวิทยุออนไลน์
และการเปิดให้บริการ ๓ เว็บไซต์ใหม่ ได้แก่ เว็บไซต์เด็กและครอบครัว Thai
PBS Kids เว็บไซต์ The Active สื่อสารข้อมูลและมุมมองนโยบายสาธารณะที่ส่งผลต่อสังคม
และเว็บไซต์ Decode พื้นที่สื่อสารของพลเมืองคนรุ่นใหม่ ตามที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7989 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 30 เมษายน 2564) | นร.04 | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๓ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม-๓๐ เมษายน
๒๕๖๔) สรุปได้ ดังนี้ (๑)
ผลการดำเนินงานตามนโยบายหลัก ๑๒ ด้าน เช่น การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ
การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย
การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ และ
(๒) นโยบายเร่งด่วน ๑๒ เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน
การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การยกระดับศักยภาพแรงงาน
การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต
การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เป็นต้น
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7990 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้า และอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น สมัยพิเศษ | พน. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ
การค้า และอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน
๒๕๖๔ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เข้าร่วมประชุม มีสาระสำคัญ ประกอบด้วย (๑) ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า
และอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น สมัยพิเศษ โดยไทยได้กล่าวถึงแนวทางการดำเนินการที่สำคัญ เช่น
การเพิ่มการผลิตไฟฟ้าแบบคาร์บอนต่ำและการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า (๒)
ที่ประชุมได้รับรองถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า
และอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น สมัยพิเศษ โดยมีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำแต่ไม่กระทบสาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบไว้
(๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๔) ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคพลังงานและกลุ่มประเทศอาเซียน
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7991 | ข้อตกลงยอมรับร่วมรายสาขาสำหรับวัสดุอาคารและสิ่งก่อสร้างของอาเซียน (ASEAN Sectoral Mutual Recognition Arrangement for Building and Construction Materials) | อก. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างข้อตกลงยอมรับร่วมรายสาขาสำหรับวัสดุอาคารและสิ่งก่อสร้างของอาเซียน (ASEAN Sectoral Mutual Recognition Arrangement for
Building and Construction Materials) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการยอมรับผลการทดสอบหรือการรับรองผลิตภัณฑ์วัสดุอาคารและสิ่งก่อสร้างที่ออกโดยหน่วยตรวจสอบรับรองที่ได้รับการขึ้นบัญชีในประเทศสมาชิกอาเซียน
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายอื่นลงนามในร่างข้อตกลงฯ
ดังกล่าว และเมื่อลงนามแล้วให้กระทรวงอุตสาหกรรมส่งข้อตกลงฯ ดังกล่าว ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
แล้วเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันต่อไป ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ (เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการเสนอหนังสือสัญญาตามบทบัญญัติมาตรา
๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย) ๓.
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างข้อตกลงฯ
ดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทยให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๔.
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแจ้งต่อสำนักเลขาธิการอาเซียนว่า
ประเทศไทยพร้อมที่จะให้ข้อตกลงดังกล่าวมีผลผูกพัน
เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบข้อตกลงดังกล่าวแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7992 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องทำความสะอาดใช้ความดันสูงและเครื่องทำความสะอาดใช้ไอน้ำต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องทำความสะอาดใช้ความดันสูงและเครื่องทำความสะอาดใช้ไอน้ำต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องทำความสะอาดใช้ความดันสูงและเครื่องทำความสะอาดใช้ไอน้ำต้องเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม
ความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นที่คล้ายกัน
เล่ม ๒ (๗๙)
ข้อกำหนดเฉพาะกาลสำหรับเครื่องทำความสะอาดใช้ความดันสูงและเครื่องทำความสะอาดใช้ไอน้ำ
มาตรฐานเลขที่ มอก.๖๐๓๓๕ เล่ม ๒ (๗๙)-๒๕๖๓ เพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
มีความปลอดภัย และสอดคล้องกับสภาพอุตสาหกรรมปัจจุบัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7993 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2564 | นร.11 สศช | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ๒๕๖๔
เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ โครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐
ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ของสำนักงานประกันสังคม
กระทรวงแรงงาน กรอบวงเงินจำนวน ๓๓,๔๗๑.๐๐๕๐ ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงาน/โครงการกลุ่มที่
๒ เพื่อช่วยเหลือเยียวยา บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐
ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๕ ฉบับที่
๒๘ และฉบับที่ ๓๐) ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวม ๒๙ จังหวัด ทั้งนี้
เห็นควรให้สำนักงานประกันสังคม รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ โดยให้เร่งดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ได้รับความช่วยเหลือตามเป้าหมาย
พิจารณาดำเนินการต่าง ๆ ให้สามารถโอนเงินให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา
๓๙ และมาตรา ๔๐ ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน ๑๐ จังหวัดก่อน กำหนดเงื่อนไขของกลุ่มเป้าหมายตามโครงการฯ
โดยเฉพาะในส่วนของผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา ๔๐ เพิ่มเติม
จัดทำข้อเสนอขยายระยะเวลาให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-๑๙
ในพื้นที่ ๑๓ จังหวัด การดำเนินโครงการนี้ทำให้มีประชาชนเข้าร่วมเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา
๔๐ จำนวนเพิ่มขึ้น จึงควรต้องประมาณการภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นให้ชัดเจน
พร้อมทั้งติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน
กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ไปดำเนินการโดยเคร่งครัด
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้กระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม)
รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการต่าง
ๆ โดยใช้วงเงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด สร้างความรับรู้และความเข้าใจในมาตรการที่ถูกต้องให้กับประชาชน
รวมทั้งดำเนินการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการภายใต้มาตรการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
พร้อมทั้งเผยแพร่ผลการดำเนินงานให้ความช่วยเหลือแก่สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลอย่างถูกต้องและทั่วถึงเป็นระยะ
ๆ ต่อไป ตลอดจนประชาสัมพันธ์เรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนประเภทต่าง ๆ
เพื่อจูงใจให้ผู้ประกันตนอยู่ในระบบประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
(เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7994 | ร่างแถลงข่าวร่วมสำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย – ญี่ปุ่น ครั้งที่ 5 | กต. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแถลงข่าวร่วมสำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย–ญี่ปุ่น
ครั้งที่ ๕ เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม
๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล
มีสาระสำคัญเป็นการสอดประสานความร่วมมือระหว่างโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว
(BCG Economy) ของไทยกับยุทธศาสตร์การเติบโตสีเขียวของญี่ปุ่น ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน
การพัฒนาอุตสาหกรรม และการส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
ความร่วมมือเพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยง การพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และสาธารณสุข
เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพซึ่งรวมถึงระบบขนส่งในไทยผ่านโครงการพัฒนาเส้นทางรางสำคัญและโครงการด้านคมนาคมอื่น
ๆ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงข่าวร่วมสำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-ญี่ปุ่น
ครั้งที่ ๕ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7995 | ขอความเห็นชอบการกู้เงินในประเทศเพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาวใหม่ ปี 2564 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | มท. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
(กฟภ.) กู้เงินในประเทศเพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาวใหม่
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวน ๗ แผนงานภายในกรอบวงเงินรวม ๑๓,๓๙๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๒๗/๙๕๙๗ ลงวันที่ ๑๖
เมษายน ๒๕๖๔) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ นร ๑๑๒๔/๑๔๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๔) โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณารูปแบบการจัดหาเงินกู้ในประเทศ
และให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบและหลักเกณฑ์อื่น
ๆ ที่เกี่ยวข้อง และกำหนดมาตรการการบริหารจัดการให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
คำนึงถึงความคุ้มค่า ประโยชน์ที่จะได้รับ ความสามารถในการชำระหนี้
และการกระจายการชำระหนี้ที่เหมาะสม รวมทั้งดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรา ๔๙
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7996 | การแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการอ่างเก็บน้ำแม่มอก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดลำปาง | กษ. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) จ่ายเงินชดเชยให้แก่ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำแม่หมอก
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดลำปาง
จากการเข้าทำประโยชน์ในแปลงจัดสรรที่ดินไม่ได้ จำนวน ๑๐๓ ราย ในอัตรา ๒๐,๐๐๐ บาทต่อราย
ตามความเห็นของคณะกรรมการร่วมระหว่างภาคราชการและผู้แทนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการของรัฐ
ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ แนวทางที่ ๒
ที่ให้มีการเยียวยาตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ที่ อ.๕๖๔/๒๕๖๐ ในส่วนของการกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้กรมชลประทานพิจารณาให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยให้เริ่มนับระยะเวลาการคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันถัดจากวันที่ราษฎรยื่นคำร้องเรียนไปจนกว่าจะชำระเงินค่าชดเชยเสร็จสิ้น ๒. เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการการตรวจสอบและกำกับดูแลการจ่ายเงิน
รวม ๑๔ราย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานกรรมการ
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรคำนึงถึงขั้นตอน
ระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และควรเตรียมมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินการด้วย
ให้กรมชลประทานดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
ควรมีการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (เกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยคราวต่อไปหากมี)
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม
๒๕๖๔ (เรื่อง
ขออนุมัติจ่ายเงินค่าทดแทนให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายหัวนา)
ที่กำหนดให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานของรัฐในกรณีต่าง
ๆ รวมทั้งกำหนดประเภทและวิธีการคำนวณอัตราค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน
และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วต่อไป
โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าควรเร่งจัดทำหลักเกณฑ์
เงื่อนไข
และวิธีการเยียวยาความเดือดร้อนหรือเสียหายให้แก่ประชาชนที่เกิดจากการดำเนินโครงการของรัฐ
ตามขั้นตอนของกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
และจะต้องคำนึงถึงความเป็นธรรม การไม่เลือกปฏิบัติ มีความโปร่งใส และตรวจสอบได้
ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7997 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3/2564 | นร.04 | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน
๒๕๖๔ และให้ส่วนราชการรับประเด็นและมติที่ประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย ๔ ประเด็น
ดังนี้ (๑) การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
ควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและลดมลพิษจากยานพาหนะต่าง ๆ
การศึกษาการนำเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยมาใช้จัดการมลพิษทางอากาศ
และเร่งสร้างความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน (๒) การสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า
ควรนำเสนอความก้าวหน้าการดำเนินการส่งเสริมเรื่องเรือไฟฟ้า
ประเด็นหัวจ่ายประจุไฟฟ้าที่ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว (๓)
การเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายข้อมูลข่าวสาร ได้แก่
การขยายโครงการอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคมในพื้นที่ และ (๔)
แผนงานและผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ รวม ๔ คณะ เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7998 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ 28/2564 | นร.11 สศช | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๒๘/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังปรับลดกรอบวงเงินโครงการเราชนะ
เพื่อให้สอดคล้องกับผลการดำเนินโครงการ อนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม
ปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา
๓๓ ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข็มงวด
และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อนุมัติให้จังหวัดลำพูน
ปรับลดกิจกรรมสร้างแปลงเรียนรู้เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารในชุมชน
(แปลงเรียนรู้ด้านปศุสัตว์) ภายใต้โครงการขยายผลการดำเนินงานเกษตรกรรม อนุมัติให้จังหวัดยุติหรือยกเลิกโครงการของจังหวัดที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมจำนวน ๘ โครงการ
และมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ เร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ
เช่น ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการปรับปรุงแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงินกู้รายเดือน/รายสัปดาห์ให้เป็นปัจจุบัน
ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการดำเนินโครงการต่าง ๆ
โดยใช้วงเงินตามพระราชกำหนดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และเร่งคืนกรอบวงเงินกู้ให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
และเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด
ตลอดจนเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
และให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้
เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับอย่างยั่งยืน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7999 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วงเงิน ๗,๘๐๓.๗๑๘ ล้านบาท เพื่อนำไปชำระค่าเชื้อเพลิง
ค่าเหมาซ่อม และเป็นเงินสดหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน
โดยให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้และกำหนดรายละเอียดต่าง
ๆในการกู้เงิน ซึ่งการกู้เงินของ ขสมก.
ในครั้งนี้จะสามารถทำให้ประหยัดดอกเบี้ยค้างชำระได้ปีละ ๒๓๒.๕๙๔ ล้านบาท
หรือร้อยละ ๘๕.๒๙ ต่อปี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคม
(องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ให้ ขสมก.
เร่งทบทวนแนวทางการปฏิรูปและจัดทำร่างแผนการฟื้นฟูกิจการ ขสมก. (ฉบับปรับปรุงใหม่)
ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ให้รัฐบาลชดเชยผลขาดทุนรายปีให้แก่ ขสมก. ตามพระราชกฤษีกาจัดตั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
พ.ศ. ๒๕๑๙ มาตรา ๑๑ ตามจำนวนเท่าที่จำเป็น
รวมถึงดอกเบี้ยที่เกิดจากการกู้เพื่อชดเชยผลขาดทุนดังกล่าว
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8000 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยโดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศกับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ | กต. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศถอนเรื่อง การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยโดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศกับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์
คืนไปได้
|