ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 398 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 7941 - 7960 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7941 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (1. นายชาตรี สุวรรณิน) | นร. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จำนวน ๘ คน ตามมาตรา ๙
แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔)
เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) เสนอ
ดังนี้ ๑. นายชาตรี สุวรรณิน ผู้ทรงคุณวุฒิภาควิชาการ ๒. นายไชยา ยิ้มวิไล ผู้ทรงคุณวุฒิภาควิชาการ ๓. นายพรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ผู้ทรงคุณวุฒิภาควิชาการ ๔. พลอากาศตรี อิทธพร คณะเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิภาควิชาการ ๕.
นางชูเนตร ศรีเสาวชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาชน ๖. ว่าที่ร้อยตรี
ถวัลย์ รุยาพร ผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาชน ๗. นายประวิทย์
จิตนราพงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิภาคผู้ประกอบธุรกิจ
|
||||||||||||||||||||||||
7942 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | กษ. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองสำโรง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสามพาด เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในท้องที่ตามร่างกฎกระทรวง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ และเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบความถูกต้องของชื่อท้องที่การปกครองและแนวเขตการปกครองท้องที่ ตลอดจนตรวจสอบพื้นที่และจุดยึดโยงต่าง ๆ ให้ถูกต้อง รวมทั้งแก้ไขชื่อผู้มีอำนาจลงนามให้เป็นปัจจุบันก่อนประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
7943 | ร่างตารางข้อผูกพันสาขาบริการโทรคมนาคมของไทยรอบอุรุกวัย ฉบับปรับปรุง ภายใต้องค์การการค้าโลก (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้เเทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2564)) | ปสส. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอร่างตารางข้อผูกพันสาขาบริการโทรคมนาคมของไทยรอบอุรุกวัย ฉบับปรับปรุง ภายใต้องค์การการค้าโลก ต่อรัฐสภาเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
7944 | ผลการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจของเอเปค (APEC Business Advisory Council: ABAC) และการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ประจำปี 2021 (Ministers Responsible for Trade Meeting 2021) | พณ. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจของเอเปค
และการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ประจำปี ๒๐๒๑ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการกระชุมฯ
ไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าต่อไป โดยนิวซีแลนด์ได้จัดการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจของเอเปค
เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๔ และการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ประจำปี ๒๐๒๑ เมื่อวันที่
๕ มิถุนายน ๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว สรุปได้ ดังนี้ (๑) การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจของเอเปค
ได้เน้นย้ำเรื่องการกระจายการฉีดวัคซีนโควิด-๑๙
ที่มีคุณภาพให้แก่ประชาชนในเอเปคอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม (๒) การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค
ประจำปี ๒๐๒๑ มีการแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นการสนับสนุนความร่วมมือในการรับมือโควิด-๑๙
ในระดับภูมิภาคและระบบการค้าพหุภาคี และ (๓) รัฐมนตรีการค้าเอเปคได้ร่วมรับรองแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีการค้าเอเปค
ประจำปี ๒๕๖๔ แถลงการณ์เอเปคเรื่องห่วงโซ่อุปทานวัคซีนโควิด-๑๙ และแถลงการณ์เอเปคเรื่องการบริการเพื่อสนับสนุนการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีความจำเป็น
โดยมีการปรับเปลี่ยนถ้อยคำแต่ไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ มิถุนายน
๒๕๖๔) เห็นชอบ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงพลังงาน ที่เห็นควรมีการติดตามอย่างใกล้ชิดถึงแนวทางการปรับปรุงรายการสินค้าสิ่งแวดล้อมตามพิกัดศุลกากรระบบฮาร์โมไนซ์
ติดตามประเด็นที่เกี่ยวข้องจากการประชุมอย่างใกล้ชิด
และหารือถึงการบูรณาการกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ครบถ้วนก่อนดำเนินการในระยะต่อไป
และควรพิจารณาถึงความจำเป็นของประเทศไทยที่ยังต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
และยังคงมีการดำเนินนโยบายการอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิลในบางกรณีเป็นการเฉพาะเจาะจง
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเฉพาะกลุ่ม
ในช่วงที่เกิดสถานการณ์วิกฤติที่จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน
โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
7945 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 | ทส. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
สรุปได้ ดังนี้ ๑. การสนับสนุนเงินอุดหนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อม
เพื่อการบริหารจัดการไฟป่าและหมอกควัน ๒.
รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จำนวน ๒ โครงการ ได้แก่ ๑) โครงการทางหลวงพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี
ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และ ๒) โครงการทางหลวงแนวใหม่ระหว่างทางหลวงพิเศษหมายเลข
๙ ด้านตะวันตก-จุดตัดทางหลวงหมายเลข ๓๔๗-จุดตัดทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙
ด้านตะวันออก-ทางหลวงหมายเลข ๓๕๒ ของกรมทางหลวง ๓.
มาตรการยกระดับแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง
เนื่องจากในพื้นที่ภาคเหนือและหลายจังหวัดยังคงมีฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐาน และมีแนวโน้มของจำนวนจุดความร้อนสะสมเพิ่มขึ้น ๔.
การปรับปรุงมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากที่ดินจัดสรร
เพื่อให้มาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากที่ดินจัดสรรมีการบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพตามหลักมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วน ๕.
การกำหนดมาตรฐานค่าก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอนจากท่อไอเสียของรถจักรยานยนต์
โดยเป็นการรวมประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดค่ามาตรฐานค่าก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอนจากท่อไอเสียของรถจักรยานยนต์
จำนวน ๓ ฉบับ ให้เป็นฉบับเดียว เพื่อให้สะดวกต่อการนำไปใช้แต่ยังคงสาระสำคัญของค่ามาตรฐานฯ
ไว้ดังเดิม
|
||||||||||||||||||||||||
7946 | งบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 | ยธ. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบงบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะทางการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งผ่านการรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว
โดยงบการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
7947 | ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 31) | สลค. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อกำหนดออกตามความในมาตรา
๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๑)
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๙) ลงวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
(กำหนดมาตรการห้ามผู้ใดเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์
หรือสิ่งอื่นใดที่มีข้อความอันทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารในเขตพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน)
เนื่องจากศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้ระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
นอกจากนี้ ในทางปฏิบัติยังไม่ได้บังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวและเจ้าหน้าที่อาจนำมาตรการทางกฎหมายอื่นมาบังคับใช้ได้
โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
7948 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ศบค.) ครั้งที่ 12/2564 | นร. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19)
(ศบค.) ครั้งที่ ๑๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ
ได้แก่ (๑) การผ่อนผันการจัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร การประชุมร่วมกันของรัฐสภา
และผ่อนผันการเคลื่อนย้ายในห้วงเวลาการห้ามออกนอกเคหะสถาน (๒) การรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19
(๓) มาตรการป้องกันควบคุมในพื้นที่เฉพาะ (Bubble & Seal) และโครงการนำร่องการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน (Factory
Sandbox) (๔) แผนการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (๕) การรับความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุขจากต่างประเทศ (๖)
การประเมินผลการปราบปรามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 (๗)
มาตรการควบคุมสำหรับการเดินทางเข้าออกทางน้ำ เฉพาะกรณีเรือที่ไม่มีสัญชาติไทย
เพื่อภารกิจเกี่ยวกับการปิโตรเลียม ภารกิจอื่นใดบนยานพาหนะหรือสิ่งปลูกสร้างในทะเล
(๘) การเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเชื่อมต่อจังหวัดนำร่อง (๙)
แนวทางการประชาสัมพันธ์ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และ (๑๐) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
7949 | การพัฒนาระบบนิเวศทางกฎหมายเพื่อเร่งรัดให้เกิด Digital government | นร.09 | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการพัฒนาระบบนิเวศทางกฎหมายเพื่อเร่งรัดให้เกิด
Digital government ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
ดังนี้ ๑.
จัดทำร่างพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การยื่นคำขอหรือติดต่อใด ๆ
ระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของรัฐ
การติดต่อราชการระหว่างหน่วยงานของรัฐด้วยกันและระหว่างเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานของรัฐ
สามารถทำโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ซึ่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ๒. จัดทำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๔ (ระเบียบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์)
และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔ แล้ว
และหน่วยงานของรัฐต้องใช้อีเมลในการสื่อสารเป็นหลักตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๔
เป็นต้นไป ๓. ปรับปรุงกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันเพื่อให้ภาคเอกชนสามารถดำเนินงานทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
โดยตรวจสอบกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันที่เป็นปัญหาอุปสรรคสำหรับภาคเอกชนที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินกิจกรรม ๔.
ปรับปรุงวิธีการเขียนกฎกระทรวงและกฎหมายลำดับรองอื่นให้หน่วยงานของรัฐให้บริการแก่ประชาชนโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักตามมาตรา
๘ และมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๘
ได้กำหนดแนวทางการเขียนกฎกระทรวงและกฎหมายลำดับรองอื่นให้ดำเนินการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักมาตั้งแต่วันที่
๙ กรกฎาคม ๒๕๖๓ และปัจจุบันกฎหมายลำดับรองระดับกฎกระทรวงที่ผ่านการพิจารณาทั้งหมด
๗๕ ฉบับ รองรับการดำเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ๕.
จัดทำระบบกลางกฎหมายเพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มเกี่ยวกับกฎหมายที่ให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ
(One
stop service) แก่หน่วยงานของรัฐและประชาชน ตั้งแต่วันที่ ๒ สิงหาคม
๒๕๖๔ แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
7950 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบริการสุขภาพปฐมภูมิ (Primary Health Care) ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา | สว. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบริการสุขภาพปฐมภูมิ
(Primary Health Care)
ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้มีการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่าการจัดทำแผนปฏิบัติการระบบสุขภาพปฐมภูมิ (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๓)
ตามพระราชบัญญัติระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. ๒๕๖๒
เพื่อกำหนดทิศทางและนโยบายระบบสุขภาพปฐมภูมิให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ
และอยู่ระหว่างจัดตั้ง “กองทุนสนับสนุนระบบสุขภาพปฐมภูมิ” และได้ดำเนินการเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ
เช่น พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ในระบบสุขภาพปฐมภูมิ
พัฒนาศักยภาพแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญในระบบสุขภาพปฐมภูมิ เป็นต้น
นอกจากนี้
กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
พ.ศ. ๒๕๔๒ อยู่แล้ว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวให้มีความเหมาะสมมากขึ้นต่อไป
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
7951 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อลดผลกระทบจากการพนันออนไลน์ในเด็กและเยาวชน ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา | สว. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อลดผลกระทบจากการพนันออนไลน์ในเด็กและเยาวชน
ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ
และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า ภาครัฐจำเป็นต้องกำหนดนโยบาย มาตรการ
และป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวของการพนันออนไลน์
ผลักดันให้เกิดกลไกในการกำกับของรัฐในรูปแบบคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงาน
สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงาน ซึ่งได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ จัดทำแอปพลิเคชัน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาให้ผู้ประสบปัญหาเกี่ยวกับการพนันออนไลน์
ประกอบกับพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีปัจจุบัน
อีกทั้งยังขาดหน่วยงานหลักที่เป็นหน่วยงานประสานงานให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดประสิทธิภาพ
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
7952 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม 2564) | ปสส. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา
ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับให้บุคคลสูญหาย
พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกกฎหมายบางฉบับที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่น
พ.ศ. .... และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓
ครั้งที่ ๑๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันพุธที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔
ครั้งที่ ๑๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๔
และครั้งที่ ๑๓ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ ๒๐ สิงหาคม
๒๕๖๔ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
7953 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนกรกฎาคม 2564 | นร.11 สศช | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนกรกฎาคม
๒๕๖๔ ซึ่งมีผลการการดำเนินงานที่สำคัญ
ได้แก่ (๑) ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
(๒) ความก้าวหน้าแผนการปฏิรูปประเทศ (๓) การติดตาม ตรวจสอบ และการประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ (๔) การสร้างการตระหนักรู้ ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของภาคีต่าง ๆ
ต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และแผนการปฏิรูปประเทศ และ (๕)
ประเด็นที่ควรเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ คือ
การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
7954 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุม ครั้งที่ 5/2564 | นร.11 สศช | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุม
ครั้งที่ ๕/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม
๒๕๖๔ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการและกระทรวงต้นสังกัดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างคุ้มค่า
มีประสิทธิภาพ และบรรลุผลสัมฤทธิ์ของโครงการตามที่กำหนดไว้
ให้กระทรวงต้นสังกัดกำกับดูแลให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด
และติดตามการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์
และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ให้ครบถ้วนถูกต้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเหมาะสมของค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติ
ซึ่งจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ อัตราค่าใช้จ่าย และมาตรฐานของทางราชการอย่างประหยัด โดยใช้วงเงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้การดำเนินโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย
เพิ่มเติม ๒๐,๐๐๑,๑๕๐ โดส (PFizer) ให้กระทรวงสาธารณสุข (กรมควบคุมโรค)
ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนร่วมดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ให้อยู่ในวงจำกัดโดยเร็วที่สุด
โดยเร่งกระจายวัคซีนให้รวดเร็ว เป็นระบบ ทั่วถึง โปร่งใส และเป็นธรรม
รวมทั้งให้สร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนให้มีความพร้อมในการเข้ารับการฉีดวัคซีนและป้องกันโรคในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ให้เผยแพร่ข้อมูลผลการดำเนินงานดังกล่าวสู่สาธารณชนให้ชัดเจนและทั่วถึงด้วย ๓. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||
7955 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 29/2564 | นร.11 สศช | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบมติของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุม ครั้งที่ ๒๙/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๔ ในส่วนของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากครั้งที่
รวม ๒๓ จังหวัด จำนวน ๒,๑๑๗
โครงการ กรอบวงเงิน ๖,๑๗๐,๖๔๗,๙๑๕ บาท ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้กระทรวงมหาดไทย
(สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย) ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป ๒. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ ๒๙/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม
๒๕๖๔ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการและกระทรวงต้นสังกัดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ
และบรรลุผลสัมฤทธิ์ของโครงการตามที่กำหนดไว้
ให้กระทรวงต้นสังกัดกำกับดูแลให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด
และติดตามการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด สำหรับการบริหารจัดการภาระหนี้ภายใต้พระราชกำหนดฯ
นั้นกระทรวงการคลังจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
อย่างเคร่งครัด และหน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเร่งคืนกรอบวงเงินกู้ให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
และเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานและแผนเบิกจ่ายตลอดจนให้ความสำคัญกับระบบติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้
ในส่วนของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ ๑
ให้เป็นไปตามข้อ ๑ ๓. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||
7956 | การมอบหมายผู้แทน (proxy) ของไทย ในการประชุมใหญ่สหภาพสากลไปรษณีย์ สมัยที่ 27 | ดศ. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการมอบอำนาจให้ประเทศมาเลเซียทำหน้าที่แทนประเทศไทย (proxy) ในการลงคะแนนเสียงแบบ Secret Vote เฉพาะในกรณีการลงมติเลือกตั้งตำแหน่งสำคัญต่าง
ๆ ทั้งเลขาธิการและรองเลขาธิการ UPU สมาชิกสภาบริหาร (CA) และสมาชิกสภาปฏิบัติการไปรษณีย์ (POC) แบบ Secret Ballot รวมทั้งการลงมติในข้อมติต่าง ๆ ที่เป็นแบบ
Secret Vote ในระหว่างการประชุมสหภาพสากลไปรษณีย์ สมัยที่ ๒๗
และให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการทาบทามและออกหนังสือมอบอำนาจเป็นผู้แทน (proxy) ของประเทศไทย
เพื่อมอบอำนาจให้ประเทศมาเลเซียในการเข้าร่วมการประชุมใหญ่สหภาพสากลไปรษณีย์
สมัยที่ ๒๗ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ๓. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||
7957 | ขออนุมัติปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณจากรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่ได้กันเงินไว้และไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทัน มาดำเนินรายการค่าซื้อที่ดิน ค่าทดแทน ค่ารื้อย้ายในการจัดหาที่ดินเพื่อการชลประทาน | กษ. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้กรมชลประทานปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณจากรายการที่ได้มีการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
และได้กันเงินไว้ตามระเบียบเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินจากคลัง (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓)
ที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ จำนวน ๑๑ รายการ วงเงินรวม
๒๖๖,๙๔๑,๐๑๖.๐๐ บาท มาดำเนินการในงบลงทุน ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง รายการค่าซื้อที่ดิน
ค่าทดแทน ค่ารื้อย้ายในการจัดหาที่ดิน จำนวน ๑๑ รายการ วงเงินรวม ๒๖๖,๙๔๑,๐๑๖.๐๐ บาท
โดยให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การบริหารวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับรายการผูกพันข้ามปี
และค่าใช้จ่ายรายการค่าซื้อที่ดิน ค่าทดแทน ค่ารื้อย้ายในการจัดหาที่ดิน
เพื่อการชลประทานดังกล่าว ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โอนงบประมาณรายจ่าย
โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร หรือเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี
แล้วแต่กรณี ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(กรมชลประทาน) รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ โดยให้นำมติคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ และ/หรือ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พร้อมเงื่อนไขประกอบการเห็นชอบไปประกอบการดำเนินงานโครงการทั้งในระยะก่อสร้างและระยะดำเนินการอย่างเคร่งครัดไปพิจารณาด้วย ๒. ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในระยะต่อไป ให้กระทรวงเกษตรมละสหกรณ์
(กรมชลประทาน)ดำเนินการตามมติเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง การตรวจสอบและจัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ)
หรือโครงการพิจารณาความจำเป็น เหมาะสม คุ้มค่า
ตลอดจนตรวจสอบและจัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการนั้น ๆ
อย่างละเอียด รอบคอบ ให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติก่อน
เพื่อให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการได้อย่างบรรลุผล
เป็นไปตามเป้าหมายและกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||
7958 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมความร่วมมือระดับสูงระหว่างไทย-มณฑลกวางตุ้ง ครั้งที่ 1 | กต. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบและอนุมัติร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมความร่วมมือระดับสูงระหว่างไทย-มณฑลกวางตุ้ง ครั้งที่ ๑ (Outcome Document of the
Fish Meeting of the Guangdong-Thailand
High-Level Cooperation Conference) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ ๒๕ สิงหาคม
๒๕๖๔ ซึ่งร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ มีสาระสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านเศรษฐกิจ
สิ่งแวดล้อม ตลอดจนความร่วมมือในการรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ กับผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้ง
สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าควรพิจารณาเพิ่มเติมประเด็นการสนับสนุนการลงทุนของวิสาหกิจขนาดกลาง
ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) ของภาคเอกชนมณฑลกวางตุ้งในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนของประเทศไทย
เพื่อให้ร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ มีความครอบคลุมมากขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมความร่วมมือระดับสูงระหว่างไทย-มณฑลกวางตุ้ง
ครั้งที่ ๑
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||
7959 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม 2564)] | ปสส. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราบการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
7960 | วันอาสาสมัครสากล (International Volunteer Day : IVD) | พม. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบแนวทางการจัดงานวันอาสาสมัครสากลของประเทศไทยในทุกปี
โดยในส่วนของการกำหนดจัดกิจกรรมในปี ๒๕๖๔
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอแนะของกระทรวงสาธารณสุข
โดยควรจะกำหนดระหว่างวันที่ ๑-๕ ธันวาคม ๒๕๖๔ ทั้งนี้ ภายใต้สถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว
สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
และหน่วยงานย่อยที่ประสงค์จะจัดงานเชิดชูเกียรติอาสาสมัคร หากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ยังแพร่กระจาย ควรจัดในรูปแบบออนไลน์ หรือเผยแพร่เกียรติภูมิทางสื่ออินเทอร์เน็ตเป็นหลัก
และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมวันอาสาสมัครสากลดังกล่าว ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับภาคเครือข่ายและองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมดังกล่าว
เพื่อลดภาระงบประมาณ โดยพิจารณาเป้าหมายผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่จะได้รับ และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้รับผิดชอบหลักร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศในกิจกรรมต่าง
ๆ รวมทั้งเชิญชวนและประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานต่าง ๆ จัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสดังกล่าวด้วย |