ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 880 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 17581 - 17600 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
17581 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยกับกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีรับสัญญาณต่อเนื่องถาวรแบบบูรณาการ | วท | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กับกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (Ministry of Land, Infrastructure, Transport and Tourism : MLIT) เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีรับสัญญาณต่อเนื่องถาวรแบบบูรณาการ [Memorandum of Cooperation between the Ministry of Land, Infrastructure, Transport and Tourism of Japan and the Ministry of Science and technology of the Kingdom of Thailand on Development of Integrated CORS (Continuously Operating Reference Stations) Infrastructure] มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินความร่วมมือด้านระบบดาวเทียมนำทาง (Global Navigation Satellite System : GNSS) ในประเทศไทย และการขยายความร่วมมือเชิงลึกในด้านนี้ระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสังคมสารสนเทศขั้นสูงโดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ โดยเป็นความร่วมมือเกี่ยวกับ (๑) การจัดตั้งศูนย์บูรณาการข้อมูลกลาง (๒) การติตตั้งเครือข่ายสถานีระบบดาวเทียมนำทางรับสัญญานต่อเนื่องถาวร และ (๓) การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านระบบดาวเทียมนำทาง ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกข้อตกลงฯ ในโอกาสการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และคณะ ในระหว่างวันที่ ๔-๘ มิถุนายน ๒๕๖๐ ณ ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกข้อตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดจากความร่วมมือดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ เห็นควรให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรไว้แล้ว โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณและเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17582 | ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | นร07 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว พร้อมเอกสารประกอบงบประมาณ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นเรื่องด่วนต่อไป ๒. ให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17583 | การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | นร07 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๕๐ ท่าน ประกอบด้วย (๑) กรรมาธิการที่คณะรัฐมนตรีเสนอชื่อจำนวนไม่เกิน ๑ ใน ๕ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ หรือจำนวนไม่เกิน ๑๐ ท่าน และ (๒) กรรมาธิการในสัดส่วนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๔๐ ท่าน ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17584 | ผลการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย | คค | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงเพิ่มเติมว่า ร่างสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่กระทรวงคมนาคมเสนอในครั้งนี้ คณะกรรมการตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายถูกต้อง ครบถ้วน รวมทั้งได้พิจารณาแก้ไขสัญญาฯ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง ผลการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย) เรียบร้อยแล้ว จึงอยู่ในอำนาจของคณะรัฐมนตรีที่จะพิจารณาเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาฯ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอได้ ๒. เห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาฯ และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีในลักษณะการก่อหนี้ผูกพันข้ามปี ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรค ๔ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เรื่อง หลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยสามารถก่อหนี้ผูกพันล่วงหน้าเกินกว่า ๕ ปีได้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๓. ให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยรับความเห็นของสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อาทิ การเร่งจัดทำแผนการส่งมอบพื้นที่และมีกลไกในการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามแผนดังกล่าว การพิจารณาแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารและการกำหนดอัตราค่าโดยสารของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ และโครงการอื่น ๆ ให้สอดคล้องกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้ระบบตั๋วร่วม (Common Ticket) และการใช้อัตราค่าโดยสารร่วม (Common Fare) ในอนาคตอันใกล้ การกำหนดกลไกการกำกับสัญญาให้ผู้รับสัมปทานมีการลงทุนจัดหาและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและรถไฟฟ้า รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานตลอดอายุโครงการเป็นไปตามสมมติฐานที่ได้ประมาณการไว้ในเอกสารข้อเสนอของผู้รับสัมปทาน และการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพของระดับการให้บริการในแต่ละด้านที่ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๔. ให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการที่รับผิดชอบดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ๕. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17585 | ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2560 | นร07 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบการกำหนดระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๐ ขึ้นเป็นการเฉพาะ แยกออกจากระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นเกิดความชัดเจนในการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ซึ่งสำนักงบประมาณได้ดำเนินการเวียนแจ้งส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบและถือปฏิบัติแล้ว และมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ๒.๑ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติกรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น) ในส่วนของข้อ ๑ ๒.๒ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง แนวทางการเสนอเรื่องงบประมาณต่อคณะรัฐมนตรี) ในส่วนของข้อ ๑ และ ๒ ๒.๓ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง ขอความเห็นชอบหลักการกรณีที่องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานที่ไม่อยู่ภายใต้กำกับของฝ่ายบริหาร เสนอเรื่องขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้สำนักงบประมาณพิจารณาดำเนินการ) ๒.๔ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับขั้นตอนการขออนุมัติงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ องค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ หรือหน่วยงานที่ไม่อยู่ในบังคับบัญชาหรือกำกับของฝ่ายบริหาร)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17586 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ) (จำนวน 9 ราย 1. นายอำนาจ วิชยานุวัติ ฯลฯ) | ศธ | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๙ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. นายอำนาจ วิชยานุวัติ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางเสาวนีย์ พนัสสรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางปัทมา วีระวานิช ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นางสาวดุริยา อมตวิวัฒน์ ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค ๑๓ (อุบลราชธานี) สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายศรีชัย พรประชาธรรม ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค ๑๕ (เชียงใหม่) สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นางสาวอุษณีย์ ธโนศวรรย์ ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค ๒ (ลพบุรี) สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายชาญ ตันติธรรมถาวร ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค ๗ (ภูเก็ต) สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายณรงค์ แผ้วพลสง ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๙. นางอรสา ภาววิมล ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17587 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่ง (นายวิริยะ อุปัติศฤงค์) | ดศ | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิริยะ อุปัติศฤงค์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ แทน นายธีระ อภัยวงศ์ ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ ๗๐ ปีบริบูรณ์ เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๐ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17588 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง [ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พลตำรวจเอก สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล)] | พม | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง พลตำรวจเอก สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17589 | แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา | นร04 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ตามมาตรา ๒๖๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จำนวน ๒๕ คน และมีสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา โดยให้คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษามีอำนาจหน้าที่ รวมจำนวน ๘ ข้อ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ๒. ในการเสนอแนวทางการปฏิรูปการศึกษาของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาต้องมีการหารือร่วมกันกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในทางปฏิบัติก่อนเสนอรัฐบาล/คณะรัฐมนตรี โดยต้องให้ได้ข้อยุติที่มีความเห็นชอบร่วมกัน และต้องนำไปปฏิบัติได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17590 | ผลการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) | นร04 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการ ของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ของกระทรวงการต่างประเทศ ตามคำเชิญของนายสมดี ดวงดี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเงิน สปป.ลาว มีวัตถุประสงค์เพื่อสานต่อความร่วมมือทวิภาคีในสาขาต่าง ๆ รวมทั้งผลักดันนโยบายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงด้านต่าง ๆ ทั้งระดับทวิภาคีและอนุภูมิภาค ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ การส่งเสริมการค้าและการลงทุน การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค (Connectivity) ความร่วมมือด้านพลังงาน การส่งเสริมการท่องเที่ยวข้ามแดนไทย-ลาว การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) การเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย-ลาว ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ และกองทุนตามโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา และแผนยุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจไทย-ลาว (ระยะ ๕ ปี) ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการปฏิบัติตามผลการหารือข้างต้นในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป รวมทั้งให้นำข้อมูลผลการหารือไปใช้ประโยชน์ในการประสานงาน/การเจรจาต่อรองกับประเทศคู่ภาคีให้เหมาะสมภายใต้หลักการผลประโยชน์ต่างตอบแทนที่ต้องการพัฒนาประเทศให้เจริญเติบโตไปพร้อม ๆ กัน ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17591 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก อำนาจ อันอาตม์งาม) | นร04 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง พลตำรวจเอก อำนาจ อันอาตม์งาม เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17592 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 32/2560 และครั้งที่ 33/2560 | นร | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๓๒/๒๕๖๐ วันพฤหัสบดีที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๐ และครั้งที่ ๓๓/๒๕๖๐ วันศุกร์ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17593 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านต่างประเทศ ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา รวมทั้งประเด็นอื่นที่สำคัญ เช่น กรณีผลการจัดสถานะประเทศไทยตามกฎหมายการค้าสหรัฐอเมริกา มาตรา ๓๐๑ พิเศษ การแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การจัดตั้งอนุกรรมการด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้า เพื่อให้นายกรัฐมนตรีนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประกอบการหารือกับฝ่ายสหรัฐอเมริกาในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนกรกฎาคมต่อไป ทั้งนี้ ให้นำเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว ๒. ด้านเศรษฐกิจ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการรวบรวมงานวิจัยต่าง ๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดการดำเนินการในเชิงพาณิชย์หรือนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งพิจารณาแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ทำให้ไม่สามารถนำงานวิจัยดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้ นั้น ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมโดยด่วน เพื่อให้สามารถดำเนินการขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๖๐ และรองรับการเข้าสู่ประเทศไทย ๔.๐ ต่อไป ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการกำหนดมาตรการในการกำจัดขยะมูลฝอยให้สอดคล้องตามแนวทางประชารัฐ นั้น ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยเร่งพิจารณากำหนดมาตรการดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และนำเสนอนายกรัฐมนตรีภายใน ๑ เดือน รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานครเร่งดำเนินการกำจัดขยะในระบบระบายน้ำในพื้นที่รับผิดชอบให้หมดไปโดยเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาขยะอุดตันช่องทางระบายน้ำและป้องกันปัญหาน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่เมื่อเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ให้ดำเนินการสร้างความรู้ ความเข้าใจกับประชาชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้ความร่วมมือในการเก็บและกำจัดขยะให้ถูกต้อง เหมาะสม เป็นไปตามมาตรการที่กำหนดดังกล่าว ๓.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนการอพยพประชาชนจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งการเตรียมพื้นที่แก้มลิงรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาจากภาคเหนือลงสู่ตอนกลางของประเทศ ตลอดจนเตรียมการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการเกิดน้ำท่วมด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยศึกษาแผนบริหารจัดการน้ำของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อใช้ประกอบการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในแต่ละพื้นที่ต่อไป ๓.๓ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๐ มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาปรับหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนให้ครอบคลุมถึงเรื่องการส่งเสริมการอ่านและการสร้างจิตสำนึก นั้น ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณานำหนังสือและสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาสาระเป็นการให้มุมมอง แง่คิด ข้อเตือนใจ หลักการในการประพฤติ ปฏิบัติ และการดำรงตนที่ถูกต้องเหมาะสม เช่น หนังสือสุภาษิต ปรัชญา มาเป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการเรียนการสอนด้วย เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและการพัฒนาตนเองต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17594 | ขอความเห็นชอบในการจัดทำบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มผู้ใช้เครื่องบิน Gripen ฉบับใหม่ | กห | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงกลาโหมจัดทำบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มผู้ใช้เครื่องบิน Gripen ฉบับใหม่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลการใช้งานเครื่องบิน Gripen และระบบอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อก่อให้เกิดความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศสมาชิกทั้งในทางยุทธศาสตร์และทางเทคนิค โดยการนำบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับปี ๒๕๕๓ มาปรับปรุงแก้ไขให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับผลการประชุมระดับผู้บัญชาการทหารอากาศของกลุ่มผู้ใช้เครื่องบิน Gripen (Gripen User’s Group Air Chief Conference 2016) เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ซึ่งมีมติให้รับกองทัพอากาศสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิลเข้าเป็นสมาชิก รวมทั้งปรับแก้ไขข้อความบางส่วนให้มีความถูกต้องเหมาะสม ๑.๒ ให้ผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นผู้ร่วมลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรแก้ไขชื่อของประเทศบราซิลที่ปรากฏในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ให้เป็นชื่อทางการที่ถูกต้องคือ Federative Republic of Brazil (สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล) และเห็นว่าร่างบันทึกความเข้าใจฯ เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนการดำเนินการลงนาม แต่ไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ วรรคสองของรัฐธรรมนูญฯ ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17595 | ขออนุมัติขยายกรอบวงเงินงบประมาณและระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองแม่สอดพร้อมสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ 2 จังหวัดตาก ของกรมทางหลวง | คค | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติขยายกรอบวงเงินงบประมาณโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองแม่สอดพร้อมสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ ๒ จังหวัดตาก ของกรมทางหลวง จากวงเงินเดิม ๓,๙๐๐ ล้านบาท ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๘ เป็นวงเงิน ๔,๒๖๗.๕๗๐๐ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการงานก่อสร้างอาคารด่าน BORDER CONTROL FACLITIES (BCF) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-พ.ศ. ๒๕๖๒ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑,๑๘๗.๕๖๖๘ ล้านบาท เป็นกรณีเฉพาะราย ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑.๓ สำหรับงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ กรมทางหลวงได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-พ.ศ. ๒๕๖๐ ไว้แล้ว จำนวน ๓,๒๙๒ ล้านบาท โดยสำนักงบประมาณได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ รองรับไว้แล้ว จำนวน ๑๒๗ ล้านบาท ส่วนที่ขาดอีก จำนวน ๘๔๘.๕๗๐๐ ล้านบาท ให้กรมทางหลวงเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ๑.๔ ให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามนัยระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประชาชนที่จะได้รับเป็นสำคัญด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประสานกับเมียนมาในการพิจารณาหารือรูปแบบและแนวทางที่จะเปิดใช้ทางเลี่ยงเมืองและสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ ๒ ที่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จไปพลางก่อนในช่วงที่ยังอยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารด่าน BCF เพื่อรองรับการเดินทางและขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างไทยกับเมียนมาในแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) ซึ่งจะช่วยให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ในการริเริ่มแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ในอนาคต ให้กระทรวงคมนาคมถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ) อย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17596 | การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม | นร10 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติการเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ในกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ตามที่ฝ่ายเลขานุการร่วม คปร. เสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติจัดสรรอัตราข้าราชการตั้งใหม่ตำแหน่งนักวิชาการยุติธรรม ระดับปฏิบัติการหรือชำนาญการ จำนวน ๑๐ อัตรา ในกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อรองรับภารกิจการจัดทำรายงานการปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (International Covenant on Economic, Social and Cultural Rights : ICESCR) สำหรับตำแหน่งที่ขอรับการจัดสรรอีก ๑๐ อัตรา เพื่อปฏิบัติงานตามพันธกรณี ซึ่งเป็นภารกิจหลักของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เห็นควรให้นำไปพิจารณารวมกับการวิเคราะห์อัตรากำลังข้าราชการเพื่อรองรับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ในภาพรวมของกระทรวงยุติธรรม ๑.๒ เห็นชอบให้นำผลการพิจารณากรอบอัตรากำลังพนักงานราชการกลุ่มงานเชี่ยวชาญเฉพาะ จำนวน ๒ อัตรา เสนอคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.) พิจารณาอนุมัติต่อไป ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ไปดำเนินการ ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17597 | กาารดำเนินการเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2560 | นร | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบการดำเนินการเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ณ วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และนายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบมอบหมายคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้ว จำนวน ๙ เรื่อง ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) ประธานกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ แผนการขับเคลื่อนการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ๑.๒ การจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าไม้และการเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศ : มาตรการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ร่างพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. .... ๑.๓ นำร่องเมืองข้าว : จังหวัดกาฬสินธุ์ Rice City Pilot Project : Kalasin Province ๑.๔ การปฏิรูประบบนิเวศและการลงทุนในเศรษฐกิจกระแสใหม่ ๑.๕ การจัดการข้าวโดยระบบสหกรณ์ ๑.๖ การวางแผนกำลังคนภาครัฐเชิงยุทธศาสตร์ ๑.๗ การปฏิรูประบบที่พักแรมและข้อมูลคนเข้าเมือง ๑.๘ การส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลไม้โตเร็วเพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้กับเกษตรกร สร้างป่าและเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน ๑.๙ ข้อเสนอประเด็นสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่ตำแหน่งกำนัน วาระการดำรงตำแหน่งกำนัน และการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน และร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการพิจารณาขับเคลื่อนการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17598 | ผลการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย | คค | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงเพิ่มเติมว่า ร่างสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่กระทรวงคมนาคมเสนอในครั้งนี้ คณะกรรมการตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายถูกต้อง ครบถ้วน รวมทั้งได้พิจารณาแก้ไขสัญญาฯ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง ผลการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย) เรียบร้อยแล้ว จึงอยู่ในอำนาจของคณะรัฐมนตรีที่จะพิจารณาเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาฯ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอได้ ๒. เห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาฯ และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีในลักษณะการก่อหนี้ผูกพันข้ามปี ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรค ๔ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เรื่อง หลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยสามารถก่อหนี้ผูกพันล่วงหน้าเกินกว่า ๕ ปีได้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๓. ให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยรับความเห็นของสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อาทิ การเร่งจัดทำแผนการส่งมอบพื้นที่และมีกลไกในการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามแผนดังกล่าว การพิจารณาแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารและการกำหนดอัตราค่าโดยสารของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ และโครงการอื่น ๆ ให้สอดคล้องกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้ระบบตั๋วร่วม (Common Ticket) และการใช้อัตราค่าโดยสารร่วม (Common Fare) ในอนาคตอันใกล้ การกำหนดกลไกการกำกับสัญญาให้ผู้รับสัมปทานมีการลงทุนจัดหาและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและรถไฟฟ้า รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานตลอดอายุโครงการเป็นไปตามสมมติฐานที่ได้ประมาณการไว้ในเอกสารข้อเสนอของผู้รับสัมปทาน และการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพของระดับการให้บริการในแต่ละด้านที่ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๔. ให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการที่รับผิดชอบดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ๕. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17599 | การเปลี่ยนโฆษกประจำกระทรวงวัฒนธรรม | วธ | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเปลี่ยนแปลงโฆษกประจำกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งแต่งตั้งให้ นางพิมพ์กาญจน์ ชัยจิตร์สกุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม แทน นางสาววิมลลักษณ์ ชูชาติ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นรองโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม แทน นายวิโรจน์ ใจอารีรอบ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ทั้งนี้ ตามคำสั่งกระทรวงวัฒนธรรม ที่ ๙๑/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17600 | ขออนุมัติเช่ารถยนต์นั่งส่วนกลาง | กษ | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เช่ารถยนต์นั่งส่วนกลาง จำนวน ๕ คัน ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๕ วงเงินทั้งสิ้น ๕,๕๓๕,๐๐๐ บาท โดยเห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๓๖๙,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ จำนวน ๕,๑๖๖,๐๐๐ บาท ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕ ตามขั้นตอนให้สอดคล้องกับวงเงินตามสัญญาต่อไป ทั้งนี้ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า และประโยชน์ของทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
.....