ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 846 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 16901 - 16920 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16901 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559 เพื่อขอขยายกรอบระยะเวลาการดำเนินงานของแผนปฏิบัติการโครงการตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) | อื่นๆ | 05/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๙ (เรื่อง ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เรื่อง การแก้ไขปัญหาเกษตรกรผู้ยากจนและไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง) โดยขยายกรอบระยะเวลาดำเนินงานของแผนปฏิบัติการโครงการตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (บจธ.) ที่คณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ได้มีมติให้ความเห็นชอบแผนการดำเนินงานและงบประมาณแล้ว จากเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ เป็นต่อเนื่องจนถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๖๑ จำนวน ๓ โครงการ งบประมาณรวมทั้งสิ้น จำนวน ๔๒๖,๗๙๕,๘๑๑ บาท ได้แก่ (๑) โครงการต้นแบบการบริหารจัดการที่ดินแบบครบวงจร งบประมาณ ๒๔๙,๑๙๕,๑๑๓ บาท (๒) โครงการแก้ไขปัญหาเกษตรกรและผู้ยากจนซึ่งมีปัญหาจะสูญเสียสิทธิในที่ดินจากปัญหาการจำนองและขายฝาก งบประมาณ ๑๓๔,๖๖๐,๒๑๓ บาท และ (๓) โครงการนำร่องธนาคารที่ดินในพื้นที่นำร่อง ๕ ชุมชน งบประมาณ ๔๒,๙๔๐,๔๘๕ บาท ตามที่ บจธ. เสนอ ๒. ให้ บจธ. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ บจธ. เร่งรัดดำเนินการตามแผนปฏิบัติการให้แล้วเสร็จเป็นไปตามแผนที่วางไว้และรายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบเมื่อเสร็จสิ้นในแต่ละโครงการ และควรพิจารณาถึงความยั่งยืนทางการเงินในการแก้ไขปัญหาเกษตรกรและผู้ยากจนซึ่งมีปัญหาจะสูญเสียสิทธิในที่ดินจากการจำนองและขายฝากและโครงการนำร่องธนาคารที่ดินในพื้นที่นำร่อง ๕ ชุมชนด้วย รวมทั้งควรมีระบบกำกับ ติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายและระยะเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ บจธ. ควรปรับปรุงแผนปฏิบัติ กิจกรรม และงบประมาณสำหรับการดำเนินงานในปี ๒๕๖๑ ให้เป็นไปตามระบบงบประมาณปกติ โดยโครงการของ บจธ. ที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานควรบูรณาการการดำเนินงานกับโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนภายใต้ คทช. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมที่ดิน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดกระบวนการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนให้ บจธ. สามารถดำเนินการได้บรรลุตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด เช่น กระบวนการจัดทำรังวัดที่ดิน เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16902 | ร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. .... | ศธ | 05/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ โดยปรับปรุงโครงสร้างบัญชีเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จากเดิมที่ใช้แบบ “ขั้นเงินเดือน” มาเป็น “บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูง” และปรับเปลี่ยนการเลื่อนเงินเดือนแบบ “ขั้นเงินเดือน” มาเป็น “ช่วง (ร้อยละ)” แทน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นควรปรับปรุงถ้อยคำในร่าง กฎ ก.ค.ศ. ข้อ ๗ วรรคสอง เป็น “การเลื่อนเงินเดือนให้คำนวณจากฐานในการคำนวณของอันดับเงินเดือนของตำแหน่งหรือวิทยฐานะที่ดำรงอยู่” เพื่อให้สอดคล้องกับร่างฐานในการคำนวณและช่วงเงินเดือนสำหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละอันดับของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16903 | รัฐบาลมาเลเซียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งมาเลเซียประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายโจจี แซมูเอล เอ็มซี แซมูเอล (Mr. Jojie Samuel MC Samuel)] | กต | 05/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นาย โจจี แซมูเอล เอ็มซี แซมูเอล (Mr. Jojie Samuel MC Samuel) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งมาเลเซียประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน ดาโต๊ะนาซีระห์ บินตี ฮุสซัยน์ (Dato’ Nazirah binti Hussain) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16904 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ) | สธ | 05/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานวิจัยทางคลินิก กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ๒. นายสมควร หาญพัฒนชัยกูร ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านควบคุมป้องกันโรค (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) (ด้านเวชกรรมป้องกัน) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ๓. นางสาววรรณา หาญเชาว์วรกุล ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน สาขาระบาดวิทยา) สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๙
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16905 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวม 4 ฉบับ | นร09 | 05/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวม ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานสถิติแห่งชาติ และกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16906 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบริเวณโดยรอบมหาวิทยาลัยพะเยา จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... | มท | 05/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบริเวณโดยรอบมหาวิทยาลัยพะเยา จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลแม่นาเรือ ตำบลแม่ใส และตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา เพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นควรยกเลิกการใช้บัญชีกำหนดประเภทและจำพวกโรงงานท้ายกฎกระทรวงบังคับใช้ผังเมืองรวม/เมือง/ชุมชน และจัดทำข้อกำหนดที่ยืดหยุ่นทดแทนบัญชีโรงงานท้ายกฎกระทรวงฯ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้เพิ่มประเภทและขนาดของโรงงานในร่างกฎกระทรวงฯ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่มีน้ำเสียและขยะ รวมทั้งควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแลและควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ อย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16907 | การประชุมคณะรัฐมนตรี (วันอังคารที่ 5 กันยายน 2560) | นร | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีแจ้งว่า จะเดินทางไปร่วมการประชุมระหว่างผู้นำประเทศกลุ่ม BRICS กับประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา (EMERGING Markets and Developing Countries Dialogue : EMDCD) ในช่วงการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ ๙ ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๔-๕ กันยายน ๒๕๖๐ ดังนั้น การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๐ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) จะทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมแทน ทั้งนี้ ตามนัยคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๑๙/๒๕๕๘ เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน ลงวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16908 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน รวม 2 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ ตำบลท้อแท้ อำเภอวัดโบสถ์ และตำบลมะขามสูง ตำบลบ้านป่า อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตสำรวจการจัดการที่ดิน พ.ศ. ....) | กษ | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดินเพื่อดำเนินโครงการจัดรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท้อแท้ อำเภอวัดโบสถ์ และตำบลมะขามสูง ตำบลบ้านป่า อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่างาม ตำบลวัดโบสถ์ ตำบลท้อแท้ อำเภอวัดโบสถ์ และตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมพัฒนาที่ดิน และกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกรมชลประทานในการสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากที่ดินที่ได้รับจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยพัฒนาเกษตรกรให้มีศักยภาพ รู้จักเทคโนโลยีในการผลิตและทำการเกษตรแผนใหม่ ส่งเสริมให้มีการเพาะปลูกพืชที่มีมูลค่าสูงอย่างครบวงจรตั้งแต่การผลิต การแปรรูป การผลิตและการตลาด รวมทั้งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน และคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลางให้ความสำคัญกับการดำเนินการจัดรูปที่ดิน ตั้งแต่เริ่มโครงการอย่างเคร่งครัดทุกขั้นตอน และวางแผนการดำเนินการอย่างรอบคอบโดยเฉพาะกระบวนการมีส่วนร่วม เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาห้าปีที่กำหนดในพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๘ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16909 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน | ทส | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน โดยเมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ ได้มีการเปิดโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน มีจังหวัดดำเนินโครงการ จำนวน ๖๖ จังหวัด ซึ่งได้ปลูกต้นไม้รวมทั้งสิ้น ๓๒๖,๖๘๕ ต้น ในเนื้อที่รวมทั้งสิ้น ๑,๖๕๒ ไร่ ในส่วนของกรุงเทพมหานครได้จัดกิจกรรมโครงการฯ เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ โดยปลูกต้นไม้ยืนต้น ได้แก่ รวงผึ้ง เสลา และทองอุไร จำนวน ๑,๑๕๘ ต้น บริเวณถนนตัดใหม่ เริ่มจากแยกจรัญสนิทวงศ์-ถนนกาญจนาภิเษก รวมเป็นระยะทางทั้งสิ้น ๗ กิโลเมตร สำหรับจังหวัดอื่น ๆ จำนวน ๑๐ จังหวัด อยู่ระหว่างการเตรียมการดำเนินโครงการ ฯ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16910 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายในการบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลกำลังคนอาชีวศึกษา (www.v-cop.net) ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายในการบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลกำลังคนอาชีวศึกษา (www.v-cop.net) โดยกระทรวงศึกษาธิการได้จัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ประชุมได้เสนอแนวทางการบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลกำลังคนอาชีวศึกษาดังกล่าวควรมีการบูรณาการงบประมาณในการจัดเก็บฐานข้อมูลระบบ Cloud และมี Server บางส่วนอยู่ที่สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และควรมีการจัดทำแผนพัฒนาสารสนเทศและกำลังคนอาชีวศึกษาที่มีศักยภาพ สมบูรณ์ และต่อเนื่อง โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้จัดทำแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕) แล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการเชื่อมโยงฐานข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษาอาชีวศึกษากับฐานข้อมูลสถานประกอบการ และกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เพื่อใช้ฐานข้อมูลร่วมกันระหว่างหน่วยงาน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16911 | ขออนุมัติจัดทำและลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ | กต | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ (Agreement between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the Republic of El Salvador on Visa Exemption for Holders of Diplomatic and Official Passports) มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่รัฐของทั้งสองประเทศสามารถเดินทางเพื่อติดต่อประสานงานระหว่างกันได้สะดวกมากขึ้น โดยผู้ถือหนังสือเดินทางทูตหรือหนังสือราชการของทั้งสองประเทศจะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางเข้าไปยัง ออกจาก ผ่าน และพำนักในดินแดนของอีกฝ่าย ในกำหนดระยะเวลาไม่เกิน ๙๐ วัน นับจากวันที่เดินทางเข้าประเทศ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงนามในความตกลงฯ ระหว่างการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกรอบเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา ครั้งที่ ๘ (8th Foreign Ministers’ Meeting of the Forum for East Asia-Latin America Cooperation : FEALAC FMM 8) ที่นครปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทย (ในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๐) ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16912 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง นโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยียานไร้คนขับ หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ ของคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสารมวลชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสารมวลชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง นโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยียานไร้คนขับ หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยกับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ และของที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมีความเห็นเพิ่มเติม/ข้อเสนอแนะ รวม ๖ ประเด็น ได้แก่ (๑) การกำหนดนโยบายภาครัฐ (๒) การสร้างความตระหนัก (๓) การจัดหลักสูตรการศึกษา (๔) การปรับปรุงกฎหมายและออกกฎหมาย (๕) การพัฒนาโครงสร้างเพื่อการวิจัยและพัฒนา และ (๖) การจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุน ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16913 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายใต้ ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | คค | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายใต้ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลวังก์พง อำเภอปราณบุรี และตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสร้างทางและสะพานข้ามทางรถไฟ ตามโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายใต้ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16914 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการปฏิรูปโครงสร้างภาษีและระบบบริหารจัดเก็บเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของแผ่นดินของ คณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการปฏิรูปโครงสร้างภาษีและระบบบริหารจัดเก็บเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของแผ่นดิน โดยกระทรวงการคลังได้จัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปผลการพิจารณาได้ ดังนี้ (๑) เรื่องที่กระทรวงการคลังกำลังดำเนินการ และมีความเห็นสอดคล้องกับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ และ (๒) เรื่องที่กระทรวงการคลังเห็นว่า แนวทางการจัดเก็บภาษีในปัจจุบันมีความเหมาะสม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16915 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. .... | มท | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบางกระเจ็ด ตำบลหัวไทร ตำบลปากน้ำ ตำบลบางคล้า ตำบลท่าทองหลาง ตำบลบางสวน ตำบลสาวชะโงก ตำบลเสม็ดเหนือ ตำบลเสม็ดใต้ อำเภอบางคล้า ตำบลคลองเขื่อน และตำบลบางตลาด อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อประโยชน์ในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด โดยคำนึงถึงปริมาณน้ำต้นทุนและปริมาณการใช้น้ำ รวมทั้งการควบคุมการก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำในพื้นที่ และกำหนดแนวเขตปฏิรูปที่ดินพร้อมทั้งสัญลักษณ์สีแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไว้ในผังแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมถึงการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรม และพิจารณามิให้เป็นอุปสรรคต่อการจัดสร้างระบบรวบรวมหรือระบบบำบัด/กำจัดมลพิษ นอกจากนี้ ควรเพิ่มประเภทและขนาดของโรงงานในร่างกฎกระทรวงฯ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่และเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่มีน้ำเสียและขยะ และควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแล และควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16916 | รายงานสรุปผลการเข้าร่วมประชุม ASEAN-Japan Health Ministers Meeting on Universal Health Coverage (UHC) and Population Ageing และการลงนามบันทึกความร่วมมือสาขาการดูแลสุขภาพระหว่างกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ประเทศญี่ปุ่น กับกระทรวงสาธารณสุข ราชอาณาจักรไทย | สธ | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการเข้าร่วมประชุม ASEAN-Japan Health Ministers Meeting on Universal Health Coverage (UHC) and Population Ageing ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ณ ประเทศญี่ปุ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางใหม่และแนวทางปฏิบัติที่ดีในการผลักดันให้เกิดความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและวิถีชีวิตสูงวัยอย่างมีศักยภาพ โดยที่ประชุมฯ ได้มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนในประเด็นสำคัญ ๒ ประเด็น ได้แก่ (๑) การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และ (๒) การพัฒนาระบบสุขภาพสู่สังคมสูงอายุ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งได้ลงนามบันทึกความร่วมมือสาขาการดูแลสุขภาพระหว่างกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ประเทศญี่ปุ่น กับกระทรวงสาธารณสุข ราชอาณาจักรไทย มีสาระสำคัญเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือด้านสาธารณสุข และแสวงหาโอกาสในการส่งเสริมความร่วมมือสาขาการดูแลสุขภาพในประเด็นที่ทั้งสองประเทศมีความสนใจร่วมกัน เช่น หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การเตรียมการรองรับสังคมผู้สูงอายุ การป้องกันและรักษาโรคไม่ติดต่อ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16917 | รายงานผลการประชุม United Nations Conference to Support the Implementation of Sustainable Development Goal 14 | ทส | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประชุม United Nations Conference to Support the Implementation of Sustainable Development Goal 14 ระหว่างวันที่ ๕-๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การประชุมเต็มคณะ (Plenary Meeting) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กล่าวถ้อยแถลงโดยเน้นย้ำว่าประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ ๑๔ เรื่องทะเลและมหาสมุทร รวมทั้งได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิก UN ประชาคมระหว่างประเทศ ภาคประชาสังคม และผู้มีส่วนได้เสียร่วมกันอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรอย่างยั่งยืนเพื่อส่งต่อมรดกทางธรรมชาติให้แก่คนรุ่นต่อไป ทั้งนี้ ประเทศไทยได้เข้าร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม Our Ocean, Our Future : Call for Action เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน ๒. การประชุม Partnership Dialogues ประเทศไทยประกาศคำมั่นโดยสมัครใจ (Voluntary Commitment) จำนวน ๓ หัวข้อ ได้แก่ (๑) การประมงยั่งยืน (๒) มลพิษทางทะเล และ (๓) การบริหารจัดการ ปกป้อง และอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง ๓. ผลลัพธ์การประชุมที่สำคัญ เช่น ที่ประชุมเสนอแนวทางในการจัดการมลพิษทางทะเลโดยการพัฒนาและการใช้กระบวนการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งที่ประชุมหารือและตกลงร่วมกันที่จะยกระดับการจัดการประมงอย่างยั่งยืน เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16918 | รายงานสถานการณ์การใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | รง | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์การใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยเป็นการรายงานผลการดำเนินงานตาม ๕ ยุทธศาสตร์ของนโยบายและแผนระดับชาติเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้แก่ (๑) การป้องกันการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย เช่น การประชาสัมพันธ์เครือข่ายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหลอกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งในชุมชนและสถานศึกษา (๒) การช่วยเหลือและคุ้มครองแรงงานเด็กจากการทำงานในรูปแบบที่เลวร้าย เช่น จัดตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชนให้บริการและแนะนำการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการดำรงชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพ การสร้างความเข้มแข็งด้วยการเพิ่มรายได้ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล (๓) การพัฒนาและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น จัดอบรมให้ความรู้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อพัฒนาความรู้ของเจ้าหน้าที่เพื่อรองรับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ที่แก้ไขเพิ่มเติมปี พ.ศ. ๒๕๕๘ (๔) การพัฒนาความร่วมมือระหว่างองค์กรภาคีเครือข่าย เช่น สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทยได้กำหนดนโยบายสมาคมที่สมาชิกต้องปฏิบัติตามนโยบายหลักอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร การต่อต้าน IUU fishing และ (๕) การพัฒนาระบบบริหารจัดการและการติดตามประเมินผล ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เช่น ประชุมคณะทำงานเพื่อร่วมกันจัดทำและบูรณาการฐานข้อมูลการป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็ก ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16919 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. .... | มท | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้ประเทศละจำนวนไม่เกิน ๑๐๐ คน และคนต่างด้าวไร้สัญชาติจำนวนไม่เกิน ๕๐ คน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติที่ควรมีมาตรการติดตามหรือประเมินพฤติกรรมและความเป็นอยู่ของคนต่างด้าวที่ได้รับใบสำคัญถิ่นที่อยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การให้สถานะถิ่นที่อยู่แก่คนต่างด้าวดังกล่าวให้เป็นไปตามอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงผลประโยชน์และความมั่นคงโดยรวมของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16920 | การดำเนินการตามพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. 2558 (ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุด และการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน พ.ศ. .... ร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน เรื่อง รายชื่อหน่วยงานอื่นของรัฐ และร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียน) | กค | 29/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุดและการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน พ.ศ. .... และเห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน เรื่อง รายชื่อหน่วยงานอื่นของรัฐ และร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียน รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งมีความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ว่า ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุดไว้เป็นการเฉพาะแล้ว เช่น พระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรา ๒๖ “กองทุนต้องมีจำนวนเงินเพียงพอเพื่อใช้ในการบริหารจัดการกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซี่งเมื่อรวมกับเงินกู้ตามวรรคสองแล้วต้องไม่เกินจำนวนสี่หมื่นล้านบาท” ดังนั้น กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจึงมีการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุดไว้ที่สี่หมื่นล้านบาทเท่านั้น จะต้องจัดทำข้อมูลประกอบการคำนวณตามหลักเกณฑ์การกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุดไว้ตามมาตรา ๕ และกรนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามมาตรา ๖ หรือไม่ และการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุด ควรคำนึงถึงภาระผูกพันและนโยบายที่จะต้องปฏิบัติภารกิจตามแผนยุทธศาสตร์ เนื่องจากบางกองทุนมีภาระผูกพันตามสัญญาหรือหนังสือยืนยัน รวมทั้งรายจ่ายที่จะต้องจ่ายตามแผนยุทธศาสตร์ที่ได้อนุมัติไว้แล้วตามกรอบระยะเวลา ส่วนร่างประกาศกระทรวงการคลังฉบับนี้มีข้อสังเกตว่า การดำเนินภารกิจของแต่ละทุนหมุนเวียนต่างกัน และเป็นการดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์ ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และช่วยเหลือในการครองชีพ ประกอบกับกระทรวงการคลังมีอำนาจในการรวบรวมหรือยุบเลิกทุนหมุนเวียน หากพบว่าทุนหมุนเวียนนั้นมีวัตถุประสงค์ หรือทุนหมุนเวียนนั้นหยุดดำเนินการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรและไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องระบุระยะเวลาดำเนินการหรือเงื่อนไขในการยุบเลิกทุนหมุนเวียน ไปประกอบการตรวจพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. อนุมัติให้ถอนร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุดและการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียน เรื่อง การประกาศรายชื่อหน่วยงานอื่นของรัฐ และร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียน รวม ๓ ฉบับ ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป ๓. มอบหมายให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุดสำหรับไว้ใช้ในการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐในแต่ละปี ควรพิจารณาถึงภาระผูกพันของทุนหมุนเวียนตามข้อตกลง และหรือสัญญาที่มีกับหน่วยงานหรือบุคลากรภายนอกด้วย รวมทั้งควรกำหนดให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ในการใช้จ่ายเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณของทุนหมุนเวียนอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ทางราชการและประชาชนจะได้รับ เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการดำเนินงานของทุนหมุนเวียน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....