ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 849 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 16961 - 16980 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16961 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (นักบริหารสูง) ทดแทนข้าราชการที่ลาออกจากราชการ (นางสาวอมรวดี จักรไพวงศ์) | นร07 | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอมรวดี จักรไพวงศ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16962 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง (รวมทั้งสิ้น 3 ราย 1. นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ฯลฯ) | ศธ | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่างและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา ๒. นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ๓. นายบุญรักษ์ ยอดเพชร ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16963 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ | นร04 | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการแต่งตั้ง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นรองประธานกรรมการอีกคนหนึ่ง ๑.๒ เห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ หากยังได้ไม่ครบจำนวน ๑๗ คน อาจแต่งตั้งเพิ่มเติมได้ในโอกาสต่อไป ๑.๓ โดยที่รับบาลเคยกำหนดยุทธศาสตร์ชาติเบื้องต้นไว้แล้ว ๖ ด้านตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ และได้ใช้เป็นกรอบในการพัฒนาและการจัดทำงบประมาณรายจ่ายอยู่แล้ว ในขณะนี้ จึงควรเสนอแนะคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติแต่ละด้าน อย่างน้อย ๖ คณะ แต่ละคณะมีจำนวนกรรมการไม่เกิน ๑๕ คน เพื่อให้ครอบคลุมเขตเนื้อหายุทธศาสตร์ ๖ ด้านดังกล่าว ทั้งนี้ การแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติจะดำเนินการต่อไปภายใน ๓๐ วัน (๒๙ กันยายน ๒๕๖๐) ๑.๔ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ ที่ได้แต่งตั้งไว้แล้วตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๐ หรือจะแต่งตั้งเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติที่แต่งตั้งในครั้งนี้ ตลอดจนคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านต่าง ๆ และคณะอนุกรรมการของคณะกรรมการเหล่านี้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องสามารถเสนอแนะหรือต่อยอดงานที่รัฐบาลหรือหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐดำเนินการอยู่แล้วโดยไม่ขัดแย้งหรือซ้ำซ้อนกัน จึงให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องประสานงาน ให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการดังกล่าวด้วย ๑.๕ งบประมาณดำเนินการเกี่ยวกับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติให้ตั้งไว้ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือหน่วยงานซึ่งทำหน้าที่สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการนั้น ๆ แล้วแต่กรณี ๑.๖ สำหรับค่าตอบแทนคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดจนคณะอนุกรรมการฯ นั้น เดิมเคยมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราไว้แล้วในอัตราที่สูงกว่าคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ แต่เมื่อพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง สมควรทบทวนมติคณะรัฐมนตรีให้ค่าตอบแทนคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านต่าง ๆ และคณะอนุกรรมการของคณะกรรมการดังกล่าวอยู่ในอัตราเดียวกับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศและคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติให้เป็นไปตามอัตราที่กำหนดไว้เดิม ในกรณีค่าตอบแทนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และประโยชน์ตอบแทนอื่นตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ และพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทำความตกลงกับกระทรวงการคลังแล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ๒. รับทราบตามที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเห็นชอบมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเป็นประธานที่ประชุมร่วมกันของประธานกรรมการปฏิรูป และที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอเพิ่มเติมว่า โดยที่มาตรา ๑๗ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ บัญญัติให้มีการประชุมร่วมกันของประธานกรรมการปฏิรูปทุกคณะ เพื่อพิจารณาแผนการปฏิรูปประเทศแต่ละด้านให้เกิดการบูรณาการและสอดคล้องกับแผนแม่บท และดำเนินการอื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ โดยการประชุมร่วมกันครั้งแรกกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๐
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16964 | ขออนุมัติหลักการกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินการจัดงานพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (เพิ่มเติม) | นร07 | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการให้ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพิ่มเติม อีกจำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดงานพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลางฯ และขอทำความตกลงรายละเอียดค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16965 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ให้เป็นเขตสำรวจจัดรูปที่ดิน รวม 2 ฉบับ(ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ ตำบลท่าขาม ตำบลวัดโบสถ์ ตำบลท้อแท้ อำเภอวัดโบสถ์ และตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตสำรวจการจัดการที่ดิน พ.ศ. ....) | กษ | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดินเพื่อดำเนินโครงการจัดรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท้อแท้ อำเภอวัดโบสถ์ และตำบลมะขามสูง ตำบลบ้านป่า อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่างาม ตำบลวัดโบสถ์ ตำบลท้อแท้ อำเภอวัดโบสถ์ และตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมพัฒนาที่ดิน และกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกรมชลประทานในการสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากที่ดินที่ได้รับจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยพัฒนาเกษตรกรให้มีศักยภาพ รู้จักเทคโนโลยีในการผลิตและทำการเกษตรแผนใหม่ ส่งเสริมให้มีการเพาะปลูกพืชที่มีมูลค่าสูงอย่างครบวงจรตั้งแต่การผลิต การแปรรูป การผลิตและการตลาด รวมทั้งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน และคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลางให้ความสำคัญกับการดำเนินการจัดรูปที่ดิน ตั้งแต่เริ่มโครงการอย่างเคร่งครัดทุกขั้นตอน และวางแผนการดำเนินการอย่างรอบคอบโดยเฉพาะกระบวนการมีส่วนร่วม เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาห้าปีที่กำหนดในพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๘ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16966 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ....) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2560) | นร | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ เรื่อง ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ....) และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) รับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16967 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2560) | นร | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ เรื่อง ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .....] และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำกฎหมายลำดับรองในส่วนที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพื่อเสนอให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ประกอบการพิจารณา โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) รับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคระกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16968 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2560) | นร | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๓/๒๕๖๐ วันพฤหัสบดีที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ และครั้งที่ ๕๔/๒๕๖๐ วันศุกร์ที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๐ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) รับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16969 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการบริหาราหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ เรื่อง ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) รับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16970 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการกำกับให้สถาบันอาชีวศึกษาทุกจังหวัดทั่วประเทศจัดหลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพและช่างฝีมือในสาขาต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับความต้องการแรงงานในแต่ละพื้นที่ เพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้แก่ผู้ที่ไม่มีวุฒิการศึกษา ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานและเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ ทั้งนี้ ให้จัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อสร้างเครือข่ายและต่อยอดการพัฒนาฝีมือในอนาคตต่อไปด้วย ๑.๒ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลิตแรงงานในสาขาที่ต่างประเทศมีความต้องการ เช่น แม่ครัว คนเลี้ยงเด็ก คนดูแลคนชรา นั้น ให้กระทรวงแรงงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมการผลิตแรงงานมีฝีมือกลุ่มดังกล่าวเพื่อให้มีโอกาสไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะพ่อครัว แม่ครัว หรือลูกจ้างร้านอาหารไทยในต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมให้ร้านอาหารไทยในต่างประเทศสามารถประกอบอาหารที่มีคุณภาพและรสชาติที่มีความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ให้พิจารณาดำเนินการให้รวมถึงอาชีพการนวดแผนไทยด้วย โดยประสานงานกับกลุ่มองค์กรไม่แสวงหากำไร (NGO) ที่เกี่ยวข้องมาร่วมขับเคลื่อนการดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วด้วย ๑.๓ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ เห็นชอบในหลักการแนวทางดำเนินงานโครงการโคบาลบูรพา และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวบรรลุผลและได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดีแล้ว นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาขยายผลการดำเนินการโครงการในระยะต่อไปโดยให้พิจารณาคัดเลือกพื้นที่โครงการตลอดจนแนวทางการดำเนินการให้เหมาะสมสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ รวมทั้งความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ด้วย ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศเตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศในประเด็นต่าง ๆ เช่น รูปแบบการปฏิบัติงาน หน้าที่และความรับผิดชอบเพื่อให้การขับเคลื่อนงานตามพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ ๒๕๖๐ และพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ๒.๒ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมาย ว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อรองรับการใช้ประโยชน์ที่ดินที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้มาเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๑/๒๕๖๐ ทั้งนี้ ให้รายงานผลการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินโครงการต่าง ๆ เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยภายในเดือนมกราคม ๒๕๖๑ ให้สามารถเริ่มดำเนินโครงการระบายน้ำที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การจัดทำพื้นที่แก้มลิงเพิ่มเติม (๒) การผันน้ำระหว่างแม่น้ำหรือแหล่งน้ำต่าง ๆ เช่น การผันน้ำจากเขื่อนป่าสักไปยังอ่างเก็บน้ำลำตะคองซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อับฝน (๓) การสร้างหรือขยายเส้นทางระบายน้ำ เช่น โครงการคลองระบายน้ำหลาก บางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๔. ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (จังหวัดชลบุรีและเมืองพัทยา) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการดังนี้ ๔.๑ เร่งดำเนินการแก้ไขปรับปรุงถนนสายหลักที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหรือระบายน้ำไม่ทันภายในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและพัทยาเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในขณะฝนตก รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาวางแผนการระบายน้ำที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ต่อไป ๔.๒ พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการสร้างถนนเลียบชายทะเลเพิ่มเติมให้เชื่อมต่อกับถนนเลียบชายทะเลที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เป็นเส้นทางคมนาคมสายรองสำหรับการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความแออัดของการจราจรบนถนนสายหลัก ๕. ตามที่ส่วนราชการได้มีการจัดเตรียมข้อมูลสำหรับใช้ในการแถลงผลงานประจำปีของรัฐบาลนั้น ขอให้ส่วนราชการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันให้พร้อมในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ หากมีกำหนดการที่ชัดเจนและเหมาะสมแล้ว สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะได้ประสานแจ้งส่วนราชการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16971 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดระยอง พ.ศ. ....) | มท | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชัยนาท จังหวัดระยอง จังหวัดพิจิตร และจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชัยนาท พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดระยอง พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพิจิตร พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. .... ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดควบคุมการอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16972 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพิจิตร พ.ศ. ....) | มท | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชัยนาท จังหวัดระยอง จังหวัดพิจิตร และจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชัยนาท พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดระยอง พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพิจิตร พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. .... ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดควบคุมการอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16973 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. .... ) | มท | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชัยนาท จังหวัดระยอง จังหวัดพิจิตร และจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชัยนาท พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดระยอง พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพิจิตร พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. .... ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดควบคุมการอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16974 | ขออนุมัติจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (ประชานิเวศน์ 3) | พม | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติในหลักการการจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (ประชานิเวศน์ ๓) จำนวน ๕๕๖ หน่วย วงเงินลงทุนรวม ๔๖๔.๔๐ ล้านบาท ประกอบด้วยเงินกู้ภายในประเทศ จำนวน ๔๑๓.๘๒ ล้านบาท เงินรายได้ จำนวน ๕๐.๕๙ ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหาและเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ จำนวน ๔๑๓.๘๒ ล้านบาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ดำเนินโครงการได้เมื่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย กคช. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือกำหนดให้นิติบุคคลชุมชน กคช. จัดให้มีระบบขนส่งเพื่อขนส่งผู้อยู่อาศัยไปยังสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด และจัดเตรียมแผนการบริหารจัดการชุมชนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาพลักษณ์ตราสินค้าของ กคช. ในการพัฒนาที่พักอาศัยลักษณะผสมผสานกลุ่มรายได้ในอนาคต รวมทั้งควรควบคุมการขายโครงการฯ และการโอนลูกหนี้ในระยะที่กำหนด รวมถึงควบคุมค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการฯ อย่างรัดกุมเพื่อให้มีความคุ้มค่าในการลงทุน ตลอดจนให้ความสำคัญกับการคัดกรองลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้น้อยอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ลูกค้าที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ควรพิจารณาแนวทางการบริหารความเสี่ยงในกรณีไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และกำหนดเงื่อนไขการป้องกันการเก็งกำไรเพื่อให้โครงการฯ บรรลุเป้าหมายในการสนับสนุนผู้มีรายได้น้อยในการมีที่อยู่อาศัยใกล้เส้นทางรถไฟฟ้า ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และให้ดำเนินการเพิ่มเติมด้วย ดังนี้ ๒.๑ ในการดำเนินโครงการฯ ให้ กคช. คำนึงถึงความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริงและเหมาะสม เช่น สภาพ ขนาด และรูปแบบของที่อยู่อาศัย สภาพแวดล้อม และเส้นทางคมนาคม รวมทั้งความคุ้มค่าในการดำเนินการและการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานด้วย ๒.๒ ให้พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การซื้อ การบริหารโครงการ และการทำสัญญาซื้อขายให้รอบคอบ รัดกุม เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างแท้จริงและป้องกันการนำกรรมสิทธิ์ไปขายต่อหรือการเก็งกำไรของผู้ที่ต้องการแสวงประโยชน์ ๒.๓ ให้พิจารณาจัดสรรกำไรจากการดำเนินโครงการฯ อย่างน้อยร้อยละ ๓๐ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลังในโครงการอื่น ๆ ของ กคช. เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถมีที่อยู่อาศัยในเขตเมืองได้ในลักษณะเช่าหรือเช่าซื้อ และเพื่อเชื่อมโยงกับการดำเนินนโยบายอื่น ๆ ของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16975 | การนำแนวคิด Tech Visa ของสาธารณรัฐฝรั่งเศสมาปรับใช้กับประเทศไทย | กต | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามมติคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ ครั้งที่ ๙/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ ซึ่งมีมติเกี่ยวกับ (๑) มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ และงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (๒) รายงานความคืบหน้าการพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจแบบครบวงจร (Doing Business Portal) และ (๓) แนวทางการตรวจลงตราสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และบุคลากรจากต่างชาติ (SMART Visa) รวมทั้งเรื่อง การนำแนวคิด Tech Visa ของสาธารณรัฐฝรั่งเศสมาปรับใช้กับประเทศไทย ซึ่งมีแนวทางดำเนินการ ได้แก่ การกำหนดวีซ่าประเภทใหม่ การกำหนดกลุ่มบุคคลเป้าหมายตามสาขาที่ประเทศไทยต้องการ การกำหนดสิทธิประโยชน์ของกลุ่มบุคคลเป้าหมาย และการพัฒนา One Stop Service Center ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์เสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติดังกล่าวต่อไปด้วย ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในปี ๒๕๖๐ เพื่อให้สามารถเปิดให้เสนอขอ SMART Visa ได้ตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป ตามมติคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16976 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 22/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ชัยภูมิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ พ.ศ. ๒๕๕๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์และสาขาวิชาศิลปกรรมศาสตร์ เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16977 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองร้อยเอ็ด พ.ศ. .... | มท | 22/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองร้อยเอ็ด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลเหนือเมือง ตำบลในเมือง ตำบลดงลาน ตำบลรอบเมือง ตำบลขอนแก่น อำเภอเมืองร้อยเอ็ด และตำบลนิเวศน์ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเพิ่มประเภทโรงงาน เช่น โรงงานประเภท ๑๐๑ ปรับคุณภาพของเสียรวม โรงงานประเภท ๑๐๕ โรงงานคัดแยก ฝังกลบสิ่งปฏิกูล โรงงานประเภท ๑๐๖ โรงงานนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่โดยผ่านกรรมวิธีการผลิตทางอุตสาหกรรม และโรงงานประเภท ๘๘ โรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้า แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล ชีวภาพ และขยะชุมชน เป็นต้น รวมทั้งเห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแลและควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16978 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเมืองเพีย อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 22/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเมืองเพีย อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดินเพื่อดำเนินโครงการจัดรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประเมินผลการดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินและการนำที่สาธารณะไปจัดรูปที่ดินที่ผ่านมา โดยเฉพาะปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงและวางแผนการดำเนินงานในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16979 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน - สระบุรี - นครราชสีมา และสายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ของกรมทางหลวง | คค | 22/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ของกรมทางหลวง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินงานก่อสร้างงานโยธา (๑) สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ระยะทางรวม ๑๙๖ กิโลเมตร ลงนามในสัญญารวม ๔๐ สัญญา ผลงานก่อสร้างร้อยละ ๑๑.๕๙ เร็วกว่าแผนงานร้อยละ ๐.๓๒ (ตามแผนงานร้อยละ ๑๑.๒๗) และ (๒) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทางรวม ๙๖ กิโลเมตร ลงนามในสัญญารวม ๒๑ สัญญา อยู่ระหว่างรอลงนามในสัญญา ๔ สัญญา ผลงานก่อสร้างร้อยละ ๒.๕๔ ล่าช้ากว่าแผนร้อยละ ๖.๔๖ (ตามแผนงานร้อยละ ๙.๐๐) ๒. การบริหารจัดการและบำรุงรักษา (0peration and Maintenance) คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๐ เห็นชอบให้กรมทางหลวงดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี โดยเอกชนเป็นผู้ออกแบบและลงทุนค่าก่อสร้างงานระบบและองค์ประกอบอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่เอกชนลงทุนก่อสร้างรวมถึงรายได้ทั้งหมดจากค่าธรรมเนียมผ่านทาง และให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการทั้งหมด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16980 | ผลการดำเนินงานการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเนื่องจากพายุตาลัสและพายุเซินกา ครั้งที่ 1 | กษ | 22/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเนื่องจากพายุตาลัสและพายุเซินกา ครั้งที่ ๑ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๐ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ชี้แจงแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการ การช่วยเหลือเยียวยาฯ ผ่านระบบประชุมทางไกล (web conference) แก่จังหวัด ๒. เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีหนังสือแจ้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ เรื่อง การช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเนื่องจากพายุตาลัสและพายุเซินกา พร้อมทั้งแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการ การช่วยเหลือเยียวยาฯ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบเพื่อพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด ๓. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานพื้นที่ประสบอุทกภัย ช่วงภัยตั้งแต่วันที่ ๕ กรกฎาคม ถึง ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๐ จำนวน ๔๔จังหวัด ๔. จังหวัดที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ช่วงภัยตั้งแต่วันที่ ๕ กรกฎาคม ถึง ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๐ จำนวน ๓๓ จังหวัด ๕. สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการ การช่วยเหลือเยียวยาฯ ข้อมูล ณ วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๐ โดยมีจังหวัดประกาศให้เกษตรกรยื่นแบบความจำนง จำนวน ๕ จังหวัด อยู่ระหว่างเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามในการประกาศยื่นแบบความจำนง จำนวน ๒๒ จังหวัด และยังไม่ดำเนินการ ๖ จังหวัด
|
.....