ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 11 จากทั้งหมด 6222 หน้า แสดงรายการที่ 201 - 220 จากข้อมูลทั้งหมด 124426 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 201 | รายงานงบการเงินของกองทุนพัฒนายางพารา สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 ของการยางแห่งประเทศไทย | กษ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานงบการเงินของกองทุนพัฒนายางพารา
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ของการยางแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย
งบแสดงฐานะการเงิน และงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
เห็นว่ารายงานงบการเงินฯ
ดังกล่าวถูกต้องตามที่สมควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานรายงานทางการเงินและมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 202 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นเงินอุดหนุนค่าจัดการเรียนการสอน | ศธ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
จำนวน ๑,๗๕๓,๐๖๕,๒๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าจัดการเรียนการสอน
โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
โดยให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนทั่วไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
และให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน)
รับความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๐/๘๔๕๑
ลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๘) ที่เห็นควรให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนดำเนินการตรวจสอบข้อมูลจำนวนนักเรียนที่มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนรายการดังกล่าวให้ถูกต้องครบถ้วน
และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน คำนึงถึงความประหยัด
ความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 203 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 204 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของวุฒิสภา | สว. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 205 | รายงานผลการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม | สวส. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมได้ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๘ โดยคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม
๒๕๖๘ เห็นชอบแต่งตั้ง นายอัครพล ลีลาจินดามัย
ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยมีอัตรา เงินเดือน
๑๕๙,๐๐๐ บาท พร้อมทั้งเห็นชอบประโยชน์ตอบแทนอื่นที่จ่ายเป็นตัวเงินเป็นรายเดือนในอัตราร้อยละ
๒๕ ของเงินเดือนประจำ
และเห็นชอบสัญญาจ้างผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ทั้งนี้
ให้ดำรงตำแหน่งคราวละ ๔ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๘ เป็นต้นไป
ตามที่คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 206 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | ยธ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 207 | การประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และผลการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 16 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) | นร.11 สศช | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 208 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี รวม 3 ฉบับ (คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 278/2568–280/2568) | นร.04 | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๗๘/๒๕๖๘ เรื่อง
มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ลงวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๘ ๒. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๗๙/๒๕๖๘ เรื่อง
มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย
และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๘
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 209 | ร่างปฏิญญาบาหลีว่าด้วยข้อริเริ่มทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2568 (Bali Initiative Culture Declaration 2025) | วธ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 210 | การขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับสนับสนุนค่าชดเชยปฏิบัติการฉุกเฉิน | สธ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๐๕,๗๑๙,๔๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนค่าชดเชยปฏิบัติการฉุกเฉิน
โดยเบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ)
เสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๑๒/๘๔๕๓ ลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๘)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่าวงเงินที่ขออนุมัติเกินกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท
ให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี
โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล
แล้วแต่กรณี ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่าย งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ (๓)
และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ขอให้กองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน
โดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติจัดทำแผนการปฏิบัติการและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรจัดทำแผนการจัดสรรงบประมาณ
โดยพิจารณาจากข้อมูลสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณเพียงพอต่อการบริหารจัดการการแพทย์ฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 211 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพื้นบ้าน พ.ศ. .... | กษ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพื้นบ้าน
พ.ศ .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการประมงพื้นบ้าน
พ.ศ. ๒๕๕๙ และปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาออกใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต
รวมทั้งหลักเกณฑ์การแก้ไขรายการในใบอนุญาตให้เหมาะสมกับวิถีการทำการประมงพื้นบ้านในปัจจุบัน
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เห็นว่ากรณีทำการประมงพื้นบ้านในเขตอุทยานแห่งชาติ
ภายใต้โครงการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ตามมาตรา ๖๕ แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ ต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาต
ตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการเก็บหาหรือการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ตามฤดูกาลในเขตพื้นที่โครงการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
พ.ศ. ๒๕๖๗ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่ากรมประมงควรสร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรและเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มีความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนแนวปฏิบัติภายใต้ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
เพื่อให้การขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพื้นบ้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 212 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่นักเรียนและฟื้นฟูสถานศึกษา/หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม | ศธ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนทั้งสิ้น ๑๙๒,๐๐๕,๙๑๕ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูสถานศึกษา/หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
วาตภัยและดินโคลนถล่ม จำนวน ๙๕๘ รายการ ในพื้นที่ ๕๑ จังหวัด โดยเบิกจ่ายในงบลงทุนค่าครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้าง
๙๕๔ รายการ จำนวน ๑๘๘,๙๗๖,๙๐๐ บาท
และงบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป
รายการค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(ค่าเครื่องแบบนักเรียนและค่าอุปกรณ์การเรียน) จำนวน ๓,๐๒๙,๐๑๕ บาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๐/๘๘๘๐ ลงวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๘) ที่เห็นว่าวงเงินที่ขออนุมัติเกินกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท
ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล แล้วแต่กรณี
ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง การเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ (๓) และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอน
ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 213 | ร่างพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สกท. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงว่า ร่างพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ
เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเพื่อรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ
ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๘ [เรื่อง
แนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี
กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๗๐ (๔)] คณะรัฐมนตรีจึงสามารถพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ ๒.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยกำหนดให้คณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
มีอำนาจให้สิทธิและประโยชน์ในรูปแบบเครดิตภาษีและกำหนดกลไกในการคืนเครดิตภาษีที่เหลืออยู่ในรูปแบบเงินสดภายในระยะเวลาที่กำหนดนับจากวันที่กำหนด
รวมถึงขอรับจัดสรรงบประมาณที่จำเป็นและเพียงพอสำหรับการจ่ายคืนเครดิตภาษีที่เหลืออยู่ดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการบรรเทาผลกระทบจากมาตรการจัดเก็บภาษีส่วนเพิ่มเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศไทยเสียโอกาสในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
รวมทั้งเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนโดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่าการเพิ่มเติมเกี่ยวกับร่างมาตรา ๙ ที่กำหนดให้เพิ่มความเป็นวรรคสามของมาตรา
๒๙ ในกรณีที่กองทุนฯ
มีจำนวนเงินไม่เพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นไปตามวัตถุประสงค์และค่าภาระต่าง ๆ
ให้รัฐจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเข้าสมทบเท่าจำนวนที่จำเป็นนั้น เห็นว่ากองทุนฯ สามารถขอรับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากรัฐบาลได้อยู่แล้วตามมาตรา
๒๙ (๒) จึงไม่มีความจำเป็นต้องกำหนดความตามร่างมาตรา ๙ แต่อย่างใด ๓. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ ๔.
ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม เห็นว่า การจัดสรรงบประมาณให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
สำหรับการจ่ายคืนเครดิตภาษีที่เหลืออยู่ในรูปแบบเงินสด ควรเน้นการพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาวเป็นสำคัญ
และให้การดำเนินการเป็นไปตามหลักการของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 214 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 277/2568 | นร.04 | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่
๒๗๗/๒๕๖๘ เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง ลงวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๘
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 215 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้วาฬหลังค่อม (Megaptera novaeangliae) วาฬเบลนวิลล์ (Mesoplodon
densirostris) และโลมาริสโซ (Grampus griseus)
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิด
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ที่เห็นควรพิจารณาแจ้งเรื่องการเพิ่มสถานะความคุ้มครองสัตว์ป่าตามกฎหมายของประเทศไทยให้แก่สัตว์ทั้ง
๓ ชนิดพันธุ์ข้างต้น ให้ภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
(Convention on International Trade in Endangered
Species of Wild Fauna and Flora :
CITES) ได้รับทราบ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย
ทั้งยังเป็นการแสดงบทบาทที่แข็งขันของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 216 | ร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำหรับการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 30 (ASEAN Joint Statement on Climate Change to UNFCCC COP 30) | ทส. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 217 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรายการเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารกลางวัน ระดับประถมศึกษา และเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารเสริม (นม) | มท. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบประมาณทั้งสิ้น
๑,๖๗๔,๗๓๐,๑๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรายการเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารกลางวัน
ระดับประถมศึกษา และเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารเสริม
(นม) ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลนคร
เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และกรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุดที่ นร ๐๗๑๔/๗๘๗๘ ลงวันที่ ๕
สิงหาคม ๒๕๖๘)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณ
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงมหาดไทยควรเร่งรัดดำเนินการตามแผนบริหารจัดการโครงการให้อยู่ในกรอบระยะเวลาการภาคเรียนที่
๑ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๘ ซึ่งจะสิ้นสุดในห้วงเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายได้รับการสนับสนุนอาหารกลางวันและอาหารเสริม
(นม) อย่างครบถ้วนโดยคำนึงถึงการตรวจสอบข้อมูลจำนวนนักเรียนให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน
ตลอดจนการใช้งบประมาณอย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 218 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นเงินอุดหนุนโครงการอาหารเสริม (นม) | ศธ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๕๑,๗๓๐,๔๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการอาหารเสริม (นม)
โดยให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๐/๖๗๘๙ ลงวันที่ ๑
กรกฎาคม ๒๕๖๘)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงศึกษาธิการควรเร่งรัดดำเนินการตามแผนบริหารจัดการโครงการเพื่อให้นักเรียนในโรงเรียนเอกชนได้รับจัดสรรนมโรงเรียนครบตามมาตรฐาน
โดยคำนึงถึงการตรวจสอบข้อมูลจำนวนนักเรียนให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน
ตลอดจนการใช้งบประมาณอย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 219 | สรุปผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รอบที่ 1 | นร.01 | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ รอบที่ ๑ (ระหว่างวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ - ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๘) ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
มีสาระสำคัญ เช่น ๑.
การป้องกันและแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
พบว่า บางจังหวัดยังขาดแนวทางการติดตามผลการดำเนินการตามแผนการลดก๊าซเรือนกระจกในระดับจังหวัด
จึงมีข้อเสนอแนะ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
[องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)]
และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมควรจัดทำแพลตฟอร์มรายงานผลส่วนกลางและแจ้งให้จังหวัดนำไปใช้ในการติดตามและประเมินผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อเป็นข้อมูลภาพรวมของจังหวัด ๒. การขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ พบว่า
การดำเนินงาน ยังไม่ต่อเนื่องและซ้ำซ้อน
โดยอาจมีสาเหตุมาจากแผนการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานไม่มีความชัดเจน
จึงมีข้อเสนอแนะเห็นควรให้ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์
และการสร้างความสามัคคีปรองดอง
ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์เร่งรัดการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนนโยบายในระดับประเทศให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ควบคู่ไปกับการกำหนดแนวปฏิบัติในระดับพื้นที่ ๓. การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
และบุหรี่ไฟฟ้า พบว่า การดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดในจังหวัดต้นแบบนำร่อง
๑๐ จังหวัด ยังขาดแคลนชุดตรวจสารเสพติดและงบประมาณในการดำเนินงาน
และสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ขาดแคลนบุคลากรดำเนินงาน จึงมีข้อเสนอแนะให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(สำนักงาน ป.ป.ส.) เร่งรัดดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างชุดตรวจสารเสพติดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
รวมทั้ง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงาน ป.ป.ส.
ควรบูรณาการร่วมกันเพื่อพัฒนาระบบการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 220 | การขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าเงินเดือนและสวัสดิการของบุคลากรที่บรรจุใหม่ในสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2568 | มท. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบประมาณทั้งสิ้น
๕๗๓,๗๕๘,๕๖๙ บาท จัดสรรให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพื่อเป็นเงินเดือนและสวัสดิการของบุคลากรของสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ
๖๐ พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ -
๒๕๖๘ จำนวน ๕๕ จังหวัด ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข
สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณที่ นร ๐๗๑๔/๖๗๙๐ ลงวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงสาธารณสุข เห็นว่าการจัดสรรงบประมาณดังกล่าว
มีความจำเป็นและเป็นไปตามสิทธิสวัสดิการที่บุคลากรซึ่งถ่ายโอนตามภารกิจข้างต้น
ควรได้รับตามระเบียบกฎหมายอันจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
สอดคล้องตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ หมวด ๑ ข้อ ๕ (๔)
เป็นรายจ่ายที่ไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณแต่มีภารกิจจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ
และให้เป็นไปตามระเบียบตามนัยข้างต้น โดยเฉพาะหมวด ๔ การรายงาน
เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบอย่างเคร่งครัด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่าเพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนงบประมาณในระยะถัดไปและไม่ให้กระทบต่อการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศในภาพรวม
กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมแผนการจัดสรรงบประมาณเพื่อรองรับการถ่ายโอนการกิจดังกล่าวอย่างรอบคอบและเหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
