ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 108 จากทั้งหมด 6223 หน้า แสดงรายการที่ 2141 - 2160 จากข้อมูลทั้งหมด 124448 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 2141 | (ร่าง) แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2566 - 2569) | ยธ. | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้
๑.๑ เห็นชอบ (ร่าง) แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม ฉบับที่ ๔
(พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๙) ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากยุทธศาสตร์ที่ ๕
การขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมด้วยดิจิทัล
ของแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕)
เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายทิศทางการดำเนินงาน
และแนวทางประสานความร่วมมือในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมให้มีความต่อเนื่องเป็นระบบ
เชื่อมโยง และเกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างคุ้มค่า โดย (ร่าง) แผนแม่บทฯ
ที่เสนอในครั้งนี้มุ่งเน้นการพลิกโฉมของระบบบริการด้านยุติธรรมสู่ดิจิทัล (Digital
Transformation) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน
และการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในกระบวนการยุติธรรม
ในขณะที่ยุทธศาสตร์ที่ ๕
มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศระหว่างหน่วยงาน
๑.๒
ให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนแม่บทนี้ไปใช้เป็นกรอบทิศทางและแนวทางการดำเนินงาน
รวมทั้งใช้เป็นกรอบแนวทางจัดทำและเสนอคำของบประมาณของหน่วยงานตามห้วงระยะเวลาการบังคับใช้ของแผน
๑.๓
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณสนับสนุนโครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้อง
และสนับสนุนมิติการบริหารงานและเป้าหมายของ (ร่าง) แผนแม่บทฯ
และใช้เป็นแนวทางการจัดสรรงบประมาณแก่หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามห้วงระยะเวลาการบังคับใช้ของแผน
๑.๔ ให้สำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการประสาน สนับสนุน และติดตามประเมินผลการดำเนินงานตาม
(ร่าง) แผนแม่บทฯ ไปสู่การปฏิบัติ และรายงานผลต่อคณะรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น (๑) ควรมีการพัฒนาระบบที่ประชาชนหรือภาคธุรกิจสามารถสอบถาม
ติดตามสถานะคดีต่าง ๆ
ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือจุดบริการแบบเบ็ดเสร็จควบคู่กันไปด้วย (๒) ควรวิเคราะห์ระบบนิเวศในภาพรวมของกระบวนการยุติธรรม
(Ecosystem)
ร่วมกับการวิเคราะห์สถาปัตยกรรมองค์กร (Enterprise
Architecture) (๓) ควรกำหนดผู้รับผิดชอบหลักและผู้รับผิดชอบร่วมในแต่ละโครงการ
ควรระบุงบประมาณสำหรับการดำเนินการในแต่ละโครงการเพิ่มเติม และ (๔)
ไม่ควรให้ทุกหน่วยงานจัดทำ One Stop Service ของหน่วยงานตนเอง
แต่ควรพัฒนาระบบงานหลักที่มีลักษณะเป็น One Stop Service ของทุกขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
เพื่อใช้เป็นระบบกลางในการเชื่อมโยงจากระบบของแต่ละหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมรวมไว้ในที่เดียวกัน
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2142 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ [ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กับคณะ เป็นผู้เสนอ)] | นร.09 | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กับคณะ เป็นผู้เสนอ)
ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลา พร้อมให้แจ้งความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปด้วยว่า
ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดังกล่าวเป็นการปรับปรุงโครงสร้าง
การบริหารราชการของกระทรวงกลาโหม และองค์ประกอบของสภากลาโหม
ซึ่งเป็นการปรับปรุงในเชิงหลักการที่ควรพิจารณาโดยรอบคอบ ประกอบกับขณะนี้กระทรวงกลาโหมได้เสนอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ผ่านการพิจารณาของสภากลาโหมแล้ว
จึงเห็นควรชะลอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กับคณะ เป็นผู้เสนอ)
เพื่อรอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ของคณะรัฐมนตรีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อพิจารณาไปพร้อมกันต่อไป
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2143 | แนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 24 - 25 ตุลาคม 2567 | ปสส. | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๓๔ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๒๔
ตุลาคม ๒๕๖๗ และครั้งที่ ๓๕ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ
วันศุกร์ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2144 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ [ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ] | นร.09 | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตและผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ
(ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งนายวรภพ วิริยะโรจน์ กับคณะ
เป็นผู้เสนอ และนายโกศล ปัทมะ กับคณะ เป็นผู้เสนอ รวม ๒ ฉบับ) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. ให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
(นายวรภพ วิริยะโรจน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ
และนายโกศล ปัทมะ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) รวม ๒ ฉบับ
ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลา
พร้อมให้แจ้งความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปด้วยว่าคณะรัฐมนตรีรับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายวรภพ วิริยะโรจน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ และนายโกศล ปัทมะ
กับคณะ เป็นผู้เสนอ) รวม ๒ ฉบับ และให้ส่งความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรด้วย
โดยขอให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของกระทรวงยุติธรรมที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอเพื่อพิจารณาไปพร้อมกัน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2145 | ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้) | ยธ. | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... (กระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้กระทรวงยุติธรรมเร่งจัดทำเอกสารบันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติเพื่อเป็นเอกสารประกอบการเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎร
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
โดยให้ส่งความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานศาลยุติธรรม และสมาคมธนาคารไทย ไปเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรด้วย
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โดยคำนึงถึงความครอบคลุมทุกแหล่งเงิน ศักยภาพและความพร้อมในทุกมิติ
ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ความคุ้มค่าและประหยัด รวมถึงผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่จะได้รับอย่างยั่งยืน
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ หากหน่วยงานมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการ
เห็นควรให้พิจารณาใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ในโอกาสแรกก่อน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2146 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวอัณณ์ณิชา โตกิจกล้าธวัฒน์) | อว. | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอัณณ์ณิชา โตกิจกล้าธวัฒน์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง (ผู้อำนวยการสูง)
กองมาตรฐานการวิจัยและสถาบันพัฒนาการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านระบบวิจัย
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตั้งแต่วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2147 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการส่งข้อมูลการอุดมศึกษาและการอื่นที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. .... | อว. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการส่งข้อมูลการอุดมศึกษาและการอื่นที่เกี่ยวข้อง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และระยะเวลาที่หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานและหน่วยงานภาคเอกชนตามลักษณะที่สภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติประกาศกำหนดส่งข้อมูลเกี่ยวกับการอุดมศึกษาและการอื่นที่เกี่ยวข้องให้แก่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามที่ได้รับการร้องขอ เพื่อให้กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีข้อมูลครบถ้วนในการจัดทำฐานข้อมูลการอุดมศึกษา
การวิจัยและนวัตกรรม นำไปสู่การพัฒนาการจัดการอุดมศึกษาและพัฒนาบุคลากรของประเทศต่อไป
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
และข้อมูลเพิ่มเติมที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
เห็นว่ากฎกระทรวงเป็นอนุบัญญัติซึ่งอาศัยกฎหมายแม่บทให้ฝ่ายบริหารกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมจากที่กฎหมายระดับพระราชบัญญัติให้อำนาจไว้เท่านั้น
ดังนั้น
ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวจึงไม่อาจกำหนดมาตรการบังคับและบทกำหนดโทษสำหรับหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานภาคเอกชนตามร่างข้อ
๑๑ ได้ ประกอบกับกรณีดังกล่าวได้มีการกำหนดไว้แล้วในมาตรา ๗๔ แห่งพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา
พ.ศ. ๒๕๖๒ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
เห็นว่าพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นกฎหมายแม่บทกำหนดให้เป็นอำนาจของกระทรวงเท่านั้นที่สามารถร้องขอให้หน่วยงานฯ
ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการอุดมศึกษาและการอื่น
หากแต่ในร่างกฎกระทรวงนี้ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ให้หน้าที่และอำนาจแก่สำนักงานปลัดกระทรวง
(ฐานะเป็นกรม) สามารถร้องขอข้อมูล
และสามารถออกหนังสือเตือนหัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานภาคเอกชนที่จัดส่งข้อมูลไม่ถูกต้อง
ไม่ครบถ้วน หรือไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ อีกทั้งหากหน่วยงานฯ
ไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษทางปกครองอีกด้วย
จึงมีข้อสังเกตว่าการกำหนดในลักษณะดังกล่าวจะขัดแย้งกับกฎหมายแม่บทที่ให้อำนาจหรือไม่ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. เห็นว่าการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และระยะเวลาการส่งข้อมูล (ร่างข้อ ๕) ควรระบุรายการข้อมูลที่ต้องการให้ชัดเจน การจัดส่งข้อมูล
(ร่างข้อ ๖) ควรกำหนดนิยามรูปแบบ ขนาด ประเภท รายการข้อมูล คำอธิบายข้อมูล (Metadata) พจนานุกรมข้อมูล
(Data Dictionary) และบัญชีรายชื่อข้อมูล (Data
Catalog) รอบระยะเวลาการจัดส่งข้อมูลที่สอดคล้องกับการจัดเก็บข้อมูล
และการจัดหาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูลการอุดมศึกษา (ร่างข้อ ๙)
ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับมาตรฐานต่าง ๆ เช่น มาตรฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
มาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนข้อมูล รูปแบบข้อมูล
การจัดเก็บรักษาข้อมูลตามมาตรฐานสากล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2148 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในสถานประกอบกิจการ โรงงาน และยานพาหนะ | พม. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในสถานประกอบกิจการ
โรงงาน และยานพาหนะ ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี
คณะที่ ๑ ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในสถานประกอบกิจการ
โรงงาน และยานพาหนะ และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2149 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการเพิ่มเติมปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตของสาชาวิชาการแพทย์แผนไทย
และแก้ไขชื่อ “สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์” เป็น “สาขาวิชาบริหารรัฐกิจ” รวมถึงกำหนดปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ที่ได้เปิดสอนเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2150 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (ฉบับที่ .) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิขาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาบริหารรัฐกิจ
และสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ เพิ่มระดับชั้นปริญญาโทในสาขาวิชาเทคโนโลยี
รวมถึงกำหนดสีประจำวิทยาลัยการบริหารแห่งรัฐ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2151 | ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 4/2567 | นร.08 | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น
อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง
อำเภอรามัน อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง ออกไปอีก ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคม
๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๘ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๒. เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ ดังนี้ ๒.๑
เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น อำเภอทุ่งยางแดง
อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง อำเภอรามัน อำเภอกาบัง
และอำเภอกรงปินัง และร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง การให้ประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2152 | รายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ประจำปี 2566 | พน. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย -
มาเลเซีย ประจำปี ๒๕๖๖ ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี
และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการองค์กรร่วมฯ และการประชุมสามัญประจำปี
เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๗ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑) รายงานประจำปี
เป็นการระบุกิจกรรมสำคัญในด้านปริมาณสำรองปิโตรเลียม ด้านการผลิตและพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติ โดยในปี ๒๕๖๖
มีก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้จากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย - มาเลเซีย ถูกส่งเข้าไทย
รวมทั้งสิ้น ๑๖๘.๕๕ พันล้านลูกบาศก์ฟุต และส่งเข้ามาเลเซีย รวมทั้งสิ้น ๒๒๐.๐๙
พันล้านลูกบาศก์ฟุต และ ๒) รายงานงบการเงินองค์กรร่วมฯ
มีรายได้จากการขายปิโตรเลียมแปลง A - 18 และแปลง B- 17
-01 จำนวน ๒,๑๙๔.๙๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นรายรับสุทธิขององค์กรร่วมฯ
(หลังหักค่าใช้จ่าย) จำนวนทั้งสิ้น ๔๙๒.๑๘ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยในส่วนของสถานะกองทุนองค์กรร่วมฯ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ มีจำนวนทั้งสิ้น ๑,๑๓๔.๑๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ องค์กรร่วมฯ
ได้นำส่งรายได้ให้รัฐบาลทั้งสองประเทศและรายได้นำส่งให้รัฐบาลทั้งสองประเทศรวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น
๖๙๒.๓๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เป็นการนำส่งรายได้จากการขายปิโตรเลียมของเดือน พฤศจิกายน
๒๕๖๕ - ตุลาคม ๒๕๖๖) ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2153 | การขยายระยะเวลาการขอยกเว้นการยื่นรายการตามแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร (ตม.6) | กต. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้รายงานผลการติดตามและประเมินผลการดำเนินการยกเว้นการยื่นแบบ
ตม.๖ ในช่วงระยะเวลา ๖ เดือนที่ผ่านมาว่า
เป็นประโยชน์ต่อการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม
สำหรับประเด็นด้านความมั่นคงได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) แล้ว
ไม่มีข้อห่วงกังวลแต่อย่างใด โดยสามารถกำกับดูแลได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ Thailand Digital Arrival Card ซึ่งคาดว่าจะใช้ระบบดังกล่าวได้ภายในเดือนพฤศจิกายน
๒๕๖๗ นี้ อันจะเป็นผลดีต่อการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ๒. เห็นชอบในหลักการการขอขยายระยะเวลาการขอยกเว้นการยื่นรายการตามแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร
(ตม.๖) ที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง เป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ ๑๖ ตุลาคม
๒๕๖๗ - ๓๐ เมษายน ๒๕๖๘ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการออกประกาศกระทรวงมหาดไทยให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
รวมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกำกับติดตามและประเมินผลกระทบจากการออกประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ภายหลังครบระยะเวลาที่ประกาศไว้
(๖ เดือน) ทั้งนี้ หากมีผลกระทบต่อความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งชาติ
หน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องอาจเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณายกเลิกประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวต่อไปได้
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๓. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
โดยได้รับยกเว้นการยื่นรายการตามแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร
(ตม.๖) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2154 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ) | นร.04 | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร
สินธุไพร) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2155 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ และนายกูเฮง ยาวอหะซัน) | ยธ. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๒ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ๒. นายกูเฮง ยาวอหะซัน ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2156 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ | นร.04 | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง รองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ
จึงรุ่งเรืองกิจ) เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2157 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นางสาวพลอย ธนิกุล และนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ) | นร.04 | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนางสาวพลอย ธนิกุล และนายสิริพงศ์
อังคสกุลเกียรติ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2158 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1. นายชื่นชอบ คงอุดม ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | นร.04 | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๓ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. นายชื่นชอบ คงอุดม ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรี
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) ๒. นายสยาม บางกุลธรรม ดำรงตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2159 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1. นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ฯลฯ จำนวน 5 ราย) | คค. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๕ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ๒. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ๓. นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม(นางมนพร
เจริญศรี) ๔. นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม(นายสุรพงษ์
ปิยะโชติ)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2160 | รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกประจำประเทศไทย (นายฟร็องซัว อึนกูนา บาลูมูเอเน) | กต. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายฟร็องซัว
อึนกูนา บาลูมูเอเน (Mr. Francois Nkuna Balumuene)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกประจำประเทศไทยคนแรก
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
