ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 103 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 2041 - 2060 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2041 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชฝิ่นและพืชเห็ดขี้ควาย เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย พ.ศ. .... | ยธ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชฝิ่นและพืชเห็ดขี้ควาย
เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสาระสำคัญจากฝิ่นและเห็ดขี้ควาย
เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย
รวมทั้งกำหนดมาตรการควบคุมและตรวจสอบการเพาะปลูกและสารสกัดสำคัญจากพืชดังกล่าว
โดยอาศัยอำนาจในมาตรา ๕๕ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
โดยให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไปปรับแก้พื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชเห็ดขี้ควายในร่างพระระราชกฤษฎีกาเพื่อความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการต่อไป ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ดังนี้ กระทรวงมหาดไทย เห็นว่าหน่วยงานที่เป็นผู้รับผิดชอบและควบคุมการดำเนินการทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญ
ต้องตรวจสอบการทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญ ให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมพืชดังกล่าว
รวมทั้งควบคุมไม่ไห้มีการปลูกฝิ่นนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตโดยเคร่งครัด เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน
สังคม และความมั่นคงของประเทศ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เห็นควรกำหนดให้มีรูปแบบการรายงานผลการดำเนินงานได้หลายรูปแบบ
เช่น แบบฟอร์มกระดาษ และแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ทั้งนี้
สถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการกำหนดให้เป็นพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชเห็ดขี้ควาย
มีความพร้อมในการดำเนินการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้อง
โดยขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในมาตรา ๕ เพื่อความถูกต้องและความเป็นปัจจุบันของพื้นที่ดังกล่าว
ดังนี้ ๑. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในมาตรา ๕ (๑) จาก “(ก) อาคารปฏิบัติการวิจัยกลาง”
เป็น “(ก) อาคารปฏิบัติการวิจัยกลาง
สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร” ๒. มหาวิทยาลัยพายัพ ในมาตรา ๕ (๕) จาก “อาคารวิวรณ์
สำนักบริการวิชาการและวิจัย” เป็น “อาคารวิวรณ์ สำนักบริการวิชาการ” |
||||||||||||||||||||||||||||||
2042 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานกลิ่นในอากาศจากโรงงาน พ.ศ. .... | อก. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานกลิ่นในอากาศจากโรงงาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานและวิธีการตรวจสอบกลิ่นในอากาศจากโรงงาน
พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อปรับปรุงแก้ไขกฎหมายว่าด้วยกลิ่น ให้มีความถูกต้อง ชัดเจน
เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
รวมถึงแก้ไขปัญหาการบังคับใช้กฎหมายให้ครอบคลุมมากขึ้น และเพื่อให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าความเข้มกลิ่นของอากาศเสียที่ปล่อยทิ้งจากโรงงานผลิตยาง
ลงวันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ อีกทั้งเพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๕๖
แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรพิจารณาการตรวจวัดค่าความเข้มกลิ่นด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เพื่อให้มีมาตรฐานตามหลักวิชาการ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2043 | ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากการติดตามข้อเสนอแนะแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตเกี่ยวกับประกาศนียบัตรวิชาชีพครู | ปช. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากการติดตามข้อเสนอแนะแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตเกี่ยวกับประกาศนียบัตรวิชาชีพครู
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ
โดยให้กระทรวงศึกษาธิการสรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2044 | รายงานผลการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 | นร.12 | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบรายงานผลการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๕ จำนวน ๒ เรื่อง ได้แก่ ๑) ผลการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐตามมาตรา ๒๐
วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นรายงานความคืบหน้าของดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการประกาศช่องทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับประชาชนติดต่อราชการ
และกำหนดระบบสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
และ ๒) การขอยกเว้นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๒.
เห็นชอบผลการพิจารณากลั่นกรองการขอยกเว้นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๓. อนุมัติหลักการ ๓.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๕ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้พระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๕ ไม่ใช้บังคับแก่อัยการทหาร ในสังกัดกระทรวงกลาโหม ๓.๒
ร่างกฎกระทรวงกำหนดการอื่นที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับมาตรา ๗ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดการดำเนินการที่ประชาชนจะต้องดำเนินการด้วยตนเอง
โดยไม่อาจดำเนินการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ จำนวน ๓๘ รายการ ๓.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดเอกสารสำคัญที่ไม่อาจแสดงเป็นภาพทางอิเล็กทรอนิกส์หรือโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้หนังสือเดินทางเป็นเอกสารสำคัญที่ไม่อาจแสดงเป็นภาพทางอิเล็กทรอนิกส์หรือโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น รวม
๓ ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงกลาโหมและความเห็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการแก้ไขข้อความในบัญชีท้ายร่างกฎกระทรวงกำหนดการอื่นที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับมาตรา
๗ พ.ศ. .... ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๔. ให้สำนักงาน ก.พ.ร.
รับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการคลังเห็นควรดำเนินการสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการออกร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้
รวม ๓ ฉบับ แก่ประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชน พร้อมทั้งจัดทำรายงานสรุปผลการออกกฎกระทรวงดังกล่าว
เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการดำเนินการต่อไป นอกจากนี้
ควรชี้แจงเจตนารมณ์และสาระสำคัญในการกำหนดข้อยกเว้นและรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๕ เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับจากการมีข้อยกเว้นและรายละเอียดเพิ่มเติมที่เหมาะสมและชัดเจน กระทรวงมหาดไทย เห็นว่าหน่วยงานที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จตามมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕ อาจจะมีข้อจำกัดในการดำเนินการ เช่น ความพร้อมของระบบเทคโนโลยี งบประมาณที่ได้รับการจัดสรร และความรู้ความเข้าใจของบุคลากรในระดับต่าง ๆ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนหน่วยงานของรัฐในด้านต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาและข้อจำกัดดังกล่าว ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
2045 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อควบคุมโรคลัมปี สกิน ในโค กระบือ | กษ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อควบคุมโรคลัมปี สกิน ในโค กระบือ ตามข้อมูลที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
พร้อมขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ในวงเงินงบประมาณจำนวนทั้งสิ้น ๔๒๙,๗๕๗,๘๓๑ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมโรคลัมปี
สกิน ในโค กระบือ ประกอบด้วย ๑) ค่าจัดซื้อวัคซีนโรคลัมปี สกิน ชนิดเชื้อเป็น จำนวน ๗,๘๕๐,๐๐๐ โด๊ส เป็นเงิน ๔๒๑,๐๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒)
ค่าจัดซื้อวัสดุวิทยาศาสตร์เพื่อการแพทย์สำหรับฉีดวัดซีนและการรักษา
จำนวน ๘,๗๓๗,๘๓๑ บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมปศุสัตว์)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ที่
นร ๐๗๐๗/๘๗๑๙ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๗) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์นำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีโดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล หรือผู้ที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นผู้กำกับแผนงานบูรณาการกรณีเป็นการดำเนินการภายใต้แผนงานบูรณาการ
แล้วแต่กรณี ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ (๓)
และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและเฝ้าระวังการเคลื่อนย้ายโคและกระบือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคและการลักลอบนำเข้าโคและกระบืออย่างผิดกฎหมาย
เพื่อป้องกันการระบาดของโรคในวงกว้าง
พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานฟาร์มของเกษตรกรรายย่อย
เพื่อให้การควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโค กระบือ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2046 | ผลการประชุมสมัชชากองทุนสิ่งแวดล้อมโลก ครั้งที่ 7 และการรับรองข้อเสนอโครงการที่เสนอขอรับการสนับสนุนจากกองทุน Global Biodiversity Framework Fund (GBFF) | ทส. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ดังนี้ ๑.๑
รับทราบผลการประชุมสมัชชากองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (GEF
Assembly) ครั้งที่ ๗ ที่มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๒-๒๖ สิงหาคม
๒๕๖๖ ณ นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา โดยผลการประชุม GEF Assembly ครั้งที่ ๗ มีสาระสำคัญ เช่น
ที่ประชุมให้การรับรองข้อมติเรื่องการจัดตั้งกองทุน Global Biodiversity
Framework Fund (GBFF) เพื่อเป็นกลไกทางการเงินสนับสนุนการดำเนินงานตามเป้าหมายของกรอบงานคุนหมิง-มอนทรีออลว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของโลก
โดยประเทศแคนาดาจะบริจาคเงินเข้ากองทุน GBFF จำนวน ๒๐๐
ล้านดอลลาร์แคนาดา และสหราชอาณาจักรจะบริจาคเงินเข้ากองทุน GBFF จำนวน ๑๐ ล้านปอนด์สเตอร์ลิง นอกจากนี้ ธนาคารโลก (World Bank) ในฐานะผู้จัดการดูแล (Trustee) ของกองทุน GBFF
จะเร่งจัดตั้งและระดมเงินเข้ากองทุนดังกล่าว ในเดือนมกราคม ๒๕๖๗
เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบข้อเสนอโครงการที่จะขอรับการสนับสนุนจากกองทุน GBFF ๑.๒
มอบหมายให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปฏิบัติหน้าที่หน่วยงานกลางประสานการดำเนินงานของกองทุน
GBFF ของประเทศไทย มีอำนาจในการพิจารณาให้การรับรองข้อเสนอโครงการที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุน
GBFF ๑.๓
ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุน GBFF นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนการลงนามในข้อตกลงทางการเงินสำหรับกรณีที่โครงการได้รับอนุมัติสนับสนุนทางการเงินจากกองทุน
GBFF และมีข้อผูกพันทางการเงินที่เป็นตัวเงิน (In
Cash) ร่วมสนับสนุนในการดำเนินโครงการ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทย
รวมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่เห็นควรมีการประชาสัมพันธ์ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุน
รวมทั้งควรมีการสื่อสารและประสานงานให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบถึงช่องทางระดมทุน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
การขอรับการสนับสนุนจากกองทุน GBFF ในเรื่องใด ๆ
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายละเอียด
ความจำเป็นเหมาะสม และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างรอบคอบและรอบด้าน
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ (เรื่อง การขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ)
อย่างเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||||||||
2047 | การพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 (ร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พ.ศ. ....) | ยธ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ถอนร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ พ.ศ. .... ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม
๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2048 | แนวคิดการจัดตั้งองค์กรการค้ำประกันเครดิต General Credit Guarantee Facility (GCGF) Concept Paper | กค. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล) เสนอว่า กระทรวงการคลังขอแก้ไขชื่อ “องค์กรการค้ำประกันเครดิต
[General Credit Guarantee Facility
(GCGF)]” เป็น “สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (National Credit
Guarantee Agency : NaCGA)” ๒. เห็นชอบหลักการของร่างแนวคิดการจัดตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ
มีสาระสำคัญ เช่น GCGF มีสถานะเป็นนิติบุคคลที่เป็นหน่วยงานของรัฐ
โดยไม่เป็นทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจและจะทำหน้าที่หลักในการค้ำประกันสินเชื่อและธุรกรรมต่าง
ๆ ของทั้งสถาบันการเงินและ Non - banks รวมถึงค้ำประกันหลักทรัพย์และการออกหลักทรัพย์
ให้ความรู้และคำปรึกษาทางการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจ
และจัดทำฐานข้อมูลความเสี่ยงด้านเครดิต
เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น วิธีและรูปแบบการค้ำประกันจะเน้นการค้ำประกันโดยตรง
(Direct Guarantee) โดย GCGF เป็นผู้ประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของลูกหนี้และเป็นผู้รับผิดชอบขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ำประกันทั้งหมด
สำหรับแหล่งเงินทุน ของ GCGF ประกอบด้วย ๑)
เงินสมทบจากรัฐบาล ๒) เงินสมทบจากผู้ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อ
และ ๓) เงินบริจาค และแหล่งรายได้ ประกอบด้วยค่าธรรมเนียมการค้ำประกันและค่าธรรมเนียมและค่าบริการอื่น
ๆ เป็นต้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น สำนักงบประมาณ
เห็นควรให้กระทรวงการคลังจัดทำแผนการดำเนินการ
โดยแสดงแหล่งเงินทุนที่จะใช้สำหรับการดำเนินการของ GCGF
ให้ครอบคลุมและเหมาะสม เพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณในอนาคต |
||||||||||||||||||||||||||||||
2049 | รัฐบาลสาธารณรัฐเอสโตเนียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเอสโตเนียประจำประเทศไทย (นายฮันเนส ฮันโซ) | กต. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายฮันเนส ฮันโซ (Mr. Hannes Hanso)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเอสโตเนียประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สืบแทน นายมาร์เทิน ค็อคค์ (Mr.
Marten Kokk) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2050 | รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแอลจีเรียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแอลจีเรียประจำประเทศไทย (นายอับเดลฮะฟีซ บูนูร) | กต. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอับเดลฮะฟีซ บูนูร (Mr. Abdelhafid Bounour)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแอลจีเรียประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย สืบแทน นายนัศริดดีนรีมูช (Mr.
Nasreddine Rimouche) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2051 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายณัฏฐา พาชัยยุทธ และนายธนศักดิ์ มังกโรทัย) | นร.12 | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย
ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี้ ๑. นายณัฏฐา พาชัยยุทธ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ
(นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ.ร. ตั้งแต่วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๖ ๒. นายธนศักดิ์ มังกโรทัย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ
(นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ.ร. ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2052 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางอัมพร เบญจพลพิทักษ์ ฯลฯ จำนวน 13 ราย) | สธ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดกระทรวงสาธารณสุขให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๑๓ ราย เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ สับเปลี่ยนหมุนเวียน
และทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นางอัมพร
เบญจพลพิทักษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอนามัย ๒. นายสุรโชค ต่างวิวัฒน์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ๓. นายทวีศิลป์
วิษณุโยธิน ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์ ๔. นายภานุมาศ
ญาณเวทย์สกุล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมโรค ๕. นายกิตติศักดิ์
อักษรวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสุขภาพจิต ๖. นายภานุวัฒน์ ปานเกตุ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ๗.
นายสมกฤษ์ จึงสมาน ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ๘.
นายภูวเดช สุระโคตร ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๙.
นายมณเฑียร คณาสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๐.
นายศักดา อัลภาชน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๑.
นายวีรวุฒิ อิ่มสำราญ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๒.
นายปรีชา เปรมปรี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๓.
นางสาวสุภัทรา บุญเสริม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2053 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์) | รง. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม
ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๗
เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2054 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายประวิต เอราวรรณ์) | ศธ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายประวิต เอราวรรณ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2055 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์) | กก. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2056 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (1. นายศุภชัย เจียรวนนท์ ฯลฯ รวม 7 คน) | สมศ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
รวม ๗ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ดังนี้ ๑. นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ ๒. ศาสตราจารย์พิเศษทศพร ศิริสัมพันธ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายสุภัทร จำปาทอง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. ศาสตราจารย์พิริยะ ผลพิรุฬห์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายพิศณุ ศรีพล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. ศาสตราจารย์สมคิด เลิศไพฑูรย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. ศาสตราจารย์สุรินทร์ คำฝอย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2057 | การเสนอคำขอแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล หน่วยงานขององค์กรอิสระหรือองค์กรอัยการ | นร.07 | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเสนอคำขอแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ของหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล
หน่วยงานขององค์กรอิสระหรือองค์กรอัยการ เพื่อให้การเสนอคำขอแปรญัตติฯ เป็นไปตามขั้นตอนที่จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
ก่อนนำเสนอประกอบการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2058 | รายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | ตผ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยรายงานดังกล่าวมีสาระสำคัญเกี่ยวกับรายงานผลการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
เช่น การตรวจเงินแผ่นดิน ผลการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ การดำเนินการด้านความผิดวินัยการเงินการคลังของรัฐ
การส่งเสริมให้ความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานของหน่วยรับตรวจ
การพัฒนาระบบการบริหารจัดการและเทคโนโลยี ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2059 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... | ลต. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก
เขตเลือกตั้งที่ ๑ แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่างภายใน
๔๕ วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลง (ภายในวันที่ ๒๐ กันยายน
๒๕๖๗) และจัดทำร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพิษณุโลก
เขตเลือกตั้งที่ ๑ แทนตำแหน่งที่ว่าง
โดยจะประกาศกำหนดหน่วยเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า ๒๕
วัน ก่อนวันเลือกตั้ง (ภายในวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๗) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2060 | ผลการพิจารณาญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน | นร.14 | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน
ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยสรุปผลการพิจารณาว่า
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำมาตรการรับมือฤดูฝน
ปี ๒๕๖๖ เพื่อเป็นการป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดจากปัญหาอุทกภัยที่อาจส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
และได้มีการจัดทำแผนรองรับสถานการณ์เอลนีโญ
แผนการป้องกันการเกิดโรคระบาดจากภัยพิบัติด้านน้ำ
การเตรียมแผนสำรองในพื้นที่ภัยพิบัติด้านสาธารณสุขและการจัดการสุขาภิบาลระหว่างเกิดภัยพิบัติและภายหลังภัยพิบัติ
รวมถึงมาตรการในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันกำหนดแนวทาง
ค่าเป้าหมาย ตัวชี้วัด กลยุทธ์ แผนงานร่วมกัน
เพื่อเป็นกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
๒๐ ปี ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เช่น
การขุดลอกร่องน้ำทางเดินเรือแม่น้ำสายหลัก การกำจัดผักตบชวา การซ่อมแชมพื้นผิวถนนและสะพานที่ขาด
ชำรุด การส่งข้อความแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชน (Cell Broadcast) เป็นต้น ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|