ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 104 จากทั้งหมด 6223 หน้า แสดงรายการที่ 2061 - 2080 จากข้อมูลทั้งหมด 124448 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 2061 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และกรรมการจากผู้แทนสถาบันหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการผังเมืองในคณะกรรมการผังเมือง (1. นายปรีชา รณรงค์ ฯลฯ จำนวน 13 คน) | มท. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการจากผู้แทนสถาบันหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการผังเมืองในคณะกรรมการผังเมือง
จำนวน ๑๓ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
และกรรมการจากผู้แทนสถาบันหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการผังเมืองเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายปรีชา รณรงค์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการผังเมือง ๒. นายสมศักดิ์ ตั้งทรงศิริศักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ ๓. นายสมเกียรติ สิริพิทักษ์เดช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมศาสตร์ ๔. นายวีระพงษ์ บุญญานุสนธิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านนิติศาสตร์ ๕. นายพิชัย อุทัยเชฏฐ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ ๖. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์ ๗. นายสุรเจตส์ บุญญาอรุณเนตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม ๘. นายสด แดงเอียด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์หรือโบราณคดี ๙. นายคณิต ธนูธรรมเจริญ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเกษตรกรรม ๑๐.นายอนวัช สุวรรณเดช กรรมการจากผู้แทนสถาบันหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการผังเมือง ๑๑. นายวัฒนา เชาวสกู กรรมการจากผู้แทนสถาบันหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการผังเมือง ๑๒. นายสมศักดิ์ จุฑานันท์ กรรมการจากผู้แทนสถาบันหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการผังเมือง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2062 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายปัญญา ชวนบุญ และนายกฤษฏ์ เพ็ญสุภา) | พณ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗)
เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑. นายปัญญา ชวนบุญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
(นายนภินทร ศรีสรรพางค์)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2063 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ) | พน. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม
๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2064 | การแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการกำกับกิจการพลังงาน (1. นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ฯลฯ จำนวน 8 คน) | พน. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการกำกับกิจการพลังงาน
จำนวน ๘ คน ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑. นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพลังงาน ๒. นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง ๓. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง ๔. นายพสุ โลหารชุน ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ๕. นายคมสัน เหล่าศิลปเจริญ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นผู้ประกอบกิจการพลังงาน ๖. นายขวัญชัย ลีเผ่าพันธุ์ ผู้แทนสภาวิศวกร ๗. นายพงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล ผู้แทนของอธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ๘. นายสมศักดิ์ สันธินาค ผู้แทนองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรในทางธุรกิจ ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงาน
(สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน)
รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2065 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (1. นายสำราญ สาราบรรณ์ ฯลฯ รวม 6 คน) | กษ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จำนวน ๖ ราย เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑. นายสำราญ สาราบรรณ์ ประธานกรรมการ ๒. นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ๓. นางสาวศิริพร บุญชู กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเกษตร ๔. นายรัตนะ สวามีชัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารจัดการ ๕. ผศ.ดร.ทวี
วัชระเกียรติศักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและกระบวนการเรียนรู้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2066 | รายงานการโอนงบประมาณรายจ่าย ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 51 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | นร.07 | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการโอนงบประมาณรายจ่าย ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๕๑ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๗ ในระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
และให้รายงานต่อรัฐสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2067 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | ยธ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศ พ.ศ. ....
เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป และเมื่อร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศฯ
มีผลใช้บังคับแล้ว จะได้พิจารณาเสนอแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้ใช้ถ้อยคำที่เป็นกลางทางเพศต่อไป
การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์
พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อรองรับการมีบุตรโดยใช้เทคโนโลยี ช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ของคู่สมรสที่มีความหลากหลายทางเพศ
ได้มีการแก้ไขกฎ ระเบียบ และแนวปฏิบัติเพื่อรองรับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศแล้ว
เช่น แนวทางการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศในสถานที่ควบคุม
และข้อบังคับเนติบัณฑิตยสภาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๖
ให้สมาชิกที่มีอัตลักษณ์ทางเพศ
หรือวิถีเพศไม่ตรงกับเพศโดยกำเนิดมีสิทธิแต่งกายตามเพศสภาพหรืออัตลักษณ์ทางเพศของตน
รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมจัดการอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรเกี่ยวกับกฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างต่อเนื่อง
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2068 | ร่างกฎกระทรวงการโอนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี เครื่องกำเนิดรังสี วัสดุนิวเคลียร์สถานประกอบการทางนิวเคลียร์ และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการโอนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
เครื่องกำเนิดรังสี วัสดุนิวเคลียร์ สถานประกอบการทางนิวเคลียร์
และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการโอนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี เครื่องกำเนิดรังสี
วัสดุนิวเคลียร์ สถานประกอบการทางนิวเคลียร์
และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2069 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... | นร.09 | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมการเรียนรู้
กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแบ่งส่วนราชการในกรมส่งเสริมการเรียนรู้
กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อกำหนดหน้าที่และอำนาจของแต่ละส่วนราชการให้เหมาะสมกับการดำเนินงานในปัจจุบัน
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงนาม
และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2070 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง ฯลฯ จำนวน 6 ราย) | กต. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและตำแหน่งที่จะว่าง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. นางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา
สาธารณรัฐออสเตรีย ๒. นายตุลย์ ไตรโสรัส ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ
กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ๓. นางสุพรรณวษา โชติกญาณ ถัง ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงโคเปนเฮเกน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก ๔. นายจุลวัจน์ นรินทรางกูร ณ อยุธยา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ๕. นายไกร มหาสันทนะ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายพงศ์ปราชญ์ มากแจ้ง ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2071 | รายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | ดศ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ โดยรายงานสถานะทางการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๕ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
และการบริหารกองทุนฯ ได้มีการจัดสรรงบประมาณของกองทุนฯ ไปใช้ในการดำเนินโครงการ/กิจกรรม
ดังนี้ ๑)
เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือหน่วยงานของรัฐและเอกชนหรือบุคคลทั่วไปในการดำเนินการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
จำนวน ๔๑ โครงการ วงเงิน ๒,๔๙๙.๑๐ ล้านบาท ๒) จัดสรรเงินให้กับสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
จำนวน ๑๑ โครงการ วงเงิน ๕๙๐.๙๐ ล้านบาท.และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จำนวน
๙ โครงการ วงเงิน ๑,๒๘๗.๓๒ ล้านบาท และ ๓)
สนับสนุนโครงการ/กิจกรรม เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทยในส่วนของการต่อยอดการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี
5G จำนวน ๘ โครงการ วงเงิน ๒๙๖.๖๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอรายงานดังกล่าวภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชีของทุกปีเพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เห็นว่ารายงานสถานะการเงินควรมีการแสดงรายละเอียดแผนการให้เงินสนับสนุนเทียบกับผลการเบิกจ่ายที่เกิดขึ้นจริงประจำปี
ทั้งในรูปของจำนวนเงินและอัตราส่วนที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านรายงานสถานะการเงินมีความเข้าใจได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น และรายงานประจำปีควรเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโครงการที่ส่งเสริม
สนับสนุน
หรือให้ทุนอุดหนุนไปในห้วงปีที่ผ่านมาว่าก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2072 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง และการคำนวณค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการสกัดกั้น หรือการปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น พ.ศ. .... | กห. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง
และการคำนวณค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการสกัดกั้น
หรือการปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าใช้จ่ายในการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นของผู้ควบคุมอากาศยานและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเพื่อปฏิบัติภารกิจการตรวจและพิสูจน์ฝ่ายการสกัดกั้น
การเคลื่อนย้ายอากาศยาน การเก็บรักษาอากาศยาน สิ่งของ และหลักฐาน
และการใช้อาวุธเพื่อปฏิบัติการทำลายอากาศยานเป็นค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องอันเกิดจากการสกัดกั้น
หรือการปฏิบัติการเพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น
และกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการสกัดกั้นหรือการปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร
เพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงคมนาคม เห็นว่าในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเดินทางตามข้อ
๒ (๒) และข้อ ๔ ของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวสามารถเทียบเคียงจากหลักเกณฑ์ และอัตราตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนดไว้สำหรับเดินทางไปราชการของเจ้าหน้าที่ทางฝ่ายทหารด้วยแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2073 | ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... | นร.09 | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสียใหม่ โดยยกเลิกกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๘ และแก้ไขชื่อ “คณะเทคโนโลยี” เป็น “คณะเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์”
เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจและการดำเนินงานในปัจจุบัน
โดยเป็นการปรับชื่อส่วนราชการระดับคณะที่มีอยู่เดิมให้สอดคล้องกับการจัดการเรียนการสอนและการพัฒนาทางวิชาการของสถาบันอุดมศึกษา
และสอดคล้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศให้มีประสิทธิภาพ
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2074 | การเร่งเสนอมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูประชาชนผู้ประสบอุทกภัย | นร. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐส่งเรื่องเกี่ยวกับมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบอุทกภัยไปที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เพื่อพิจารณาในภาพรวมโดยด่วน
ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป นั้น ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายลง
และกำลังอยู่ในช่วงการเยียวยาและฟื้นฟู จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือ
เยียวยา และฟื้นฟูประชาชนผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าวและเสนอไปยัง ศปช. โดยด่วน
เพื่อรวบรวมและพิจารณากลั่นกรองให้เหมาะสม ไม่ซ้ำซ้อน
และตอบสนองต่อสภาพปัญหาและความต้องการของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน
ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2075 | การต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติในรูปแบบหนังสือแลกเปลี่ยนสำหรับการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ (United Nations Regional Course in lnternational Law) ประจำปี 2567 | กต. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติ
ปี ๒๕๖๐ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ปี ๒๕๖๕
สำหรับการจัดการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ (United Nations Regional Course in International
Law) ประจำปี ๒๕๖๗ ระหว่างวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน - ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ณ
กรุงเทพมหานคร และอนุมัติให้เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก
สหรัฐอเมริกา หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ
ของฝ่ายไทยสำหรับการฝึกอบรมฯ ประจำปี ๒๕๖๗ โดยร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ มีสาระสำคัญเป็นการยอมรับในการต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติ
สำหรับการฝึกอบรมฯ ประจำปี ๒๕๖๗ มีวัตถุประสงค์เพื่ออบรมกฎหมายระหว่างประเทศให้แก่ผู้ที่มีภูมิหลังด้านกฎหมายหรือประสบการณ์ในการทำงานด้านกฎหมายระหว่างประเทศจากภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก
จำนวนไม่เกิน ๓๐ คน โดยไทยสามารถส่งผู้แทนเข้าร่วมการอบรมได้ จำนวน ๕ คน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรองรับค่าใช้จ่ายดังกล่าวไว้แล้ว สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศรวบรวมผลการปรับแก้ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ และผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องรายงานต่อคณะรัฐมนตรีทราบในคราวเดียวกัน
รวมทั้งสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ไทยจะได้รับด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2076 | การเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย NBSAP Accelerator Partnership | ทส. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย NBSAP Accelerator Partnership และเห็นชอบต่อร่างหนังสือ letter of support การเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย
NBSAP Accelerator Partnership โดยให้เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะหน่วยประสานงานกลางอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
เป็นผู้ลงนามในหนังสือ letter of support การเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายฯ
โดยร่างหนังสือฯ ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการดำเนินการเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
และขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านความหลากหลายทางชีวภาพระดับชาติของประเทศไทยที่มีความสอดคล้องกับเป้าประสงค์และเป้าหมายตามกรอบงานคุนหมิง
: มอนทรีออลว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของโลก
ยืนยันว่าประเทศไทยมีความยินดีในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย NBSAP
Accelerator Partnership และเห็นว่าการเข้าร่วมเครือข่ายฯ
จะช่วยเสริมสร้างการขับเคลื่อนการดำเนินงานและการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผน
ส่งเสริมความสอดคล้องกันในเชิงนโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพ
และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2077 | แถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 ครั้งที่ 27 | กค. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการต่อแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
+ ๓ (Joint Statement of the 27th ASEAN + 3 Finance Ministers’
and Central Bank Governors’ Meeting) (การประชุม AFMGM+3) ครั้งที่ ๒๗ เมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ณ เมืองทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย
โดยที่แถลงการณ์ร่วมฯ มีสาระสำคัญเพื่อแสดงถึงเจตนารมณ์ร่วมกันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
+ ๓ เพื่อสนับสนุนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ
และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของความร่วมมือทางการเงินของภูมิภาค ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2078 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกกับรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง ฉบับใหม่ | สกพอ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกกับรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง
ฉบับใหม่ และอนุมัติให้เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ
ฉบับใหม่ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ
มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง
เพื่อส่งเสริมการลงทุน ความเชื่อมโยงด้านต่าง ๆ
รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการวางแผนพัฒนา การบริหารจัดการ และในด้านอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมที่เห็นควรมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
(Green
Transportation) อย่างเป็นรูปธรรม
โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ
รวมทั้งส่งเสริมผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศให้มีความเข้มแข็ง
พึ่งพาสัดส่วนวัสดุอุปกรณ์ที่ผลิตได้ภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น
ตลอดจนให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี
เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นว่า ร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ฉบับใหม่ ไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา
๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2079 | ขอความเห็นชอบต่อร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับองค์การอนามัยโลกต่อการจัดการประชุมสุขภาพช่องปากโลก (WHO Global Oral Health Meeting) | สธ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2080 | (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านความหลากหลายทางชีวภาพระดับชาติ พ.ศ. 2566 - 2570 | ทส. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
