ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1005 จากทั้งหมด 6215 หน้า แสดงรายการที่ 20081 - 20100 จากข้อมูลทั้งหมด 124282 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
20081 | รัฐบาลสาธารณรัฐแอฟริกาใต้เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายเจฟฟรีย์ ควินตัน มิตเชลล์ ดอยจ์ (Mr. Geoffrey Quinton Mitchell Doidge)] | กต | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเจฟฟรีย์ ควินตัน มิตเชลล์ ดอยจ์ (Mr. Geoffrey Quinton Mitchell Doidge) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ประจำประเทศไทย สืบแทน นางสาวโรบินา แพทริเชีย มากส์ (Ms. Robina Patricia Marks) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20082 | รัฐบาลสาธารณรัฐตุรกีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นางเอฟเรน ดาเดเลน อักกุน (Mrs. Evren Dagdelen Akgun)] | กต | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางเอฟเรน ดาเดเลน อักกุน (Mrs. Evren Dagdelen Akgun) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย สืบแทน นายออสมัน บูเลนต์ ทูลุน (Mr. Osman Bulent Tulun) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20083 | ร่างพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีบทบัญญัติว่าด้วยมาตรการตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดหรือการอุดหนุน (Anti-circumvention measure) ซึ่งจะช่วยให้การใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดหรือการอุดหนุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับพฤติการณ์และสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป และแก้ไขปัญหาผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกจากต่างประเทศมีการส่งออกสินค้ามายังประเทศไทยในลักษณะที่เป็นการหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมภายในประเทศ รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมตำแหน่งขององค์ประกอบ อำนาจหน้าที่และการพ้นจากตำแหน่งของคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการป้องกันการหลบเลี่ยงการตอบโต้การทุ่มตลาดโดยใช้ประโยชน์จากเขตปลอดอากร (Free Zone) และความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวยังมีความไม่ชัดเจนในการระบุถึงการดำเนินธุรกิจ (Business Activities) ที่เข้าข่ายพฤติการณ์หลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดหรือการอุดหนุน (circumvention activities) ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติตอบโต้การทุ่มตลาดฯ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และเมื่อร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้ว ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองให้มีผลบังคับใช้ได้โดยเร็ว เพื่อให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20084 | ร่างพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยกำหนดให้ราชการส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่และอำนาจในการเก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการคัดแยก เก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการให้บริการ รวมทั้งกำหนดให้ราชการส่วนท้องถิ่นมีอำนาจนำสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยที่จัดเก็บได้ไปใช้ประโยชน์หรือหาประโยชน์ได้ เพื่อให้การบริหารจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการ่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการจัดทำกฎหมายเฉพาะในการบริหารจัดการขยะ โดยยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับการจัดการขยะทั้งหมด เพื่อให้สามารถดำเนินการบริหารจัดการขยะทั้งหมดตามกฎหมายเพียงฉบับเดียว ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๑) เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20085 | มาตรการเพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปของนิติบุคคล (ร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างประกาศ รวม 4 ฉบับ) | กค | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบมาตรการเพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปของนิติบุคคล และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวมทั้งเห็นชอบในหลักการร่างประกาศ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงอัตราค่าใช้จ่ายที่ให้หักเป็นการเหมาในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๗) และ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่บุคคลธรรมดาสำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินใด ๆ ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้ง ตั้งแต่วันถัดจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบมาตรการเพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปของนิติบุคคล ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ และยกเว้นภาษีเงินได้ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน ๕ ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน ๓๐ ล้านบาท ที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นใหม่ สำหรับรายจ่ายที่เกิดจากการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ค่าทำบัญชี และค่าสอบบัญชี ๑.๓ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามประมวลกฎหมายที่ดินสำหรับกรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์ของผู้ถือหุ้นเพื่อชำระค่าหุ้นให้แก่นิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ตามมาตรการเพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปของนิติบุคคล ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด มีสาระสำคัญเป็นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม สำหรับบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ถือหุ้นในนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นใหม่ โอนอสังหาริมทรัพย์ของผู้ถือหุ้นเพื่อชำระค่าหุ้นให้แก่นิติบุคคลตั้งใหม่นั้นร้อยละศูนย์จุดศูนย์หนึ่ง ๑.๔ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดสำหรับการโอนห้องชุดของผู้ถือหุ้นเพื่อชำระค่าหุ้นให้แก่นิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ตามมาตรการเพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปของนิติบุคคล ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด มีสาระสำคัญเป็นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม สำหรับบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ถือหุ้นในนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นใหม่โอนห้องชุดของผู้ถือหุ้นเพื่อชำระค่าหุ้นให้แก่นิติบุคคลตั้งใหม่นั้นร้อยละศูนย์จุดศูนย์หนึ่ง ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมอบหมายให้กรมสรรพากรรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการเพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปของนิติบุคคล และมาตรการอื่นซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไปแล้วในช่วงก่อนหน้า เช่น นโยบายสนับสนุนให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจัดทำบัญชีและงบการเงินที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของกิจการ มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ และมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ เป็นต้น ให้คณะรัฐมนตรีทราบ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกในการพิจารณาให้บุคคลธรรมดาสามารถโอนใบอนุญาตในการประกอบกิจการให้นิติบุคคลตั้งใหม่ได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20086 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้เช่า ให้เช่าซื้อที่ดินและทรัพย์สินของกรมชลประทานเพื่อใช้ในการทำเกษตรกรรม พ.ศ. .... | กษ | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้เช่า ให้เช่าซื้อที่ดินและทรัพย์สินของกรมชลประทานเพื่อใช้ในการทำเกษตรกรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้เช่า ให้เช่าซื้อที่ดินและทรัพย์สินของกรมชลประทานเพื่อใช้ในการทำเกษตรกรรม เพื่อให้กรมชลประทานมีอำนาจนำที่ดินมาดำเนินการให้เช่า ให้เช่าซื้อ หรือโอนไปยังเกษตรกรเพื่อใช้ในการทำเกษตรกรรมได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรยกร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการทั้งหมดให้เป็นฉบับเดียว เพื่อให้มีการพิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการต่าง ๆ ให้เกิดความสอดคล้องกัน และควรพัฒนาโครงการจัดรูปที่ดินเป็นโครงการนำร่องสำหรับการปรับโครงสร้างภาคเกษตรกรรม ไปสู่เกษตรกรรมที่มีการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น สนับสนุนนโยบายกำหนดเขตการใช้พื้นที่ทำการเกษตรที่สอดคล้องกับศักยภาพพื้นที่ (Zoning) โครงการประชารัฐ โครงการ Smart Farmer รวมทั้งประหยัดงบประมาณในการจัดหาแหล่งน้ำเพิ่มเติม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20087 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล | กก | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล มีสาระสำคัญเพื่อส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างยั่งยืนภายใต้กฎหมายของประเทศ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและขยายความสัมพันธ์ในการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์และการจัดแสดงสินค้า ส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ และส่งเสริมให้มีการทำงานร่วมกันในการฝึกอบรมการท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวและรูปแบบการช่วยเหลืออื่น ๆ ในด้านวิชาการ ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ระหว่างการเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิลอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระหว่างวันที่ ๑๖-๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๙ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นว่าร่างบันทึกความเข้าใจฯ เป็นเอกสารกำหนดแนวทางความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยมิได้มีถ้อยคำหรือบริบทใดที่เป็นการแสดงเจตนาที่ก่อให้เกิดพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้น ร่างบันทึกความเข้าใจฯ จึงไม่เป็นสนธิสัญญาภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๒๓ วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ และเห็นควรพิจารณาตรวจสอบความถูกต้องของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับภาษาไทย เนื่องจากมีถ้อยคำที่ไม่ตรงกับร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับภาษาอังกฤษเป็นจำนวนมาก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20088 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ดำเนินโครงการก่อสร้างเรือนจำโครงสร้างเบา (SOFT Prison) | ยธ | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓๓๐ ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการก่อสร้างเรือนจำโครงสร้างเบา (SOFT Prison) จำนวน ๑๗ แห่ง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์) รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้มีการติดตามและประเมินผลโครงการก่อสร้างเรือนจำโครงสร้างเบา (SOFT Prison) เพื่อจะได้นำปัญหาหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการไปปรับปรุงรูปแบบการดำเนินงานให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ รวมทั้งควรหามาตรการเพื่อเพิ่มความร่วมมือกับภาคเอกชนในการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม โดยการให้เอกชนหรือผู้ประกอบการเข้าร่วมลงทุนและจ้างงานผู้ต้องขัง เพื่อให้ผู้ต้องขังมีรายได้ เมื่อพ้นโทษจะได้มีเงินทุนไว้ประกอบอาชีพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20089 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลอดมีบัลลาสต์ในตัวสำหรับการให้แสงสว่างทั่วไปต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... และ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลอดฟลูออเรสเซนซ์ขั้วเดี่ยวต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | อก | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีการวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลอดมีบัลลาสต์ในตัวสำหรับการให้แสงสว่างทั่วไปต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลอดมีบัลลาสต์ในตัวสำหรับการให้แสงสว่างทั่วไปต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก. ๒๒๓๔-๒๕๕๗ ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลอดฟลูออเรสเซนซ์ขั้วเดี่ยวต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลอดฟลูออเรสเซนซ์ขั้วเดี่ยวต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก. ๒๒๓๕-๒๕๕๗ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเผยแพร่ข้อมูลและสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้ผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20090 | ปฏิญญาการประชุมว่าด้วยการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย (CICA) ระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ครั้งที่ 5 | กต | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการรับรองปฏิญญาการประชุมว่าด้วยการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย (Conference on Interaction and Confidence Building Measures in Asia : CICA) ในการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ครั้งที่ ๕ ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๘ เมษายน ๒๕๕๙ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยผู้แทนประเทศไทยได้เสนอขอแก้ไขถ้อยคำในร่างปฏิญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ใน ๓ ประเด็นหลัก ในเรื่องกลุ่มแบ่งแยกดินแดน บทบาทของสื่อและการใช้ยุทธศาสตร์ด้านการสื่อสาร และความสำคัญของความเกี่ยวโยงระหว่างความมั่นคงและการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20091 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีคมนาคมไทย - ลาว | คค | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีคมนาคมไทย-ลาว เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เป็นประธานการประชุมร่วมกัน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟ ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน และความคืบหน้าโครงการรถไฟ ลาว-จีน (บ่อเต็น-นครหลวงเวียงจันทน์) การเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ ด้วยขนาดทาง ๑ เมตร โดยนำเงินในส่วนเหลือตามสัญญาเงินกู้โครงการก่อสร้างทางรถไฟไทย-ลาว ระยะที่ ๒ (ท่านาแล้ง-เวียงจันทน์) ประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านบาท มาใช้สำหรับการก่อสร้างทางรถไฟดังกล่าว การก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ขนาด ๑ เมตร และ ๑.๔๓๕ เมตร สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงในอนาคต การดำเนินการก่อสร้างย่านกองเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (Container Yard : CY) และการผลักดันให้มีการเดินรถไฟขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยและ สปป.ลาว โดยเร็ว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งสองประเทศ ๒. ผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ลาว เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๙ มีประเด็นหารือที่สำคัญ ได้แก่ การเสนอให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ./NEDA) ให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับการปรับปรุงเส้นทางเลียบแม่น้ำโขง เส้นทางบ่อแก้ว-ปากทา-ก้อนตื้น ระยะทาง ๗๔ กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อกับเส้นทางที่แขวงไชยบุรี และการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ ๕ (บึงกาฬ-ปากซัน) การกำหนดจุดที่เหมาะสมสำหรับการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ และพิจารณาการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ ณ แขวงสะหวันนะเขตหรือจังหวัดมุกดาหาร แห่งใดแห่งหนึ่ง ๓. การขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางถนน ที่ประชุมรับทราบการจัดทำความตกลงว่าด้วยการเดินรถโดยสารประจำทางไทย-ลาว-เวียดนาม การเพิ่มเส้นทาง R12 ให้รวมอยู่ในพิธีสาร ๑ แนบท้ายความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS CBTA) การจัดประชุมเพื่อพิจารณาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารข้ามแดน ณ จุดผ่านแดนเชียงของ-ห้วยทราย และบ่อเต็น-โมฮาน ระหว่างไทย-ลาว-จีน การอนุญาตให้รถบรรทุกลาวทำการขนส่งสินค้าผ่านแดนไปยังท่าเรือแหลมฉบัง และการเปลี่ยนหัวลาก-ทางลาก การเพิ่มจุดผ่านแดนถาวร (Additional International Transit Border Crossings for Goods and People) ๔ แห่ง ได้แก่ ด่านนครพนม ด่านเชียงของ ด่านห้วยโก๋น และด่านภูดู่ และการปรับปรุงเส้นทางและอาคารด่าน ณ ด่านพรมแดนช่องเม็ก-วังเต่า ๔. ประเด็นอื่น ๆ ได้แก่ การพิจารณาให้ความช่วยเหลือการฝึกอบรมบุคลากรด้านการบินแก่ฝ่ายลาว การให้ NEDA พิจารณาให้ความช่วยเหลือสำหรับโครงการน้ำประปาในเมืองเล็กของลาว จำนวน ๘ แห่ง ที่ยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง รวมทั้งการให้ฝ่ายลาวพิจารณาการควบคุมน้ำหนักรถบรรทุก และการจัดกิจกรรมปั่นจักรยานในเส้นทางแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (EWEC) จากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ไปยังแขวงสะหวันนะเขต |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20092 | งบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2557 | สช | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบงบดุลและรายงานการรับเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ที่ผ่านการตรวจสอบรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว โดยมีความเห็นว่า งบการเงินฯ ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐ และได้แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไข จำนวน ๒ เรื่อง คือ (๑) มีรายการยาและเวชภัณฑ์ที่ยังมิได้จัดส่งให้หน่วยบริการคงเหลืออยู่ที่องค์การเภสัชกรรม จำนวน ๑,๐๖๕.๒๕ ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ของกองทุนฯ แต่มิได้นำมาแสดงรายการและเปิดเผยข้อมูล และ (๒) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้สำรองจ่ายเงินให้แก่สถานบริการสาธารณสุขและหน่วยงานที่ให้บริการสาธารณสุขในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน (EMCO : Emergency Claim Online) จากนั้นจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่สำรองจ่ายไปจากกรมบัญชีกลาง รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐและสำนักงานประกันสังคมแล้วแต่กรณี โดยบันทึกบัญชีลูกหนี้เรียกเก็บต่ำไป ๒๔๙.๕๒ ล้านบาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20093 | สรุปผลการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์ เลสเตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สภาซีเมค) | ศธ | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์ เลสเต ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สภาซีเมค) ในระหว่างวันที่ ๒๑-๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๙ ตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของติมอร์ เลสเต โดยได้มีการหารือข้อราชการเกี่ยวกับประเด็นสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษาของติมอร์ เลสเต ให้เข้ามาศึกษาต่อในไทยเพิ่มมากขึ้น การรับครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของติมอร์ เลสเต มาฝึกอบรมในไทย การผลักดันศูนย์ซีมีโอในประเทศสมาชิกให้เข้ามามีส่วนสนับสนุนประเทศต่าง ๆ การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษาของไทยกับติมอร์ เลสเต และการผลักดันให้เกิดการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างไทยกับติมอร์ เลสเต นอกจากนี้ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงเรียนในโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ เมืองเฮรา สถาบันฝึกอบรมครู National Institute for Training of Teachers and Education Professionals (INFORDEPE) หอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์การต่อต้านของชาวติมอร์ เลสเต และอนุสรณ์สถานสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น พอลที่ ๒ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20094 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงระดับรัฐมนตรี อย่างไม่เป็นทางการ | คค | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงระดับรัฐมนตรี อย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งประเทศสมาชิกได้หารือร่วมกันในประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion Cross Border Transport Facilitation Agreement : CBTA) สรุปได้ ดังนี้
๑. แนวทางสำหรับการเริ่มดำเนินการตามความตกลง CBTA ที่ประชุมเห็นชอบให้ประเทศสมาชิกดำเนินการออกใบอนุญาตเพื่อการขนส่ง (GMS Road Transport Permit) ภายใต้พิธีสาร ๑ (การกำหนดเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศ จุดเข้าและออกประเทศ) ของความตกลง CBTA ให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๐ และให้ขยายระยะเวลาดำเนินการออกใบอนุญาตดังกล่าวสำหรับเมียนมา รวมทั้งให้ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) จัดทำรายละเอียดการแก้ไขความตกลง CBTA และช่วยเหลือทางวิชาการและด้านงบประมาณตามที่ประเทศสมาชิกร้องขอ ๒. สถานะและการจัดการต่อบันทึกความเข้าใจในการเริ่มใช้ความตกลง CBTA (The Initial Implementation of the Cross-Border Transport Agreement : IICBTA) ที่ประชุมเห็นชอบจำนวนโควตาใบอนุญาตเพื่อการขนส่งภายใต้พิธีสาร ๓ (โควตาการบริการขนส่งและการออกใบอนุญาต) ของความตกลง CBTA จำนวน ๕๐๐ ใบ โดยให้ใบอนุญาตที่ประเทศสมาชิกได้ดำเนินการออกไปแล้วภายใต้บันทึกความเข้าใจ IICBTA ถือเป็นใบอนุญาตแยกต่างหากจากจำนวนโควตา ๕๐๐ ใบข้างต้น และให้ ADB ทบทวนความเพียงพอของใบอนุญาตเพื่อการขนส่งและความพร้อมของประเทศสมาชิกในการดำเนินการตามขั้นตอน ๓. ที่ประชุมเห็นชอบให้จัดการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๕ ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๙ ณ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหารือและทบทวนประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ (๑) รูปแบบของเอกสารนำเข้ารถยนต์ชั่วคราว (Temporary Admission Document : TAD) (๒) เส้นทางขนส่งระหว่างประเทศ จุดเข้าและออกประเทศ ภายใต้พิธีสาร ๑ (๓) กรอบเวลาสำหรับการดำเนินการตามความตกลง CBTA อย่างเต็มรูปแบบ (๔) การแก้ไขความตกลง CBTA และ (๕) ร่างยุทธศาสตร์การขนส่งหลายรูปแบบของ GMS (GMS Multimodal Transport Strategy) ที่จัดทำโดย ADB
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20095 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนพฤษภาคม 2559 | นร11 | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจไทยเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ ฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน ๒๕๕๙ เครื่องชี้สำคัญ ๆ ขยายตัวทั้งดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน ดัชนีปริมาณการส่งออก ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม และจำนวนนักท่องเที่ยว และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสแรกของปี ๒๕๕๙ ตามการขยายตัวเร่งขึ้นของดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม การเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนภาครัฐ การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งการกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ ๔ เดือน ของดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกยังคงลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการลดลงของราคาสินค้าในตลาดโลก ในขณะที่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี ๒. สถานการณ์เศรษฐกิจโลกเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ โดยรวมยังคงอยู่ในช่วงของการชะลอตัวตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และประเทศสำคัญอื่น ๆ รวมทั้งการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ของเศรษฐกิจยุโรป การชะลอตัวทางเศรษฐกิจทำให้ประเทศต่าง ๆ ยังคงดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี ๒๕๕๙ ช้าลงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20096 | รายงานสรุปการดำเนินการแก้ไขปัญหาวิกฤตภัยแล้งปี 2558/59 | กษ | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปการดำเนินการแก้ไขปัญหาวิกฤตภัยแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ มีสาระสำคัญประกอบด้วย การเตรียมการป้องกันและบรรเทาผลกระทบ การเผชิญเหตุและการบรรเทาทุกข์ การฟื้นฟู ผลการดำเนินงานและผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ผลสัมฤทธิ์การแก้ไขปัญหาวิกฤตภัยแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ การประเมินความพึงพอใจ ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ ทั้งนี้ ได้ดำเนินมาตรการ/โครงการที่สนับสนุนให้เกษตรกรและประชาชนสามารถลดรายจ่าย สร้างรายได้ และขยายโอกาสในการปรับตัวให้ผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้ง ซึ่งมีผลลัพธ์ของการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘/๕๙ โดยคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการแก้ไขปัญหาวิกฤตภัยแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ จำนวน ๘ มาตรการ และบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก ๙ มาตรการ รวม ๑๗ มาตรการ เป็นเงิน ๒๐๔,๙๘๕.๔๐ ล้านบาท และมีการเบิกจ่ายแล้วทั้งสิ้น ๑๐๖,๗๐๐.๐๒ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20097 | รายงานผลการเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน | รง | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานรายงานผลการเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระหว่างวันที่ ๑-๒ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างไทยและเมียนมา และเข้าร่วมประชุมระดับวิชาการเมียนมา-ไทย ระหว่างวันที่ ๓๐ เมษายน-๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ โดยได้มีการหารือในประเด็นสำคัญ ๆ ได้แก่ (๑) การหารือเกี่ยวกับแรงงานเมียนมาสองกลุ่ม คือ กลุ่มที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identification : CI) ที่มีอายุวีซ่าเหลือน้อยกว่า ๒ ปี และกลุ่มที่ถือบัตรสีชมพูที่ผ่านการยื่นขอจดทะเบียนในระหว่างวันที่ ๑ เมษายน-๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙ (๒) การจัดส่งแรงงานเมียนมาทำงานในภาคประมงทะเลในระบบรัฐต่อรัฐ (๓) การจัดตั้งศูนย์แรกรับและส่งกลับ ๔ แห่ง ตามแนวชายแดน (๔) การปรับปรุง (ร่าง) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน และบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงานระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลเมียนมา โดยกำหนดวันลงนามเอกสารทั้งสองฉบับภายหลังจากที่ได้รับการอนุมัติตามขั้นตอนที่จำเป็นแล้ว และ (๕) การจัดตั้งศูนย์ประสานงานแรงงานต่างด้าวเพื่อรับเรื่องร้องทุกข์ ร้องเรียน นอกจากนี้ ฝ่ายไทยเสนอฝ่ายเมียนมาให้พิจารณาเรื่องการจัดฝึกอบรมก่อนการเดินทาง (Pre-Departure Training) แก่แรงงานเมียนมาเพื่อให้รับทราบสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายของไทย รวมทั้งข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ พร้อมเน้นย้ำให้มีการติดต่อหารือกันอย่างใกล้ชิดในระดับเจ้าหน้าที่สองฝ่าย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20098 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิพลเมือง กรณี ขอความช่วยเหลือให้ชาวพม่าที่อพยพหนีภัยสงครามเข้ามาในประเทศไทย | สม | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิพลเมือง กรณีขอความช่วยเหลือให้ชาวพม่าที่อพยพหนีภัยสงครามเข้ามาในประเทศไทย ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้ผู้หนีภัยมีสิทธิในการทำงานได้ระหว่างที่รอการส่งกลับประเทศต้นทาง นอกจากจะผิดวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือผู้หนีภัย ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในประเทศ และประเทศไทยได้ปฏิบัติต่อผู้หนีภัยโดยยึดหลักการไม่ผลักดันกลับไปสู่อันตรายอยู่แล้ว โดยยึดหลักความสมัครใจ มีเกียรติ ปลอดภัย และสมศักดิ์ศรี อีกทั้งประเทศไทยมีความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมกับทั้งองค์การระหว่างประเทศและในเวทีระหว่างประเทศในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือดูแลผู้หนีภัยตามความจำเป็นเพื่อยังชีพบนพื้นฐานด้านมนุษยธรรม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการสร้างความรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องนี้กับผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20099 | รายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | ปง | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๗-๓๐ กันยายน ๒๕๕๘) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับด้านการปราบปรามการฟอกเงิน การปฏิบัติงานด้านการป้องกันการฟอกเงิน ผลการดำเนินงานด้านการกำกับและตรวจสอบสถาบันการเงิน ผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงาน ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ และให้นำรายงานพร้อมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ระบบสารสนเทศ และโครงสร้างอัตรากำลัง เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20100 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายประวิ อ่ำพันธุ์) | สธ | 09/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายประวิ อ่ำพันธุ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
.....