ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 10 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 20 จากข้อมูลทั้งหมด 196 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | แนวทางปฏิบัติเพื่อลดขั้นตอน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) | สคทช | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางปฏิบัติเพื่อลดขั้นตอน
และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One
Map) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป และขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๕ เฉพาะกรณีการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (แผนที่ One Map)
และมอบหมายกรมธนารักษ์ กรมที่ดิน กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า
และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมการปกครอง กรมแผนที่ทหาร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติเพื่อลดขั้นตอน
และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่ One Map ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รวมทั้งข้อเสนอแนะของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นควรมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอื่น
เช่น สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เป็นต้น เพื่อร่วมดำเนินการพิจารณาแนวทางการจัดทำแผนที่ดิจิทัล
และนำเทคโนโลยีดาวเทียมมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำแผนที่แนบท้ายกฎหมาย
รวมถึงลดระยะเวลาการดำเนินงานในอนาคตด้วย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าเนื่องจากแผนที่ท้ายถือเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายที่ใช้เป็นการแสดงแนวเขตที่ดินที่ประสงค์จะดำเนินการตามกฎหมายในเรื่องนั้น
ๆ ว่า แนวเขตที่ดินที่จะดำเนินการตั้งอยู่บริเวณใด โดยแสดงจุดยึดโยงต่าง ๆ
เพื่อให้ทราบที่ตั้งของแนวเขตที่ดินที่ชัดเจนขึ้น ด้วยเหตุนี้ในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อให้แนวเขตที่ดินตามแผนที่ท้ายสอดคล้องกับผลการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ
อาจส่งผลกระทบต่อท้องที่ที่กำหนดไว้ในแผนที่ท้ายกฎหมาย
รวมทั้งอาจมีรายละเอียดเกี่ยวกับจุดยึดโยงที่แตกต่างจากที่กำหนดไว้เดิมตามสภาพของข้อเท็จจริงที่อาจเปลี่ยนแปลงไป
ดังนั้น
หน่วยงานของรัฐผู้เสนอร่างกฎหมายจำเป็นต้องพิจารณาความถูกต้องของท้องที่การปกครองและแนวเขตการปกครองด้วย
เพื่อมิให้เกิดข้อโต้แย้งขึ้นในภายหลัง |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2 | การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้เป็นสูญโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐ | กค. | 18/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติจำหน่ายหนี้เป็นสูญของโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
จำนวน ๒ โครงการ ได้แก่ ๑.๑
โครงการส่งเสริมการปลูกชาจีนในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงราย ลูกหนี้ค้างชำระ จำนวน
๑๖๘ ราย วงเงินรวม ๘,๕๑๙,๓๔๖.๒๕
บาท ๑.๒
โครงการความร่วมมือไตรภาคี (ปลูกไผ่กิมซุ่ง) จังหวัดกาญจนบุรี ลูกหนี้ค้างชำระ จำนวน
๒๘๓ ราย วงเงินรวม ๑๗,๒๙๘,๗๕๙.๗๓
บาท ส่วนโครงการเลี้ยงวัวกลุ่มโล๊ะไม้อ้อในพื้นที่นิคมเศรษฐกิจพอเพียง
อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ลูกหนี้ค้างชำระ จำนวน ๔๑ ราย วงเงินรวม ๒,๐๐๗,๑๔๑.๗๓ บาท
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการจำหน่ายหนี้เป็นสูญ ตามหน้าที่และอำนาจ
ตามนัยมติสภาบริหารคณะปฏิวัติเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๕ (เรื่อง ขออนุมัติจำหน่ายบัญชีลูกหนี้ค่าจำหน่ายสลากของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและขออนุมัติในหลักการเรื่องจำหน่ายหนี้เงินและทรัพย์สินออกจากบัญชี) ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทย
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นควรพิจารณาถึงความจำเป็นและเหมาะสมในการดำเนินโครงการ
อาทิ การบริหารจัดการโครงการด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงสภาพพื้นที่ให้เหมาะสม ศักยภาพและโอกาสด้านการผลิต
การตลาด เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
มีการจัดทำแผนและติดตามประเมินผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
กำหนดแนวทางการบริหารจัดการด้านการเงินให้ครอบคลุม รวมทั้งเสริมสร้างองค์ความรู้ในการดำเนินโครงการและการบริหารจัดการด้านการเงินให้แก่เกษตรกรและองค์กรเกษตรกร
ตลอดจนถอดบทเรียนจากการดำเนินการที่ผ่านมา เพื่อเป็นการลดภาระการดำเนินงานของกองทุน
ภาระต่องบประมาณในอนาคต และลดปัญหาหนี้สูญที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรจัดให้มีการวิเคราะห์และจัดทำแนวทางป้องกันและจัดการความเสี่ยง
รวมทั้งการติดตามความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถป้องกันและดำเนินการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของเกษตรกร
และส่งผลต่อเนื่องให้ต้องมีการขอจำหน่ายหนี้สูญให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ๓. ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการรับเงิน
การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน การจัดหาผลประโยชน์ การจัดการและการจำหน่ายทรัพย์สินของกองทุนพัฒนาสหกรณ์
พ.ศ. ๒๕๕๐ และมติสภาบริหารคณะปฏิวัติเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๕ (เรื่อง
ขออนุมัติจำหน่ายบัญชีลูกหนี้ค่าจำหน่ายสลากของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและขออนุมัติในหลักการเรื่องจำหน่ายหนี้เงินและทรัพย์สินออกจากบัญชี)
ในส่วนของการกำหนดวงเงินการจำหน่ายหนี้เป็นสูญเกินกว่า ๕ ล้านบาท
ที่ต้องเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบันตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๖ สิงหาคม ๒๕๖๗ (เรื่อง
ขอจำหน่ายหนี้สูญตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้เป็นสูญในกองทุนหรือเงินทุนในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ของสหกรณ์ประมงเกาะลันตา จำกัด) ให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (1. นายประยูร อินสกุล ฯลฯ รวม 13 คน) | กค. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
รวม ๑๓ คน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๘
มีนาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. นายประยูร อินสกุล รองประธานกรรมการ ๒. นางภัทรพร วรทรัพย์ กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๓. นายพชร อนันตศิลป์ กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๔. นายพีรพันธ์ คอทอง กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ๕. นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ กรรมการ (ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์) ๖. นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ กรรมการ
(ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) ๗. นางวิเรขา สันตะพันธุ์ กรรมการ (ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย) ๘. นางนิภา ไพโรจน์ กรรมการ (ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรผู้ถือหุ้น) ๙. นายกษาปณ์ เงินรวง กรรมการ ๑๐. นายจรูญเดช เจนจรัสสกุล กรรมการ ๑๑. นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง กรรมการ ๑๒. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง กรรมการ ๑๓. นายพิสุทธิ์ จันทรสุรินทร์ กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4 | การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ และการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎร กรณีพื้นที่นิคมสร้างตนเอง ลำน้ำน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์ | สคทช | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎร
กรณีพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์ บริเวณที่ ๑ - ๕ ได้แก่ ๑)
พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านทับซ้อนอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ๒)
พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านทับซ้อนวนอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำลี ๓) พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านทับซ้อนเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
๔) พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านทับซ้อนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และ ๕) พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านซึ่งได้จัดที่ดินให้ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
(กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช) เร่งรัดดำเนินการแก้ไขแผนที่แนบท้ายกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับแนวทางการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ
ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอในครั้งนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายใน
๑๘๐ วัน ๓.
ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น กระทรวงมหาดไทย เห็นควรพิจารณาดำเนินการอย่างรอบคอบ
และเป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
เห็นว่าการดำเนินการต้องเป็นไปตามระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
และคำนึงถึงการสร้างสมดุลการใช้ประโยชน์ที่ดินและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์) | กค. | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ (ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม)
เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ ธันวาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติระดับรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดการทรัพยากรดิน และน้ำเพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน (The International Soil and Water Forum 2024) | กษ. | 29/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติระดับรัฐมนตรี
ว่าด้วยการจัดการทรัพยากรดิน และน้ำเพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน (The
International Soil and Water Forum 2024 : ISWF 2024) ระหว่างวันที่
๙-๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
คือ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและสนับสนุนงบประมาณที่เกี่ยวข้อง
โดยเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น
เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยโอนงบประมาณรายจ่าย
โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยคำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสม ความคุ้มค่า ผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | กษ. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๘ ราย เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน และทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ดังนี้ ๑. นายถาวร ทันใจ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ๔. นายนวนิตย์ พลเคน ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมหม่อนไหม ๕. นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ๖. นายชัยวัฒน์ โยธคล ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ๗. นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8 | ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ | นร. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากกรณีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเมื่อสัปดาห์ก่อน และได้มอบหมายให้กรมแผนที่ทหารเข้าไปสำรวจแนวเขตที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อให้ได้ข้อยุติ
กรมแผนที่ทหารได้ดำเนินการเดินสำรวจแล้วเสร็จเร็วกว่าที่คาดไว้และได้รายงานผลการดำเนินการให้ทราบในเบื้องต้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างหน่วยงานในระยะยาว
จึงขอมอบหมายการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๑.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือเป็นหลักปฏิบัติและประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
จะไม่มีการนำที่ดินตามแนวเขตกันชนกับป่าหรือพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างหน่วยงานมาใช้แบ่งหรือจัดสรรเป็นที่ดิน
ส.ป.ก. อย่างเคร่งครัด
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมให้มีการปลูกป่าในพื้นที่ดังกล่าว
เพื่อคงความเป็นป่าธรรมชาติไว้
โดยขอให้ประขาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกและอนุรักษ์พื้นที่ป่าดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9 | ร่างกฎกระทรวงการแบ่งแยกหรือโอนสิทธิในที่ดินของผู้ได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. .... | กษ. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการแบ่งแยกหรือโอนสิทธิในที่ดินของผู้ได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการแบ่งแยกหรือโอนสิทธิในที่ดิน ทั้งในกรณีที่เป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรม
กรณีการแบ่งแยกหรือโอนสิทธิในที่ดินไปยังสถาบันเกษตรกร
และกรณีการแบ่งแยกหรือโอนสิทธิในที่ดินไปยังสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดความชัดเจน
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้ได้รับสิทธิ โดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ที่ประสงค์จะทำการแบ่งแยกหรือโอนสิทธิในที่ดินดังกล่าว
และเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ครั้งที่ 2) (นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข) | กษ. | 18/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๒) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11 | ผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน | นร16 | 14/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางการใช้เส้นปรับปรุงการสำรวจแนวเขต
ปี ๒๕๕๓ ในการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map)
พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดนครราชสีมา
และจังหวัดปราจีนบุรี และให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้
สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดปราจีนบุรี
ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลพื้นที่ของจุดที่ไม่ชัดเจนให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน
และเร่งรัดดำเนินการสำรวจเพื่อจัดทำแนวกันชน (Buffer Zone) ที่ชัดเจน
เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของพื้นที่มรดกโลกและสภาพพื้นที่ป่าไม้
ภายหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้
ในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด แนวทางการคุ้มครองการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ที่ได้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายและการคุ้มครองและรับรองการดำเนินการของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ
คณะทำงาน และเจ้าหน้าที่ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องตามหน้าที่และอำนาจให้ถูกต้อง รอบคอบ เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12 | ขอความเห็นชอบให้กรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม “ป่าสวนเมี่ยง” เนื้อที่ประมาณ 361 ไร่ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม นำไปดำเนินการตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม | กษ. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม
“ป่าสวนเมี่ยง” เนื้อที่ประมาณ ๓๖๑ ไร่ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
นำไปดำเนินการตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ที่เห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวจะต้องเป็นไปด้วยความถูกต้องและชัดเจนตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
รวมทั้งควรชี้แจงและทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้และเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน
และให้ดำเนินการแจ้งคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด)
เพื่อพิจารณานำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม “ป่าสวนเมี่ยง” เนื้อที่ประมาณ ๓๖๑
ไร่ (เฉพาะกรณี) ออกจากพื้นที่เป้าหมาย คทช. และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
กำกับ ดูแล สมาชิกสมาคมทหารผ่านศึกพิการแห่งประเทศไทย ให้ปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13 | การต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข) | กษ. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข
ข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ ๔ ปี เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน
๒๕๖๕ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๖ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14 | การขอลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) [ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอน และการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด] | บจธ. | 12/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน
สำหรับกรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน
(องค์การมหาชน) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด มีสาระสำคัญเป็นการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑)
ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
สำหรับการบริหารจัดการธนาคารที่ดินของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน
(องค์การมหาชน) (บจธ.) เกี่ยวกับค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์
จากอัตราร้อยละ ๒ และร้อยละ ๑ ตามลำดับ เหลืออัตราร้อยละ
๐.๐๑ ตามราคาประเมินทุนทรัพย์
ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ถึงวันที่ ๗ มิถุนายน
๒๕๖๘ ตามที่ บจธ. เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15 | ผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของพื้นที่กลุ่มที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด | นร16 | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบผลการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๑ และเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๒
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายสันติ พร้อมพัฒน์) รวมทั้งความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น (๑) ขอให้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหา
กรณีการตรวจสอบพบแนวเขตที่ดินในความรับผิดชอบมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
ภายหลังจากมติคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ
แล้ว รวมทั้งให้กรมป่าไม้และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมนำไปปฏิรูปที่ดิน
เพื่อกันคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้ และ (๒) ให้หน่วยงานในสังกัด ประกอบด้วย
กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัด
เข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตรการส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) และแก้ไขปัญหา
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 1/2565 เรื่อง โครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ | สกพอ. | 22/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕
เมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ เรื่อง โครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเข้าใช้ประโยชน์ พ.ศ. ....
และเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท และในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๔,๐๐๐ ล้านบาท
เพื่อเป็นค่าพัฒนาโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ ๒.
เห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
บริเวณตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จำนวนประมาณ ๑๔,๖๑๙ ไร่
เพื่อการพัฒนาโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะได้ตามนัยมาตรา ๓๖
แห่งพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓.
รับทราบว่า
ปัจจุบันมีเกษตรกรกลุ่มหนึ่งได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในบริเวณตำบลห้วยใหญ่
อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ยังไม่ยินยอมให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อดำเนินโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ชี้แจง
และให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกรกลุ่มดังกล่าว
เพื่อให้สามารถเข้าใช้ที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในความครอบครองของเกษตรกรกลุ่มดังกล่าว
เพื่อดำเนินโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะได้ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17 | การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) | นร.04 | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๕๔/๒๕๖๔
เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ๒) โดยให้เพิ่มเติมข้อความ
ข้อ ๑.๑.๕ ของคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๓๘/๒๕๖๓ เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม
๒๕๖๓ และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “๑.๑.๕ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (เฉพาะ
กรมพัฒนาที่ดิน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร)” และให้ยกเลิกข้อความในข้อ ๔.๑.๒ ของคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๒๓๘/๒๕๖๓ เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม
๒๕๖๓ และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “๔.๑.๒ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ยกเว้น
กรมพัฒนาที่ดิน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร)” ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18 | ขออนุมัติโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ของกรมการขนส่งทางบก | กค. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย
ของกรมการขนส่งทางบก และวงเงินงบประมาณรายจ่ายของโครงการฯ ตามมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ประกอบบทเฉพาะกาลมาตรา ๖๘ (๑)
แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ ให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP
Net Cost โดยภาครัฐเป็นผู้ลงทุนค่าที่ดิน
ค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่เอกชนเป็นผู้ลงทุนค่าอุปกรณ์ขนถ่ายสินค้า
อุปกรณ์สำนักงานและส่วนประกอบ
และงานระบบที่เกี่ยวข้องกับการบริหารด้านการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์และเอกชนเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา
(Operation and Maintenance : O&M)
ทั้งหมด
รวมทั้งเป็นผู้รับความเสี่ยงทางด้านรายได้และจ่ายค่าสัมปทานให้ภาครัฐตลอดระยะเวลา
๑๕ ปี นับจากปีเปิดให้บริการ ๑.๒ ให้ดำเนินโครงการฯ
ในกรอบวงเงินรวมสำหรับค่างานที่เกี่ยวข้องกับค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน (ระยะที่
๒) ของโครงการฯ จำนวน ๖๖๐.๔๓ ล้านบาท
โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแผนการใช้จ่ายเงินจริง ๑.๓
กรอบวงเงินค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินในส่วนของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมของโครงการฯ
วงเงินจำนวน ๓๔,๒๑๗,๘๒๐ บาท
และวงเงินหลักประกันตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่เกี่ยวข้อง
จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแผนการใช้จ่ายเงินจริง ๒.
ให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) กระทรวงคมนาคม
(กรมการขนส่งทางบก) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา ๓๖
แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ ๒๕๖๒
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
เห็นควรที่กรมการขนส่งทางบกและคณะกรรมการคัดเลือกฯ พิจารณากลไกที่จะทำให้ภาครัฐสามารถกำหนดขนาดและระยะเวลาการลงทุนพัฒนาโครงการฯ
ระยะที่ ๒ ให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ
หากกรณีการดำเนินการก่อสร้างไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๘ เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
๓.
ให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ)
รับไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดขอบเขตสมมติฐานทางการเงินและเศรษฐศาสตร์ที่ชัดเจน
เช่น อัตราคิดลด ระยะเวลาดำเนินโครงการ เป็นต้น
เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการวิเคราะห์ผลตอบแทนการลงทุนของโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงานต่าง
ๆ ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 14/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมสามารถจัดซื้อที่ดินและนำมาจัดสรรให้เกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินทำกิน หรือมีที่ดินไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรม ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20 | ขออนุมัติดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยกรอกเคียน จังหวัดฉะเชิงเทรา | กษ | 08/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) ดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยกรอกเคียน จังหวัดฉะเชิงเทรา ภายในกรอบวงเงิน ๑,๘๘๐ ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ ๔ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-พ.ศ. ๒๕๖๗) โดยขอให้กรมชลประทานจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามความพร้อมและความสามารถในการใช้จ่ายที่สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอย่างเคร่งครัด เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกที่เห็นว่า เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีความพร้อมทั้งในด้านของพื้นที่ที่เป็นพื้นที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมทั้งหมดซึ่งกรมชลประทานได้ดำเนินการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่แล้วและไม่ต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จึงควรเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนงานโครงการ (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๗) ที่ตั้งไว้ เป็นต้น
|