ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 36 จากทั้งหมด 66 หน้า แสดงรายการที่ 701 - 720 จากข้อมูลทั้งหมด 1313 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
701 | รายงานผลการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การศึกษา กฎหมาย ระเบียบ และวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความยากจน | นร | 12/10/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการายงานผลการประชุมคณะอนุ
กรรมการพิจารณาโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การศึกษา กฎหมาย ระเบียบ และวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวกับการแก้ไข ปัญหาความยากจน โดยมีผลการประชุมดังนี้ การปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับเอกสารสิทธิในที่ดิน คณะอนุ กรรมการ ฯ ได้พิจารณาร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานในการออกเอกสาร สิทธิ์ในที่ดินของรัฐ พ.ศ. .... ที่กรมที่ดินได้ยกร่างขึ้นแล้วเห็นว่า ระเบียบดังกล่าวเป็นการใช้มาตรการในทาง บริหารซึ่งสามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาในระยะสั้นได้ เนื่องจากจะทำให้การออกเอกสารสิทธิของหน่วยงาน ของรัฐเป็นไปอย่างมีระบบ และมีมาตรฐานเดียวกัน และเพื่อให้การดำเนินการเกิดผลตามวัตถุประสงค์ตาม ระเบียบดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในที่ดินในระยะยาว คณะ อนุกรรมการ ฯ ได้มีมติให้กรมที่ดินเสนอร่างพระราชบัญญัติกำหนดมาตรฐานในการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ ดินของรัฐ พ.ศ. .... ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา สำหรับการดำเนินโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการจัดให้ ประชาชนเข้าไปจำหน่ายสินค้าในทางเท้าของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เห็นว่า การดำเนินโครงการ ดังกล่าวเป็นการอำนวยความสะดวกในการหาแหล่งเงินทุนให้กับผู้ค้า แต่ควรมีหลักเกณฑ์ในการควบคุมดูแล การเข้าใช้ประโยชน์ที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้ประชาชนใช้ช่องทางของโครงการดังกล่าวเข้าไปบุกรุกที่เพื่อให้ได้สิทธิ ครอบครอง โดยเห็นควรเก็บค่าเช่าจากผู้ที่เช่าไปจำหน่ายสินค้าในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อเป็นรายได้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น และเพื่อนำไปปรับปรุงและดูแลพื้นที่ให้มีความสวยงามและเป็นระเบียบ
|
|||||||||||||||
702 | การปรับปรุงค่าตอบแทนของผู้บริหารท้องถิ่น ประธานสภา รองประธานสภา และสมาชิกสภาท้องถิ่น | มท | 12/10/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 8 (ฝ่าย กฎหมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอการปรับปรุงค่าตอบแทนของผู้บริหาร ท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล และ โดยที่คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ จะพิจารณาปรับปรุงค่าตอบแทนสำหรับผู้บริหาร และสมาชิก เมืองพัทยาแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ ประกอบกับการปรับปรุงค่าตอบแทนสำหรับผู้บริหารท้องถิ่นและ สมาชิกสภาท้องถิ่นที่เสนอมานี้จะนำไปใช้ในการเบิกจ่ายเมื่อสิ้นเดือนตุลาคมหรือต้นเดือนพฤศจิกายน จึงควร รอผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ฯ ในส่วนของผู้บริหารและสมาชิกเมืองพัทยาเพื่อมิให้ค่าตอบแทนลักลั่น กัน อย่างไรก็ตามหากกระทรวงมหาดไทยเห็นสมควรเนื่องจากอยู่ในอำนาจของกระทรวงมหาดไทยก็ให้ดำเนิน การออกระเบียบที่ได้จัดทำขึ้น ได้แก่ ร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินเดือนและค่าตอบแทนนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ ดำรงตำแหน่งประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ดำรงตำแหน่ง รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เลขานุการนายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัด ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และกรรมการสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. .... ร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินเดือน ค่าตอบแทน และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของ นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี สมาชิกสภาเทศบาลที่ดำรงตำแหน่งประธานสภาเทศบาล สมาชิกสภา เทศบาลที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล เลขานุการนายกเทศมนตรี ที่ปรึกษา นายกเทศมนตรี และการจ่ายเบี้ยประชุมคณะกรรมการสภาเทศบาล พ.ศ. .... และร่างระเบียบกระทรวงมหาด ไทย ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนนายกองค์การบริหารส่วนตำบล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ประธาน สภาองค์การบริหารส่วนตำบล รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน ตำบล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และเลขานุการสภาองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ..... ต่อ ไปได้
|
|||||||||||||||
703 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการหรือกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อประชาชน พ.ศ. .... | นร | 12/10/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 8 (ฝ่าย
กฎหมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบหลักการตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย การรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการหรือกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อประชาชน พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ คือ กำหนดหลักเกณฑ์การให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ หรือกิจกรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับฟังความคิดเห็นของผู้ ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการโครงการ หรือกิจกรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน ให้เหมาะสมและสอด คล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐได้รับทราบความคิดเห็นของ ผู้ที่ได้รับผลกระทบและใช้เป็นแนวทางประกอบการใช้ดุลพินิจในการอนุมัติ อนุญาต หรือสั่งการให้ดำเนินโครง การหรือกิจกรรมนั้น และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับประเด็นอภิปรายของ คณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เกี่ยวกับคำว่า "โครงการหรือกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อประชาชน" ที่กำหนด ไว้ในร่างระเบียบ ฯ มีความหมายค่อนข้างกว้างอาจมีการแปลความหมายกว้างหรือนำไปเบี่ยงเบนทำให้ครอบ คลุมโครงการหรือกิจกรรมจำนวนมาก ซึ่งอาจมีผลกระทบให้เกิดความล่าช้า หรือมีภาระในการดำเนินการที่ไม่ มีความจำเป็น และควรพิจารณากำหนดกรอบหรือขอบเขตไว้ โดยอาจยกไว้ในคำปรารภในกรณีที่ไม่สามารถ กำหนดคำนิยาม เพื่อเป็นแนวทางหรือกรอบในการตีความ นอกจากนี้ ควรเพิ่มอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นกรรมการในคณะกรรมการที่ปรึกษาการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ โครงการหรือกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อประชาชน และเพิ่มกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชนให้เป็นไปตาม สัดส่วนที่เหมาะสม ประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
704 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารราชการตำบล พ.ศ. .... | มท | 12/10/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 8
(คกก.8) ที่มีมติให้ชะลอการดำเนินการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารราชการ ตำบล พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอไว้ก่อน เพื่อรอผลการดำเนินการตามมติการประชุม หารือเรื่อง ขอรับการจัดสรรอัตรากำลังปลัดอำเภอประจำตำบล เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2547 ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยรับประเด็นอภิปรายของ คกก.8 ไปดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ ให้กระทรวง มหาดไทยพิจารณาแนวทางการบริหารราชการในส่วนท้องถิ่นให้มีความเหมาะสมไม่ขัดแย้งหรือสวน ทางการกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่นที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน และรวบรวมข้อมูที่สำคัญและจำเป็น ที่ได้รับจากการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อนำมาจัดทำร่างระเบียบ ฯ ได้อย่างครบถ้วนและรัดกุม รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ประกอบด้วย |
|||||||||||||||
705 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ พ.ศ. .... | กษ | 28/09/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4.2
(ฝ่ายการเกษตรฯ) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอร่างระเบียบสำนัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีคณะกรรมการนโยบาย พัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์แห่งชาติ กำหนดหน้าที่ให้ผู้เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติเพื่อให้เกิดมาตรฐานสินค้าและ ผลิตภัณฑ์ และจัดตั้งกองทุนพัฒนาสุกรขึ้นเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาสุกรทั้งระบบ และร่างระเบียบสำนัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีคณะกรรมการนโยบาย ไข่ไก่แห่งชาติ กำหนดหน้าที่ให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติเพื่อให้เกิดมาตรฐานสินค้าและผลิตภัณฑ์ และจัดตั้งกอง ทุนพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาการผลิต การตลาด และผลิตภัณฑ์ไก่ไข่ทั้งระบบ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราช การที่เกี่ยวข้อง พร้อมประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนในร่าง ระเบียบ ฯ และการกำหนดให้เอกชนต้องดำเนินการตามที่ร่างระเบียบ ฯ กำหนดไว้ ไปประกอบการ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการรับไป พิจารณาดำเนินการตามประเด็นอภิปราย ที่มอบให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปศึกษาว่าสมควรจะปรับปรุงระเบียบที่ได้กำหนดให้ตั้งกลไกระดับชาติใน ทำนองเดียวกับร่างระเบียบทั้งสองนี้ ซึ่งรวมทั้งร่างระเบียบนี้ที่ประกาศใช้เป็นระเบียบต่อไปด้วย ก็ให้ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับการกำหนดให้มีส่วนราชการขึ้นใหม่ เช่น ศูนย์วิจัยและปรับ ปรุงพันธุ์สุกรแห่งชาติ สถาบันวิจัยพัฒนาเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ ควรตัดออก และนำไปหารือสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ |
|||||||||||||||
706 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารการพัฒนาเพื่อกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและ ท้องถิ่น พ.ศ. .... | นร | 14/09/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่คณะกรรมการนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค
และท้องถิ่นเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารการพัฒนาเพื่อกระจายความเจริญไปสู่ ภูมิภาคและท้องถิ่น พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารการ พัฒนาเพื่อกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น พ.ศ. 2539 เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับบทบาทและ ภารกิจใหม่ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยระบบการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. 2546 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||
707 | มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2547 (ครั้งที่ 97) | พน | 24/08/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
ครั้งที่ 2/2547 (ครั้งที่ 97) เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2547 รวม 3 เรื่อง ได้แก่ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า ของประเทศไทย พ.ศ. 2547-2558 (PDP 2004) มติที่ประชุม เห็นชอบในหลักการแผนพัฒนา ฯ ดังกล่าว โดยเห็นชอบแนวทางการจัดหาไฟฟ้าก่อนปี 2554 เรื่อง การกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า มติที่ประชุมเห็นชอบ (1) ร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติว่าด้วยการสรรหาและจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดู แลกิจการไฟฟ้า (2) แนวทางการดำเนินการขออนุมัติค่าตอบแทนของกรรมการจากเงินงบประมาณของรัฐ และ (3) หลักการให้จัดตั้งคณะกรรมการยกร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการไฟฟ้า โดยมอบหมาย กระทรวงพลังงานรับไปดำเนินการต่อไป และเรื่อง ระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กที่ใช้พลัง งานหมุนเวียนตามนโยบาย Renewable Portfolio Standard (RPS) มติที่ประชุมเห็นชอบร่างระเบียบการ รับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามนโยบาย RPS
|
|||||||||||||||
708 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประกาศเรื่องในราชกิจจานุเบกษา พ.ศ. ... | นร | 24/08/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 8 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประกาศเรื่องในราชกิจจานุ เบกษา พ.ศ. .... ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รับความ เห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เกี่ยวกับการปรับปรุงวิธี การประกาศราชกิจจานุเบกษา การกำหนดผู้มีอำนาจส่งเรื่องมาประกาศราชกิจจานุเบกษา ความหมายของ คำว่า "ราชกิจจานุเบกษา" ตามมาตรา 93 ของรัฐธรรมนูญ และการกำหนดประเภทเรื่องเพื่อประกาศในราช กิจจานุเบกษา รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมตามความเห็นของสำนักงานศาลปกครองกรณีที่กำหนดให้คำพิพากษาและ คำสั่งของศาลปกครองลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประเภท ก ควรแก้ไขเป็น "คำพิพากษาศาลปกครอง อันถึงที่สุดให้เพิกถอนกฎ" และในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบ ให้นายกรัฐมนตรีผู้รักษาการ เป็นผู้ตีความหรือวินิจฉัย นอกจากนี้ ประเภทของราชกิจจานุเบกษา ควรกำหนดชื่อเรียกโดยย่อ เช่น ประเภท ก ฉบับกฤษฎีกา ประเภท ข ฉบับข่าว และทะเบียนฐานันดร ประเภท ค ฉบับการค้า และประเภท ง ฉบับ งานและประกาศทั่วไป และการกำหนดการจัดพิมพ์ราชกิจจานุเบกษาแต่ละประเภทให้มีขนาดที่เท่ากัน ไป พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||
709 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. .... และร่างระเบียบว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | นร | 17/08/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 8 (คกก.8)
ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและ การประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการเสนอเรื่องต่อคณะ รัฐมนตรี ตลอดจนการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อลดภารกิจและจำนวนเรื่องที่จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ คณะรัฐมนตรี และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็น ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและประเด็นอภิปรายของ คกก.8 กรณีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการประชุมคณะรัฐมนตรี ควรกำหนดองค์ประชุมของคณะรัฐมนตรีตามปกติ โดยกำหนดให้ต้องมีรัฐมนตรีมาประชุมไม่น้อยกว่าหนึ่งใน สามของจำนวนรัฐมนตรีทั้งหมดที่มีอยู่ ส่วนการกำหนดให้การประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้งผู้เข้าร่วมประชุม อาจไม่จำเป็นต้องมานั่งประชุมร่วมกัน เช่น การประชุมทางไกล เป็นต้น ในกรณีเช่นนี้จะนับองค์ประชุมกัน อย่างไร ควรกำหนดไว้ให้ชัดเจนในพระราชกฤษฎีกานี้ด้วย นอกจากนี้ การเสนอร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ เพื่อ คณะรัฐมนตรีพิจารณานั้น มีหลายส่วนราชการได้เสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ด้วยซึ่งในบางเรื่องบางประเด็นเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ควรมีการศึกษาแล้วนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา ร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และเห็นชอบในหลักการตาม ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอร่างระเบียบว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดแนวทางปฏิบัติในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะกรณีเสนอร่างกฎ หมาย หรือการดำเนินการ หรือการรายงานผลการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี ตามมาตรา 9 แห่งพระราช กฤษฎีกา ฯ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้องและประเด็นอภิปรายของ คกก.8 ที่เห็นควรแก้ไขร่างระเบียบ ฯ ข้อ 5 "รัฐมนตรีเจ้าสังกัด" ให้รวม ถึงรัฐมนตรีที่กำกับดูแลองค์การมหาชน และร่างข้อ 8 วรรคสาม ควรใช้วิธีการประสานงานกับ ปคร. เพื่อมิ ให้เกิดความล่าช้าในกรณีที ปคร. ไม่อยู่ หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้ว ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้ร่างระเบียบ ฯ มีผลใช้บังคับเมื่อพระราชกฤษฎีกา ฯ มีผลใช้บังคับแล้ว และให้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรับประเด็นอภิปรายของ คกก.8 ที่เห็นว่า ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 กำหนดให้มีการประกาศมติคณะรัฐมนตรีที่มีสภาพอย่างกฎ เพื่อให้มี ผลเป็นการทั่วไปต่อเอกชนที่เกี่ยวข้องในราชกิจจานุเบกษาซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีการประกาศมติคณะรัฐมนตรี ในราชกิจจานุเบกษาแต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการหารือคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ถึง แนวทางปฏิบัติและรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||
710 | เงินสนับสนุนจากรัฐบาลไทยสำหรับการดำเนินงานร่วมกับ IFCS | สธ | 10/08/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ที่มีมติ
เห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอเรื่อง การบริจาคเงินจำนวน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี ให้แก่ Intergovernmental Forum on Chemical Safety (IFCS) หรือ "ความร่วมมือ ระหว่างประเทศเรื่องความปลอดภัยของสารเคมี" อันเป็นการดำเนินการในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิก ความร่วมมือระหว่างประเทศเรื่องความปลอดภัยของสารเคมี โดยมีเงื่อนไขดังนี้ (1) จัดตั้งเป็นกองทุนต่าง หาก แยกจากกองทุนรวม IFCS เพื่อให้ใช้ตามวัตถุประสงค์เท่านั้น (2) กองทุนจะใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการ ดำเนินงานในประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในเรื่องการรณรงค์ลดการใช้สารเคมี ทางการเกษตร ระบบการจัดแบ่งสารเคมีระดับโลก (GHS) เด็กและความปลอดภัยสารเคมี ตามมติ Forum IV และ (3) การใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้ IFCS มีการระดมทรัพยากรจากแหล่งทุนอื่นเพื่อเสริมการดำเนินกิจ กรรมตามวัตถุประสงค์ด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นว่า IFCS เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเพื่อให้เกิดการพัฒนากลยุทธและความร่วมมือในการดำเนินงาน ซึ่งผลประโยชน์ในการช่วยเหลือทางด้านวิชาการเรื่องความปลอดภัยด้านเคมี นั้น ปัจจุบันจะมุ่งเน้นด้าน สาธารณสุข เห็นควรขยายผลให้ครอบคลุมถึงความปลอดภัยในด้านอุตสาหกรรมที่มีบทบาทภารกิจเกี่ยว กับการควบคุมสารเคมีด้วย ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมยังไม่ได้รับประโยชน์ด้านวิชาการจาก IFCS ส่วน การนำระบบแบ่งกลุ่มสารเคมีและการติดฉลาก (GHS) และร่างระเบียบว่าด้วยการควบคุมเคมีภัณฑ์ของ สหภาพยุโรป (REACH) เป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการค้า กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นศูนย์ ประสานงานกับ APEC และกระทรวงการต่างประเทศซึ่งมีข้อตกลงผูกพันให้ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว ดังนั้น หาก จะนำข้อผูกพันของ IFCS มาใช้ปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวต้องพิจารณาให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และควร ให้การช่วยเหลือด้านวิชาการแก่ภาคอุตสาหกรรมด้วย ไปพิจารณาดำเนินการด้วย สำหรับเงินบริจาคดัง กล่าวให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||
711 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. .... | นร | 10/08/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีลงมติเห็นควรอนุญาตหลักการร่างระเบียบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย
การขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. .... ตามที่สำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรีเสนอแล้วให้สำนักงานคณะกรรมการฤษฎีกาตรวจพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||
712 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ พ.ศ. .... | วท | 03/08/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5
(คกก.5) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอร่างระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนด ให้มี "คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ" มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและมาตรการ ในการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพของประเทศ อนุมัติแผนงานโครงการ วงเงินลงทุน เพื่อการดำเนินงาน ภายใต้นโยบายและมาตรการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของ คกก.5 ที่เห็นควร กำหนดคุณสมบัติกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไว้ให้เหมาะสมและชัดเจน ไม่ควรระบุชื่อรองนายกรัฐมนตรีเป็น รองประธานกรรมการควรใช้คำว่ารองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายแทนไปพิจารณาดำเนิน การด้วย และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||
713 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงานของหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ พ.ศ. .... (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | นร | 27/07/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนัก
งาน ก.พ.ร.) เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงานของหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือกำหนดให้ส่วนราชการที่ประสงค์จะจัดให้หน่วยงานหรือภารกิจใดของส่วนราชการ นั้น มีระบบการบริหารงานในรูปแบบพิเศษที่มีอิสระในการดำเนินงาน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา พร้อมทั้งให้รับความเห็นบางประการของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า โดยที่ปัจจุบันมีการจัดตั้งองค์กรอิสระ องค์การมหาชน กองทุน หน่วยบริการรูปแบบพิเศษ และองค์กรหรือหน่วยงานในลักษณะเดียวกัน ขึ้นมา หลายหน่วยงาน จึงให้ ก.พ.ร. รับไปพิจารณาว่า หากจะให้คณะกรรมการกลางคณะหนึ่งในสำนักนายก รัฐมนตรีที่มีองค์ประกอบที่เหมาะสม ประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) สำนักงบ ประมาณ หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่กำกับ ดูแล ตรวจสอบ และประเมินผลองค์กรหรือ หน่วยงานดังกล่าวด้วย เพื่อให้เกิดความรัดกุม และมีมาตรฐานเดียวกัน จะมีความเหมาะสมหรือไม่ ประการ ใด แล้วเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||
714 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547 | พณ | 20/07/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547 โดยมีสาระสำคัญคือ ยกเลิกความ ในวรรคหนึ่งของข้อ 5 แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พ.ศ. 2546 และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน "ข้อ 5 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า "คณะกรรมการนโยบาย เศรษฐกิจระหว่างประเทศ" เรียกโดยย่อว่า "กนศ." ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรี มอบหมาย เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการ" และให้ ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||
715 | การแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงแรงงาน | รง | 08/06/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมาย
ของกระทรวงแรงงาน โดยมีศาสตราจารย์โกเมน ภัทรภิรมย์ เป็นประธานกรรมการ และกรรมการอื่นอีก 16 คน โดยมีผู้อำนวยการกลุ่มงานกฎหมาย สำนักบริหารกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นเลขานุการ ทั้งนี้ คณะกรรมการดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ปรับปรุง พัฒนา และเร่งรัดการออกกฎหมาย กฎ ระเบียบ และ คำสั่ง ให้สอดคล้องกับกาลสมัยและสภาพการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรอง แก้ไข ร่างพระ ราชบัญญัติ ร่างพระราชกำหนด ร่างพระราชกฤษฎีกา ร่างกฎกระทรวง ร่างประกาศ ร่างระเบียบ และร่าง ข้อบังคับซึ่งส่วนราชการหรือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานเสนอ และพิจารณาให้ความเห็นในปัญหาข้อ กฎหมายด้านแรงงาน |
|||||||||||||||
716 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วย เบี้ยปรับสำหรับโรงงานน้ำตาลทรายที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศ ระเบียบ หรือพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 พ.ศ. .... | อก | 25/05/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อย
และน้ำตาลทราย ว่าด้วย เบี้ยปรับสำหรับโรงงานน้ำตาลทรายที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามประกาศ ระเบียบ หรือ พระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ยกเลิกระเบียบคณะกรรมการ อ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วย เบี้ยปรับสำหรับโรงงานน้ำตาลทรายที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศ ระเบียบ หรือพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2528 และกำหนดหลักการให้คณะกรรม การบริหาร (กบ.) มีอำนาจกำหนดเบี้ยปรับได้ตามความร้ายแรงแห่งการกระทำความผิด กำหนดอัตราดอกเบี้ย ในกรณีไม่ชำระเบี้ยปรับภายในระยะเวลาที่กำหนดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี กำหนดเพิ่มเติมให้พนักงานเจ้าหน้า ที่ผู้ซึ่งตรวจพบการกระทำความผิดได้รับเงินรางวัลนำจับด้วย และให้คณะกรรมการบริหารมีอำนาจในการที่จะใช้ มาตรการอื่นใดตามที่เห็นสมควรภายใต้ระเบียบข้อบังคับตามกฎหมาย ว่าด้วย อ้อยและน้ำตาลทราย นอกเหนือ จากการใช้อำนาจสั่งระงับการจัดสรร การอนุญาตให้ส่งออก และการระงับการจัดจำหน่ายที่กำหนดไว้เดิม และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||
717 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ พ.ศ. .... | กค | 25/05/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรอง
ราชการเพื่อช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้ โดยสาระสำคัญของร่างระเบียบกระทรวงการคลังฉบับนี้เป็นการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงการ คลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ พ.ศ. 2541 เพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศนำ เงินทดรองราชการไปทดรองจ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ |
|||||||||||||||
718 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค พ.ศ. .... | นร | 18/05/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญดังนี้ (1) ให้มีคณะกรรมการ กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เรียกโดยย่อว่า "กกภ." โดยมีรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรี มอบหมาย เป็นประธานกรรมการ และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้คณะกรรม การมีภารกิจเกี่ยวกับการพิจารณาแนวทางการบริหารราชการร่วมกันของรองนายกรัฐมนตรีทุกคนให้การปฏิบัติ ราชการเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายและร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ข้อยุติ (2) ให้มีสำนักงานคณะกรรมการ กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค (ส.กกภ.) เป็นหน่วยงานในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบงานธุรการและงานเลขานุการของคณะกรรมการ (3) กำหนดขอบเขตในการกำกับติดตามการปฏิบัติ ราชการและอำนาจหน้าที่ของรองนายกรัฐมนตรี (4) กรณีมีความจำเป็นต้องได้รับจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อแก้ ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ให้รองนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี เพื่ออนุมัติการจัดสรร เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้แก่หน่วยงานของรัฐ หากเกินวงเงิน ให้รองนายกรัฐมนตรีเสนอความเห็นต่อ นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะทำงานชุดหนึ่งเป็นผู้พิจารณากลั่นกรอง ความเหมาะสมและความจำเป็น และ (5) ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับกระทรวงมหาด ไทยรับผิดชอบในการเชื่อมโยงข้อมูล เกี่ยวกับการกำกับการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรีระหว่าง หน่วยงานที่รับผิดชอบสารสนเทศของจังหวัดกับส่วนราชการต่าง ๆ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา โดยให้ยึดหลักการว่า การมอบหมายอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรีให้แก่รอง นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งหมายที่จะให้รองนายกรัฐมนตรีมีอำนาจกำกับดูแลและสั่งการทั้งในงานและในเขตพื้นที่ ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ เสมือนว่าเป็นการดำเนินการของนายกรัฐมนตรี เพื่อประโยชน์ในการบริหารงาน ราชการให้เป็นไปอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ขัดกับบทบัญญัติของกฎหมายที่มีอยู่ และมีความรัดกุม เพียงพอ พร้อมทั้งให้รับประเด็นความเห็นบางประการของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องซึ่งมีความเห็นบางประการ ไป พิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||
719 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... | ทส | 27/04/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ประธานกรรมการทรัพยา
กรน้ำแห่งชาติ เสนอขอถอนร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... คืนไปได้
|
|||||||||||||||
720 | ร่างระเบียบว่าด้วยการขอพระราชทานเหรียญดุษฏีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 20/04/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (คกก.7) ที่
มีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอร่างระเบียบว่าด้วยการขอพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยสาระสำคัญ ของร่างระเบียบฉบับนี้เป็นการกำหนดให้การเสนขอพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา ให้ผู้เสนอ ชื่อเสนอชื่อและผลงานของผู้ซึ่งสมควรจะได้รับการพิจารณาขอพระราชทาน ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ก่อนเดือนเมษายนของแต่ละปี ทั้งนี้ ให้รับประเด็นอภิปรายของผู้แทนสำนักงาน ก.พ. เกี่ยวกับการกำหนดให้ การลงมติว่า จะขอพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา ให้แก่ผู้ใด ต้องมีคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของกรรมการที่มาประชุม ควรแก้ไขเป็น "ต้องมีคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมด" เพราะ จะทำให้มีจำนวนกรรมการลงมติว่า จะขอพระราชทานให้แก่ผู้ใดเพิ่มมากขึ้น และสอดคล้องกับมติของคณะกรรม การที่ผ่านมา ประกอบกับปัจจุบันมีองค์กรใหม่เพิ่มขึ้นตามรัฐธรรมนูญและการปฏิรูประบบราชการ จึงควร ให้มีองค์กรที่เสนอชื่อผู้ซึ่งสมควรจะได้รับการพิจารณาขอพระราชทานเหรียญ ฯ เพิ่มเติม รวมทั้งควรเพิ่มบท เฉพาะกาลเพื่อรองรับการดำเนินการขอพระราชทานเหรียญ ฯ ของสำนักงาน ก.พ. ก่อนที่สำนักเลขาธิการคณะ รัฐมนตรีจะรับโอนงานการขอพระราชทานเหรียญ ฯ และก่อนที่ร่างระเบียบ ฯ จะมีผลใช้บังคับไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้สำนักงาน ก.พ. และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการตามประเด็นอภิ ปรายของ คกก.7 ที่เห็นควรโอนงานการขอพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา มายังสำนักเลขาธิ การคณะรัฐมนตรีโดยให้คงมาตรฐานในการพิจารณากลั่นกรองการเสนอขอพระราชทานไว้ รวมถึงบุคคลที่ดำรง ตำแหน่งเป็นคณะกรรมการพิจารณาการขอพระราชทานเหรียญ ฯ อยู่ในปัจจุบันด้วย นอกจากนี้ ควรให้สำนัก งาน ก.พ. จัดส่งทะเบียนผู้ได้รับพระราชทานเหรียญดังกล่าวให้แก่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี |