ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 35 จากทั้งหมด 66 หน้า แสดงรายการที่ 681 - 700 จากข้อมูลทั้งหมด 1313 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
681 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการส่งเสริมพลังงานทดแทนแห่งชาติ พ.ศ. .... | นร | 29/03/2548 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) เสนอขอถอนร่างระเบียบ
สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการส่งเสริมพลังงานทดแทนแห่งชาติ พ.ศ. .... คืนไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
682 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า พ.ศ. .... | พน | 01/03/2548 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงพลังงานเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้จัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแล กิจการไฟฟ้า ประกอบด้วย ประธานกรรมการคนหนึ่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นอีกสามถึงห้าคน มี อำนาจหน้าที่กำกับดูแลอัตราค่าบริการของผู้ประกอบกิจการไฟฟ้าตามแนวทาง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อน ไขที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติกำหนด กำหนดมาตรการเพื่อส่งเสริมการแข่งขัน และป้องกัน การใช้อำนาจการผูกขาดในทางมิชอบ ตรวจสอบการดำเนินการของศูนย์ควบคุมระบบโครงข่ายไฟฟ้า รวมทั้ง กำหนดวิธีการและกำกับการแข่งขันการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ กำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบกิจการ ไฟฟ้ากำหนดและกำกับดูแลมาตรฐานทางวิชาการและความปลอดภัยของการประกอบกิจการไฟฟ้ามาตรฐาน และคุณภาพในการให้บริการ ฯลฯ โดยให้ได้รับค่าตอบแทนตามที่กระทรวงการคลังกำหนด และให้ส่งสำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
683 | ร่างระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงานงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. .... | นร | 15/02/2548 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1.2 ที่มีมติ
เห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงบประมาณเสนอร่างระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. .... โดย สาระสำคัญของร่างระเบียบทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว เป็นการปรับปรุงระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2534 เพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องกับระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ รวมทั้งปรับ ปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. 2546 เพื่อให้การ บริหารงบประมาณระดับจังหวัดสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาในระดับรากหญ้าของประชาชนใน เชิงมิติพื้นที่ระดับภูมิภาคและท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่าการบริหารงบประมาณของจังหวัด ควรระบุให้ชัดเจนว่า หมายถึงจังหวัดที่ตั้งของโครงการ มิใช่จังหวัดที่ตั้งของหน่วยงานเจ้าของงบประมาณ ส่วน การพิจารณาให้ความดีความชอบแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพตามยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัด และกลุ่มจังหวัด ให้กำหนดตัวชี้วัดผลงาน (Key Performance Indicators : KPI) ร่วมกันระหว่างส่วนราชการซึ่ง เป็นราชการบริหารส่วนกลางที่ตั้งในจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ ไปพิจารณาประกอบด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
684 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับบริจาคและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 08/02/2548 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วย
การรับบริจาคและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับ ปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการ ฯ จากเดิมกำหนดให้ "ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการ" เป็น "ปลัด สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการและเลขานุการ" แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
685 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยสภาผู้นำชุมชนแห่งชาติ พ.ศ. .... | นร | 01/02/2548 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่ประธานกรรมการศึกษาและยกร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยสภาผู้นำชุมชนแห่งชาติ พ.ศ. .... (นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์) เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยสภาผู้นำชุมชนแห่งชาติ พ.ศ. .... โดยให้ประธาน ฯ รับไปดำเนินการแก้ไขโดยด่วน โดยอาจรับไปหารือ รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เพื่อดำเนินการแก้ไขร่างระเบียบ ฯ ตามประเด็นอภิปรายของคณะ กรรมการกลั่นกรอง ฯ เช่น อำนาจหน้าที่ของสภาผู้นำชุมชนแห่งชาติมีความใกล้เคียงกับอำนาจหน้าที่ขององค์ กรที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยกฎหมาย เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด หากไม่แบ่งแยกอำนาจหน้าที่ให้ชัดเจนอาจก่อ ให้เกิดความสับสนแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ และการอ้างมาตรา 11(8) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ในบทอาศัยอำนาจของร่างระเบียบฉบับนี้ยังไม่ถูกต้อง ควรอ้างมาตรา 11 (6) ซึ่งบัญญัติให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานที่ปรึกษา ที่ปรึกษา หรือคณะ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี หรือคณะกรรมการเพื่อปฏิบัติราชการใด ๆ และกำหนดอัตราเบี้ยประชุมหรือค่า ตอบแทนให้แก่ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งได้ซึ่งจะตรงกับความเป็นจริงและเหมาะสมกว่า เป็นต้น และให้รับความเห็นและ ข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปโดยด่วนได้ นอกจากนี้ ให้รับข้อ สังเกตของคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณาด้วยว่า การกำหนดจำนวนผู้ที่จะเป็นคณะกรรมการซึ่งทำหน้าที่สภาผู้นำ ชุมชนแห่งชาติ ให้มีจำนวน 50 คน ตามร่างมาตรา 26 อันเป็นบทเฉพาะกาล นั้น สมควรปรับปรุงเป็นไม่เกิน 50 คน เนื่องจากหากมีผู้เหมาะสมไม่ครบจำนวนก็ไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งจนครบจำนวนได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
686 | ขอแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีและการปรับปรุงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี | กก | 18/01/2548 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่ายการต่าง
ประเทศ วัฒนธรรม ท่องเที่ยวและกีฬา) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมี สาระสำคัญคือ การกำหนดองค์ประกอบคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป และเห็นชอบร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ .. /.... เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวพำนักระยะยาวแห่งชาติ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า จากการปฏิรูประบบราชการทำให้มีการเปลี่ยน หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการท่องเที่ยว จากเดิมสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและ กีฬา จึงเห็นควรสนับสนุนองค์ประกอบให้สอดคล้องด้วย ดังนี้ เพิ่มปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นกรรมการ ยก เลิกเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จากเป็นกรรมการ ยกเลิกรองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จากเป็นกรรม การและเลขานุการ เปลี่ยนแปลงปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จากเป็นกรรมการ ให้เป็น กรรมการและ เลขานุการ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
687 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 28/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มี
มติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ คือ แก้ไขปรับปรุงชื่อกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จากเดิม "ประธานสภาหอ การค้าไทย" เป็น "ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย" และยกเลิกความในข้อ 8(4) และใช้ความ ต่อไปนี้แทน "ข้อ 8(4) เร่งรัดส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถทางวิทยาศาสตร์เทคโน โลยีและนวัตกรรมในภาคการผลิต โดยเฉพาะภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ" (แก้ ไขคำว่า "ในภาคการเกษตร" เป็น "ในภาคการผลิต" และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||
688 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยค่าตอบแทนที่ปรึกษาซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง พ.ศ. 2547 | นร | 28/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยค่าตอบแทนที่ปรึกษาซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดค่าตอบแทนที่ปรึกษา และอนุที่ปรึกษา โดยที่ปรึกษาให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายครั้งเฉพาะครั้งที่มาประชุม ในอัตราครั้งละหนึ่งพัน บาท ส่วนอนุที่ปรึกษาให้ได้รับค่าตอบแทนครึ่งหนึ่งของที่ปรึกษา โดยกำหนดให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นราย ครั้ง เฉพาะครั้งที่มาประชุมในอัตราครั้งละห้าร้อยบาท กำหนดให้ที่ปรึกษาหรืออนุที่ปรึกษาซึ่งมิได้เป็นข้าราช การ พนักงานราชการ หรือลูกจ้างของทางราชการ หรือพนักงาน หรือลูกจ้างรัฐวิสาหกิจให้ได้รับค่าตอบแทน เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าของค่าตอบแทนที่ผู้นั้นมีสิทธิได้รับ ประธานคณะที่ปรึกษา และประธานคณะอนุที่ปรึกษา ให้ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งในสี่ของค่าตอบแทนที่ปรึกษา หรืออนุที่ปรึกษา ให้เลขานุการ และผู้ช่วย เลขานุการของคณะที่ปรึกษา หรือคณะอนุที่ปรึกษาให้ได้รับค่าตอบแทนเช่นเดียวกับที่ปรึกษา หรืออนุที่ ปรึกษาแล้วแต่กรณี และให้ร่างระเบียบ ฯ ดังกล่าว มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป โดย ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับไปดำเนินการแก้ไขตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่น กรองฯ ดังนี้ ตามร่างข้อ 6 กำหนดอัตราค่าตอบแทนที่ให้กับที่ปรึกษาหรืออนุที่ปรึกษาซึ่งมิได้เป็นข้าราชการ พนักงานราชการหรือลูกจ้างของทางราชการหรือพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ ราชการส่วนท้องถิ่น ให้ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าของค่าตอบแทนที่ผู้นั้นมีสิทธิได้รับ เห็นควรตัด ออก เนื่องจากที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการที่ปรึกษา ตามที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งทั้งที่เป็นข้าราชการและมิได้ เป็นข้าราชการจะปฏิบัติหน้าที่ และมีความรับผิดชอบที่ใกล้เคียงกัน และเพิ่มเติมให้นายกรัฐมนตรีเห็นชอบ ให้ที่ปรึกษาหรืออนุที่ปรึกษาได้รับค่าตอบแทนแตกต่างจากที่กำหนดไว้ในระเบียบ ฯ ได้ตามที่กระทรวงการ คลังเสนอแล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีประสานงานกับสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
689 | การจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A340 - 500 และ A340 - 600 จำนวน 8 ลำ ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) | กค | 28/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอหลักการและเงื่อน
ไขให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กู้เงินในรูป Asset Based Financing เพื่อชำระค่าจัดซื้อเครื่องบิน แอร์บัส A340-500 จำนวน 3 ลำ และ A340-600 จำนวน 5 ลำ เป็นสกุลเงินยูโร วงเงินเทียบเท่า 876.01 ล้านเหรียญสหรัฐ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำความเห็นทางกฎหมายสำหรับการกู้เงิน ในครั้งนี้ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินการดังกล่าว รวมทั้งได้รับทราบว่าร่าง ระเบียบสิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร (GSP) ของสหภาพยุโรปรอบใหม่ (ค.ศ. 2006-2008) ซึ่งเกี่ยว ข้องกับสินค้ากุ้ง ตลอดจนสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมของไทย ได้ผ่านการพิจารณาของคณะมนตรียุโรป (council of ministers) แล้ว และอยู่ระหว่างการส่งไปขอความเห็นชอบจากรัฐสภายุโรปผลบังคับใช้ประมาณ เดือนกรกฎาคม 2548 ซึ่งร่างระเบียบดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่เป็น ผู้ขายเครื่องบินให้แก่บริษัท การบินไทย ฯ เป็นอย่างดี ดังนั้น หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เห็นชอบในสิทธิประโยชน์ดังกล่าวแล้ว ก็ให้บริษัท การบินไทย ฯ ดำเนิน การลงนามในสัญญาซื้อขายเครื่องบินกับบริษัทผู้ขายเครื่องบินของสหภาพยุโรป ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ วันที่ 14 ธันวาคม 2547 เรื่อง โครงการจัดหาเครื่องบินตามแผนวิสาหกิจ ปี 2548/49-2552/53 ของ บริษัท การบินไทย ฯ ต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||
690 | การรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (เรื่อง ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาสื่อของรัฐเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็กเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ....) | นร | 14/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) เสนอดังนี้ รับทราบรายงาน
สรุปผลการดำเนินงานตามติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2546 ที่เห็นชอบแนวทางและมาตร การการใช้สื่อของรัฐเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก เยาวชนและครอบครัว โดยได้แต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อเตรียมการดำเนินงานตามนโยบายการใช้สื่อของรัฐ เพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก เยาวชนและ ครอบครัว โดยมีนายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ เป็นประธาน รวมถึงการจัดทำร่างลักษณะรายการ เพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก เยาวชนและครอบครัว ศึกษา วิจัยและพัฒนาระบบ Quality Rating รายการโทรทัศน์ที่เน้นคุณภาพเพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค จัดหามาตรการสร้างแรงจูงใจ จัดทำร่างระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาสื่อของรัฐเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก เยาวชน และครอบครัว พ.ศ. 2547 ประชุมสัมมนาร่วมกับผู้ประกอบการ ผู้ดำเนินรายการ และผู้ผลิตรายการวิทยุ กระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ขอความร่วมมือให้สถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์จัดสัดส่วน ของเวลาในการออกอากาศประชุมแถลงข่าวร่วมกับผู้บริหารและผู้แทนสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศ ไทยและสถานีวิทยุโทรทัศน์ รวม 7 สถานี นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ เพื่อพิจารณาสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการผลิตรายการ ฯ เป็นจำนวน 26,526,000.00 บาท รวมทั้งประชุมแถลงข่าวร่วมกับผู้บริหารและผู้แทนสถานีวิทยุโทรทัศน์ทุกสถานี และเห็นชอบในหลัก การร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาสื่อของรัฐเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ ของเด็ก เยาวชนและครอบครัว พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีคณะกรรมการพัฒนาสื่อของรัฐ เพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก เยาวชนและครอบครัว (กสพด.) มีวาระในการดำรงตำแหน่งคราว ละ 4 ปี กำหนดให้มีคณะอนุกรรมการพัฒนาคุณภาพรายการ คณะอนุกรรมการด้านมาตรการสนับสนุน และกำหนดให้มีกองงานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ และให้ส่งสำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||
691 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... | กษ | 07/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบัน วิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... ที่ได้แก้ไขตามมติที่ประชุมหารือเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2547 โดยร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ มีสาระสำคัญคือ ให้จัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ขึ้น โดยโอนภารกิจและอัตรากำลังจากสำนักพัฒนาเกษตรที่สูง สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาเป็น ส่วนหนึ่งของสถาบัน ฯ รวมทั้งปรับปรุงวัตถุประสงค์และภารกิจของสถาบัน ฯ ให้ครอบคลุมและเหมาะสมยิ่ง ขึ้น และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้แก้ไขความในร่างมาตรา 4 ให้รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ตาม ร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารสถาบันขึ้นคณะหนึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการกำหนด นโยบายและการบริหารสถาบัน ฯ และโดยที่ภารกิจสำคัญประการหนึ่งของสถาบัน ฯ คือ การสนับสนุนงาน ของโครงการหลวง ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วย จึงจำเป็นต้องมีคณะกรรม การระดับชาติเพื่อให้การสนับสนุนการดำเนินงานในเชิงนโยบายและการประสานระดับชาติ โดยอาจตราเป็น ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งมีรูปแบบเช่นเดียวกับนโยบายการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน โดยนายกรัฐมนตรี อาจจะเป็นประธานกรรมการกำกับดูแลโดยตรงจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาไปได้ จึงมอบหมายให้กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ รับไปดำเนินการยกร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรม การกลั่นกรอง ฯ ต่อไป และให้พิจารณาระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับโครง การหลวง พ.ศ. 2542 ประกอบด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
692 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการบัญชีและการเงินของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... | กค | 30/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยการบัญชีและการเงินของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้รัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัท มหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่อยู่ในข่ายที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบัญชีและการ เงินของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2520 เนื่องจากต้องต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการของตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทยซึ่งมีความเคร่งครัดอยู่แล้ว กำหนดให้นำหลักการบัญชีที่รองรับโดยทั่วไปมาบังคับใช้กับรัฐวิสาห กิจอื่น ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ และยกเลิกหลักทรัพย์ที่สามารถดำเนินการตามหลักการ บัญชีที่รองรับโดยทั่วไปได้ เพื่อให้การบริหารงานของรัฐวิสาหกิจเป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งปรับปรุง หลักเกณฑ์ทางบัญชีและการเงินอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องกำหนดไว้ให้มีความเหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
693 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไขวัน เดือน ปีเกิดในทะเบียนประวัติข้าราชการ พ.ศ. .... | นร | 30/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไข วัน เดือน ปีเกิด ในทะเบียนประวัติข้าราชการ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแก้ไขระเบียบสำนัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไขวัน เดือน ปีเกิด ในทะเบียนประวัติข้าราชการ พ.ศ. 2547 เกี่ยวกับระยะเวลา การยื่นคำขอแก้ไขวัน เดือน ปีเกิด โดยกำหนดให้ข้าราชการในสังกัดราชการบริหารทุกส่วนราชการ ยื่นคำ ขอแก้ไขวัน เดือน ปีเกิด ภายในเดือนธันวาคมของปีงบประมาณถัดไป สำหรับราชการส่วนท้องถิ่น องค์กร อิสระตามรัฐธรรมนูญ หน่วยงานอื่นซึ่งมิได้สังกัดราชการบริหารอาจนำระเบียบนี้ไปใช้ได้โดยอนุโลม และ กำหนดให้ประธาน ก.พ. เป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ และให้สำนักงาน ก.พ. เป็นผู้เสนอความเห็นเพื่อ ประกอบการตีความและให้ความเห็นหรือการวินิจฉัย ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ก.พ. รับประเด็นอภิปรายของคณะ กรรมการกลั่นกรอง ฯ เกี่ยวกับระยะเวลาที่ต้องยื่นคำขอแก้ไขวัน เดือน ปีเกิด ที่กำหนดไว้ในร่างระเบียบ ฉบับนี้เป็นเพียงกำหนดเวลาการยื่นคำขอเพื่อประโยชน์ต่อผู้จะเกษียณอายุและประสงค์จะขอแก้ไขวัน เดือน ปี เกิด โดยการยื่นหลักฐานเพื่อให้เจ้าหน้าที่มีระยะเวลาดำเนินการได้ทันภายในปีนั้น และให้แก้ไขถ้อยคำ "... ซึ่งจะมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณถัดไป" เป็น "... ซึ่งจะมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ในปี งบประมาณถัดไป" และจาก "... เดือนธันวาคมของปีงบประมาณถัดไป" เป็น "... เดือนธันวาคมของปีงบ ประมาณนั้น" เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไปแก้ไขเพิ่มเติม แล้วนำเสนอ อ.ก.พ. วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและ ระเบียบข้าราชการพิจารณา ก่อนดำเนินการเพื่อประกาศใช้บังคับต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
694 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลกิจการประปาแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 30/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เพิ่มเติมความในร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนด
นโยบายและกำกับดูแลกิจการประปาแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาแล้ว ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย) ในแบบที่ 2 ดังนี้ เพิ่มเติมความในร่างข้อ 4 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 14 เป็นวรรคสองว่า "ในกรณีที่มีเหตุผล ความจำเป็น และ มีงบประมาณเพียงพอ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงาน โดยคัดเลือกจากผู้มีความรู้ ความ สามารถ และประสบการณ์ที่เหมาะสมได้ โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย" แล้ว ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||
695 | ร่างระเบียบว่าด้วยการขอพระราชทานเหรียญดุษฏีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 30/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอร่างระเบียบว่าด้วยการขอ
พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบ ของคณะรัฐมนตรีได้ลงนามในระเบียบดังกล่าว และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้นำลงประกาศในราช กิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 121 ตอนพิเศษ 133 ง วันที่ 1 ธันวาคม 2547 แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
696 | มาตรการในการตรวจสอบความถูกต้องของร่างกฎหมาย (ถูกยกเลิกโดย 10125/2549) | นร | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับเรื่อง มาตรการในการตรวจสอบความถูกต้องของร่างกฎหมาย โดยอนุมัติ
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบในหลัก การให้จัดตั้งสำนักกิจการนิติบัญญัติขึ้นเพื่อทำหน้าที่ประสานงานเป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนการปฏิบัติงานด้าน กฎหมายของรัฐสภา และเห็นชอบการเพิ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงในตำแหน่งรองเลขาธิการ (นักบริหาร 10) และ กรรมการร่างกฎหมายประจำ (นิติกร 9-10 ชช.) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ โดยสถานะ ของหน่วยงานดังกล่าวและจำนวนอัตรากำลังให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาร่วมกับสำนัก งาน ก.พ. เพื่อพิจารณากำหนดตามความจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับปริมาณงาน ส่วนการเพิ่มเจ้าหน้า ที่ระดับสูงในตำแหน่งรองเลขาธิการ (นักบริหาร 10) และกรรมการร่างกฎหมายประจำ (นิติกร 9-10 ชช.) นั้น ตำแหน่งใดจะมีจำนวนเท่าใดให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษีการับไปพิจารณาร่วมกับสำนักงาน ก.พ. ต่อ ไป และถือเป็นหลักการว่า ในการแต่งตั้งกรรมาธิการวิสามัญในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างกฎหมาย ที่คณะรัฐมนตรีเสนอให้มีผู้แทนของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามอบ หมายร่วมเป็นกรรมาธิการด้วย และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ.ร. และคณะกรรม การพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติพิจารณากำหนดมาตรการที่จะพัฒนาบุคลากรทางด้านกฎหมายให้มีความก้าว หน้าในตำแหน่ง และได้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม เพื่อจูงใจให้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถสูงคงอยู่ในระบบ ต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า การให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่พ้นจากราชการไปแล้ว หรือบุคคลภาย นอกที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่เหมาะสม หรือรับโอนบุคลากรจากองค์กรอิสระต่าง ๆ เช่น ศาลปกครอง เป็นต้น มาปฏิบัติงานในการตรวจพิจารณาร่างกฎหมายได้ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับ ร่างกฎหมายที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการไปแล้ว ควรถือเป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรี โดยการตรวจ พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว สมควรมุ้งเน้นไปในเรื่อง รูปแบบและประเด็นข้อกฎหมายเป็นหลัก และในชั้น การตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หากมีการพิจารณาในเชิงนโยบายอีกอาจทำให้เกิด ความล่าช้าและไม่สอดคล้องกับนโยบายของคณะรัฐมนตรีได้ และในกรณีที่ให้ส่วนราชการเจ้าของเรื่องเสนอ เฉพาะหลักการและสาระสำคัญของกฎหมาย แล้วให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณายกร่างกฎ หมายตามหลักการและสาระสำคัญนั้น หากมีกรอบแนวคิด หลักการ และสาระสำคัญที่ชัดเจนก็จะทำให้การ ยกร่างชัดเจนและรวดเร็ว แต่ในบางกรณีอาจไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในเรื่องที่มีรายละเอียดและวิธีปฏิบัติเป็น พิเศษแตกต่างจากการปฏิบัติโดยทั่วไป ซึ่งส่วนราชการเจ้าของเรื่องจะเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่จะ ออกกฎหมายเป็นอย่างดี กรณีดังกล่าวจึงสมควรที่ส่วนราชการเจ้าของเรื่องจะได้ยกร่างกฎหมายในเบื้องต้น เพื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะได้ตรวจพิจารณาในประเด็นข้อกฎหมายจะทำให้เกิดความชัดเจนและ สอดคล้องกับนโยบายและแนวทางปฏิบัติของส่วนราชการเจ้าของเรื่อง นอกจากนี้ การมอบหมายให้สำนัก เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจพิจารณาร่างประกาศหรือร่างระเบียบในบางเรื่อง โดย ดำเนินการในรูปของคณะกรรมการ นั้น เป็นการปฏิบัติงานในลักษณะเดียวกันกับคณะกรรมการกฤษฎีกาจึง สมควรให้คณะกรรมการดังกล่าว และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับค่าตอบแทนในอัตราและลักษณะเดียวกันกับกรณีของ คณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ. และสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี รับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง |
||||||||||||||||||||||||||||||
697 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอร่างระเบียบสำนักนายก
รัฐมนตรีว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ขยายขอบข่ายการบริการของศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ให้รวมถึงคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงาน ตามพันธกรณีที่รัฐบาลทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ (เพิ่มเติม (10) ของข้อ 3 แห่งระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน พ.ศ. 2540 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2545) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป ได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
698 | การปรับปรุงระบบการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน | มท | 16/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานการออกเอกสารสิทธิในที่ดินของรัฐ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดหลัก เกณฑ์ วิธีการ และแนวทางปฏิบัติในการออกเอกสารสิทธิในที่ดินของรัฐ โดยมีคณะกรรมการกำกับดูแลเอก สารสิทธิในที่ดินของรัฐ การจัดทำหลักฐานแผนที่ การจำลองและการเขียนรูปแผนที่ การลงรูปแผนที่ในระวาง แผนที่ และการจัดเก็บหลักฐานแผนที่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อ ไปได้ และให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่นทีเกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการในส่วน ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ การจัดทำแผนที่เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินการรังวัด (มาตราส่วน 1: 4,000) นั้น ให้เร่ง รัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายตามความ จำเป็น และเพื่อให้การรังวัดเพื่อออกเอกสารสิทธิในที่ดินดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว สมควรจัด แบ่งพื้นที่ดำเนินการ และกำหนดผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนและให้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน และ สมควรให้มีการจ้างแรงงานในท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการจ้างงานซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้แก่ราษฎรในท้องถิ่น นอก จากนี้ ให้ทุกหน่วยงานที่จะดำเนินในเรื่องนี้ เสนอเรื่องให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) ใน ฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดหาที่ดินของรัฐด้านอุปทาน (supply side) ให้ประชาชนทำกิน เป็นผู้พิจารณา ให้ความเห็นชอบก่อนทุกครั้งก่อนดำเนินการต่อไป สำหรับกรณีที่ราษฎรได้บุกรุกหรือไม่มีเอกสารสิทธิการ ถือครองที่ดิน แต่ได้อาศัยที่ดินนั้นประกอบอาชีพโดยสุจริตมาเป็นเวลานานแล้ว สมควรผ่อนผันให้ราษฎรดัง กล่าวอยู่ในพื้นที่ไปก่อน จนกว่าการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของรัฐที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจ ยุทธ) ดำเนินการอยู่จะแล้วเสร็จ แต่หากเป็นกรณีการบุกรุกใหม่หรือเป็นการบุกรุกของนายทุนเพื่อแสวงหา ประโยชน์มิชอบก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||||||||
699 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. .... | นร | 26/10/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการจัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดขั้นตอนและการเตรียมการ จัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า ควรเพิ่มหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศเพื่อ ให้แผนบริหารราชการแผ่นดินที่จะจัดทำขึ้นมีความครบถ้วน สมบูรณ์ และมีแผนเกี่ยวกับความมั่นคงรวมอยู่ด้วย รวมทั้งกำหนดให้แผนมีความยืดหยุ่นเพื่อสามารถปรับเปลี่ยนแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความจำเป็น ได้ โดยให้มีกระบวนการและขั้นตอนการปรับแผนรองรับไว้ด้วย และโดยที่มาตรา 16 ของพระราชกฤษฎีกาว่า ด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 บัญญัติให้ส่วนราชการจัดทำแผนปฏิบัติราช การประจำปีเป็นแผนสี่ปี และแผนประจำปี พร้อมทั้งให้จัดทำรายงานแสดงผลสัมฤทธิ์ของแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรี จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปพิจารณาร่วมกับรอง นายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการของส่วน ราชการให้เหมาะสม โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. ทำหน้าที่ให้การสนับสนุนการดำเนินการและให้คำแนะนำต่าง ๆ ที่จำเป็นแก่ส่วนราชการ โดยให้รับข้อสังเกต ดังกล่าวไปพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
700 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ พ.ศ. .... | นร.12 | 19/10/2547 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 8 (ฝ่าย กฎหมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ดังนี้ แก้ไขตำแหน่ง ประธานกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ จาก "รองนายกรัฐมนตรี" เป็น "รัฐมนตรี" เพื่อ ความคล่องตัวในการแต่งตั้ง, แก้ไข "หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี" เป็น "ปลัดสำนักนายก รัฐมนตรี", เพิ่ม "เลขาธิการ ก.พ. และผู้อำนวยการกำกับและบริหารโครงการเปลี่ยนระบบการบริหารงาน การเงินการคลังโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS)" เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง, ตัดความว่า "ตามข้อเสนอ ของประธานกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ" ออก, ตัดคำว่า "อย่างน้อยหนึ่งคน" ออก, แก้ไขวรรคสอง เป็น "ให้ประธานกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการแต่งตั้งคณะกรรมการสรร หาผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นจำนวนไม่เกินห้าคนตามมติของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการเพื่อ ทำหน้าที่สรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามวรรคหนึ่ง เมื่อสรรหาแล้วให้คณะกรรมการสรรหาเสนอรายชื่อ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต่อคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ เพื่อพิจารณาและเสนอราย ชื่อให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งต่อไป", ร่างข้อ 6(2) ตัดความว่า "และไม่เกินเจ็ดสิบปีบริบูรณ์" ออก และ ในร่างข้อ 7 แก้ไขวาระการดำรงตำแหน่งของผู้ทรงคุณวุฒิ จากการดำรงตำแหน่งคราวละ "สี่ปี" เป็น "สอง ปี" แล้วดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งให้ยุบเลิกคณะกรรมการตรวจสอบประจำกระทรวง และมอบหมายให้ สำนักงาน ก.พ.ร. รับไปประสานงานในรายละเอียด ปรับปรุงกลไกและระบบงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจ สอบและประเมินผลและพัฒนาในส่วนราชการ
|