ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 25 จากทั้งหมด 55 หน้า แสดงรายการที่ 481 - 500 จากข้อมูลทั้งหมด 1095 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
481 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 และขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย เพิ่มเติม งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อชำระหนี้ค่าวัสดุอาหาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | ยธ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์ ก่อหนี้ผูกพันก่อนได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายวัสดุอาหารผู้ต้องขังและผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้ ส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อชำระหนี้ดังกล่าวให้กรมราชทัณฑ์บริหารจัดการงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรแล้ว จากรายการเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ หรือปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ มาชำระหนี้ในโอกาสแรกก่อนหากยังไม่เพียงพอก็สมควรที่กระทรวงยุติธรรมจะพิจารณาแบ่งเบาภาระงบประมาณโดยนำเงินดอกเบี้ยอันเกิดจากเงินกลางของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม (เงินนอกงบประมาณ) มาสมทบจ่ายอีกทางหนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงบประมาณร่วมกับกระทรวงยุติธรรมรับไปศึกษาเกี่ยวกับสภาพของผู้ต้องขังเพื่อให้สะท้อนสภาพความเป็นจริง พร้อมทั้งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา รวมถึงการพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอสำหรับการชำระหนี้ค้างค่าวัสดุอาหารสำหรับผู้ต้องขังและผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ในอนาคต
|
|||||||||||||||||||||||||||
482 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข | สธ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดสวัสดิการสำหรับแม่ที่ตั้งครรภ์และกลุ่มเด็กอายุ ๐ - ๒ ปี โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ได้รับจัดสรรไปแล้วในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๕๒๓,๕๐๒,๑๙๗ บาท จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรมอนามัย และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งสนับสนุนงบประมาณเพื่อการดังกล่าว แทนการขอใช้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อรองรับภารกิจดังกล่าว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
483 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 เพิ่มเติม | กห | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการในการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพิ่มเติม ให้แก่กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติราชการในสนามและเดินทางไปราชการให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด ภายในกรอบวงเงินจำนวน ๒๘๘,๐๔๓,๖๙๕.๖๐ บาท ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้สำนักงบประมาณรับไปดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓ แล้วให้ใช้งบประมาณจากการปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของกระทรวงกลาโหมก่อน หากยังไม่เพียงพอก็อนุมัติให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้กระทรวงกลาโหมขอตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
484 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมและดำเนินการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนรษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป (กรณียุบสภา) | ลต | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ ดังนี้
๑. ค่าใช้จ่ายในภารกิจที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องดำเนินการเอง ในวงเงิน ๓,๑๖๔,๘๕๙,๑๐๐ บาท ทั้งนี้ วงเงินดังกล่าวให้รวมถึงค่าใช้จ่ายในภารกิจการสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย และให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป ๒. ค่าใช้จ่ายในภารกิจที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการ ในวงเงิน ๖๕๓,๐๘๘,๒๐๐ บาท และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
485 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการบูรณะและซ่อมแซมโบราณสถานที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว | วธ | 26/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากรเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงิน ๖๖,๔๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการบูรณะและซ่อมแซมโบราณสถานที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ประกอบด้วย เจดีย์ วิหาร องค์พระ และพิพิธภัณฑ์ รวมจำนวน ๒๔ รายการ โดยให้กรมศิลปากรขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
486 | การดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ ของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ดินโคลนถล่ม วาตภัย และคลื่นเซาะชายฝั่ง | นร | 26/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติและรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๔ ซึ่งอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ จำนวนทั้งสิ้น ๙๓๕,๓๖๔,๐๓๒ บาท โดยขอเพิ่มเติมให้ใช้งบประมาณดังกล่าวจากเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๕๔ ๑.๒ อนุมัติการเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่มภาคใต้ ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ให้ครอบคลุมถึงผู้ประสบคลื่นลมแรงเกิดคลื่นเซาะชายฝั่ง ทั้งนี้ โดยไม่เพิ่มกรอบจำนวนครัวเรือน และกรอบวงเงินงบประมาณ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติไว้เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๔ ๑.๓ อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขบรรจุแผนการจัดสร้างอาคารผู้ป่วย ๗ ชั้น ขนาด ๑๔๔ เตียง ของโรงพยาบาลท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช วงเงิน ๙๔,๕๑๘,๕๐๐ บาท ไว้ในคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๑๘,๙๐๐,๐๐๐ บาท และผูกพันข้ามปีงบประมาณ ๑.๔ อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณจากเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุอุทกภัย ดินโคลนถล่ม คลื่นลมแรงเกิดคลื่นเซาะชายฝั่งในพื้นที่ภาคใต้ ให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ จำนวน ๗ หน่วยงาน รวมกรอบวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๒,๑๙๖.๑๘๓๓ บาท ๑.๕ รับทราบผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยของคณะกรรมการอำนวยการกำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ๒. สำหรับงบประมาณในการก่อสร้างอาคารผู้ป่วย ๗ ชั้น ของโรงพยาบาลท่าศาลา วงเงิน ๙๔,๕๑๘,๕๐๐ บาท ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๘,๙๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือให้กระทรวงสาธารณสุขเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามขั้นตอนต่อไป โดยอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๕ ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปปรับปรุงรูปแบบการก่อสร้างอาคารให้สามารถรองรับสถานการณ์น้ำท่วมในอนาคตได้ ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปพิจารณาผ่อนผันให้ผู้ประสบอุทกภัย ดินโคลนถล่ม วาตภัย และคลื่นเซาะชายฝั่ง เข้าไปใช้ประโยชน์ในการอยู่อาศัยในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
487 | รายงานสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศอนุภูมิภาคแม่โขงเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 1 และการประชุมคณะทำงานภายใต้รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศอนุภูมิภาคแม่โขงเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 7 | ทส | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม ๕ ประเทศอนุภูมิภาคแม่โขงเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ ๑ และการประชุมคณะทำงานภายใต้รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม ๕ ประเทศอนุภูมิภาคแม่โขงเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ ๗ เมื่อวันที่ ๒๔ - ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ณ จังหวัดกระบี่ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมได้ร่วมหารือเพื่อกำหนดนโยบาย/แผนงาน/มาตรการในการแก้ไขปัญหาการเผาในที่โล่งและมลพิษจากหมอกควันข้ามแดนในอนุภูมิภาคแม่โขง และได้กำหนดให้ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ต้องลดจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) สะสมในอนุภูมิภาคแม่โขง ลงเหลือไม่เกิน ๗๕,๐๐๐ จุด และลดลงเหลือไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ จุด ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ๒. ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าของความร่วมมือระดับทวิภาคีระหว่างไทย - ลาว และไทย - พม่า ตามที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสหภาพพม่า ได้ร้องขอให้ประเทศไทยสนับสนุนด้านการพัฒนาศักยภาพในการติดตามตรวจวัดคุณภาพอากาศ ๓. ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการจัดการฝึกอบรมด้านการติดตามตรวจวัดคุณภาพอากาศให้แก่เจ้าหน้าที่ของประเทศสมาชิกอาเซียน และขอให้ประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบจัดการฝึกอบรม โดยอาจเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก European Commission ๔. ที่ประชุมได้หารือประเด็นการพัฒนาระบบการพยากรณ์ระดับความรุนแรงของไฟ (Fire Danger Rating System : FDRS) ซึ่งเป็นเครื่องมือในการประเมินความสามารถในการเกิดและแพร่กระจายของไฟ โดยอาศัยข้อมูลด้านสภาพภูมิอากาศ ปริมาณเชื้อเพลิง และคุณสมบัติของดิน ให้มีความละเอียดและครอบคลุมทั้งภูมิภาคอาเซียนทั้งพื้นที่ป่าบกและป่าพรุ ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้ประเทศสมาชิกจัดส่งข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยาและข้อมูลป่าพรุให้กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งประเทศมาเลเซีย ๖. ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าของโครงการ ASEAN/IFAD-GEF Project on Rehabilitation and Sustainable Use of Peatland Forests in Southeast Asia ซึ่งได้มีการตีพิมพ์เอกสารและจัดทำวีดิทัศน์นำเสนอปัญหาการบุกรุกป่าพรุในภูมิภาคอาเซียนและแนวทางการจัดการแก้ไขปัญหา โดยขอให้ประเทศสมาชิกพิจารณาให้ข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงวีดิทัศน์ดังกล่าวให้มีความเหมาะสมมากขึ้น และแจ้งต่อสำนักงานเลขาธิการอาเซียน ภายในวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๔ ๗. ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าของโครงการ ASEAN Peatland Forests Project (APFP) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจัดการป่าพรุอย่างยั่งยืนในอาเซียน และเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟในพื้นที่ป่าพรุ ๘. ที่ประชุมรับทราบการอนุมัติงบประมาณ จำนวน ๑.๘ ล้านยูโร จาก European Commission สำหรับโครงการ “Thematic Programme for Environment and Sustainable Development of Natural Resources” โดยมีระยะเวลาดำเนินการ ๔ ปี ซึ่งเงินสนับสนุนดังกล่าวจะถูกใช้เพื่อขยายผลการดำเนินงานด้านการจัดการป่าพรุจากโครงการ APFP โดยเน้นประเทศในอนุภูมิภาคแม่โขง ๙. ที่ประชุมเห็นชอบให้สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม ๕ ประเทศฯ ครั้งที่ ๒ และการประชุมคณะทำงานภายใต้รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม ๕ ประเทศฯ ครั้งที่ ๘ โดยมีกำหนดการเบื้องต้นในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๔
|
|||||||||||||||||||||||||||
488 | ขอสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | มท | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้กับกระทรวงมหาดไทยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในกรณีจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่สามารถขอรับการสนับสนุนจากงบประมาณรายจ่ายที่จัดสรรไว้เพื่อการนี้ของหน่วยงานอื่น ทั้งนี้ อัตราการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่พิจารณา ตามขนาดพื้นที่ จำนวนประชากร และผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (Gross Provincial Product : GPP) ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยจัดสรรจังหวัดละ ๓ - ๕ ล้านบาท และได้จัดสรรรวมถึงจังหวัดบึงกาฬที่ตั้งใหม่ดังกล่าว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
489 | ความคืบหน้าการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตาม การช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย | นร | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ ของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) โดยที่ประชุม คชอ. ได้มีการพิจารณาการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติจากสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ในประเด็นสำคัญ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ข้อมูล ณ วันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๔ มีข้อมูลจำนวนครัวเรือนที่จังหวัดต่าง ๆ ได้ส่งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผ่านการตรวจสอบความถูกต้องแล้ว จำนวนประมาณ ๕๐,๐๐๐ ครัวเรือน คาดว่าจะเริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยได้ตั้งแต่วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ๑.๒ ความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลังจากเหตุอุทกภัย ดินโคลนถล่ม วาตภัย และคลื่นเซาะชายฝั่งในพื้นที่ภาคใต้ ได้ดำเนินการสร้างบ้านให้แก่ผู้ประสบภัยในชุดแรก จำนวนทั้งสิ้น ๒๓๕ หลัง ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช ๑๙ หลัง สุราษฎร์ธานี ๗๐ หลัง กระบี่ ๑๑๙ หลัง ตรัง ๒๒ หลัง และสงขลา ๕ หลัง โดยเป็นการสร้างในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ทุกราย เริ่มก่อสร้างในวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๔ โดยใช้แบบบ้านของมูลนิธิซิเมนต์ไทย ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างประมาณ ๕๓ ล้านบาท โดยใช้เงินกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ๑.๓ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจากดินถล่มและการพัฒนาที่ดินสำหรับการเกษตรในระยะต่อไป ที่ประชุม คชอ. มีมติให้ทุกจังหวัดที่ประสบภัย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสำรวจพื้นที่ที่ประสบภัยว่ามีจำนวนเท่าใด และจำแนกพื้นที่ให้ชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิเท่าใด และเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานเท่าใด และส่งข้อมูลให้ คชอ. ภายในวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๔ เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านการสร้างบ้านต่อไป สำหรับพืชหลักในพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัย ได้แก่ ปาล์ม ยางพารา และไม้ผล ให้กรมพัฒนาที่ดินประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการในบางส่วนก่อน ๑.๔ การแก้ไขปัญหาขยะ และสิ่งแวดล้อม ภายหลังอุทกภัยและดินถล่ม เนื่องจากปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียและระบบกำจัดขยะต้องรอระดับน้ำลดลงสู่ภาวะปกติ จึงจะสามารถเข้าตรวจสอบความเสียหายและประมาณการค่าเสียหายได้ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใช้งบประมาณของตนเองในการซ่อมแซมไปก่อน แต่หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย ๑.๕ การขออนุมัติวงเงินเหลือจ่ายจากการดำเนินงานโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ จำนวน ๗๑๑,๘๒๒,๗๐๐ บาท เพื่อดำเนินการตามแผนงานซ่อมแซมและฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ในส่วนของฝาย อาคารบังคับน้ำ พนังกั้นน้ำ สถานีสูบน้ำ คลองส่งน้ำ และคันคลองที่ชำรุด ที่ประชุม คชอ. มีมติให้กรมชลประทานประสานในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณในเรื่องของเงินเหลือจ่ายก่อน รวมทั้งให้กรมชลประทานและฝ่ายเลขานุการ คชอ. ประสานกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเกี่ยวกับโครงการด้านชลประทานที่ได้รับความเสียหายซึ่งได้ถ่ายโอนให้ อปท. และต้องใช้งบประมาณเทคนิคในการซ่อมแซมฟื้นฟูจำนวนมากเกินกำลังความสามารถของ อปท. โดยให้กรมชลประทานเข้าดำเนินการแทน อปท. ได้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาให้ประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ๑.๖ ความคืบหน้าการฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมระยะเร่งด่วน ที่ประชุม คชอ. ได้มีมติให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทจัดทำรายละเอียดเส้นทางคมนาคมที่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูเสนอให้พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป ๑.๗ การให้ความช่วยเหลือด้วยการให้วงเงินสินเชื่อผู้ประกอบการ การประกันสังคม และการประกันภัย ที่ประชุม คชอ. ได้พิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย ได้แก่ การให้รัฐบาลสนับสนุนเงินกู้เฉพาะกิจเพื่อฟื้นฟูสำหรับภาคธุรกิจผ่านธนาคารของรัฐโดยงดเว้นการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน การเร่งรัดให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ประสบภัยภายใน ๑ เดือน การปล่อยเงินกู้กับผู้ประกอบการและผู้ใช้แรงงานจากกองทุนประกันสังคม การจัดสรรเงินช่วยเหลือแก่เกษตรกรรายย่อยในกลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตซืน้ำที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน การงดเว้นการจัดเก็บภาษีท้องถิ่น เช่น ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ภาษีป้าย เป็นต้น รวมทั้งการเก็บกู้และการกำจัดซากขยะอินทรีย์บริเวณอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๒. ส่วนผู้ประสบภัย จำนวน ๕๙๙ ราย ที่มีปัญหาอุปสรรคในเรื่องที่ดินเดิมของผู้ประสบภัยเป็นพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ หรืออยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ และยังไม่มีข้อยุติในเรื่องที่ดิน ทำให้การสร้างบ้านให้แก่ผู้ประสบภัยยังไม่สามารถดำเนินการได้ นั้น ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาในเรื่องที่ดินดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
490 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 พ.ศ. .... ของวุฒิสภา | สผ | 12/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกต ดังนี้ ๑.๑ ภาวะเศรษฐกิจ ควรดำเนินการประเมินการรายได้ของรัฐบาลให้มีความใกล้เคียงกับความเป็นจริง และปรับปรุงเกณฑ์การคำนวณเงินเฟ้อให้สามารถสะท้อนระดับราคาสินค้าและการบริการในตลาดได้อย่างเหมาะสม ๑.๒ รายจ่ายเพื่อการฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยพิบัติ ควรมีการตรวจสอบข้อมูลเอกสารประกอบคำขอรับการสนับสนุนงบประมาณอย่างถูกต้องรอบคอบ และให้ความสำคัญกับการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปอย่างคุ้มค่า รวมทั้งดำเนินโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณให้ถูกต้องตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยไม่สามารถแบ่งการดำเนินโครงการเป็นโครงการย่อยได้ ๑.๓ รายจ่ายเป็นเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ควรจัดสรรงบประมาณให้ อปท. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้สูงอายุและผู้พิการหรือทุพพลภาพให้ได้รับเบี้ยยังชีพอย่างครบถ้วน ๑.๔ รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ควรพิจารณาเรื่องการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินก่อนครบกำหนดโดยวิเคราะห์ด้วยความรอบคอบและคำนึงถึงแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต เพื่อระมัดระวังมิให้เกิดการขาดทุนจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ๒. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .... ของวุฒิสภา ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกต ดังนี้ ๒.๑ ปรับลดงบประมาณในร่างมาตรา ๔ ร่างมาตรา ๗ และร่างมาตรา ๑๐ โดยแก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ พ.ศ. .... เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับลดงบประมาณ รวมทั้งได้กำหนดแหล่งที่มาของรายได้เพื่อชดใช้จ่ายจ่ายที่ได้ใช้เงินคงคลังจ่ายไปก่อน ๒.๒ นโยบายและการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ควรคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศต่างๆ เนื่องจากเป็นปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในการจัดเก็บภาษีไม่เป็นไปตามเป้าหมาย การจัดสรรงบประมาณควรดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และกำหนดมาตรการป้องกันมิให้เกิดการทุจริต ๒.๓ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำแนกตามรายการค่าใช้จ่าย ดังนี้ ๒.๓.๑ รายจ่ายเพื่อการฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยพิบัติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรบูรณาการร่วมกันในการกำหนดแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ๒.๓.๒ รายจ่ายเพื่อเป็นเงินอุดหนุนให้ อปท. เพื่อจัดสรรเป็นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยยังชีพผู้พิการหรือทุพพลภาพ ควรกำหนดแนวทางและมาตรการที่ชัดเจนในการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินตามโครงการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุและโครงการสนับสนุนการเสริมสร้างสวัสดิการทางสังคมให้แก่ผู้พิการหรือทุพพลภาพเพื่อให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ๒.๓.๓ รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ต้องมีการตรวจสอบเงินที่กระจัดกระจายในภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อนำเงินดังกล่าวมาใช้แทนการกู้เงินต่างประเทศ ๓. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงบประมาณ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยให้สำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
491 | ขออนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ และขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการอำนวยการ กำกับ ติดตามช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย | นร | 12/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อการซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ จำนวนทั้งสิ้น ๙๓๕,๓๖๔,๐๓๒ บาท ๒. อนุมัติงบประมาณเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย วงเงิน ๔,๕๒๐,๐๐๐ บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
492 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อสนับสนุนจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ปี 2554 ของกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 1 | สธ | 12/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการสนับสนุนงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อสนับสนุนจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ปี ๒๕๕๔ ของกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ ๑ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ค่ายาและเวชภัณฑ์ และค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงฟื้นฟูสถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหาย จำนวนทั้งสิ้น ๘๘,๒๓๑,๔๙๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขส่งเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อพิจารณาในภาพรวมและตกลงรายละเอียดเรื่องงบประมาณกับสำนักงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ปี ๒๕๕๔ ของกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ ๑ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
493 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านการขนส่งทางอากาศที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง ถูกปิดล้อมของศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (เพิ่มเติม) | คค | 04/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณสนับสนุนค่าใช้จ่ายบริการสาธารณูปโภค และบริการอื่น ๆ ให้กับบริษัท บรินทร จำกัด ผู้บริหารศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคในการให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารสายการบินระหว่างประเทศตกค้างในช่วงที่มีการปิดล้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมืองเพิ่มเติมเป็นค่าไฟฟ้าและภาษีมูลค่าเพิ่มตามรายการค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงอีกจำนวน ๑๗๘,๐๙๔ บาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และให้กระทรวงคมนาคมขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณโดยตรงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
494 | ขออนุมัติดำเนินโครงการ "ซื้อที่ดินจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยไว้ใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการ และอาคารที่พักอาศัยให้กับข้าราชการตำรวจของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง" | ตช | 04/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินโครงการ “จัดซื้อที่ดินจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย” ไว้ใช้เป็นสถานที่ดำเนินการก่อสร้างอาคารที่ทำการและอาคารที่พักอาศัยให้กับข้าราชการตำรวจ ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไม่เกินวงเงินที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติประเมินเบื้องต้น จำนวน ๗๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณตรวจสอบรายละเอียดความเหมาะสมของราคาที่ดินและการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกันพิจารณาเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนด้านสินเชื่อจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยในวงเงิน ๗๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อนำมาชำระเงินเป็นค่าจัดซื้อที่ดินให้แก่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย และการจัดสรรงบประมาณเพื่อชำระหนี้ให้แก่ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย |
|||||||||||||||||||||||||||
495 | รายงานผลการขายเครื่องบิน Beechjet 400A ของสถาบันการบินพลเรือนและการโอนเครื่องบินให้แก่กรมการบินพลเรือน | คค | 28/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการขายเครื่องบิน Beechjet 400A ของสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) โดย สบพ. ได้ดำเนินการขายเครื่องบินดังกล่าวด้วยวิธีขายทอดตลาดและวิธีพิเศษ โดยกำหนดราคากลาง จำนวน ๒,๒๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ๗๕ ล้านบาท เพื่อนำไปชำระหนี้เงินกู้พร้อมดอกเบี้ยให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) แต่เนื่องจากมีผู้ขอซื้อเสนอราคาซื้อ จำนวน ๔๕ ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลางมาก และเครื่องบินดังกล่าวมีสมรรถนะและความปลอดภัยสูง รวมทั้งยังมีอายุการใช้งานคงเหลืออีกประมาณ ๑๐ ปี จึงเห็นควรโอนเครื่องบินดังกล่าวให้กรมการบินพลเรือนเพื่อไว้ใช้ในราชการจะเกิดประโยชน์มากกว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้ระงับการโอนเครื่องบิน Beechjet 400A ให้แก่กรมการบินพลเรือน และให้ สบพ. เร่งรัดดำเนินการขายเครื่องบินดังกล่าว ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๒ (เรื่อง ขออนุมัติขายเครื่องบิน Beechjet 400A และขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการชำระหนี้ส่วนต่างจากการขายเครื่องบิน ของสถาบันการบินพลเรือน) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามข้อกฎหมาย และระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเงินที่ได้รับจากการขายส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ส่วนการจัดสรรงบประมาณส่วนที่เหลือ จำนวน ๒๒.๐๘๓๖ ล้านบาท เพื่อชำระหนี้เงินกู้และดอกเบี้ยจากการซื้อขายเครื่องบิน Beechjet 400A ให้สถาบันการบินพลเรือนเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามความจำเป็นต่อไป ๓. ในกรณีที่กรมการบินพลเรือนมีความจำเป็นต้องจัดหาเครื่องบินเพิ่มใหม่ เพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
496 | ขออนุมัติดำเนินโครงการ "จัดหาอาคารที่พักอาศัยสำเร็จรูปพร้อมที่ดินโครงการสินทวีพุทธสาคร" เป็นอาคารที่พักอาศัยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตามโครงการพระราชดำริและสถานีตำรวจ | ตช | 22/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินโครงการจัดหาอาคารที่พักอาศัยสำเร็จรูปพร้อมที่ดิน เป็นอาคารที่พักอาศัยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตามโครงการพระราชดำริและสถานีตำรวจ โดยไม่ระบุสถานที่และพื้นที่ดำเนินการ รวมทั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงบประมาณร่วมกันพิจารณาเกี่ยวกับความเหมาะสมของต้นทุนต่อหน่วย (Unit-cost) ของอาคารที่พักอาศัยของโครงการดังกล่าว และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ส่วนงบประมาณในการดำเนินโครงการ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้จ่ายจากเงินกันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาดำเนินการก่อน ส่วนที่ยังขาดอยู่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการ ๒. กรณีการจัดหาที่พักอาศัยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยังขาดแคลนอยู่ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทำแผนในภาพรวม โดยระบุกรอบ สถานภาพ และความขาดแคลนที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งจัดลำดับความจำเป็นเร่งด่วน แล้วเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
497 | การบูรณาการป้องกันทุจริตของโครงการภาครัฐ | ยธ | 22/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบให้ดำเนินการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบและพิจารณาแนวทางการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการบูรณาการป้องทุจริตของโครงการภาครัฐ (เบื้องต้น) ไว้ชั้นหนึ่งก่อน ๑.๒ ให้กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ) เร่งรัดดำเนินการในขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ๑.๒.๑ จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบูรณาการประเมินจริยธรรมคุณธรรมภาครัฐ ภายใต้คำสั่งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงกลไกการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ ๑.๒.๒ ให้คณะอนุกรรมการบูรณาการประเมินจริยธรรมฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งนำร่างแผนปฏิบัติการ (เบื้องต้น) อันเกิดจากการประชุมหาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรการและแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการบูรณาการประเมินจริยธรรมคุณธรรมภาครัฐ เป็นข้อมูลประกอบในการจัดทำมาตรการ แนวทาง วิธีการดำเนินงานเพื่อป้องกันการทุจริตของโครงการภาครัฐภายใต้รูปแบบกลไกการติดตามประเมินผล ๑.๒.๓ การนำเสนอกรอบมาตรการ แนวทาง วิธีการดำเนินงานฯ รวมทั้งงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินงานขับเคลื่อนกลไกการบูรณาการป้องกันทุจริตของโครงการภาครัฐ (โดยการติดตามและประเมินผล) ของคณะอนุกรรมการบูรณาการประเมินจริยธรรมฯ ต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ๑.๒.๔ หากมีความจำเป็นจะต้องว่าจ้างหน่วยงานภายนอกเพื่อดำเนินการ ให้คณะอนุกรรมการบูรณาการประเมินจริยธรรมฯ ทำการพิจารณาข้อกำหนดคุณลักษณะการดำเนินงานตามแผนงาน โครงการ กิจกรรมที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ ๑.๒.๕ เมื่อปรากฏมาตรการ แนวทาง วิธีการดำเนินงานสำหรับป้องกันการทุจริตของโครงการภาครัฐ ภายใต้รูปแบบกลไกการติดตามประเมินผลแล้ว ให้คณะอนุกรรมการบูรณาการประเมินจริยธรรมฯ นำเสนอต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ ให้ความเห็นชอบ และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบและสั่งการให้หน่วยงานภาครัฐถือปฏิบัติต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรผลักดันนำองค์ความรู้ในการกำหนดตัวชี้วัดการป้องกันทุจริตที่เหมาะสมในการประเมินผลหน่วยงานเจ้าของโครงการผ่านหน่วยตรวจสอบ และหน่วยประเมินผล ที่กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) ได้พัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) ซึ่งเป็นศูนย์รวมข้อมูลการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ และสามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐตามแนวทางที่กำหนดการประเมินผลไว้ ส่วนอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการบูรณาการประเมินจริยธรรมฯ จะต้องเป็นการบูรณาการอย่างจริงจังระหว่างงานของหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบและประเมินผลการบริหารหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงกลไกและเครื่องมือในการติดตามประเมินผลที่เกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตในภาครัฐของสำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เพื่อลดภาระของผู้ถูกตรวจสอบและจูงใจให้เห็นถึงความสำคัญและจำเป็นของการยกระดับความมีคุณธรรมจริยธรรมในภาครัฐ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ส่วนเรื่องงบประมาณดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเร่งรัดดำเนินการในขั้นตอนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากดำเนินการได้แล้วเสร็จและมีค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่วางไว้ ให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
498 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินงานตามแผนปฏิรูปประเทศไทย กระทรวงมหาดไทย | นร | 14/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อดำเนินการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กระดับตำบลแห่งละ ๒ ล้านบาท จำนวน ๙๙ แห่ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๙๘ ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ รายการงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จัดทำรายละเอียดแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงิน ๑.๒ อนุมัติหลักการในการใช้สถานที่โรงเรียนขนาดเล็กมาดำเนินการเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในระดับตำบล โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงมหาดไทยภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กระดับตำบล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเสนอขอตั้งค่าใช้จ่ายไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามขั้นตอนต่อไป ส่วนการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กระดับตำบลที่ยังไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนในครั้งนี้ จำนวน ๓๐๘ แห่ง ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งสำรวจความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละแห่ง โดยอาจขอความร่วมมือการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจากภาคเอกชนในพื้นที่หรือประสานกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อใช้สถานที่โรงเรียนขนาดเล็กที่ไปหลอมรวมเป็นโรงเรียนดีประจำตำบลมาดำเนินการเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในระดับตำบลในสังกัดของ อปท. ต่อไป และหากไม่ได้รับการสนับสนุนในการดำเนินการดังกล่าว ก็ให้เสนอขอตั้งค่าใช้จ่ายไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ กรณีโรงเรียนดีประจำตำบลแห่งใดที่มีความพร้อมและได้รับการสนับสนุนจาก อปท. ก็ให้พิจารณาจัดตั้งเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กระดับตำบลด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
499 | แผนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ระยะที่ 9 (พ.ศ. 2553 - 2557) | ศธ | 08/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการแผนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ระยะที่ ๙ (พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๗) โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณในแผนความร่วมมือฯ ในวงเงิน ๑,๖๔๘,๗๒๔,๕๘๐ บาท ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามแผนความร่วมมือฯ ให้เป็นไปตามแผนความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยวงเงิน ๖๕๓,๒๐๗,๔๐๐ บาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๔ สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณให้แล้วเฉพาะในส่วนของทุนการศึกษา จำนวน ๑๓๕,๓๔๕,๐๐๐ บาท ส่วนค่าใช้จ่ายที่ดำเนินงานตามแผนในปีต่อ ๆ ไป จะพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้เฉพาะในส่วนของทุนการศึกษาตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการและสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงาน ก.พ. สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และคณะกรรมการอุดมศึกษา ที่เห็นควรให้สถาบัน AIT ศึกษาวิเคราะห์เพื่อกำหนดกรอบสาขาวิชาที่จะให้ผู้รับทุนศึกษาให้มีความสอดคล้องกับความต้องการกำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ และประสานกับแหล่งทุนต่าง ๆ ที่มีการจัดสรรทุนในสาขาวิชาที่ใกล้เคียงกันด้วย นอกจากนี้ ควรมีการกำหนดนโยบาย ข้อตกลง จุดยืน ความคาดหวัง และบทบาทของสถาบัน AIT ในการกำหนดแนวทางพัฒนาคุณภาพมาตรฐานวิชาการให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาคนี้ รวมทั้งต้องตอบสนองต่อแนวทางการพัฒนาประเทศไทย พร้อมทั้งติดตามและประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนกำหนดข้อตกลงกับสถาบัน AIT ให้ชัดเจน โดยเฉพาะจุดยืนหรือแนวทางความต้องการในการพัฒนาประเทศเพื่อให้การดำเนินงานของสถาบัน AIT สอดรับกับนโยบายและทิศทางการพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยและกลุ่มอนุภูมิภาคประเทศลุ่มแม่น้ำโขง อาทิ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาองค์ความรู้ และนวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อรองรับการแข่งขันในเวทีโลกในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย ๒. อนุมัติงบประมาณสนับสนุนการดำเนินการเครือข่ายการศึกษาวิจัยอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMSARN) ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๗ ปีละ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปพิจารณารูปแบบที่เหมาะสมในการสนับสนุนสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย และกำหนดเงื่อนไขให้ชัดเจน โดยคำนึงถึงประโยชน์และความคุ้มค่าที่มีต่อประเทศไทยด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
500 | โครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง จังหวัดระยอง เพิ่มเติม | นร | 01/03/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรี ดังนี้
๑. อนุมัติมีมติในหลักการโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง จังหวัดระยอง เพิ่มเติม และขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติม จำนวน ๙ โครงการ ประกอบด้วย โครงการเร่งด่วนภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๖ จำนวน ๗ โครงการ วงเงิน ๒๐๘.๕๐ ล้านบาท โครงการเร่งด่วนเพื่อลดและขจัดมลพิษ จำนวน ๑ โครงการ วงเงิน ๑ ล้านบาท และโครงการก่อสร้างสถานีขนถ่ายและระบบขนส่งขยะมูลฝอยเทศบาลเมืองมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง จำนวน ๑ โครงการ วงเงิน ๖๐ ล้านบาท ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงิน ๒๖๙,๕๐๐,๐๐๐ บาท และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการฯ ขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณโดยตรงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการฯ รับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า บางโครงการอาจจะต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการต่อเนื่องเกินปีงบประมาณปัจจุบัน เช่น โครงการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียรวมเทศบาลนครระยอง วงเงิน ๑๕๐.๔๓ ล้านบาท ฉะนั้น การขอจัดสรรเงินงบประมาณรายการดังกล่าวควรพิจารณาตามศักยภาพ ความพร้อมของหน่วยปฏิบัติ และหากไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณก็สมควรที่จะดำเนินการตามระเบียบวิธีการและขั้นตอนของการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
.....