ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ความคืบหน้าการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตาม การช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย | นร | 20/04/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ ของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) โดยที่ประชุม คชอ. ได้มีการพิจารณาการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติจากสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ในประเด็นสำคัญ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ข้อมูล ณ วันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๔ มีข้อมูลจำนวนครัวเรือนที่จังหวัดต่าง ๆ ได้ส่งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผ่านการตรวจสอบความถูกต้องแล้ว จำนวนประมาณ ๕๐,๐๐๐ ครัวเรือน คาดว่าจะเริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยได้ตั้งแต่วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ๑.๒ ความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลังจากเหตุอุทกภัย ดินโคลนถล่ม วาตภัย และคลื่นเซาะชายฝั่งในพื้นที่ภาคใต้ ได้ดำเนินการสร้างบ้านให้แก่ผู้ประสบภัยในชุดแรก จำนวนทั้งสิ้น ๒๓๕ หลัง ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช ๑๙ หลัง สุราษฎร์ธานี ๗๐ หลัง กระบี่ ๑๑๙ หลัง ตรัง ๒๒ หลัง และสงขลา ๕ หลัง โดยเป็นการสร้างในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ทุกราย เริ่มก่อสร้างในวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๔ โดยใช้แบบบ้านของมูลนิธิซิเมนต์ไทย ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างประมาณ ๕๓ ล้านบาท โดยใช้เงินกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ๑.๓ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจากดินถล่มและการพัฒนาที่ดินสำหรับการเกษตรในระยะต่อไป ที่ประชุม คชอ. มีมติให้ทุกจังหวัดที่ประสบภัย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสำรวจพื้นที่ที่ประสบภัยว่ามีจำนวนเท่าใด และจำแนกพื้นที่ให้ชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิเท่าใด และเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานเท่าใด และส่งข้อมูลให้ คชอ. ภายในวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๔ เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านการสร้างบ้านต่อไป สำหรับพืชหลักในพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัย ได้แก่ ปาล์ม ยางพารา และไม้ผล ให้กรมพัฒนาที่ดินประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการในบางส่วนก่อน ๑.๔ การแก้ไขปัญหาขยะ และสิ่งแวดล้อม ภายหลังอุทกภัยและดินถล่ม เนื่องจากปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียและระบบกำจัดขยะต้องรอระดับน้ำลดลงสู่ภาวะปกติ จึงจะสามารถเข้าตรวจสอบความเสียหายและประมาณการค่าเสียหายได้ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใช้งบประมาณของตนเองในการซ่อมแซมไปก่อน แต่หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย ๑.๕ การขออนุมัติวงเงินเหลือจ่ายจากการดำเนินงานโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ จำนวน ๗๑๑,๘๒๒,๗๐๐ บาท เพื่อดำเนินการตามแผนงานซ่อมแซมและฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ในส่วนของฝาย อาคารบังคับน้ำ พนังกั้นน้ำ สถานีสูบน้ำ คลองส่งน้ำ และคันคลองที่ชำรุด ที่ประชุม คชอ. มีมติให้กรมชลประทานประสานในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณในเรื่องของเงินเหลือจ่ายก่อน รวมทั้งให้กรมชลประทานและฝ่ายเลขานุการ คชอ. ประสานกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเกี่ยวกับโครงการด้านชลประทานที่ได้รับความเสียหายซึ่งได้ถ่ายโอนให้ อปท. และต้องใช้งบประมาณเทคนิคในการซ่อมแซมฟื้นฟูจำนวนมากเกินกำลังความสามารถของ อปท. โดยให้กรมชลประทานเข้าดำเนินการแทน อปท. ได้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาให้ประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ๑.๖ ความคืบหน้าการฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมระยะเร่งด่วน ที่ประชุม คชอ. ได้มีมติให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทจัดทำรายละเอียดเส้นทางคมนาคมที่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูเสนอให้พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป ๑.๗ การให้ความช่วยเหลือด้วยการให้วงเงินสินเชื่อผู้ประกอบการ การประกันสังคม และการประกันภัย ที่ประชุม คชอ. ได้พิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย ได้แก่ การให้รัฐบาลสนับสนุนเงินกู้เฉพาะกิจเพื่อฟื้นฟูสำหรับภาคธุรกิจผ่านธนาคารของรัฐโดยงดเว้นการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน การเร่งรัดให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ประสบภัยภายใน ๑ เดือน การปล่อยเงินกู้กับผู้ประกอบการและผู้ใช้แรงงานจากกองทุนประกันสังคม การจัดสรรเงินช่วยเหลือแก่เกษตรกรรายย่อยในกลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตซืน้ำที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน การงดเว้นการจัดเก็บภาษีท้องถิ่น เช่น ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ภาษีป้าย เป็นต้น รวมทั้งการเก็บกู้และการกำจัดซากขยะอินทรีย์บริเวณอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๒. ส่วนผู้ประสบภัย จำนวน ๕๙๙ ราย ที่มีปัญหาอุปสรรคในเรื่องที่ดินเดิมของผู้ประสบภัยเป็นพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ หรืออยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ และยังไม่มีข้อยุติในเรื่องที่ดิน ทำให้การสร้างบ้านให้แก่ผู้ประสบภัยยังไม่สามารถดำเนินการได้ นั้น ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาในเรื่องที่ดินดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
|
.....