ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 26 จากทั้งหมด 55 หน้า แสดงรายการที่ 501 - 520 จากข้อมูลทั้งหมด 1095 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
501 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินงานตามโครงการนำร่องแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรรายย่อยไทยเข้มแข็ง ภายใต้นโยบายกองทุนธนาคารที่ดิน | นร | 22/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้มีการดำเนินงานโครงการนำร่องแก้ไขปัญหาที่ดินของเกษตรกรรายย่อยไทยเข้มแข็ง ภายใต้นโยบายกองทุนธนาคารที่ดิน สำหรับใช้ในการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนองค์กรชุมชนที่มีปัญหาเร่งด่วน ๕ พื้นที่ โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามโครงการฯ วงเงิน ๑๖๗,๙๖๐,๐๐๐ บาท ๒. ให้คณะกรรมการอำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยดำเนินการจัดทำรายละเอียดแผนงาน/โครงการและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ รวมทั้งหลักเกณฑ์ในการจัดซื้อที่ดินและหลักเกณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามโครงการฯ ส่งให้สำนักงบประมาณพิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อได้มีการจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) เรียบร้อยแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
502 | ขอรับการสนับสนุนเพื่อดำเนินงานตามโครงการการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน | พม | 22/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการสนับสนุนงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้แก่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เพื่อแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านตามเป้าหมาย จำนวน ๒๐๐ หน่วย ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยให้ใช้มาตรการอุดหนุนค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกับโครงการบ้านมั่นคง ทั้งนี้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
503 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ (การจัดการน้ำและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) | มท | 08/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามพระราชดำริในโอกาสที่พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ (การจัดการน้ำและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงมหาดไทยได้ศึกษาค้นคว้า รวบรวมแนวคิด ทฤษฎี หลักการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ และประชุมสัมมนาร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญจากส่วนราชการ/หน่วยงานในการบริหารจัดการน้ำ และนำมาเรียบเรียงจัดทำหนังสือการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นคู่มือให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศใช้ศึกษาและเป็นแนวทางปฏิบัติงาน รวมทั้งประกอบการจัดทำแผนงาน/โครงการการบริหารจัดการน้ำอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่ นอกจากนี้ ได้นำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง เช่น ระบบการเตือนภัยและติดตามสถานการณ์น้ำ โครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเพื่อการจัดการน้ำ และการปรับปรุงจัดการน้ำในระดับเมือง และระดับชุมชน ๒. การดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มขนาดเล็กอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนา และตั้งโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มขนาดเล็กที่ใช้เงินลงทุนต่ำเพื่อสกัดน้ำมันปาล์มดิบจำหน่าย และนำผลพลอยได้ไปใช้ประโยชน์พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันของสมาชิกสหกรณ์นิคมอ่าวลึก จำกัด ได้รับประโยชน์จำนวน ๓,๙๘๐ ครัวเรือน ส่วนสหกรณ์นิคมอ่าวลึก จำกัด ได้จัดทำโครงการปรับปรุงโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งนี้ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มของสหกรณ์ใช้น้ำมันปาล์มดิบในการทอดผลปาล์มตามกระบวนการผลิตเฉลี่ย ๔๐๐ ลิตร/รอบการผลิต สหกรณ์จึงมีโครงการผลิตไบโอดีเซลเป็นพลังงานทดแทนโดยใช้น้ำมันปาล์มดิบที่ใช้แล้วมาเป็นวัตถุดิบ ๓. การดำเนินงานตามโครงการจัดพัฒนาที่ดินฯ ตามพระราชประสงค์หุบกะพง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพงได้ดำเนินการการปฏิรูปที่ดินโดยการพัฒนาที่ดินว่างเปล่า จัดสรรให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินในการเพาะปลูกเป็นของตนเองประกอบอาชีพตามวิธีการเกษตรแผนใหม่ แต่ไม่ให้กรรมสิทธิ์ในการถือครองที่ดิน และได้มีการรวมกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรโดยใช้หลักและวิธีการสหกรณ์แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับสมาชิกตั้งแต่เริ่มการผลิตจนถึงการจำหน่ายออกสู่ตลาด ส่วนสหกรณ์การเกษตรหุบกะพง จำกัด ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการเลี้ยงไก่ไข่ระบบปิด โครงการปลูกป่านศรนารายณ์ โครงการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง โครงการสวนทับทิมไทย-อิสราเอล เป็นต้น สำหรับปัญหาเรื่องน้ำ การประกอบอาชีพ สังคมและสิ่งแวดล้อม กรมชลประทานได้ดำเนินการขุดลอกเพื่อขยายความจุของอ่างเก็บน้ำ การขอรับการสนับสนุนการทำฝนหลวงในพื้นที่ รวมทั้งการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
504 | รายงานผลการหารือและขอรับความเห็นชอบเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณสำหรับเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวน | ตช | 01/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบมติที่ประชุมร่วมระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการพิจารณาเรื่อง ขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณสำหรับเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๔ โดยที่ประชุมพิจารณาเหตุผลและความจำเป็นในการขอแก้ไขระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวน พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่อให้พนักงานสอบสวนได้รับเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ตามอัตราใหม่ก่อนวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการออกแผนปฏิบัติราชการ เพื่อรองรับการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ทำให้พนักงานสอบสวนต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเหนื่อยยาก ตรากตรำ ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้พนักงานสอบสวน จึงจำเป็นต้องแก้ไขระเบียบ ก.ตร.ฯ ให้มีผลย้อนหลังไปวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ ประกอบกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วปรากฏว่า มีงบประมาณเหลือจ่ายในงบบุคลากรจากอัตราว่าง และสามารถนำมาใช้รองรับการดำเนินการดังกล่าวได้ ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่าการแก้ไขพระราชบัญญัติ ก.ตร.ฯ สามารถกระทำได้ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยขอรับความเห็นชอบไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อให้ระเบียบ ก.ตร.ฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นไป ๒. อนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแก้ไขระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวน พ.ศ. ๒๕๕๓ ให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ โดยใช้งบประมาณในส่วนของงบบุคลากรจากอัตราว่างที่มีเงินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ๓. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการแก้ไขระเบียบ ก.ตร.ฯ ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ และขอรับความเห็นชอบไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
505 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อจัดซื้อและติดตั้งเครื่องเรดาร์ตรวจอากาศ | ทก | 18/01/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยกรมอุตุนิยมวิทยา ดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ (เครื่องเรดาร์ตรวจอากาศ) เพื่อทดแทนของเดิมและเพิ่มเติมให้มีประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังและเตือนภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องแม่นยำ รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ ส่วนงบประมาณในการดำเนินการนั้น ให้กรมอุตุนิยมวิทยาพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณที่ได้รับในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน หรือเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้กรมอุตุนิยมวิทยาร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันภัยพิบัติจัดเตรียมแผนการป้องกันภัยพิบัติแบบบูรณาการให้เป็นระบบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติ ไปพิจารณาด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
506 | รายงานผลการดำเนินงาน OTOP CITY 2010 (ระหว่างวันที่ 18 - 26 ธันวาคม 2553) | มท | 11/01/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน รายงานผลการดำเนินงาน OTOP CITY 2010 หรือ “ศักดิ์ศรีแห่งภูมิปัญญาไทยใต้ร่วมพระบารมี : OTOP CITY 2010” ระหว่างวันที่ ๑๘ - ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๓ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย กิจกรรม ชิม : อาหารอร่อยจากทั้ง ๔ ภาค ทั่วไทย ชม : นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ นิทรรศการและการสาธิตการผลิตผลิตภัณฑ์ ของขวัญจากแผ่นดิน หรือ OTOP ดีเด่น และเครือข่ายองค์ความรู้ (KBO) การแสดงวัฒนธรรมของ ๔ ภาค หมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของแต่ละภาค และ ช้อป : สินค้า OTOP ระดับ ๓ - ๕ ดาว จากภูมิปัญญาของชาวบ้านทุกจังหวัดทั่วประเทศ และผู้ประกอบการจากกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรม “นาทีทอง” วันละ ๒ รอบ ของทุกวัน การจัดประมูลผลิตภัณฑ์ OTOP เด่น ของแต่ละจังหวัดเพื่อร่วมหารายได้สมทบกองทุนเครือข่าย OTOP เป็นต้น สำหรับผลการจัดกิจกรรม มีผู้เข้าชมงาน ๑,๑๑๑,๐๐๓ คน มียอดจำหน่ายสินค้า OTOP จำนวน ๑,๓๔๘,๕๘๔,๙๘๗ บาท และจากการสำรวจความพึงพอใจต่อการจัดงานครั้งนี้ พบว่าประชาชนผู้เข้าชมงานมีความพอใจในระดับมาก ถึงมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ ๘๔.๓๐ ส่วนผู้ประกอบการที่ร่วมจำหน่ายสินค้ามีความพอใจในระดับมาก ถึงมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ ๘๒.๑๐ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยประสานงานกับคณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ แห่งชาติ พิจารณาค่าใช้จ่ายในการขอรับการสนับสนุนและผลักดันให้มีการจัดงาน OTOP Midyear 2011 ในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๔ ต่อไป หากต้องของบประมาณเพิ่มเติมให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนดำเนินการจัดงานดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
507 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง (การจัดสรรงบประมาณสำหรับจ่ายเป็นเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวแก่ครูโรงเรียนเอกชนโดยเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไป) | ศธ | 04/01/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอขอถอนความเห็นของกระทรวงการคลังที่ไม่เห็นชอบให้ใช้วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ และ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายจ่ายเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวแก่ครูโรงเรียนเอกชน รวมทั้งกรณีขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๓ ที่อนุมัติในหลักการที่จะช่วยเหลือครูโรงเรียนเอกชนเป็นเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวดังกล่าว ๒. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๖๗,๓๕๙,๖๐๘ บาท สำหรับเป็นเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้แก่ครูโรงเรียนเอกชน จำนวน ๗๔,๔๓๔ คน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - กันยายน ๒๕๕๓ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไป โดยวงเงินที่ต้องจ่ายเป็นเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว ประมาณเดือนละ ๑๐๖,๙๔๗,๘๔๓ บาท รัฐบาลจะรับภาระครึ่งหนึ่ง ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง เป็นเงินเดือนละ ๕๓,๔๗๑,๙๒๑.๕๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงศึกษาธิการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงิน ๖๔๑,๖๖๓,๐๕๘ บาท โดยให้ตรวจสอบจำนวนครูที่มีสิทธิให้ถูกต้องเป็นปัจจุบันก่อนและขอรับการสนับสนุนงบประมาณสำหรับโรงเรียนที่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีรายชื่อครูผู้มีสิทธิแล้ว โดยให้ขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณเป็นรายไตรมาสต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
508 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย | นร | 28/12/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนเฉพาะบุคคลที่มีการตรวจสอบความถูกต้องตามหลักเกณฑ์แล้ว จำนวน ๒,๔๖๔ คน โดยให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๕๕๑,๗๐๐,๐๐๐ บาท สำหรับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่จะตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีรายชื่อเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จำนวน ๖,๗๒๙ คน มอบหมายให้ กอ.รมน. เร่งรัดตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีรายชื่อดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
509 | การดำเนินงานสนับสนุนการจัดตั้งคณะทำงานการสืบสวนอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด | มท | 28/12/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรองประธานกรรมการและรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน คนที่หนึ่ง ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน [รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ)] รายงานผลการประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ ๒/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๓ โดยที่ประชุมได้มีมติ ดังนี้
๑. ให้มีการจัดตั้งทีมสืบสวนอุบัติเหตุระดับจังหวัด ๒๕ จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดนำร่องที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ๑๐ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย อุตรดิตถ์ สระบุรี ราชบุรี ชลบุรี อุดรธานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครศรีธรรมราช และตรัง และขยายผลในจังหวัดที่มีสถิติอุบัติเหตุสูงในช่วงเทศกาลสงกรานต์อีก ๑๕ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก สุพรรณบุรี ลำพูน ขอนแก่น ลพบุรี เพชรบูณ์ จันทบุรี นครปฐม นครสวรรค์ ลำปาง นครราชสีมา สงขลา สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต ๒. ให้ส่วนราชการหลักที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการสืบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมีหนังสือสั่งการเพื่อให้หน่วยงานในระดับพื้นที่ทั้ง ๒๕ จังหวัด ให้การสนับสนุนการทำงาน และให้ ๒๕ จังหวัด มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานการสืบสวนอุบัติเหตุระดับจังหวัด ๓. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณการดำเนินการจากงบกลางสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ และจัดทำคำขอจากงบประมาณปกติสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ และให้ สสส. และ กปถ. ให้การสนับสนุนการทำงานด้านการสืบสวนอุบัติเหตุตามความจำเป็นอื่น ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลดอัตราการเสียชีวิตในจังหวัดที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงต่อไป ๔. ให้มีการทำข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการพัฒนางานด้านการสืบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุระหว่างศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สสส. กปถ. และมหาวิทยาลัยที่ดำเนินงานด้านการสืบสวนอุบัติเหตุ ซึ่งได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ๕. ให้เพิ่มผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมเป็นคณะทำงานการสืบสวนอุบัติเหตุทางถนน โดยให้กระทรวงสาธารณสุขแจ้งรายชื่อผู้แทนเพื่อให้ฝ่ายเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจัดทำคำสั่งแต่งตั้งเพิ่มเติมต่อไป ๖. เห็นชอบในหลักการให้มีการทำแผนที่นำทางของการพัฒนางานด้านการสืบสวนอุบัติเหตุใน ๑๐ ปีข้างหน้าเพื่อให้สอดคล้องกับทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน
|
||||||||||||||||||||||||
510 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งเลือกตั้ง ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 2 ส.ส. จังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 2 ส.ส. จังหวัดนครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ 6 ส.ส. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตเลือกตั้งที่ 1 และ ส.ส. จังหวัดสุรินทร์ เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง | ลต | 07/12/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๗๕,๗๔๕,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ ๒ ส.ส. จังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ ๒ ส.ส. จังหวัดนครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ ๖ ส.ส. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตเลือกตั้งที่ ๑ และ ส.ส. จังหวัดสุรินทร์ เขตเลือกตั้งที่ ๓ แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
511 | รายงานผลการทบทวนรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณฯ ที่กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กระทรวงสาธารณสุข | สธ | 25/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการทบทวนรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓ ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ อนุมัติให้ใช้เงินงบประมาณฯ ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีโดยไม่มีข้อผูกพันจำนวนประมาณ ๖๓.๓ ล้านบาทและเงินจากโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ สาขาสาธารณสุข (โครงสร้างพื้นฐาน) ที่คงเหลืออยู่ประมาณ ๕๘๒ ล้านบาท ไปช่วยเหลือและฟื้นฟูเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย ซึ่งผลการพิจารณาทบทวน พบว่า ไม่สามารถใช้เงินที่กันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีโดยไม่มีข้อผูกพันดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามยังคงมีความจำเป็นจะต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน ๒๓๘,๗๙๔,๑๘๐ บาท จากโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ สาขาสาธารณสุข (โครงสร้างพื้นฐาน) ที่คงเหลืออยู่ประมาณ ๕๘๒ ล้านบาท ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอเรื่องไปยังผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเพื่อดำเนินการต่อไปแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
512 | ขอรับการสนับสนุนกรอบอัตรากำลังข้าราชการเพื่อดำเนินภารกิจแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2552 | ยธ | 16/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการกำหนดเป้าหมาย และนโยบายกำลังคนภาครัฐรับเรื่องขอรับการสนับสนุนกรอบอัตรากำลังข้าราชการเพื่อดำเนินภารกิจแผนสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๒ (เรื่อง ร่างแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติฉบับที่ ๒ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน) ไปประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบให้ได้ข้อ ยุติว่ากระทรวงการต่างประเทศจะให้การสนับสนุนอัตรากำลังข้าราชการ รวม ๒๐ อัตรา แก่กระทรวงยุติธรรม เพื่อดำเนินภารกิจแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดังกล่าว ได้เพียงใด หากกระทรวงการต่างประเทศให้การสนับ สนุนอัตรากำลังดังกล่าวได้ก็ให้กระทรวงยุติธรรมประสานในรายละเอียดกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ในกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศไม่สามารถให้การสนับสนุนอัตรากำลังจำนวนดังกล่าวได้ ก็ อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยว ข้องเพื่อบรรจุแต่งตั้งผู้มีคุณสมบัติและความรู้ความสามารถให้สอดคล้องกับภารกิจที่จะปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ให้คณะ กรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ และสำนักงาน ก.พ. รับไปพิจารณาการปรับลดกรอบ อัตรากำลังข้าราชการของกระทรวงการต่างประเทศที่ขอรับการจัดสรรในโอกาสต่อไป ตามความเหมาะสมด้วย |
||||||||||||||||||||||||
513 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย | สธ | 16/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบ
อุทกภัย จำนวน ๔๐๓,๙๔๗,๖๓๐ บาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอเพิ่มเติม โดยให้ใช้เงินงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓ ที่กันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี โดยไม่มีข้อผูกพันจำนวน ประมาณ ๖๓.๓ ล้านบาท และเงินจากโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ สาขาสาธารณสุข (โครง สร้างพื้นฐาน) ที่คงเหลืออยู่ประมาณ ๕๘๒ ล้านบาท ไปช่วยเหลือและฟื้นฟูเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยตกลงใน รายละเอียดกับสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
514 | ผลการดำเนินการของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย | นร | 09/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแผนการระบายน้ำท่วมขังบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา การแก้ไขปัญหาขยะและปัญหาน้ำเน่าเสีย และข้อเสนอวาระแห่งชาติ การฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยและการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเสนอ โดยการแก้ไขปัญหาขยะและปัญหาน้ำเน่าเสีย ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมควบคุมมลพิษ) ประสานกระทรวงกลาโหมเพื่อจัดส่งกำลังพลเข้าไปช่วยเร่งดำเนินการจัดเก็บขยะในพื้นที่ประสบภัยหลังน้ำลดให้แล้วเสร็จโดยเร็วด้วย ๒. เห็นชอบในหลักการตามมติคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ที่ให้มีกลไกการบูรณะฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุอุทกภัยทั้งในส่วนกลางและในจังหวัดต่าง ๆ ประกอบด้วยภาคประชาสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคราชการ และภาคเอกชน เพื่อบูรณาการการดำเนินการบูรณะฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นให้เกิดผลในทางปฏิบัติได้อย่างมีเอกภาพและมีความยั่งยืน ทั้งนี้ การดำเนินการบูรณะฟื้นฟูความเสียหายในแต่ละจังหวัดของส่วนราชการต่าง ๆ มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละเขตพื้นที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานกับศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในแต่ละจังหวัดซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ เพื่อดำเนินการต่อไป ๓. การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและวาตภัย ๓.๑ เห็นชอบในหลักการที่จะให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและวาตภัยทั้งในส่วนที่เป็นพื้นที่เพาะปลูกที่ได้รับการสงเคราะห์และที่ไม่ได้รับการสงเคราะห์จากกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางเหมือนกัน ตามอัตราที่เหมาะสมแก่ต้นทุนการเพาะปลูกต่อไร่ ทั้งนี้ ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรชาวสวนยางดังกล่าวเพิ่มเติม มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือและรวบรวมข้อมูลของเกษตรกรชาวสวนยางที่ประสบภัย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมครั้งต่อไป สำหรับเกษตรกรชาวสวนยางที่เพาะปลูกในพื้นที่ลาดเชิงเขาซึ่งอาจมีปัญหาเกี่ยวกับเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณ เป็นต้น เพื่อกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสม ถูกต้อง ตามระเบียบหลักเกณฑ์และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓.๒ ให้ คชอ. ประสานกับสภาอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางให้ความช่วยเหลือชาวสวนยางที่ต้นยางได้รับผลกระทบเสียหายจากอุทกภัยและวาตภัยที่เกิดขึ้น เช่น การขอความร่วมมือให้ภาคเอกชนเข้ามารับซื้อต้นยางที่โค่นล้มเพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ อื่น ๆ ต่อไป เป็นต้น ๔. อนุมัติในหลักการให้จ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในภาคใต้เพิ่มเติมครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเร่งสำรวจและรวบรวมข้อมูลความเสียหายของผู้ประสบอุทกภัยและวาตภัยในภาคใต้โดยด่วน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในคราวประชุมครั้งต่อไป ๕. ให้กระทรวงการคลัง (กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา) และกระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความ ช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่บุตรหลานของผู้ประสบอุทกภัยและวาตภัยให้สามารถศึกษาต่อไปได้โดยไม่ต้องยุติการศึกษากลางคัน ๖. อนุมัติขยายกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (กรอบวงเงิน ๒๓๘.๘๓๒ ล้านบาท) ที่เหลืออยู่จำนวน ๑๓๒.๖๓๘ ล้านบาท ในการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคใต้ โดยให้กระทรวงมหาดไทยซื้อเรือท้องแบนอลูมิเนียม ๓๐ ลำ เรือท้องแบนไฟเบอร์กลาส ๑๘๓ ลำ เรือพาย ๔,๑๖๐ ลำ เครื่องยนต์เรือหางสั้น ๑๓๐ เครื่อง เครื่องยนต์เรือหางยาว ๒๐ เครื่อง เครื่องสูบน้ำ ๕๗ เครื่อง สุขาเคลื่อนที่ ๔๐๐ หลัง โดยขอตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ และดำเนินการต่อไปได้ โดยหากมีกรอบวงเงินเหลืออยู่อีกให้พิจารณาตามความจำเป็นเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ การจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ดังกล่าวให้นำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ภาคใต้เป็นลำดับแรก ๗. การให้ความช่วยเหลือด้านประมงและปศุสัตว์ ๗.๑ เห็นชอบในหลักการให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการตามโครงการเพิ่มความมั่นคงด้านเสบียงสัตว์ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยผลิตหญ้าแห้งเพิ่มเติมจากเป้าหมายในการผลิตเดิม(จำนวน ๔,๔๐๐ ตัน) อีกจำนวน ๑,๐๐๐ ตัน โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากหมวดค่าตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ รวมทั้งสิ้น ๕,๐๑๑,๔๐๐ บาท ตามมติของ คชอ. ๗.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือชดเชยแก่ผู้ได้รับความเดือดร้อนกรณีเรือและเครื่องมืออุปกรณ์การจับปลาที่ได้รับความเสียหาย และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๗.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการช่วยเหลือชดเชยแก่ผู้เป็นเจ้าของเครื่องมือจับปลาแบบโพงพางและไซนั่งในพื้นที่โดยรอบทะเลสาบสงขลา เพื่อจูงใจให้สามารถแก้ไขปัญหาการทำประมงและจัดระเบียบการใช้พื้นที่โดยรอบทะเลสาบสงขลาได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากเครื่องมือจับปลาดังกล่าวมีส่วนทำให้สัตว์น้ำสูญพันธุ์และทำลายระบบนิเวศของทะเลสาบเป็นจำนวนมาก
|
||||||||||||||||||||||||
515 | รายงานการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกระทรวงแรงงาน ครั้งที่ 2/2553 | รง | 09/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานรายงานการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ครั้งที่ ๒/๒๕๕๓ ดังนี้
๑. กระทรวงแรงงานได้กำหนดแผนการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดตาม “โครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔” โดยการจ้างให้ทำงานต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายแรงงานออกนอกพื้นที่ พร้อมทั้งขอรับการสนับสนุนงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ เพิ่มเติม โดยกำหนดเป้าหมายให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน ๑๓๘,๗๐๐ คน ประมาณการค่าใช้จ่ายต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมเป็นเงิน ๔๐๖,๗๕๙,๖๐๐ บาท ๒. การให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน มีดังนี้ ๒.๑ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการจัดกิจกรรมคาราวานฟื้นฟูผู้ประสบภัย กระทรวงแรงงาน “ถึงที่ ถึงใจ เราไม่ทิ้งกัน” เพื่อให้การช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลด ภายใต้กิจกรรมต่าง ๆ เช่น มอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย กิจกรรมซ่อมแซมบ้านเรือน ยานพาหนะ เครื่องจักรการเกษตร และเครื่องใช้ไฟฟ้า กิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ กิจกรรมจัดบริการสาธิตการประกอบอาชีพอิสระ เป็นต้น ๒.๒ สำนักงานประกันสังคมได้ออกประกาศ เรื่อง ขยายหรือเลื่อนกำหนดเวลาการนำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทนของสถานประกอบกิจการที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งได้จัดให้มีโครงการ “ประกันสังคมเคียงข้างผู้ประกันตนต้านอุทกภัย” เพื่อให้ผู้ประกันตนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดที่ประสบอุทกภัยกู้เพื่อนำไปซ่อมแซมปรับปรุงที่อยู่อาศัยของครอบครัว รายละไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท ๒.๓ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยส่งชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ประสบภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ๒.๔ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ออกประกาศขอความร่วมมือสถานประกอบการช่วยเหลือลูกจ้างผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และสั่งการให้จังหวัดสำรวจสถานประกอบการและลูกจ้างผู้ประสบอุทกภัยเพื่อทราบความเดือดร้อน ความต้องการความช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาด้านแรงงาน ตลอดจนขอรับบริจาคเงินและสิ่งของจากสถานประกอบการที่ไม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ๒.๕ กรมการจัดหางานได้สั่งการให้ส่วนราชการในสังกัดในภูมิภาคให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามกรอบแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกรมการจัดหางานในช่วงระหว่างเกิดอุทกภัย และระยะหลังเกิดภัย (น้ำลด)
|
||||||||||||||||||||||||
516 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง | ลต | 02/11/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๔,๘๘๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขตเลือกตั้งที่ ๑ แทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก ตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขตเลือกตั้งที่ ๑ แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยเบิกจ่าย ในงบเงินอุดหนุน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
517 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชำระหนี้ค่าจัดซื้อที่ดินและอาคารของสภาทนายความ | ยธ | 26/10/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่ออุดหนุนให้แก่สภาทนายความสำหรับชำระหนื้เงินกู้การจัดซื้อที่ดินและอาคาร บริเวณถนนพหลโยธิน เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนาเป็นที่ทำการถาวรของสภาทนายความ แทน การเช่าที่ทำการเดิมที่ถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จำนวน ๓๑,๓๙๔,๕๐๐ บาท ๒. ให้กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม) จ่ายเงินก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอก เหนือไปจากที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือพระราชบัญญัติงบประมาณราย จ่ายเพิ่มเติมก่อนได้รับเงินประจำงวด เพื่อเป็นเงินอุดหนุนให้แก่สภาทนายความในการชำระหนี้การจัดซื้อที่ดิน และอาคารของสภาทนายความ
|
||||||||||||||||||||||||
518 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย | มท | 26/10/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้จัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เช่น เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เรือขนาดเล็กพร้อมพาย บ้านพักอาศัยชั่วคราวแบบเต็นท์ยกพื้น ห้องสุขาเคลื่อนที่ เครื่องสูบน้ำ และกระสอบทราย ๒. มอบหมายให้คณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและสำนักงบประมาณรับไปพิจารณา ๒ ประเด็น ดังนี้ ๒.๑ ลำดับความสำคัญในการดำเนินการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ๒.๒ สัดส่วนในการใช้งบประมาณเพื่อจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ว่าสมควรใช้เงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยหรือใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
519 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง สำหรับค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | มท | 12/10/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลาง รายการเงิน
สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๕๔,๐๗๐,๐๐๐ บาท ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเพื่อจ่าย เป็นค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน ๑๔,๑๑๕ คน ในส่วนที่เพิ่มขึ้น ๑,๕๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา ๑๒ เดือน (๑ ตุลาคม ๒๕๕๒-๓๐ กันยายน ๒๕๕๓) โดยให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ สำหรับค่า ตอบแทนพิเศษรายเดือนที่เบิกจ่ายตามอัตราเดิม ๑,๐๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน ให้เบิกจ่ายจากเงินรายได้ขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
520 | สรุปผลการดำเนินงานปฏิบัติการประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดยั่งยืนภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ระยะที่ 2 | ยธ | 05/10/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอเพิ่มเติมว่า ได้หารือกับกระทรวงการคลังในการ กันเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ จำเป็นไว้เบิกเหลื่อมปีเพื่อดำเนินการตามปฏิบัติการ “ประเทศไทยเข้มแข็งชนะยาเสพติดยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ ๕ รั้วป้องกัน ระยะที่ ๒” แล้ว มีความเห็นสอดคล้องกันว่าไม่ให้มีการโอนหรือนำไปใช้ในรายการอื่น ๒. รับทราบและเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธาน กรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเสนอ ดังนี้ ๒.๑ รับทราบผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดตามปฏิบัติการฯ ๕ รั้วป้องกัน ระยะที่ ๒ (พฤศจิกายน ๒๕๕๒-กันยายน ๒๕๕๓) ซึ่งมีผลการจับกุมยาเสพติดได้มากที่สุด เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาบ้า ไอซ์ ยาแก้หวัด กระท่อม ฯลฯ และมียอดผู้เข้าบำบัดรักษาได้สูงที่สุดในรอบหลายปีที่ ผ่านมาเช่นกัน ๒.๒ รับทราบและเห็นชอบในหลักการของปฏิบัติการฯ ๕ รั้วป้องกัน ระยะที่ ๓ ในขั้นต้น ซึ่งได้ จากหน่วยต่าง ๆ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ไปจัดทำรายละเอียด และเริ่มดำเนินการใน ต้นพฤศจิกายน ๒๕๕๓ ทั้งนี้ หลักการของปฏิบัติการฯ ๕ รั้วป้องกัน ระยะที่ ๓ จะมีสาระสำคัญ ๗ ประการ ที่จะ ลดการขยายตัวของปัญหายาเสพติดในภาพรวมให้ได้ มิให้ปัญหายาเสพติดส่งผลกระทบต่อประชาชน ประกอบ ด้วย (๑) การกำหนดพื้นที่เป้าหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหา (๒) การใช้ยุทธศาสตร์ ๕ รั้วป้องกันต่อเนื่อง (๓) การกำหนด critical point ที่เป็นจุดวิกฤติในแต่ละรั้ว/โครงการ (๔) การแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ (๕) การ ปรับปรุงประสิทธิภาพของมาตรการหลักที่ใช้แก้ไขปัญหา (๖) การใช้นโยบายกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ใหม่เพื่อลดจำนวนผู้กระทำความผิด และ (๗) การให้ความสำคัญในการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ ๒.๓ สนับสนุนทรัพยากรและงบประมาณการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้หน่วยงานใช้ในการแก้ ไขปัญหา ทั้งงบกลางที่ยังคงเหลือในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ และจะมีการขอรับการสนับสนุนงบกลางในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เพิ่มเติม หากเมื่อจัดทำแผนบูรณาการแล้ว ไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ๒.๔ สนับสนุนความดีความชอบพิเศษแก่ผู้ปฏิบัติงานดีเด่น ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะ รัฐมนตรีอนุมัติอยู่แล้ว ๓. ให้ สำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการกันเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบ กลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ไว้เบิกเหลื่อมปีเพื่อดำเนินการตามปฏิบัติการฯ ๕ รั้ว ป้องกัน ระยะที่ ๒” ส่วนปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ และ เร่งรัดการจัดทำแผนงบประมาณเชิงบูรณาการเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามปฏิบัติการฯ ระยะที่ ๓ โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ได้จัดสรร ก่อน หากไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ประเมินสถานการณ์และผลการดำเนิน งานเพื่อประกอบการขอรับการสนับสนุนงบกลางในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เพิ่มเติมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบ ประมาณ |
.....