ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 83 หน้า แสดงรายการที่ 21 - 40 จากข้อมูลทั้งหมด 1651 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21 | การต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี (1. นายภัครธรณ์ เทียนไชย) | มท. | 03/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง สังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน ๕ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. ให้นายภัครธรณ์ เทียนไชย ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ต่อไปอีกเป็นเวลา ๑ ปี (ครั้งที่ ๒) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ๒. ให้นายจีระ ภูมิสวัสดิ์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และนายวิชวุทย์ จินโต ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อไปอีกเป็นเวลา ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
22 | รัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเสนอขอแต่งตั้งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ จังหวัดขอนแก่น (นายจู ดึ๊ก สุง) | กต. | 02/03/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายจู ดึ๊ก สุง (Mr. Chu Duc Dung)
ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ จังหวัดขอนแก่น โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม ๒๐ จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น อำนาจเจริญ บึงกาฬ
บุรีรัมย์ ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ เลย มหาสารคาม มุกดาหาร นครพนม นครราชสีมา หนองบัวลำภู หนองคาย ร้อยเอ็ด สกลนคร ศรีสะเกษ
สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานี และยโสธร สืบแทน นายหว่าง หง็อก เซิน (Mr.
Hoang Ngoc Son)
ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
23 | รัฐบาลราชอาณาจักรสวีเดนเสนอขอเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรสวีเดน ณ จังหวัดขอนแก่น และแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรสวีเดน ณ จังหวัดขอนแก่น (นายวิทยา วรรณวิเชษฐ์) | กต. | 02/03/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. เปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรสวีเดน ณ จังหวัดขอนแก่น
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม ๒๐ จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น อำนาจเจริญ บึงกาฬ บุรีรัมย์
ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ เลย มหาสารคาม มุกดาหาร นครพนม นครราชสีมา หนองบัวลำภู หนองคาย
ร้อยเอ็ด สกลนคร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานี และยโสธร ๒. แต่งตั้งนายวิทยา
วรรณวิเชษฐ์ ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรสวีเดน ณ จังหวัดขอนแก่น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีกรณีการเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศส ณ จังหวัดขอนแก่น และเสนอขอแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศส ณ จังหวัดขอนแก่น (นายมาร์ก นูว์โซม) | กต. | 02/03/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรั คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐ เรื่อง สาธารณรัฐฝรั่งเศสขอเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศส ณ จังหวัดขอนแก่น
เฉพาะในส่วนเขตกงสุล โดยปรับเปลี่ยนเขตกงสุลจากเดิมที่มีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดขอนแก่น
เป็น มีเขตกงสุลครอบคลุม ๒๐ จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น อำนาจเจริญ บึงกาฬ
บุรีรัมย์ ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ เลย มหาสารคาม มุกดาหาร นครพนม นครราชสีมา
หนองบัวลำภู หนองคาย ร้อยเอ็ด สกลนคร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานี
ยโสธร และแต่งตั้งนายมาร์ก นูว์โซม (Mr. Marc Nussaume) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศส ณ จังหวัดขอนแก่น
สืบแทน นายฌ็อง-มีแชล, อีฟว์, ดีดีเย
แปรัว (Mr. Jean-Michel, Yves, Didier Perroy)
ซึ่งเกษียณอายุเมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปพิจารณากำหนดกรอบ/หลักเกณฑ์ในภาพรวมเกี่ยวกับการขอเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์
การกำหนดเขตกงสุล และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ของรัฐบาลต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ชัดเจน
เหมาะสม สอดคล้องกับบริบทของสภาพเศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งการดำเนินงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยในปัจจุบัน
เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น อำเภอกุดรัง อำเภอบรบือ อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม อำเภอศรีสมเด็จ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด อำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอโพนทอง อำเภอเมยวดี อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร อำเภอนิคมคำสร้อย อำเภอเมืองมุกดาหาร อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร และอำเภอธาตุพนม อำเภอเรณูนคร อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ - มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร - นครพนม พ.ศ. .... | คค. | 05/01/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น อำเภอกุดรัง อำเภอบรบือ
อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม อำเภอศรีสมเด็จ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด
อำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอโพนทอง อำเภอเมยวดี อำเภอหนองพอก
จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร อำเภอนิคมคำสร้อย อำเภอเมืองมุกดาหาร
อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร และอำเภอธาตุพนม อำเภอเรณูนคร อำเภอเมืองนครพนม
จังหวัดนครพนม เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางรถไฟ
เครื่องประกอบทางรถไฟ ทาง และสิ่งจำเป็นอื่น
ตามโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม
ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่อำเภอบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม
ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น อำเภอกุดรัง อำเภอบรบือ
อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม อำเภอศรีสมเด็จ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด
อำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอโพนทอง อำเภอเมยวดี อำเภอหนองพอก
จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร อำเภอนิคมคำสร้อย อำเภอเมืองมุกดาหาร
อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร และอำเภอธาตุพนม อำเภอเรณูนคร อำเภอเมืองนครพนม
จังหวัดนครพนม
เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
26 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน รวม 5 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....) | มท. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดขอนแก่น ๑.๒
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองสองห้อง ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
เทศบาลตำบลแวงใหญ่ สนามกีฬา และอาคารประกอบอื่น ๆ ๑.๔
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๑.๕
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษาและอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการศาลยุติธรรม ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เทศบาลตำบลหนองสองห้องและเทศบาลตำบลแวงใหญ่ องค์การบริหารส่วนตำบลยางสีสุราช
และสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ที่ดินปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๖๐
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๙
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ตามลำดับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
27 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน รวม 5 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....) | มท. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดขอนแก่น ๑.๒
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองสองห้อง ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
เทศบาลตำบลแวงใหญ่ สนามกีฬา และอาคารประกอบอื่น ๆ ๑.๔
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๑.๕
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษาและอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการศาลยุติธรรม ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เทศบาลตำบลหนองสองห้องและเทศบาลตำบลแวงใหญ่ องค์การบริหารส่วนตำบลยางสีสุราช
และสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ที่ดินปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๖๐
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๙
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ตามลำดับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน รวม 5 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....) | มท. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดขอนแก่น ๑.๒
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองสองห้อง ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
เทศบาลตำบลแวงใหญ่ สนามกีฬา และอาคารประกอบอื่น ๆ ๑.๔
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๑.๕
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษาและอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการศาลยุติธรรม ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เทศบาลตำบลหนองสองห้องและเทศบาลตำบลแวงใหญ่ องค์การบริหารส่วนตำบลยางสีสุราช
และสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ที่ดินปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๖๐
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๙
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ตามลำดับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
29 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน รวม 5 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....) | มท. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดขอนแก่น ๑.๒
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองสองห้อง ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
เทศบาลตำบลแวงใหญ่ สนามกีฬา และอาคารประกอบอื่น ๆ ๑.๔
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๑.๕
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษาและอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการศาลยุติธรรม ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เทศบาลตำบลหนองสองห้องและเทศบาลตำบลแวงใหญ่ องค์การบริหารส่วนตำบลยางสีสุราช
และสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ที่ดินปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๖๐
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๙
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ตามลำดับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
30 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน รวม 5 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ....) | มท. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดขอนแก่น ๑.๒
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองสองห้อง ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
เทศบาลตำบลแวงใหญ่ สนามกีฬา และอาคารประกอบอื่น ๆ ๑.๔
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๑.๕
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษาและอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการศาลยุติธรรม ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เทศบาลตำบลหนองสองห้องและเทศบาลตำบลแวงใหญ่ องค์การบริหารส่วนตำบลยางสีสุราช
และสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ที่ดินปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๖๐
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๙
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ตามลำดับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
31 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลชุมแพ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. .... | มท | 04/08/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
32 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 6 ฉบับ [ร่างพระราชกฤษฏีกากำหนดพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ที่ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครพนม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | มท. | 29/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการดังกล่าว
รวม ๖ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๑
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๘
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอบ้านไผ่ อำเภอพล อำเภอชุมแพ และอำเภอแวงใหญ่
จังหวัดขอนแก่น ๓. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดชัยภูมิ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมขึ้น
๑ บริเวณ ในท้องที่อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ๔.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๖
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองตรัง
อำเภอย่านตาขาว อำเภอสิเกา และอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ๕.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครพนม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมขึ้น
๒ บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม
๖.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. ๒๕๔๖
โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๘ บริเวณ
ในท้องที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งสง อำเภอขนอม อำเภอหัวไทร
อำเภอฉวาง อำเภอทุ่งใหญ่ และอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
33 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 6 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฏีกากำหนดพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ที่ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. ....) | มท. | 29/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการดังกล่าว
รวม ๖ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๑
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๘
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอบ้านไผ่ อำเภอพล อำเภอชุมแพ และอำเภอแวงใหญ่
จังหวัดขอนแก่น ๓. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดชัยภูมิ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมขึ้น
๑ บริเวณ ในท้องที่อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ๔.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๖
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองตรัง
อำเภอย่านตาขาว อำเภอสิเกา และอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ๕.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครพนม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมขึ้น
๒ บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ๖.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. ๒๕๔๖
โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๘ บริเวณ
ในท้องที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งสง อำเภอขนอม อำเภอหัวไทร
อำเภอฉวาง อำเภอทุ่งใหญ่ และอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
34 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 6 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฏีกากำหนดพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ที่ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง พ.ศ. ....) | มท. | 29/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการดังกล่าว
รวม ๖ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๑
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๘
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอบ้านไผ่ อำเภอพล อำเภอชุมแพ และอำเภอแวงใหญ่
จังหวัดขอนแก่น ๓. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดชัยภูมิ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมขึ้น
๑ บริเวณ ในท้องที่อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ๔.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๖
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองตรัง
อำเภอย่านตาขาว อำเภอสิเกา และอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ๕.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครพนม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมขึ้น
๒ บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ๖.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. ๒๕๔๖
โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๘ บริเวณ
ในท้องที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งสง อำเภอขนอม อำเภอหัวไทร
อำเภอฉวาง อำเภอทุ่งใหญ่ และอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
35 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 6 ฉบับ [ร่างพระราชกฤษฏีกากำหนดพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ที่ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดชัยภูมิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | มท. | 29/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการดังกล่าว
รวม ๖ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๑
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๘
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอบ้านไผ่ อำเภอพล อำเภอชุมแพ และอำเภอแวงใหญ่
จังหวัดขอนแก่น ๓. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดชัยภูมิ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมขึ้น
๑ บริเวณ ในท้องที่อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ๔.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๖
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองตรัง
อำเภอย่านตาขาว อำเภอสิเกา และอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ๕.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครพนม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมขึ้น
๒ บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ๖.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. ๒๕๔๖
โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๘ บริเวณ
ในท้องที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งสง อำเภอขนอม อำเภอหัวไทร
อำเภอฉวาง อำเภอทุ่งใหญ่ และอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
36 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 6 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฏีกากำหนดพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ที่ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....) | มท. | 29/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการดังกล่าว
รวม ๖ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๑
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๘
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอบ้านไผ่ อำเภอพล อำเภอชุมแพ และอำเภอแวงใหญ่
จังหวัดขอนแก่น ๓. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดชัยภูมิ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมขึ้น
๑ บริเวณ ในท้องที่อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ๔.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๖
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองตรัง
อำเภอย่านตาขาว อำเภอสิเกา และอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ๕.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครพนม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมขึ้น
๒ บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ๖.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. ๒๕๔๖
โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๘ บริเวณ
ในท้องที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งสง อำเภอขนอม อำเภอหัวไทร
อำเภอฉวาง อำเภอทุ่งใหญ่ และอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 6 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฏีกากำหนดพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ที่ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. ....) | มท. | 29/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการดังกล่าว
รวม ๖ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๑
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๘
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอบ้านไผ่ อำเภอพล อำเภอชุมแพ และอำเภอแวงใหญ่
จังหวัดขอนแก่น ๓. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดชัยภูมิ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมขึ้น
๑ บริเวณ ในท้องที่อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ๔.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตรัง
พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๖
บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองตรัง
อำเภอย่านตาขาว อำเภอสิเกา และอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ๕.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครพนม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมขึ้น
๒ บริเวณ ในท้องที่อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ๖.
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. ๒๕๔๖
โดยปรับปรุงกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ ๘ บริเวณ
ในท้องที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งสง อำเภอขนอม อำเภอหัวไทร
อำเภอฉวาง อำเภอทุ่งใหญ่ และอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
38 | การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการได้มาและการจำหน่ายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และการเช่าที่ดินเพื่อใช้เป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดสงขลา ในรูปแบบหนังสือแลกเปลี่ยน | กต | 10/03/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๑.๑ เห็นชอบให้รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนถือครองที่ดินเพิ่มเติม ดังนี้ ๑.๑.๑ ให้รัฐบาลจีนซื้อที่ดินจากภาคเอกชนเพื่อใช้เป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่จีน ณ จังหวัดขอนแก่น จำนวน ๙ ไร่ ๓ งาน ๗๓.๔ ตาราวา และจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน ๑๒ ไร่ ๗๖ ตารางวา โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์) เป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์แทนรัฐบาลจีน และรัฐบาลจีนทำสัญญาเช่าที่ดินต่อจากรัฐบาลไทยในอัตราค่าเช่าปีละ ๑ บาท ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่รัฐบาลไทยเคยดำเนินการกรณีการจัดที่ดินให้สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ๑.๑.๒ ให้รัฐบาลจีนเช่าที่ดินที่ราชพัสดุจังหวัดสงขลา หมายเลข สข. ๑๑๐๐ (บางส่วน) ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เนื้อที่ ๕ ไร่ ๖๕.๘ ตารางวา เพื่อใช้เป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่จีน ณ จังหวัดสงขลา โดยให้ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเช่าที่ดินที่ราชพัสดุ ๑.๒ เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการได้มาและการจำหน่ายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและการเช่าที่ดินเพื่อใช้เป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่จีน ณ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดสงขลา (ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฉบับใหม่) โดยกำหนดระยะเวลาการเช่าที่ดินแต่ละแปลงรวมกันไม่เกินแปลงละ ๗๐ ปี (๓๐ ปี+๓๐ ปี+๑๐ ปี) และกำหนดให้ฝ่ายจีนชำระค่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อใช้เป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่จีน ณ จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดเชียงใหม่ และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างเพื่อเป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่จีน ณ จังหวัดสงขลา ภายหลังสิ้นสุดการเช่า โดยยกเว้นค่าอากรและค่าธรรมเนียมการโอน ตลอดจนภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ โดยนำหลักประติบัติต่างตอบแทนมากำหนดเป็นเงื่อนไขในสัญญาเช่าที่ดินทั้งสองกรณี ๑.๓ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฝ่ายไทย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงบประมาณ กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า เช่น การจัดซื้อที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อสร้างสถานกงสุลใหญ่จีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ควรคำนึงถึงอัตลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย เป็นต้น ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39 | รายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ที่จะเสนอคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (จำนวน 2 รายการ) (โครงการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (จังหวัดนครราชสีมา)(พ.ศ. 2564 - 2566) | อว | 21/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการดำเนินการโครงการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (จังหวัดนครราชสีมา) (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖) สำหรับกรอบวงเงินเพื่อดำเนินโครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑,๖๓๐,๒๖๐,๐๐๐ บาท ไม่เข้าข่ายตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เห็นควรให้หน่วยงานเสนอคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามขั้นตอน โดยจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณพร้อมรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ตามความพร้อม ความจำเป็น และความเหมาะสมที่จะต้องใช้จ่ายในแต่ละปีงบประมาณ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และเนื่องจากโครงการอุทยานวิยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดขอนแก่น) มีการดำเนินการมาในช่วงเวลาหนึ่งแล้ว จึงควรให้มีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของโครงการ ตลอดจนปัญหาอุปสรรค ข้อคิดเห็นและความต้องการของประชาชนและผู้ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ อีกทั้งควรมีการกำหนดกรอบการดำเนินงาน การแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ แนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจน เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง เพื่อลดความซ้ำซ้อน และมีแนวทางการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการสำรวจความต้องการ (Demand) ที่แท้จริงในพื้นที่ เพื่อให้การดำเนินงานพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมมีความสอดคล้องกับความต้องการ ไม่ซ้ำซ้อนกับพื้นที่การดำเนินงานเดิม และสามารถนำงานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มในทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งควรมีการจัดทำยุทธศาสตร์หรือแผนที่นำทาง (Roadmap) เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาอุทยานวิทยาศาสตร์ในภาพรวมของทั้งประเทศ ที่ระบุถึงความพร้อมของพื้นที่เป้าหมาย ความต้องการใช้ประโยชน์ และแนวทางความร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคการศึกษา รวมไปถึงกำหนดเป้าหมายและแนวทางการดำเนินงานให้มีความชัดเจน สามารถนำไปถ่ายทอดสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
40 | การโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินขององค์การอุตสาหกรรมห้องเย็นเพื่อชำระหนี้ให้กระทรวงการคลังและการตัดหนี้ค้างชำระคงเหลือเป็นหนี้สูญ | กษ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินขององค์การอุตสาหกรรมห้องเย็น (อ.ย.) จำนวน ๔ แปลง ได้แก่ (๑) ที่ดินเลขที่ ๖๙๒๔ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น (๒) ที่ดินเลขที่ ๑๒๓๔๕ ตำบลวัดเกษ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ (๓) ที่ดินเลขที่ ๖๖๐๙ ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ และ (๔) ที่ดินเลขที่ ๓๒๕๒๑๑ ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อชำระหนี้ให้กระทรวงการคลัง โดยใช้ราคาประเมินที่ดินที่เป็นปัจจุบัน ส่วนการตัดหนี้ค้างชำระคงเหลือของ อ.ย. ต่อกระทรวงการคลังเป็นหนี้สูญ ให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามมติสภาบริหารคณะปฏิวัติเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๕ ที่กำหนดหลักการกรณีหนี้เงินค้างชำระที่กระทรวงการคลังไม่สามารถเรียกร้องจากลูกหนี้ได้ จำนวนเงินหรือหนี้เกินกว่า ๕ ล้านบาท ให้กระทรวงการคลังเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ๒. ในส่วนของที่ดิน น.ส. ๓ จำนวน ๒ แปลง ของ อ.ย. ที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าลุ่มแม่น้ำฝาง ได้แก่ (๑) ที่ดิน น.ส. ๓ ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ ๑ ตำบลแม่สูน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ประมาณ ๓๘ ไร่ ๓ งาน ๙๒ ตารางวา และ (๒) ที่ดิน น.ส. ๓ ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ ๑๗๗ ตำบลแม่สูน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ประมาณ ๒๖ ไร่ ๒ งาน ๘๐ ตารางวา ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งดำเนินการตรวจสอบการได้มาซึ่งที่ดิน น.ส. ๓ ทั้งสองแปลงดังกล่าว ว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว และเมื่อได้ผลการตรวจสอบที่เป็นที่ยุติแล้วให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
|