ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 29 จากทั้งหมด 59 หน้า แสดงรายการที่ 561 - 580 จากข้อมูลทั้งหมด 1166 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
561 | ขอความเห็นชอบการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) และร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ พ.ศ. .... | วธ | 18/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) เพื่อเป็นการแสดงเจตจำนงทางนโยบายของประเทศไทยที่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในเวทีระหว่างประเทศเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทย และให้เสนออนุสัญญาฯ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๒๓ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ต่อไป ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมหรือคุ้มครองการใช้ประโยชน์จากวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ รวมทั้งเป็นการออกกฎหมายเพื่ออนุวัติการตามอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๓. ให้กระทรวงวัฒนธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการตั้งงบประมาณรายจ่ายค่าบำรุงสมาชิกที่ต้องจ่ายให้แก่กองทุนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ทุกสองปี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเกี่ยวกับการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ต่อไป เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติเห็นชอบอนุสัญญาฯ และเมื่อร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ พ.ศ. .... มีผลบังคับใช้แล้ว ๕. ให้กระทรวงวัฒนธรรมทำแผนปฏิบัติการที่จะดำเนินการในช่วงระยะเวลา ๓ เดือน ๖ เดือน ๙ เดือน และ ๑ ปี เกี่ยวกับการคุ้มครองและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยให้เป็นรูปธรรม เช่น การขึ้นทะเบียนปราชญ์ชาวบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่นในเรื่องต่าง ๆ ให้ชัดเจนตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๘ (เรื่อง การดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) รวมทั้งกำหนดมาตรการเพื่อคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในเรื่องดังกล่าวด้วย แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๑ เดือน ต่อไป |
|||||||||||||||||||||
562 | มติคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า เรื่อง การกำหนดขอบเขตพื้นที่เมืองเก่า และการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2552 เรื่อง มาตรการในการควบคุมการก่อสร้างอาคารของภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐอย่างอื่นที่อาจพึงมี ในบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ ให้ครอบคลุมพื้นที่เมืองเก่าด้วย | ทส | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบขอบเขตพื้นที่เมืองเก่า และกรอบแนวทางการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า ๔ เมือง ได้แก่ เมืองเก่าแพร่ เมืองเก่าเพชรบุรี เมืองเก่าจันทบุรี และเมืองเก่าปัตตานี เพื่อประกาศเขตพื้นที่เมืองเก่า ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า พ.ศ. ๒๕๔๖ ๑.๒ เห็นชอบให้ปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒ โดยเห็นชอบมาตรการในการควบคุมการก่อสร้างอาคารของภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐอย่างอื่นที่อาจพึงมีในบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ และในบริเวณเมืองเก่าที่ได้ประกาศเขตพื้นที่เมืองเก่า ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยให้หน่วยราชการต่าง ๆ รวมทั้งรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐอย่างอื่นที่อาจพึงมีที่จะดำเนินการก่อสร้างภายในบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ และในบริเวณเมืองเก่าที่ได้ประกาศเขตพื้นที่เมืองเก่าตามมติคณะรัฐมนตรี ส่งเรื่องและแบบแปลนให้คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า โดยผ่านทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่าแล้ว จึงให้เสนอสำนักงบประมาณเพื่อขอจัดตั้งงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานภาครัฐ ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงวัฒนธรรมเกี่ยวกับเขตพื้นที่เมืองเก่ามีขอบเขตครอบคลุมเขตทางและที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งอาจมีการดำเนินกิจกรรมใด ๆ อันอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่เมืองเก่า จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนกรณีพื้นที่เมืองเก่าที่ทับซ้อนกับพื้นที่เมืองโบราณและโบราณสถานทั้งที่ประกาศขึ้นทะเบียนแล้วและที่ยังไม่ประกาศขึ้นทะเบียน การก่อสร้างหรือรื้อถอนอาคารของภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐอย่างอื่น รวมทั้งเอกชนที่พึงมีในบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ และในบริเวณเมืองเก่าที่ได้ประกาศเขตพื้นที่เมืองเก่าตามมติคณะรัฐมนตรี ยังคงต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมศิลปากรตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
563 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. .... | สว | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. .... ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ในกรณีที่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ไม่สามารถได้รับเงินจัดสรรจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ตามมาตรา ๖ และมาตรา ๑๑ ได้นั้น ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้กองทุนฯ ดำเนินงานของกองทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๑.๒ ในมาตราที่ได้กำหนดให้มีการรายงานประจำปี ประสงค์ให้มีการตรวจสอบโดยองค์กรหรือผู้รับผิดชอบตามกฎหมายนั้น ได้นำประเด็นและข้อสังเกตจากการพิจารณารายงานประจำปีของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาไปดำเนินการให้อยู่ในกรอบของหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีต่อไป ๒. มอบให้กระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงบประมาณรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน โดยให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
564 | รายงานผลการดำเนินงานสืบเนื่องจากการลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม ไทย - เวียดนาม | วธ | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานสืบเนื่องจากการลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้เข้าพบนาย Huynh Vinh Ai รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของเวียดนาม เพื่อหารือเรื่องแผนงาน โครงการ กิจกรรมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านศิลปะ ห้องสมุด หอจดหมายเหตุ โบราณคดี พิพิธภัณฑ์ ศาสนา เป็นต้น และการแลกเปลี่ยนการจัดกิจกรรมภายใต้แผนปฏิบัติการซึ่งจะดำเนินการระหว่างปี ๒๕๕๘-๒๕๕๙ โดยรัฐมนตรีทั้งสองประเทศคาดหวังว่า แผนปฏิบัติการฉบับนี้จะเป็นกรอบการดำเนินงานในการกระชับความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระดับทวิภาคีไทย-เวียดนาม ส่งผลและเกื้อหนุนความสัมพันธ์ในการเริ่มต้นการเป็นประชาคมอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ นอกจากนี้ ไทยและเวียดนามจะครบรอบ ๔๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งจะเป็นวาระสำคัญในการผลักดันให้เกิดการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการดำเนินความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและเวียดนามในด้านอื่น ๆ ต่อไป ๑.๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้พบหารือกับผู้บริหารแหล่งวัฒนธรรมและแหล่งมรดกโลกในเวียดนาม เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางความร่วมมือทางด้านการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์และแหล่งมรดกโลก โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเห็นว่า การบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์และแหล่งมรดกโลกถือเป็นเรื่องเร่งด่วนของไทยตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี กล่าวคือ การพัฒนาแหล่งประวัติศาสตร์ แหล่งเรียนรู้ แหล่งมรดกโลก อุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถานขึ้นทะเบียนทั่วประเทศ หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ ศูนย์วัฒนธรรม และโรงละคร ให้เกิดการพัฒนาและเปิดพื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้และจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของชาติ นอกจากนี้ จะบูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยจะร่วมกันจัดทำแผนการพัฒนากลุ่มจังหวัดที่มีแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว แนวทางจัดทำแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่กำลังจะเสนอเป็นมรดกโลกในอนาคต ทั้งนี้ พร้อมจะร่วมมือกับเวียดนามภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์และแหล่งมรดกโลก อาทิ หอสมุดและจดหมายเหตุ และมรดกทางวัฒนธรรม ๒. มอบหมายกระทรวงวัฒนธรรมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมฯ และผลการหารือความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในไทยและเวียดนามเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ๔๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ |
|||||||||||||||||||||
565 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ และ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๘ ให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) กำกับให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดและเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งกำหนดมาตรการรองรับด้วย นั้น เนื่องจากธนาคารกลางยุโรปได้เริ่มใช้มาตรการด้านการเงิน (Quantitative Easing : QE) โดยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเป็นจำนวนมากผ่านการซื้อพันธบัตรของรัฐบาล จึงมีแนวโน้มที่เงินทุนจำนวนมากจะเคลื่อนย้ายเข้ามาลงทุนในภูมิภาคอาเซียนรวมทั้งประเทศไทยด้วย ประกอบกับบัญชีเดินสะพัดของไทยมีแนวโน้มเกินดุลมากกว่าปีก่อนอันเป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าน้ำมันที่ลดลง ส่งผลให้เกิดความผันผวนต่ออัตราแลกเปลี่ยนและผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะภาคการส่งออก จึงให้กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและกำหนดมาตรการการเงินการคลังเพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ๑.๒ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๘ ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะรายการที่ยังมีราคาค่อนข้างสูง และกำหนดมาตรการในการดูแลระดับราคา รวมทั้งการแจ้งเตือนผู้ประกอบการ เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนหลักในภาคการขนส่งลดลง จึงให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และให้ดูแลราคาสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและสอดคล้องกับต้นทุนพลังงาน ๑.๓ ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม ติดตาม ตรวจสอบ และเร่งดำเนินโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการยาง ในวงเงินสินเชื่อ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ แต่ปัจจุบันการเบิกจ่ายวงเงินสินเชื่อยังอยู่ในระดับต่ำ ๑.๔ มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ (๑) การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิต สนับสนุนเครื่องมือและปัจจัยการผลิต ตลอดจนแนวทางการพักชำระหนี้เกษตรกร แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไปด้วย และ (๒) การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่มีรายได้น้อย คนจนเมือง และผู้ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบสังคม โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางการลดผลกระทบของผู้ประกอบการรายย่อยที่ใช้พื้นที่ทางสาธารณะทำการค้าขายอยู่เดิม และจัดหาพื้นที่สำหรับประกอบอาชีพ และเสนอแผนการดำเนินงานดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว โดยให้คำนึงถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องด้วย รวมทั้งเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ขาดแคลนเงินเพื่อใช้ในการดำรงชีพและการประกอบอาชีพ ๒. ด้านสังคม ๒.๑ ให้ทุกหน่วยงานที่จะจัดทำโครงการที่เป็นการให้ความช่วยเหลือหรือให้การอุดหนุนแก่ประชาชนเฉพาะกลุ่มระบุวัตถุประสงค์ของโครงการ ผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ให้มีความสอดคล้องกับปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม ทั้งนี้ ให้เน้นการช่วยเหลือผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส เด็ก ผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นเร่งด่วนให้ทั่วถึงและเป็นหลักก่อน และให้คำนึงถึงขีดความสามารถและข้อจำกัดของงบประมาณด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาดำเนินโครงการเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่บัณฑิตที่จบการศึกษาใหม่ เช่น การจัดการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะความรู้ที่จำเป็นเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานทั้งภายในประเทศ ในภูมิภาค และในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๒.๓ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับกระทรวงยุติธรรมพิจารณาดำเนินการเร่งนำตัวผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญต่อประชาชนให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและดำเนินคดีตามกฎหมายได้โดยเร็ว ๓. ด้านการต่างประเทศ เนื่องจากในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นปีครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่าง ๆ จึงให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงวัฒนธรรมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชนในการเตรียมการจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสนี้ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๘ และให้พิจารณาจัดโครงการหรือกิจกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การออกตราไปรษณียากร (แสตมป์) ที่ระลึก การจัดแสดงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม การจัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศฟื้นฟูความสัมพันธ์กับราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียด้วย ๔. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปดำเนินการประสานกับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับผลการดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา โดยให้สรุปประเด็นที่เพิ่มเติมจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ และจัดทำเอกสารเสนอในที่ประชุมร่วมระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ๕. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๕.๑ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยให้เร่งรัดการดำเนินโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ เพื่อก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้เพื่อให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนไปในทุก ๆ ไตรมาส นั้น ให้ทุกส่วนราชการและจังหวัดเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยโครงการที่ดำเนินการตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว ให้ลงนามในสัญญาภายในเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ และให้พิจารณาการจ้างงานประชาชนในพื้นที่เป็นลำดับแรกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ ๕.๒ ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ) และสำนักงบประมาณร่วมกันพิจารณาความเป็นไปได้ในการกำหนดวงเงินการจัดสรรงบประมาณให้แก่จังหวัดและกลุ่มจังหวัดให้มีความเหมาะสม และกำหนดมาตรการจูงใจในการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเวลาที่กำหนด รวมทั้งให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดจัดทำรายงานการใช้จ่ายงบประมาณที่แสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าด้วย ๕.๓ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับไปพิจารณากำหนดอัตรากำลังตำรวจท่องเที่ยวและงบประมาณให้มีความเพียงพอต่อการดูแล การให้ความช่วยเหลือ การอำนวยความสะดวก และให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๕.๔ ให้ทุกส่วนราชการที่มีภารกิจให้บริการประชาชนร่วมกันพิจารณาเปิดศูนย์บริการสาธารณะแบบครบวงจรที่ครอบคลุมการให้บริการหลากหลายแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวกและสามารถใช้บริการหลังเวลาเลิกงาน หรือในวันหยุดราชการได้ เช่น ห้างสรรพสินค้า รวมทั้งให้มีการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนด้วย ๕.๕ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ให้ทุกส่วนราชการดำเนินการสร้างการรับรู้ข้อมูล ข่าวสาร รวมทั้งชี้แจงประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐบาลให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องโดยไม่ตอบโต้ให้เกิดความขัดแย้ง นั้น ให้กรมประชาสัมพันธ์ดำเนินการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐบาลในเรื่องต่าง ๆ ที่มีความคืบหน้าและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชน โดยในวาระแรกให้เผยแพร่การทำงานของศูนย์บริการจัดหางานของกระทรวงแรงงานที่เปิดให้ผู้ว่างงานสามารถเข้าไปหางานที่ต้องการได้อย่างสะดวก รวมทั้งให้นายจ้างสามารถเข้าไปหาแรงงานตามที่ต้องการได้
|
|||||||||||||||||||||
566 | การดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | พณ | 20/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย สถานการณ์การคุ้มครองศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นในปัจจุบัน การคุ้มครองภายใต้ระบบกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา การดำเนินการของกรมทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และปัญหากรณีที่มีการนำศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยไปใช้ประโยชน์โดยต่างชาติ ๑.๒ เห็นชอบกับความเห็นแนวทางการดำเนินการ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยดำเนินการต่อไป ในส่วนของการคุ้มครองศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย ด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านพันธุ์พืช และด้านทรัพย์สินทางปัญญา การแก้ไขปัญหากรณีที่มีการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นและศิลปวัฒนธรรมไทยไปใช้ประโยชน์โดยต่างชาติ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยในสาขาที่ไทยมีศักยภาพและอยู่ในความสนใจของต่างชาติ ตลอดจนมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน หรือมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สามารถพัฒนาและต่อยอดไปสู่สินค้าอุตสาหกรรม ๒. ให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย ได้แก่ ด้านศิลปวัฒนธรรม (กระทรวงวัฒนธรรม) ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น (กระทรวงสาธารณสุข) ด้านพันธุ์พืช (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ด้านทรัพย์สินทางปัญญา (กระทรวงพาณิชย์) เร่งดำเนินการคุ้มครองและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยให้เป็นรูปธรรม เช่น การขึ้นทะเบียนปราชญ์ชาวบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่นในเรื่องต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการที่จะดำเนินการในช่วงระยะเวลา ๓ เดือน ๖ เดือน ๙ เดือน และ ๑ ปี ให้ชัดเจน แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ตามแนวทางของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องประเภทนโยบาย แผนงาน โครงการต่อคณะรัฐมนตรี) ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีกฎหมายเฉพาะ (sui generis) ที่คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ครอบคลุมภารกิจของทุกหน่วยงาน รวมทั้งผลักดันเรื่องดังกล่าวในเวทีองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ให้มีผลผูกพันระหว่างประเทศและเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ควรเป็นเจ้าภาพหลักในการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทราบถึงปัญหา อุปสรรคการดำเนินงานที่ผ่านมา และเพื่อร่วมกันกำหนดขอบเขตและแนวทางในการดำเนินงาน ซึ่งจะทำให้สามารถลดระยะเวลา ขั้นตอนและกระบวนการทำงาน ตลอดจนความซ้ำซ้อนของงาน รวมทั้งการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันในการจัดทำฐานข้อมูลการคุ้มครองและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยในภาพรวมของประเทศ และการเผยแพร่และสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้เกิดเอกภาพและประสิทธิภาพในการจัดสรรงบประมาณด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
567 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (นายโชค บูลกุล) | วธ | 20/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายโชค บูลกุล ผู้เชี่ยวชาญสาขาบริหารงานบุคคล เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร แทนนางสุชาดา ยุวบูรณ์ ที่ลาออก ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๐ มกราคม ๒๕๕๘) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
568 | การมอบโบราณวัตถุคืนให้ราชอาณาจักรกัมพูชา | วธ | 13/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร มอบโบราณวัตถุ จำนวน ๑๖ รายการ ที่กรมศิลปากรได้ตรวจสอบยืนยันแล้วว่าเป็นโบราณวัตถุที่มีถิ่นกำเนิดในราชอาณาจักรกัมพูชาคืนให้ราชอาณาจักรกัมพูชาในนามของรัฐบาลไทย โดยให้กรมศิลปากรดำเนินการส่งรายละเอียดและข้อมูลของโบราณวัตถุทั้ง ๑๖ รายการ ให้รัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชายืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่มีถิ่นกำเนิดในราชอาณาจักรกัมพูชา ๑.๒ ในส่วนของโบราณวัตถุที่เหลืออีก ๒๐ รายการ ซึ่งกรมศิลปากรได้ตรวจสอบแล้วไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่มีถิ่นกำเนิดในราชอาณาจักรกัมพูชาหรือไม่ ให้กรมศิลปากรแจ้งผลการตรวจสอบโบราณวัตถุทั้ง ๒๐ รายการ ให้รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาทราบ โดยหากรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาประสงค์จะขอรับโบราณวัตถุดังกล่าวคืน ให้รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาจัดส่งหลักฐานยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า โบราณวัตถุทั้ง ๒๐ รายการ เป็นโบราณวัตถุที่มีถิ่นกำเนิดในราชอาณาจักรกัมพูชา ทั้งนี้ การดำเนินการเพื่อหาหลักฐานมายืนยันอาจจะดำเนินการร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐบาลไทยกับหน่วยงานของรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชา ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่ประสานงานระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาเกี่ยวกับการดำเนินการในข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมทำความเข้าใจและสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการดำเนินการส่งมอบโบราณวัตถุคืนให้ราชอาณาจักรกัมพูชา ๓. ให้กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจรจากับฝ่ายราชอาณาจักรกัมพูชาเกี่ยวกับการส่งมอบโบราณวัตถุที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยคืนให้ประเทศไทยด้วยเช่นกัน
|
|||||||||||||||||||||
569 | ขอนำเสนอวีดีทัศน์สรุปผลงานด้านต่างประเทศของกระทรวงวัฒธรรมในการประชุมคณะรัฐมนตรี | วธ | 06/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปผลงานด้านต่างประเทศของกระทรวงวัฒนธรรม ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมนำเสนอวีดิทัศน์สรุปผลงานด้านต่างประเทศของกระทรวงวัฒนธรรม ช่วงระหว่างที่ ๑๕ พฤศจิกายน-๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยกระทรวงวัฒนธรรมมีนโยบายในการใช้มิติทางวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์กับนานาประเทศและเผยแพร่ภาพลักษณ์ประเทศไทย จึงได้มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ ๑.๑ กิจกรรมวัฒนธรรมสัญจรสำหรับคณะทูตานุทูต ณ จังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ โดยมีคณะทูตานุทูตพร้อมคู่สมรสจาก ๒๒ ประเทศ รวม ๓๙ คน เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม แหล่งศิลปหัตถกรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทย ตลอดจนเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านบริหารจัดการแหล่งมรดกวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน ๑.๒ การเข้าพบและหารือความร่วมมือทวิภาคีทางด้านวัฒนธรรมกับเอกอัครราชทูตต่างประเทศ ได้แก่ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปรตุเกสประจำระเทศไทย และเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย ๑.๓ การลงนามในแผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ ในระหว่างการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ในการนี้จะได้มีการเตรียมการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ ๔๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เวียดนาม ในปี ๒๕๕๙ โดยทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนการจัดงานเทศกาลวัฒนธรรม คือ เทศกาลวัฒนธรรมไทยในเวียดนาม (Thai Cultural Days in Viet Nam) และเทศกาลวัฒนธรรมเวียดนามในไทย (Viet Nam Cultural Day in Thailand) ๑.๔ การรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเมียนมาเยือนไทย ระหว่างวันที่ ๓-๖ ธันวาคม ๒๕๕๗ ซึ่งได้มีการเจรจาหารือทวิภาคีเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมระหว่างกันในด้านต่าง ๆ ๑.๕ การเชิญคณะนักแสดงจากกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจาอาเซียนเข้าร่วมงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ระหว่างวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน-๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ กรุงเทพมหานคร จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดขอนแก่น โดยมีคณะนักแสดงจาก ๙ ประเทศ เข้าร่วมงาน ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา ลาว เมียนมา มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม จีน และอินเดีย ๑.๖ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างภาพลักษณ์ไทยและนำความเป็นไทยสู่สากล ณ ประเทศเอธิโอเปีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ระหว่างวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน-๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐอียิปต์ ระหว่างวันที่ ๔-๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อเป็นประธานการจัดการแสดงนาฏศิลป์ ดนตรีไทย และสาธิตงานศิลปหัตถกรรมไทย ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบ ๖๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ๒. มอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการ ดังต่อไปนี้ ๒.๑ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชนในการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมไทยและสถานที่ท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ “เมืองต้องห้าม...พลาด” ทั้งนี้ เพื่อสร้างความรับรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวว่า สถานที่ท่องเที่ยวนั้นมีอะไรที่น่าสนใจ มีความสำคัญอย่างไร นักท่องเที่ยวจะได้เกิดมุมมองและประสบการณ์ใหม่ รวมทั้งได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น ทั้งนี้ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของไทยเพื่อเชื่อมโยงไปสู่การท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคอาเซียนต่อไปด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงวัฒนธรรมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชนในการเตรียมการจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบ ๖๕ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา และการจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบ ๔๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามความเหมาะสมต่อไป โดยให้คำนึงถึงสถานที่ในการจัดงานดังกล่าวให้มีความเหมาะสมและเพียงพอในการรองรับผู้เข้าร่วมงานด้วย
|
|||||||||||||||||||||
570 | รายงานผลการดำเนินงานเทศกาลหุ่นโลกกรุงเทพฯ "Harmony World Puppet Carnival in Bangkok Thailand 2014" | วธ | 06/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานเทศกาลหุ่นโลกกรุงเทพฯ “Harmony World Puppet Carnival in Bangkok Thailand 2014” ที่จัดขึ้น ณ ท้องสนามหลวง และโรงละครรอบบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ ระหว่างวันที่ ๑-๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินงานตลอดการจัดงานเทศกาลหุ่นโลกกรุงเทพฯ มีผู้ชมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมชมการแสดงทั้ง ๑๓ พื้นที่ รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ได้แก่ ท้องสนามหลวง (เวทีใหญ่ ๑ เวที และเวทีเล็ก ๒ เวที) โรงละครแห่งชาติ (โรงเล็กและโรงใหญ่) โรงละครวังหน้าสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์ ถนนเจ้าฟ้า หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุงฯ โรงละครศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) และศูนย์การค้าสยามพารากอน รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ รวมจำนวนมากกว่า ๑,๐๐๐,๐๐๐ คน เกิดรายได้หมุนเวียนในช่วงเวลาดังกล่าวกว่า ๑๐๐ ล้านบาท ๒. จากผลสำเร็จการจัดงานเทศกาลหุ่นโลกกรุงเทพฯ และภาพความประทับใจในศิลปะและวัฒนธรรมไทย ทำให้มีคณะหุ่นนานาชาติหลายประเทศได้ร่วมกับคณะหุ่นไทย กำหนดจัดกิจกรรมและเข้าร่วมแสดงหุ่นในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย ได้แก่ (๑) เทศกาลหุ่นนานาชาติ 2014@เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม และโรงละครหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (๒) เทศกาลหุ่นสายนานาชาติ ณ จังหวัดภูเก็ต “Phuket Harmony Puppet” วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ โรงเรียนสามกอง และถนนคนเดินหลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต และ (๓) คาราวานหุ่นไทยสัญจรคืนสุข ๔ ภูมิภาค ประกอบด้วย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ภาคใต้ จังหวัดตรัง ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ ภาคเหนือ จังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๘ มกราคม ๒๕๕๘ และภาคกลาง จังหวัดสุพรรณบุรี ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||
571 | ขอนำเสนอวีดิทัศน์สรุปผลงานด้านต่างประเทศของกระทรวงวัฒนธรรมในการประชุมคณะรัฐมนตรี | วธ | 30/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมขอถอนเรื่องเพื่อจัดทำเอกสารประกอบการเสนอในการประชุมครั้งถัดไป
|
|||||||||||||||||||||
572 | ผลการดำเนินงานเรื่องการปกป้องคุ้มครองมรดกทางศิลปวัฒนธรรม : การรับคืนโบราณวัตถุของไทยจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา | วธ | 30/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมรายงานผลการดำเนินงานเรื่องการปกป้องคุ้มครองมรดกทางศิลปวัฒนธรรม : การรับคืนโบราณวัตถุของไทยจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา สรุปได้ ดังนี้
๑. ปี พ.ศ. ๒๕๒๒ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประสานงานผ่านสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครลอสแอนเจลิส กระทรวงการต่างประเทศ ขอให้กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ส่งผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบและคัดเลือกโบราณวัตถุดังกล่าวที่พิพิธภัณฑ์ Bowers สหรัฐอเมริกา ๒. คณะเจ้าหน้าที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้เดินทางไปตรวจสอบและร่วมจัดทำบัญชีรายการโบราณวัตถุกับนักวิชาการโบราณคดี ผลปรากฏว่าโบราณวัตถุดังกล่าวเป็นมรดกหรือทรัพย์สมบัติทางศิลปวัฒนธรรมของไทย ประกอบด้วย โบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์จากแหล่งโบราณคดีสำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีเป็นจำนวนมาก โบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์จากแหล่งโบราณคดีสำคัญในภาคกลางจากแหล่งโบราณคดีในบริเวณจังหวัดลพบุรีและนครสวรรค์ อายุประมาณ ๒,๕๐๐-๔,๐๐๐ ปีมาแล้ว และโบราณวัตถุสมัยประวัติศาสตร์ พบเป็นจำนวนน้อย ๓. กรมศิลปากรได้แจ้งเรื่องผลการตรวจพิสูจน์ข้างต้นให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ และแจ้งต่อไปยังสำนักงานอัยการสหรัฐอเมริกา เพื่อขอรับโบราณวัตถุจากพิพิธภัณฑ์ Bowers คืนสู่ประเทศไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศ (กรมสารนิเทศ) เป็นผู้ประสานหลัก ทั้งนี้ พิพิธภัณฑ์ Bowers ได้จัดส่งหีบห่อ โบราณวัตถุ จำนวน ๘ ลัง รวมทั้งสิ้น ๕๕๔ รายการ โดยทางเรือ เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๗ และมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๗ กรมศิลปากรได้รับหีบห่อเมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๗ และตรวจสอบแล้วพบว่าเป็น โบราณวัตถุ ซึ่งประกอบด้วย เครื่องปั้นดินเผา ๒๒๒ รายการ เครื่องประดับสำริด ๑๙๗ รายการ เครื่องมือเครื่องใช้สำริด ๗๙ รายการ ลูกปัดทำด้วยวัสดุต่างๆ ๓๕ รายการ เครื่องมือหินและขวานหิน ๑๑ รายการ และแม่พิมพ์หินทราย ๑๐ รายการ ๔. เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้แถลงข่าวในพิธีส่งมอบ-รับมอบโบราณวัตถุดังกล่าว ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ๕. กรมศิลปากรได้ดำเนินการจัดทำทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ เสร็จสิ้นตามกระบวนการทางพิพิธภัณฑสถานวิทยาเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ได้นำโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่ชำรุด เสียหาย ทำการซ่อม สงวน รักษา ตามกระบวนการวิทยาศาสตร์ที่กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และหลังจากการอนุรักษ์เรียบร้อยจะนำโบราณวัตถุชิ้นสำคัญมาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมเพื่อสร้างความตระหนักให้รู้คุณค่า เกิดความรักและหวงแหนโบราณวัตถุที่เป็นมรดกของชาติต่อไป โดยส่วนหนึ่งจะนำไปจัดแสดงและเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี
|
|||||||||||||||||||||
573 | ผลการประชุมรัฐมนตรีวัฒนธรรมเอเชีย - ยุโรป ครั้งที่ 6 (The 6th Asia - Europe Culture Ministers' Meeting - ASEM CMM 6) | วธ | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีวัฒนธรรมเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ ๖ (The 6th Asia-Europe Culture Ministers’ Meeting-ASEM CMM6) ณ เมืองรอตเตอร์ดัม ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ โดยกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ภายใต้หัวข้อหลัก “อุตสาหกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคม : ความสามารถพิเศษ เทคโนโลยี และการค้า (Creative industries for society : talent, technology and trade)” ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุมเต็มคณะ ครั้งที่ ๑ หัวหน้าคณะผู้แทนระดับรัฐมนตรีวัฒนธรรมได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้กล่าวถ้อยแถลง มีสาระสำคัญคือ รัฐบาลชุดปัจจุบันให้ความสำคัญเรื่องการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับศักยภาพพื้นฐานของประเทศ โดยการพัฒนานวัตกรรมมาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มบนฐานความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และภูมิปัญญา และการใช้ดิจิทัลรองรับการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ๒. การประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องเมืองสร้างสรรค์ ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอภาพรวมด้านภาระงานและนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรมที่ครอบคลุมด้านการอนุรักษ์และบริหารจัดการทรัพยากรวัฒนธรรมทุกประเภทและส่งเสริมพัฒนาต่อยอดมรดกวัฒนธรรมทั้งหลายให้ตอบสนองความต้องการสังคมในปัจจุบัน และเพิ่มคุณค่าทางเศรษฐกิจด้วย สำหรับเมืองสามเมืองที่คัดเลือกมาเสนอเป็นกรณีตัวอย่างในการประชุมครั้งนี้ คือ (๑) เชียงใหม่ : เมืองสร้างสรรค์แห่งศิลปหัตถกรรม (๒) สุโขทัย : เมืองสร้างสรรค์แห่งการท่องเที่ยวและการจัดการแหล่งมรดกโลก และ (๓) ภูเก็ต : เมืองสร้างสรรค์ด้านศาสตร์และศิลป์แห่งอาหาร ๓. การประชุมเต็มคณะ ครั้งที่ ๒ มีการนำเสนอเกี่ยวกับโครงการเครือข่ายอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในภูมิภาคเอเชีย-ยุโรป และการนำเสนอเกี่ยวกับรายงานการประชุมเชิงปฏิบัติการ ๔. ที่ประชุมเห็นชอบให้สาธารณรัฐเกาหลีเป็นเจ้าภาพของการประชุม ASEM CMM7 ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙
|
|||||||||||||||||||||
574 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 3 ราย) (1. นายจรูญ นราคร ฯลฯ) | วธ | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายจรูญ นราคร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายดำรงค์ ทองสม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายกฤษณา คงคะจันทร์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||
575 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของส่วนราชการในกระทรวงวัฒนธรรม รวม 5 ฉบับ | วธ | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของส่วนราชการในกระทรวงวัฒนธรรม รวม ๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงทั้ง ๕ ฉบับดังกล่าว ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. .... ๕. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. .... |
|||||||||||||||||||||
576 | รายงานการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึงให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน | วธ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี (๗ ตุลาคม ๒๕๕๗) เรื่อง การดำเนินการโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึงให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วเพื่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ฤกษ์ดีปีใหม่ไหว้พระปฏิมา โดยเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ๔๔ แห่งทั่วประเทศ และอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญของชาติมาประดิษฐานให้ประชาชนเข้ากราบสักการะบูชา เพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗-๑๕ มกราคม ๒๕๕๘ ๒. ไหว้พระ ๙ วัด สืบสิริสวัสดิ์ ๙ รัชกาล (วัดประจำรัชกาลที่ ๑-รัชกาลที่ ๙) โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ให้ความร่วมมือจัดรถโดยสารปรับอากาศ ขสมก. ให้บริการรับ-ส่ง ฟรี ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗-๔ มกราคม ๒๕๕๘ ๓. สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่า วิถีไทย-ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ณ วัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๐๐ น.-วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ เวลา ๐๐.๓๐ น. ๔. พลัง “บวร” บ้าน-วัด-โรงเรียน ชวนเชิญชุมชนปั่นจักรยานไหว้พระรับฤดูหนาว โดยเชิญชุมชนปั่นจักรยานใน ๑๔ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน เชียงใหม่ ลำพูน สุโขทัย กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี กาญจนบุรี และราชบุรี ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๗-มกราคม ๒๕๕๘ ๕. เปิดอุทยานประวัติศาสตร์ ๙ แห่ง และแหล่งโบราณสถานต่าง ๆ ทั่วประเทศให้ประชาชนเที่ยวชมฟรี ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗-๑๕ มกราคม ๒๕๕๘ ๖. หุ่นไทยสันทนาการ สัญจร ๔ ภาค ให้ประชาชนชมฟรี ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ สุโขทัย และพิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗-๑ มกราคม ๒๕๕๘ ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต นครศรีธรรมราช และสงขลา ในวันที่ ๒๔-๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา และอุบลราชธานี ในวันที่ ๑๗-๑๘ มกราคม ๒๕๕๘ และภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และนครปฐม ในวันที่ ๑๔-๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ๗. ศิลปวัฒนธรรมไทยสู่ใจประชาชน ในงานมหกรรมการแสดงดนตรีและศิลปะพื้นบ้านของจังหวัด เพื่อสร้างความสุขและความสามัคคีปรองดองให้แก่คนในชาติในส่วนภูมิภาค ณ จังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ จังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ และจังหวัดลำปาง ในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ และจัดแสดงนาฏศิลป์-ดนตรี และกิจกรรมทางศิลปะ ณ โรงละครวังหน้า วิทยาลัยช่างศิลป (ลาดกระบัง) และวิทยาลัยนาฏศิลปทุกแห่ง ในวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ ๘. มอบของขวัญปีใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ไทยทั่วถิ่น จะได้มีอยู่มีกิน ทั่วแดนดินสุขร่วมกัน โดยร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องและห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ จัดกระเช้าของขวัญปีใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ชุมชนภูมิปัญญาไทย ตลอดช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๗-มกราคม ๒๕๕๘ ๙. อวยพรปีใหม่ผ่านระบบ Online (ส.ค.ส. Online) โดยคัดเลือกภาพถ่ายของศิลปินอาเซียน (ASEAN Eye Culture) ซึ่งเป็นภาพถ่ายวิถีชีวิตของประเทศสมาชิกอาเซียนและภาพถ่ายวิถีชีวิตวัฒนธรรมทางภาคใต้ สื่อถึงค่านิยมหลัก ๑๒ ประการ จัดทำเป็น ส.ค.ส. ส่งความสุขตั้งแต่วันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๗-๑๕ มกราคม ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||
577 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) | วธ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารหอภาพยนตร์ จำนวน ๘ คน ซึ่งได้รับการสรรหาตามระเบียบหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. ๒๕๕๒ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. รองศาสตราจารย์สุกรี เจริญสุข ประธานกรรมการ ๒. นายชาคร วิภูษณวนิช กรรมการ ๓. นางจิระนันท์ ประเสริฐกุล กรรมการ ๔. นายศักดินา ฉัตรกุล ณ อยุธยา กรรมการ ๕. ม.ล.วราภา อุกฤษณ์ กรรมการ ๖. นายประวิทย์ แต่งอักษร กรรมการ ๗. นายจิระ มะลิกุล กรรมการ ๘. นายก้อง ฤทธิ์ดี กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||
578 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และ กระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างปี พ.ศ. 2557 - 2559 | วธ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำและลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ (Cultural Exchange Programme between the Ministry of Culture, Sports, and Tourism of the Socialist Republic of Viet Nam and the Ministry of Culture of the Kingdom of Thailand for the years 2014-2016) เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานในการกระชับความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระดับทวิภาคีไทย-เวียดนาม มีสาระสำคัญครอบคลุมแผนงานด้านวัฒนธรรมและการส่งเสริมด้านวิจิตรศิลป์ รวมทั้งเพิ่มความร่วมมือในสาขาใหม่ ๆ ได้แก่ มานุษยวิทยา และภาพยนตร์ และการแลกเปลี่ยนการจัดงานสัปดาห์วัฒนธรรมเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ ๔๐ ปีในปี ๒๕๕๙ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นให้สามารถปรับปรุงถ้อยคำของแผนปฏิบัติการฯ ได้เท่าที่ไม่ขัดกับหลักการและสาระสำคัญที่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีหรือเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าว ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ลงนามในแผนปฏิบัติการฯ
|
|||||||||||||||||||||
579 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงวัฒนธรรม) | วธ | 18/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๘ คณะ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการประสานงานฝ่ายไทยว่าด้วยวัฒนธรรมและสนเทศอาเซียน ๑.๒ คณะกรรมการพัฒนากฎหมายกระทรวงวัฒนธรรม ๑.๓ คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ๑.๔ คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ๑.๕ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยสภาการพิพิธภัณฑ์ระหว่างชาติ (The Thai Nation Committee for international Council of Museum) ๑.๖ คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ๑.๗ คณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์มรดกไทย ๑.๘ คณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ ๒. ให้คณะกรรมการของกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งได้แจ้งยืนยันการคงอยู่ของคณะกรรมการไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ เรื่อง คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี) มีผลต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
580 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์คุณธรรม | วธ | 18/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายธาดา เศวตศิลา เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์คุณธรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป และจะมีวาระในการดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คือ ถึงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
.....