ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 24 จากทั้งหมด 59 หน้า แสดงรายการที่ 461 - 480 จากข้อมูลทั้งหมด 1166 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
461 | การแต่งตั้งโฆษกกระทรวง/หน่วยงาน (เพิ่มเติม) (จำนวน 13 หน่วยงาน) | นร05 | 26/01/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบการแต่งตั้งโฆษกกระทรวง/หน่วยงาน (เพิ่มเติม) จำนวน ๑๓ หน่วยงาน ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ เป็นโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ๑.๒ นายสุรพล จารุพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๑.๓ นายดรุณ แสงฉาย รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นโฆษกกระทรวงคมนาคม ๑.๔ นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นโฆษกกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ๑.๕ นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นโฆษกกระทรวงพลังงาน ๑.๖ นางสาววิมลลักษณ์ ชูชาติ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม ๑.๗ นายสมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม ๑.๘ นางเสาวนีย์ โขมพัตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการ เป็นโฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ๑.๙ นายธีรพล ขุนเมือง ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นโฆษกกระทรวงแรงงาน ๑.๑๐ นายประพันธ์ มุสิกพันธ์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน เป็นโฆษกสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๑.๑๑ นางสาวชลิดา โชไชย ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์ความมั่นคงระหว่างประเทศ ปฏิบัติราชการที่ปรึกษาด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง เป็นโฆษกสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ๑.๑๒ นายสมชาย สุรชาตรี ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ๑.๑๓ พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา (สบ ๑๐) เป็นโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๒. ให้โฆษกกระทรวง/หน่วยงาน เร่งจ้ดการประชุมร่วมกันเพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์บูรณาการเชื่อมโยงการประชาสัมพันธ์โครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้นำภาพหรือกราฟิกเพื่อการสื่อสาร (Infographics) มาใช้ในการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับนโยบาย การขับเคลื่อน การดำเนินงาน และรายละเอียดการปฏิบัติต่าง ๆ ให้ถูกต้องเหมาะสมและเป็นที่น่าสนใจด้วย |
||||||||||||||||||||||||
462 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. .... | สว | 26/01/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. .... ซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในการดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เห็นควรให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เร่งรัดดำเนินการกำหนดลักษณะของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมประกาศกำหนดไว้ในมาตรา ๔ วรรคสอง และออกระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และมาตรการเกี่ยวกับการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ตามมาตรา ๑๐ (๘) ของร่างพระราชบัญญัตินี้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมรับไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
463 | รายงานผลการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 | วธ | 12/01/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๘ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การจัดกิจกรรมรวมพลังทางศาสนามหามงคล ๕ ศาสนา เพื่อให้พสกนิกรทุกศาสนาแสดงออกถึงความจงรักภักดีและความกตัญญูกตเวทีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยกรมการศาสนาร่วมกับองค์กรทางศาสนา ๕ ศาสนา จัดกิจกรรมทางศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ณ พระอารามหลวงทั่วประเทศ ๙๙ วัด ศาสนาอิสลาม ประกอบพิธีดุอาขอพร ศาสนาคริสต์ ประกอบพิธีอธิษฐานภาวนาขอพร ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู สวดมนต์ขอพร และศาสนาซิกข์ สวดอัรดาส ๒. การจัดงานแสดงวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ ภายใต้ชื่อ “ถนนสายวัฒนธรรมไทยใต้ร่มพระบารมี” ระหว่างวันที่ ๑-๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ โดยจัดเวทีการแสดง ๕ เวที ได้แก่ เวทีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร การแสดงโขน เวทีด้านข้างโรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน การแสดงศิลปประยุกต์ เวทีแยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน การแสดงพื้นบ้าน ๔ ภูมิภาค เวทีหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน ถนนราชดำเนิน การแสดงวงดนตรีแจ็ส และเวทีลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ถนนราชดำเนิน การแสดงหุ่นกระบอก รวมทั้งจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และจัดจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม “ของดีบ้านฉัน” จาก ๔ ภูมิภาค ณ บริเวณสนามหลวง จำนวน ๘๘ ร้านค้า มียอดรายได้สะสม จำนวน ๗,๒๐๓,๐๗๐ บาท และมีผู้ชมงานสะสม จำนวน ๓๑๔,๑๐๖ คน ๓. การจัดกิจกรรม “ยลวังหน้ายามเย็น เยือนพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ” โดยเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ให้ประชาชนเข้าชม ระหว่างวันที่ ๑-๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๖.๐๐-๒๑.๐๐ น. รวมทั้งเปิดทุกวันศุกร์และเสาร์ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๗.๐๐-๒๐.๐๐ น. ๔. การจัดการแสดงโขนพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๘ ณ พระลานพระราชวังดุสิต เรื่อง รามเกียรติ์ ชุด “พระกฤดารามาวตาร” จำนวน ๕ องก์ ประกอบด้วย องก์ที่ ๑ นารายณ์ปราบนนทุก องก์ที่ ๒ ทศกัณฐ์ลักนางสีดา-หนุมานถวายพล องก์ที่ ๓ จองถนน-พระรามข้ามสมุทร องก์ที่ ๔ ยกรบ และองก์ที่ ๕ พระรามคืนนคร
|
||||||||||||||||||||||||
464 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงวัฒนธรรม) (นายชวลิต สุนทรานนท์) | วธ | 12/01/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายชวลิต สุนทรานนท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิชาการละครและดนตรี (โขน ละคร และดนตรี) (นักวิชาการละครและดนตรีทรงคุณวุฒิ) กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ตั้งแต่วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
465 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๘ ให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนเกี่ยวกับรถประจำทางขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ทั้งนี้ ให้นำเสนอผลการศึกษาต่อนายกรัฐมนตรีภายใน ๓ เดือน นั้น ให้หน่วยงานข้างต้นร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าว รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาให้รถสามล้อเครื่อง (รถตุ๊กตุ๊ก) สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าต่อไปด้วย ๑.๒ ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งสำรวจความต้องการใช้ยางพาราในการปูพื้นสนามฟุตซอลของสถานศึกษาทั่วประเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ และให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ยางพาราให้แพร่หลาย เช่น สนับสนุนมาตรการทางภาษีและเงินทุนให้ผู้ประกอบการที่ผลิตยางพาราแปรรูปที่มีความต้องการขยายเครื่องจักรที่ใช้แปรรูปยางพารา ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในปี ๒๕๕๙ ๑.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์และสร้างแรงจูงใจให้ทุกภาคส่วนเพิ่มปริมาณการใช้แก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซลในเครื่องมือต่าง ๆ เช่น เครื่องเกี่ยวข้าว เครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม รถโดยสารต่าง ๆ ในปี ๒๕๕๙ โดยอาจพิจารณากำหนดมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว ๒. ด้านการต่างประเทศ ให้ทุกส่วนราชการจัดทำแผนการดำเนินการในประเด็นที่ได้รับมอบหมายตามความตกลงหรือความร่วมมือระหว่างประเทศที่ไทยได้มีการลงนามไปแล้ว โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มประเทศเป้าหมายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ (ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๘) โดยแบ่งเป็น ๒ ระยะ คือ ในช่วงเวลาที่เหลือของการบริหารราชการแผ่นดิน (ถึงเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐) และช่วงเวลา/เรื่องที่ต้องส่งต่อให้รัฐบาลชุดต่อไปดำเนินการ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศรวบรวมเสนอนายกรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการจัดทำแผนปฏิบัติการและประเด็นภารกิจสำคัญสำหรับส่งต่อรัฐบาลต่อไปตามกรอบระยะเวลา (Roadmap) การบริหารราชการแผ่นดินและการปฏิรูปประเทศของรัฐบาล นั้น ให้ทุกส่วนราชการดำเนินการเพิ่มเติมโดยจัดทำเป็นเอกสารสรุปแผนปฏิบัติการในช่วงที่เหลือของการบริหารราชการแผ่นดิน (ถึงเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐) ในรูปแบบที่กระชับและเข้าใจง่ายภายใน ๑ หน้ากระดาษ และส่งให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรวบรวมเพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีภายในเดือนมกราคม ๒๕๕๙ ๓.๒ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เร่งรัดให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำฐานข้อมูลของประชาชนแต่ละกลุ่มเพื่อนำมากำหนดแนวทางการดูแลความเป็นอยู่และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเชื่อมโยงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ โดยพิจารณาให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างส่วนราชการไปบางส่วนแล้ว นั้น ในระยะต่อไปให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญในการนำฐานข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นข้อมูลสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น การบริหารจัดการน้ำ การช่วยเหลือภาคการเกษตร การส่งเสริมการลงทุน การสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในเดือนมีนาคม ๒๕๕๙ ๓.๓ ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการและผู้สูงอายุ เช่น ทางลาดเพื่อขึ้น-ลงอาคาร และให้ปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อดำเนินการดังกล่าวโดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า และความมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจาาณากำหนดหลักเกณฑ์การออกแบบอาคารเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนพิการและผู้สูงอายุ โดยกำหนดให้เป็นเงื่อนไขในการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการให้มีผลบังคับใช้ภายในปี ๒๕๖๐ ๓.๔ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๘) อนุมัติให้หน่วยงานของรัฐซึ่งมีผู้ปฏิบัติงานตั้งแต่ ๑๐๐ คนขึ้นไปรับคนพิการที่สามารถทำงานได้เข้าทำงานในอัตราที่เหมาะสม ตามมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ นั้น ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณากำหนดเป้าหมายการรับคนพิการเข้าทำงานในแต่ละภาคส่วนให้ชัดเจน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการขอความร่วมมือจากสถานประกอบการของภาคเอกชนในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติดังกล่าวต่อไป ๓.๕ ให้ทุกส่วนราชการจัดทำทะเบียนรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันระดับชาติและระดับนานาชาติประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศิลปวัฒนธรรม วิชาชีพเฉพาะทางในสาขาต่าง ๆ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนกลุ่มบุคคลดังกล่าวโดยอาจสนับสนุนทุนสำหรับขยายกิจการหรือสนับสนุนมาตรการทางภาษีต่อไป ๓.๖ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำหนังสือประมวลพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนน้อมนำเป็นแนวทางปฏิบัติในการดำรงชีวิตต่อไป และให้กระทรวงการต่างประเทศเผยแพร่ไปยังต่างประเทศต่อไปด้วย ๓.๗ ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการขุดลอกคูคลองทั่วประเทศ โดยเฉพาะการกำจัดวัชพืชในแหล่งน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม ๒๕๕๙
|
||||||||||||||||||||||||
466 | รายงานการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน | วธ | 15/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการที่จะดำเนินการเพื่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ภายใต้แนวคิด “ของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลไทย นำความเป็นไทยสู่ใจประชาชน” ปี ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. กิจกรรมไหว้พระปีใหม่วัสสวานร ๒๕๕๙ ศุภวารกราบพุทธบูชา สักการะพระพุทธรูป ณ วังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน ๒. กิจกรรมไหว้พระ ๙ วัด (วัดประจำรัชกาล) ๓. กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่า วิถีไทย-ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ๔. กิจกรรมเที่ยวไทย ประทับใจ ชุมชนคุณธรรม ๕. กิจกรรมการเปิดแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมให้เข้าชมฟรี ๖. กิจกรรมการจัดการแสดงพื้นบ้านนำความเป็นไทยสู่ใจประชาชน และการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีไทย ๗. กิจกรรมตามโครงการรณรงค์ใช้สินค้าไทย ส่งความสุขแบบไทย เป็นของขวัญปีใหม่ ๘. การอวยพรปีใหม่ผ่านระบบ Online (ส.ค.ส. Online) ชุดความเป็นไทยสู่ใจประชาชน
|
||||||||||||||||||||||||
467 | รายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง ย่านเก่ากับการปกป้องคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชน | สม | 15/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง ย่านเก่ากับการปกป้องคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชน ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ควรให้มีการตรากฎหมายขึ้นมากำกับดูแลย่านเก่าโดยเฉพาะอย่างเป็นระบบ ได้แก่ หลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนการกำหนดขอบเขตย่านเก่าในเชิงพื้นที่ (Heritage Site) หลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนการขึ้นบัญชีย่านเก่า การกำหนดกลไกและหน่วยงานในการบริหาร เช่น การซ่อมแซม รื้อถอน การใช้ประโยชน์ การพิจารณารูปแบบของสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ เป็นต้น รวมทั้งมีการกระจายอำนาจให้ราชการส่วนท้องถิ่น การมีส่วนร่วมของประชาชน ตลอดจนสนับสนุนงบประมาณสำหรับดำเนินการอย่างเพียงพอ และมาตรการจูงใจเพื่อการปกป้อง คุ้มครอง หรืออนุรักษ์ย่านเก่า ๑.๒ ในระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายกำกับดูแลย่านเก่าโดยเฉพาะ ให้นำกฎหมายต่าง ๆ ที่มีอยู่มาใช้บังคับไปพลางก่อน หรือปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้รองรับวัตถุประสงค์ ได้แก่ การสำรวจย่านเก่าที่สำคัญและมีความเสี่ยงที่จะถูกกระทบจากการพัฒนาพื้นที่ เพื่อจัดลำดับความสำคัญ รวมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ย่านเก่า เช่น มาตรการทางภาษีอสังหาริมทรัพย์ มาตรการการชดเชยสิทธิที่เสียไปจากการอนุรักษ์ย่านเก่า การโอนสิทธิในการพัฒนาพื้นที่ และการลดภาษีเงินได้ของบุคคลหรือนิติบุคคล เป็นต้น ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
468 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของส่วนราชการต่าง ๆ เพิ่มเติม (จำนวน 7 ราย) | นร05 | 08/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของส่วนราชการต่าง ๆ เพิ่มเติม จำนวน ๗ ราย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๒. นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงมหาดไทย ๓. นายดำรงค์ ทองสม ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงวัฒนธรรม ๔. นายสมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงสาธารณสุข ๕. นายประสาท พาศิริ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ๖. นายคุณวุฒิ ตันตระกูล ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๗. พลตรี ศักดา เนียมคำ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร |
||||||||||||||||||||||||
469 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์คุณธรรม (จำนวน 7 คน 1. นายจักรธรรม ธรรมศักดิ์ ฯลฯ) | วธ | 08/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์คุณธรรม จำนวนรวม ๗ คน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ ธันวาคม ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายจักรธรรม ธรรมศักดิ์ ประธานกรรมการ ๒. คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. พลเอก ศรุต นาควัชระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นางสาวรังสิมา จารุภา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายธาดา เศรตศิลา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||
470 | การกำหนดมาตรการเนื่องในประเพณีลอยกระทง ประจำปี พ.ศ. 2558 | วธ | 24/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการกำหนดมาตรการเนื่องในประเพณีลอยกระทง ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ภายใต้แนวคิด “เทิดวัฒนธรรมประเพณี สืบทอดวิถีแห่งปวงประชา ร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมใจเที่ยวไทย ปลอดภัยวันลอยกระทง” ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. มาตรการการจัดงานประเพณีลอยกระทง โดยยังคงรักษาประเพณีที่ดีงามของไทยอย่างถูกต้องและเหมาะสม ตลอดจนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ ๒. มาตรการห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายและดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณสถานที่จัดงานเพื่อป้องกันการทะเลาะวิวาท การล่วงละเมิดทางเพศ และอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ๓. มาตรการลอยกระทงไร้มลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้กระทงที่ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ และรณรงค์ให้ใช้กระทง ๑ ครอบครัวหรือ ๑ กลุ่ม ต่อ ๑ กระทง เพื่อลดจำนวนขยะหลังวันลอยกระทง ๔. มาตรการกวดขันวินัยจราจรอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทั้งทางบกและทางน้ำ พร้อมกับอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน ๕. มาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อป้องกันภัยจากอาชญากรรม และอันตรายจากการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง การปล่อยโคมลอย และโคมควัน โดยขอให้ปล่อยโคมลอย หลังเวลา ๒๑.๐๐ น. ในช่วงเทศกาลลอยกระทงเท่านั้น และห้ามปล่อยโคมบริเวณพื้นที่ปลอดภัยโดยรอบสนามบิน |
||||||||||||||||||||||||
471 | สรุปผลการประชุมสมัยสามัญองค์การการท่องเที่ยวโลก ครั้งที่ 21 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (21th UNWTO GENERAL ASSEMBLY) | กก | 24/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมสมัยสามัญองค์การการท่องเที่ยวโลก ครั้งที่ ๒๑ (21st UNWTO GENERAL ASSEMBLY : GA) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑๔-๒๐ กันยายน ๒๕๕๘ ณ เมืองเมเดยิน สาธารณรัฐโคลอมเบีย ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุม UNWTO GA ครั้งที่ ๒๑ มีประเด็นสำคัญ อาทิ (๑) มีสมาชิกใหม่จากซามัวและบาร์เบโดส (๒) รับรองผลการเลือกตั้ง Executive Council (2015-2019) (๓) รับรองแผนริเริ่ม UNWTO QUEST และ Destination Management Organization Certification System (๔) รับรองให้ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็น International Year of Sustainable Tourism for Development (๕) รับรองให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานฉลองวันท่องเที่ยวโลกอย่างเป็นทางการ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ (๖) รับรองให้กาตาร์เป็นเจ้าภาพจัดงานฉลองวันท่องเที่ยวโลกอย่างเป็นทางการ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ (๗) รับทราบการนำเสนอร่างอนุสัญญา UNWTO Convention on the Protection of Tourists and Tourism Service Providers (๘) รับทราบรายงานของคณะกรรมการโลกด้านจริยธรรมด้านท่องเที่ยว (World Committee on Tourism Ethics) เกี่ยวกับการดำเนินการส่งเสริม Global Code of Ethics for Tourism (๙) รับทราบการนำเสนอองค์การระหว่างประเทศด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และ (๑๐) รับทราบการลงนามความตกลงจัดตั้งสำนักงานระหว่าง UNWTO กับรัฐบาลสเปน (๑๑) รับทราบช่องทางใหม่ ๆ ในการเข้าถึงข้อมูลด้านการท่องเที่ยวผ่านระบบ digital media และ (๑๒) เร่งรัดขอให้ประเทศที่ยังไม่ได้ให้สัตยาบัน Amend Statutes and 1947 Convention on the Privileges and Immunities of the Specialized Agencies ดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เป็นต้น ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวของโคลอมเบีย มีสาระสำคัญเกี่ยวกับ (๑) การส่งเสริม พัฒนา และเพิ่มความร่วมมือด้านแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (๒) ส่งเสริมทางการตลาด การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเน้นด้านสปา การวิจัยและการพัฒนา และ (๓) แลกเปลี่ยนข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อให้บันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีผลในทางปฏิบัติ ๓. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและท่องเที่ยวของเกาหลีในประเด็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ ๔. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแถลงข่าวร่วมกับเลขาธิการ UNWTO ผู้บริหารระดับสูงจากสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Pacific Asia travel Association : PATA) และผู้บริหารจากสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (World Travel and Tourism Council : WTTC) เพื่อเน้นย้ำความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและการดูแลนักท่องเที่ยวของไทย ๕. การประชุม Executive Council ครั้งที่ ๑๐๒ ที่ประชุมได้เลือกตั้งประธานและรองประธานคนที่ ๑ และ ๒ (ระยะเวลา ๑ ปี) คือ อียิปต์ โครเอเชีย และคองโก ตามลำดับ รวมทั้งเห็นชอบให้ยกเลิกการจัดงานฉลองวันท่องเที่ยวโลกที่บูร์กินาฟาโซ เนื่องจากสถานการณ์รุนแรงทางการเมือง จึงขอให้แต่ละประเทศเฉลิมฉลองวันท่องเที่ยวโลกในประเทศของตน
|
||||||||||||||||||||||||
472 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม | อก | 24/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นลำดับที่ ๓ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้
|
||||||||||||||||||||||||
473 | รายงานการพิจารณาศึกษายุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพสตรีเพื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างยั่งยืน | สว | 17/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษายุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพสตรีเพื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างยั่งยืน และข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพสตรีเพื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วย ๕ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑) การพัฒนาศักยภาพและการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสตรีไทย (๒) การพัฒนาศักยภาพ และเสริมสร้างภาวะผู้นำกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองและการตัดสินใจในระดับต่าง ๆ ของสตรี (๓) การพัฒนาการเสริมสร้างความตระหนักรู้และยอมรับความเสมอภาคระหว่างเพศ (๔) การพัฒนาสุขภาวะ คุณภาพชีวิต และเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิต และ (๕) การสร้างกลไกและพัฒนาศักยภาพองค์กรสตรีระดับชาติ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สถาบันพระปกเกล้า สภาพัฒนาการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของรายงานการพิจารณาศึกษาดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
474 | การเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา | กต | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรายงานเกี่ยวกับการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายไมตรีปาละ สิริเสนาประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ระหว่างวันที่ ๑-๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นการเยือนประเทศไทยครั้งแรกของประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ได้มีการเยือนอย่างเป็นทางการ ประกอบกับปี ๒๕๕๘ นี้เป็นปีที่ครบรอบ ๖๐ ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาด้วย โดยผลการเยือนมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ด้านการเมือง ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ โดยสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาได้ให้การสนับสนุนประเทศไทยในการดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในองค์การสหประชาชาติ (Group of 77 : G77) และการสมัครสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสประชาชาติ วาระปี ๒๕๖๐-๒๕๖๑ ของประเทศไทย ๑.๒ ด้านเศรษฐกิจ ฝ่ายสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกายินดีที่จะอำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจไทยที่จะเข้าไปลงทุนในสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกษตร การก่อสร้าง การโรงแรมและธุรกิจบริการ เวชภัณฑ์ และการประมง ทั้งนี้ ฝ่ายสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประสงค์จะเรียนรู้ประสบการณ์ของไทยในด้านการพัฒนาและการบริหารจัดการการท่องเที่ยวด้วย ในการนี้ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาและรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนา "Thailand-Sri Lanka Business Forum" โดยมีนักธุรกิจไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกากว่า ๓๐๐ คน เข้าร่วมสัมมนาและได้มีการจับคู่ทางธุรกิจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาในฐานะฐานการลงทุนใหม่ ๑.๓ ด้านศาสนา ฝ่ายสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน ณ พุทธมณฑล ระหว่างวันที่ ๒-๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้สักการะ และได้มอบพระพุทธรูปหินแกะสลักเพื่อเป็นของขวัญแก่ชาวไทย โดยประดิษฐานที่วัดธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งสะท้อนถึงความผูกพันและการเชื่อมโยงด้านพระพุทธศาสนาอันเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่าย ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานและแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาในสาขาอื่น ๆ โดยเฉพาะสาขาที่มีศักยภาพ เช่น การท่องเที่ยว ศาสนาและวัฒนธรรม และเครื่องประดับอัญมณี เป็นต้น เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
475 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง ระบบค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม เพื่อความเป็นพลเมืองที่ดีและมนุษย์ที่สมบูรณ์) | วธ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง ระบบค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม เพื่อความเป็นพลเมืองที่ดีและมนุษย์ที่สมบูรณ์) ซึ่งสภาปฏิรูปแห่งชาติมีข้อเสนอปฏิรูป ๔ ประเด็น คือ (๑) ครอบครัว ศูนย์กลางและพื้นฐานในการพัฒนาระบบค่านิยม คุณธรรมและจริยธรรม (๒) ยุทธศาสตร์การสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงและการปรับกระบวนทัศน์เพื่อการเรียนรู้ (๓) มาตรการหล่อหลอม กล่อมเกลา เพื่อสร้างค่านิยมและปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม และ (๔) กลไกขับเคลื่อนวาระการพัฒนาค่านิยม คุณธรรมและจริยธรรมเพื่อความเป็นพลเมืองที่ดีและมนุษย์ที่สมบูรณ์ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงวัฒนธรรมให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
476 | สรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง ศิลปะ วัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และร่างพระราชบัญญัติสมัชชาศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ....) | วธ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง ศิลปะ วัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และร่างพระราชบัญญัติสมัชชาศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ....) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงวัฒนธรรมให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้ประชุมร่วมกับผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มีผลการพิจารณาสรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการด้านศิลปะวัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอยู่แล้วในหลายด้าน เช่น ด้านแฟชั่นเครื่องแต่งกาย ด้านภาพยนตร์ ด้านการท่องเที่ยวในแหล่งโบราณสถาน โดยภารกิจที่กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการ คือ (๑) การนำทุนทางวัฒนธรรมมาส่งเสริมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และให้บริการทางวัฒนธรรม (๒) การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และ (๓) การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ๒. ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม รวมทั้งส่วนราชการอื่นที่เข้าร่วมประชุมเห็นด้วยในหลักการของร่างพระราชบัญญัติสมัชชาศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... แต่มีประเด็นข้อสังเกตเกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ เช่น อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติตามร่างมาตรา ๑๖ (๑) อาจซ้ำซ้อนกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติตามมาตรา ๑๑ (๑) และด้านเครือข่ายกระทรวงวัฒนธรรมมีสภาวัฒนธรรมในระดับต่าง ๆ ซึ่งเป็นภาคประชาสังคมและประชาชนดำเนินการด้านวัฒนธรรมอยู่แล้ว และเห็นว่า การจัดตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่ควรพิจารณาองค์กรเดิมที่มีอยู่และหากสามารถปรับปรุงกฎหมายได้ก็ควรดำเนินการปรับปรุง โดยมิต้องมีการจัดตั้งองค์กรให้ซ้ำซ้อนกัน
|
||||||||||||||||||||||||
477 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจร้านเกม และอินเทอร์เน็ต | ปช | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจร้านเกมส์และอินเทอร์เน็ต ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่ การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ได้แก่ (๑) การบังคับใช้กฎหมาย (๒) การมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่าง ๆ (๓) พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๑ (๔) การดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ และ (๕) การปรับปรุงกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ทันต่อสถานการณ์ ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมเป็นไปได้ของข้อเสนอแนะดังกล่าว และให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาและมีมติแล้ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
478 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงวัฒนธรรม) (นางอมรา ศรีสุชาติ) | วธ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางอมรา ศรีสุชาติ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโบราณคดี (โบราณคดีและพิพิธภัณฑ์) (นักโบราณคดีทรงคุณวุฒิ) กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่ผู้ดำรงตำแหน่งเดิมพ้นจากราชการเนื่องจากการเกษียณอายุราชการ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
479 | รายงานการส่งมอบโบราณวัตถุ 16 รายการ ให้แก่รัฐบาลกัมพูชา | วธ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมรายงานการส่งมอบโบราณวัตถุ ๑๖ รายการ ให้แก่รัฐบาลกัมพูชา โดยการส่งมอบมีข้าราชการสังกัดกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จำนวน ๔ คน ได้เดินทางไปราชการ ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ โดยรถยนต์ เพื่อส่งมอบโบราณวัตถุ ๑๖ รายการ ให้แก่รัฐบาลกัมพูชาโดยได้ทำการตรวจสอบและจัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องในการเคลื่อนย้ายและผ่านแดน รวมทั้งตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของหีบห่อก่อนการเคลื่อนย้าย ประสานกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่จุดผ่านแดน และเมื่อได้ขนย้ายโบราณวัตถุถึงกัมพูชา ได้ร่วมตรวจสอบหีบห่อ ควบคุมการเคลื่อนย้าย เปิดหีบห่อและนำไปเก็บรักษาที่คลังโบราณวัตถุของกัมพูชาร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกัมพูชา โดยการส่งมอบโบราณวัตถุดังกล่าวเป็นไปอย่างสมบูรณ์และถูกต้องเรียบร้อย
|
||||||||||||||||||||||||
480 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | ทส | 03/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณท้องที่จังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อแก้ไขปัญหาและป้องกันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนควบคุมการก่อสร้าง การกระทำ หรือการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรแก้ไขข้อความในประกาศกระทรวงฯ ข้อ ๙(๘) เป็น “...เขตที่ดินของอาคารหรือสถานที่ที่เป็นโบราณสถานตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ...” เพื่อให้ร่างประกาศกระทรวงฯ มีส่วนเอื้อต่อการปกครองคุ้มครองเขตต่อเนื่องกับโบราณสถานทั้งที่ประกาศขึ้นทะเบียนแล้วและที่ยังไม่ประกาศขึ้นทะเบียน รวมทั้งแก้ไขข้อความในข้อ ๑๘ (๑) และ (๒) เป็น “...ผู้แทนส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง...” เพื่อเอื้อให้ผู้แทนของสำนักศิลปากรที่ ๑ ราชบุรี กรมศิลปากร สามารถเข้าร่วมการประชุมของคณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในจังหวัดเพชรบุรี และคณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะกรรมการจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ควรมีมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและคงความสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติของพื้นที่ ตลอดจนแก้ไขปัญหาการคุกคามทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และควรเร่งรัดการออกประกาศฯ ดังกล่าว เพื่อมิให้เกิดช่องว่างของการบังคับใช้ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินงานตามประกาศกระทรวงฯ เกิดผลอย่างจริงจัง ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
.....