ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 17 จากทั้งหมด 59 หน้า แสดงรายการที่ 321 - 340 จากข้อมูลทั้งหมด 1166 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
321 | แนวทางพัฒนางานวัฒนธรรมเพื่อสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนท้องถิ่น ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 | วธ | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางพัฒนางานวัฒนธรรมเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนท้องถิ่น ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ โดยกระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับภาคประชารัฐกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ ได้จัดทำแนวทางพัฒนางานวัฒนธรรมฯ มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างคนดี สังคมดี สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ บนฐานทรัพยากรทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ วิถีชีวิตและภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยกำหนดประเด็นการพัฒนาไว้ ๔ ด้าน ได้แก่ (๑) การพัฒนาศักยภาพแหล่งประวัติศาสตร์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม (๒) การพัฒนาผลิตภัณฑ์และส่งเสริมกิจกรรมทางวัฒนธรรม (๓) การส่งเสริมศิลปินพื้นบ้าน และ (๔) การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้รวบรวมแผนงาน/โครงการ ที่สำคัญและเห็นควรได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔ จำนวน ๗๗ โครงการ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๗๗๐,๑๓๗,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
322 | แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 | กก | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ (จังหวัดกำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร และอุทัยธานี) โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รวบรวมแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ มาตรการสำคัญ และแผนงานที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๒ โดยมีเป้าหมายเพื่อการส่งเสริมพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ ให้เต็มตามศักยภาพและความพร้อมของพื้นที่ และการต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นจากโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐในอนาคต และเพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือที่สร้างและกระจายรายได้สู่ชุมชนและเมืองรอง รวมทั้งเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ๒ และขยายโอกาสไปสู่พื้นที่อื่น ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดกิจกรรมการท่องเที่ยว/ส่งเสริมสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดต่าง ๆ โดยใช้การบอกเล่าเรื่องราวเชื่อมโยงกับข้อมูลทั้งทางประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชุมชนอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการให้เหมาะสมตามแต่กรณี รวมทั้งให้พิจารณาจัดระบบคมนาคมขนส่งให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกในการเดินทางไป-กลับ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงการเดินทางโดยรถไฟกับระบบการขนส่งอื่นในแต่ละพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทั้งในส่วนของกายภาพและกำหนดเวลาการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยความสะดวกและมีความต่อเนื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
323 | รายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ เครือรัฐออสเตรเลีย | วธ | 08/05/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ เครือรัฐออสเตรเลีย ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๙ มีนาคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลวัฒนธรรมและอาหารไทย ณ นครเมลเบิร์น ครั้งที่ ๑๕ (15th Thai Culture & Food Festival) ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธุรกิจขนาดเล็ก นวัตกรรม และการค้า สมาชิกสภาเทศบาลนครเมลเบิร์น และกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครเมลเบิร์น เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๑ ณ จัตุรัส Federation ซึ่งภายในงานเทศกาลฯ มีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมโดยคณะนักแสดงจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ คณะนาฏยศาลาหุ่นละครเล็ก (โจหลุยส์) และการสาธิตการทำอาหารไทยโดยคณะ Top Chef Thailand ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้หารือกับผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของรัฐวิคตอเรีย ได้แก่ ประธานกรรมการบริหาร Creative Victoria (หน่วยงานรัฐที่สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์) ประธานกรรมการบริหาร The Australian Centre for the Moving Image หรือ ACMI (พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติด้านภาพยนตร์ โทรทัศน์ วีดิโอเกมวัฒนธรรมดิจิทัล และศิลปะ) และประธานกรรมการบริหารหอสมุดแห่งวิคตอเรีย โดยได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารงานด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ การส่งเสริมความร่วมมือด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านของประชาชน รวมทั้งได้เยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารจัดการด้านวัฒนธรรมกับผู้บริหารของแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมของเมืองเมลเบิร์น เช่น ศาลากลางนครเมลเบิร์น (City of Melbourne) หอศิลป์แห่งรัฐวิคตอเรีย (National Gallery of Victoria) และศูนย์ศิลปะร่วมสมัยออสเตรเลีย (Australian Centre of Contemporary Arts-ACCA) เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
324 | ข้อเสนอการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพิ่มเติม | นร12 | 01/05/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบ (๑) ข้อเสนอหลักการ มาตรการ และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพิ่มเติม ประกอบด้วยมาตรการและวิธีการให้ส่วนราชการต้องปฏิบัติเพิ่มเติม รวม ๒ ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ ๑ ระบบราชการที่เปิดกว้างและเชื่อมโยงกัน และประเด็นที่ ๒ ระบบราชการที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย และ (๒) แผนการดำเนินการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐสู่การเป็นระบบราชการ ๔.๐ และการกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการ โดยแบ่งแผนการดำเนินการเป็น ๒ ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น (มีนาคม-กันยายน ๒๕๖๑) เป็นการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมให้แก่หน่วยงานรัฐดำเนินการตามหลักการ มาตรการ และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพิ่มเติม และระยะยาว (ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป) เป็นการติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามแผน/แนวทางที่กำหนดเป็นประจำทุกปี ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็น ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรเปิดโอกาสให้ส่วนราชการซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางการดำเนินการของสำนักงาน ก.พ.ร. ควรใช้มาตรการและวิธีการพัฒนาระบบราชการที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ครอบคลุมของสอดคล้องกับบริบทของประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป ควรให้ส่วนราชการจัดทำระบบฐานข้อมูลสารสนเทศและภารกิจหลักก่อน โดยมีการสำรวจกฎหมายที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย ควรบูรณาการเครื่องมือการประเมินผลต่าง ๆ เพื่อลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน ควรมีความยืดหยุ่นในเรื่องของวิธีการและระยะเวลาเพื่อเปิดโอกาสให้ส่วนราชการสามารถประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับภารกิจหน้าที่ที่แตกต่างกัน ควรเพิ่มการพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Scientist) ให้แก่บุคลากรภาครัฐ ควรสนับสนุนส่งเสริมให้หน่วยงานราชการต่าง ๆ พัฒนาศักยภาพและความสามารถในการให้บริการประชาชนทั้งด้านการบริหารจัดการและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะระบบดิจิทัลให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ควรปรับปรุงกฎระเบียบ ขั้นตอนการปฏิบัติงานให้มีความทันสมัย ควรสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันให้ทุกหน่วยงานอย่างทั่วถึงเกี่ยวกับแนวทางและวิธีการ ตลอดจนการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดการดำเนินการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล) รับไปดำเนินการเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการดำเนินการตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี และแผนการปฏิรูปประเทศอย่างต่อเนื่องด้วย ๔. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. พิจารณาศึกษา ทบทวนการดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ ให้สอดคล้องกับบริบทของการบริหารราชการและการพัฒนาประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป โดยคำนึงถึงเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ ประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน และภาระของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
325 | ผลการประชุมรัฐมนตรีวัฒนธรรมเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 8 | วธ | 10/04/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีวัฒนธรรมเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ ๘ (The 8th Asia-Europe Culture Ministers’ Meeting-ASEM CMM 8) ระหว่างวันที่ ๑-๒ มีนาคม ๒๕๖๑ ณ กรุงโซเฟีย สาธารณรัฐบัลแกเรีย ซึ่งการประชุมดังกล่าวเป็นเวทีหารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางส่งเสริมความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมให้มากขึ้น โดยคำนึงถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตระหว่างเอเชียและยุโรปภายใต้หัวข้อ “บทบาทของวัฒนธรรมในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ : แนวทางสำหรับอนาคต (The Role of Culture in International Relations : The Road Forward)” โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม พร้อมทั้งกล่าวถ้อยแถลงเกี่ยวกับการดำเนินการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผ่านการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เช่น การฉลองการครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต และการเดินสายเผยแพร่วัฒนธรรมในกลุ่มประเทศต่าง ๆ ในยุโรปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้นำเสนอมาตรการส่งเสริมความร่วมมือต่าง ๆ เช่น โครงการวัฒนธรรมสัญจรสำหรับคณะทูตานุทูต และการส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการเสนอศิลปวัฒนธรรมในพื้นที่เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติหรือเสนอเป็นมรดกโลก เป็นต้น ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการรับรองแถลงการณ์ประธาน ซึ่งมีสาระสำคัญโดยสรุป คือ มุ่งเน้นการสนับสนุนบทบาทของวัฒนธรรมในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และส่งเสริมความเชื่อมโยงทางสังคมและวัฒนธรรมแต่ละสังคมเข้าด้วยกัน และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมต่อไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำประเด็นเกี่ยวกับพหุวัฒนธรรมมาเป็นหัวข้อหนึ่งในการเจรจาหารือร่วมกับประเทศต่าง ๆ ในการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
326 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล) | วธ | 10/04/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๐ เมษายน ๒๕๖๑) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
327 | แนวทางการรณรงค์เพื่อสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรม เนื่องในประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2561 (สงกรานต์วิถีไทย ใช้น้ำคุ้มค่า ชีวาปลอดภัย) | วธ | 03/04/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการรณรงค์เพื่อสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรม เนื่องในประเพณีสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๑ ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์วิถีไทย ใช้น้ำคุ้มค่า ชีวาปลอดภัย” โดยกระทรวงวัฒนธรรม (กรมส่งเสริมวัฒนธรรม) ได้จัดประชุมเพื่อบูรณาการความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๑ ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เข่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น ซึ่งทุกหน่วยงานเห็นพ้องกันว่า ประเพณีสงกรานต์เป็นประเพณีที่สำคัญ แสดงถึงเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของประเทศไทยซึ่งประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติรับรู้และรู้จักเป็นอย่างดี โดยมีแนวทางการรณรงค์ที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การรณรงค์จัดกิจกรรม “สงกรานต์วิถีไทย” (๒) การรณรงค์เรื่อง “ใช้น้ำคุ้มค่า” และ (๓) การรณรงค์เรื่อง “ชีวาปลอดภัย” ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๑ ได้มีมติรับทราบแนวทางการจัดงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๑ ดังกล่าวแล้ว ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
328 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 03/04/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการจัดพื้นที่เพื่อเป็นตลาดที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรสามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนนำสินค้าและผลิตผล/ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรชนิดต่าง ๆ ที่มีคุณภาพเข้ามาจำหน่ายแก่ผู้บริโภคได้ในแต่ละสัปดาห์ และให้ส่วนราชการที่จะจัดตั้งตลาดดังกล่าวประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยด้วยเพื่อให้แต่ละจังหวัดพิจารณาคัดเลือกและสนับสนุนให้เกษตรกรที่มีศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดนั้น ๆ นำสินค้ามาจำหน่ายด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแนวทางดังกล่าวไปพิจารณาปรับใช้กับตลาดอื่น ๆ ที่ได้มีการจัดตั้งและดำเนินการอยู่แล้วด้วย เช่น ตลาดประชารัฐ โดยอาจกำหนดให้มีวันพิเศษในแต่ละสัปดาห์ที่ให้มีการจำหน่ายสินค้าที่แตกต่างไปจากวันอื่น ๆ เช่น ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ ตลาดสินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ตลาดอาหารที่มีความปลอดภัย เป็นต้น ๑.๒ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ๑.๒.๑ เร่งดำเนินการจัดระเบียบการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีประชาชนนิยมไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก เช่น อุทยานแห่งชาติ ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งในด้านการจราจร สถานที่จอดรถ และการรักษาความปลอดภัย ๑.๒.๒ สนับสนุนให้มีการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ทั้งในเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองท่องเที่ยวรองมากยิ่งขึ้น โดยดำเนินการให้สอดคล้องกับโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ของรัฐบาล ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอ รวมทั้งการบริหารจัดการสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย ๑.๒.๓ จัดทำเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชนเชิงคุณภาพจำแนกตามเอกลักษณ์ไทยในด้านต่าง ๆ ให้มีความหลากหลาย เช่น เส้นทางผ้าไหมไทย อาหารไทย ข้าวไทย ทะเลไทย เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ และมีเรื่องราว (story) ประกอบเพื่อเป็นการให้ความรู้และดึงดูดความสนใจ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและการประกอบการของชุมชนตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง โดยให้รวมถึงการแปรรูปสินค้าของชุมชนด้วย ๒. ด้านสังคม ให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการดำเนินโครงการก่อสร้างเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มีการกันพื้นที่ผิวทางการจราจร ปิดเส้นทาง หรือกีดขวางการจราจร ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งของปัญหาการจราจรติดขัดและปัญหามลพิษ โดยให้กระทรวงคมนาคมขอความร่วมมือกับผู้รับเหมาก่อสร้างในการจัดการพื้นที่เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และเกิดผลกระทบด้านการจราจรให้น้อยที่สุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
329 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย พ.ศ. 2551 (นายกรีพงศ์ เทียมเศวต) | วธ | 27/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้ง นายกรีพงศ์ เทียมเศวต เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (จากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านศิลปะร่วมสมัย) สาขาศิลปะการแสดงในคณะกรรมการส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย แทนผู้ที่ลาออก ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ มีนาคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
330 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงกิจการภายในแห่งรัฐบาลแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน | วธ | 27/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงกิจการภายในแห่งรัฐบาลแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน (Home Affairs Bureau of the Government of the Hong Kong Special Administrative Region of the People’s Republic of China) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเสริมสร้างความร่วมมือในด้านวัฒนธรรมและศิลปะ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ และมีเนื้อหาโดยรวมในการสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประชาชนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและศิลปะ และสนับสนุนการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมและศิลปะระหว่างกัน โดยจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ในช่วงการเยือนประเทศไทยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในของฮ่องกง (นาย Lau Kong-wah) ระหว่างวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์-๑ มีนาคม ๒๕๖๑ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในบันทึกความเข้าใจฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
331 | การรับรองเอกสารผลการประชุมรัฐมนตรีวัฒนธรรมเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 8 | วธ | 27/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างแถลงการณ์ประธานสำหรับการประชุมรัฐมนตรีวัฒนธรรมเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ ๘ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑-๒ มีนาคม ๒๕๖๑ ณ กรุงโซเฟีย บัลแกเรีย โดยร่างแถลงการณ์ประธานฯ มีสาระสำคัญเป็นการเน้นการสนับสนุนบทบาทของวัฒนธรรมในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการคุ้มครอง ฟื้นฟู ส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมเป็นพิเศษ ๑.๒ อนุมัติให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมรัฐมนตรีวัฒนธรรมเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ ๘ ให้การรับรองเอกสารแถลงการณ์ประธานฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ประธานฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
332 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อสารมวลชน แทน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่ง | วธ | 27/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งผู้ช่วยศาสตราจารย์วรัชญ์ ครุจิต เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อสารมวลชนในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑) เป็นต้นไป และให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าวในครั้งต่อไปให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อให้การดำเนินการของคณะกรรมการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
333 | การแต่งตั้งโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม | วธ | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งให้ นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม แทน นางพิมพ์กาญจน์ ชัยจิตร์สกุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ทั้งนี้ ตามคำสั่งกระทรวงวัฒนธรรม ที่ ๕/๒๕๖๑ เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม ลงวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
334 | ร่างพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร01 | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้กรมศิลปากรถ่ายโอนอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการและดูแลบำรุงโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้รายได้และค่าธรรมเนียมจากการเข้าชมโบราณสถานเหล่านั้นตกเป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับร่างมาตรา ๘/๑ ซึ่งกำหนดให้อธิบดีกรมศิลปากรมีอำนาจสั่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระงับการดำเนินการใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อโบราณสถานอย่างร้ายแรงนั้น ควรพิจารณาอำนาจการดำเนินการดังกล่าวให้มีความสอดคล้องกับหลักการของการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร เช่น การกำหนดบทนิยามในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ให้สอดคล้องกับกฎหมายฉบับอื่น รวมทั้งการกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถขอรับการสนับสนุนบุคลากรและงบประมาณจากกรมศิลปากรและกองทุนโบราณคดีเพื่อดำเนินการตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. และกรุงเทพมหานครที่เห็นว่า กรมศิลปากรควรมีแผนเตรียมความพร้อมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ และต้องทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและร่วมกันกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการตลอดระยะเวลาของการสร้างความพร้อม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองซึ่งต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
335 | รายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา | วธ | 30/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ ๔-๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้พบหารือกับนายฮิม แซม รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการและศาสนากัมพูชา โดยฝ่ายไทยได้แจ้งให้ทราบถึงการจัดกิจกรรมในวันสำคัญทางศาสนาร่วมกันระหว่างจังหวัดชายแดนของไทยกับจังหวัดชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมของไทยได้ส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในประเทศเพื่อนบ้าน และขอความร่วมมือกระทรวงธรรมการและศาสนาสนับสนุนให้ชาวพุทธในกัมพูชาร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในวิถีกัมพูชาในคืนวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบในการจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางศาสนาระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์กันในมิติศาสนาให้แน่นแฟ้นและเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้เป็นประธานร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์กัมพูชาในพิธีเปิดการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีร่วมไทย-กัมพูชา ณ โรงละครแห่งชาติจตุมุข ซึ่งทำการแสดงโดยคณะนักแสดงจากสถาบันการศึกษาของไทยและกัมพูชา โดยเป็นความร่วมมือที่สืบเนื่องจากโครงการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านนาฏศิลป์และดนตรีระหว่างสถาบันการศึกษาด้านศิลปะการแสดงของทั้งสองประเทศ ๓. การเข้าเยี่ยมคารวะคุณหญิง แมน ซอม ออน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการประสานงานระหว่างรัฐสภา วุฒิสภา และการตรวจสอบ โดยฝ่ายไทยได้แจ้งให้ทราบถึงโครงการด้านศาสนาและวัฒนธรรมของกระทรวงวัฒนธรรม และโครงการที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาในมิติศาสนาและวัฒนธรรมทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชาขอบคุณรัฐบาลไทยที่อำนวยความสะดวกในการส่งคืนโบราณวัตถุที่ยึดได้ในปี ๒๕๔๓ กลับสู่กัมพูชาด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
336 | รายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน | วธ | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การหารือทวิภาคีร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ (๑) การติดตามความคืบหน้าในการจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ปี ๒๕๖๑-๒๕๖๓ ที่คาดว่าจะมีการลงนามในระหว่างการเดินทางเยือนไทยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีนช่วงต้นปี ๒๕๖๑ และ (๒) การส่งเสริมความร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะด้าน creative content industry (อุตสาหกรรมที่นำเอามรดกทางวัฒนธรรมมาสร้างสรรค์เป็นผลงาน) การส่งเสริมความร่วมมือในการเผยแพร่ภาพยนตร์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน และการสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมในกรอบพหุภาคี โดยเฉพาะกรอบความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง ๒. กิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ (๑) การเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ “สานสัมพันธ์ศิลปินไทย-จีน : ฉลองสมาพันธ์ศิลปินไทย-จีน ก่อตั้งครบรอบ ๑๘ ปี” (๒) การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารจัดการทางวัฒนธรรม ณ พระราชวังหลวง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน วัดลามะ วัดขงจื่อ และพิพิธภัณฑ์กั๋วจื่อเจี้ยน และ (๓) การสำรวจพื้นที่ที่มีความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ 798 Art Distict กรุงปักกิ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
337 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน เพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) รวม 2 ฉบับ | คค | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ เพื่อกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อดำเนินกิจการรถไฟฟ้า ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดสร้างโครงการขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้า สถานที่จอดรถสำหรับผู้โดยสาร และกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้า และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการขนส่งมวลชนตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตบางซื่อ เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตจอมทอง เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร และอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตบางซื่อ เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตจอมทอง เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร และอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ๒. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งรัดจัดทำรายงานชี้แจงเพิ่มเติมและดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในคราวประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๙ รวมทั้งในการกำหนดบริเวณที่ที่จะเวนคืนและดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชนตามร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง ๒ ฉบับ ควรคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับโบราณสถาน ทั้งโบราณสถานที่อยู่เหนือพื้นดิน และโบราณสถานที่อยู่ในบนแนวเส้นทางหรือใกล้เคียงกับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และอาคารที่ก่อสร้างเกี่ยวเนื่องกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง นอกจากนี้ ควรเร่งรัดการดำเนินการตามขั้นตอนพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการโครงการได้ทันทีเมื่อการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
338 | รายงานผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินงานเพื่อนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับภารกิจของหน่วยงาน | วธ | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินงานเพื่อนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับภารกิจของหน่วยงาน โดยกระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการปรับบทบาทของหน่วยงานเพื่อปฏิรูปไปสู่ระบบราชการ ๔.๐ ซึ่งในระยะแรกขอนำเสนอข้อมูลการดำเนินงานของกรมศิลปากร โดยให้บริการข้อมูลสารสนเทศผ่านระบบ Internet ในรูปแบบระบบงาน ระบบการสืบค้นข้อมูล และระบบการให้บริการภาครัฐแก่ประชาชน ผ่าน Web Site แก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจโดยทั่วไป จำนวน ๖ ระบบ ได้แก่ (๑) ระบบการนำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครด้วยตนเอง (Smart Museum) (๒) ระบบศิลปากรออนไลน์ (Silpakorn Online) (๓) ระบบพิพิธภัณฑ์เสมือน (Virtual Museum) (๔) ระบบคลังข้อมูลดิจิทัล (Digital) (๕) ระบบสืบค้นเอกสารจดหมายเหตุ (www.archives.nat.go.th) และ (๖) ระบบภูมิสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม (GIS) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
339 | รายงานความคืบหน้าการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย | วธ | 26/12/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ของคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ซึ่งมีการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การศึกษาทางวิชาการของโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศเพื่อสนับสนุนการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย (๒) การดำเนินการโดยใช้มาตรการทางกฎหมาย กฎบัตรระหว่างประเทศ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง (๓) การประสานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต่างประเทศในการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย (๔) การสนับสนุนให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย (๕) การเผยแพร่ข้อมูลและประชาสัมพันธ์ในการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้ด้วยความละเอียดรอบคอบยึดหลักการเจรจาเพื่อขอความร่วมมือตามมาตรฐานสากลด้วยความระมัดระวัง โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
340 | รายงานการดำเนินงานการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร (สุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร) | วธ | 26/12/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร (สุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การบริหารจัดการ กำกับดูแล การใช้พื้นที่ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรมีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการรับผิดชอบดำเนินงาน ๒ คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการการบริหารจัดการ กำกับ ควบคุมดูแลอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และคณะอนุกรรมการด้านวิชาการ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ๒. โครงการจัดทำร่างแผนแม่บทโครงการอนุรักษ์และพัฒนาอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๐) กรมศิลปากรกำลังจัดทำแผนแม่บทโครงการอนุรักษ์และพัฒนาอุทยานดังกล่าว โดยมีแนวคิดการพัฒนาให้เป็นเมืองวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยว เมืองประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตให้ประชาชนอยู่ร่วมกับโบราณสถานได้ โดยคาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๑ ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากรได้จัดทำโครงการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่มรดกโลกเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร (สุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร) เป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทดังกล่าว ซึ่งจะดำเนินการในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔ โดยมุ่งเน้นการพัฒนา ๓ ด้าน ได้แก่ ศึกษาวิจัยด้านโบราณคดีประวัติศาสตร์ อนุรักษ์และพัฒนาโบราณสถาน และปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการและสิ่งอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ซึ่งการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์นี้จะสามารถรองรับการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากจังหวัดในเขตภาคกลาง ซึ่งเมื่อดำเนินการเสร็จแล้วจะสามารถสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นจากเดิมได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑๐ ต่อปี
|
.....