ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 13 จากทั้งหมด 59 หน้า แสดงรายการที่ 241 - 260 จากข้อมูลทั้งหมด 1166 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
241 | การเสนออุทยานธรณีโคราชเป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) | ทส | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้เสนออุทยานธรณีโคราชสมัครเข้ารับการรับรองเป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) โดยส่งใบสมัครในระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม-๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ๑.๒ มอบหมายให้คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการเสนออุทยานธรณีโคราชเป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกต่อสำนักเลขาธิการยูเนสโก ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรงการท่องเที่ยงและกีฬา กระทรวงมหาดไทยเสนอ และกระทรวงวัฒนธรรมพิจารณากำหนดแผนงานรองรับการบริหารจัดการพื้นที่ การดูแลบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อคงความเป็นอุทยานธรณีโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงบประมาณ เช่น (๑) ในอนาคตหากมีดครงการพัฒนาพื้นที่อุทยานธรณีโคราช ซึ่งมีผลกระทบต่อโบราณสถาน ขอให้แจ้งไปยังกระทรวงวัฒนธรรม (กรมศิลปากร) เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง และ (๒) ให้จังหวัดนครราชสีมาจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
242 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (รองศาสตราจารย์จักรพันธ์ วิลาสินีกุล) | วธ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง รองศาสตราจารย์จักรพันธ์ วิลาสินีกุล ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร แทนผู้ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
243 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. .... | วธ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่และอำนาจมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า คณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์มีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลกองทุนเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายและมาตรการในการส่งเสริมและพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งครอบคลุมหลักการของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑ จึงเห็นควรเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณามีมติให้ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว หากยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวแล้วจะมีผลทำให้สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวัฒนธรรมไม่มีหน้าที่และอำนาจตามร่างข้อ ๒ (๙) และร่างข้อ ๑๑ (๙) ที่ซ้ำซ้อนกับการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์อีกต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
244 | การใช้ทุนทางวัฒนธรรมและพลัง "บวร" เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและสร้างคุณค่าทางสังคม : กรณีกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 | วธ | 12/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการใช้ทุนทางวัฒนธรรมและพลัง “บวร” เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและสร้างคุณค่าทางสังคม : กรณีกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ๑ ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดราชบุรี และจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีการดำเนินงานวัฒนธรรมในพื้นที่ในระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๒ ที่สำคัญ ได้แก่ (๑) พัฒนาแหล่งประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญ (๒) พัฒนาสินค้าและส่งเสริมกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม โดยจัดกิจกรรมตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม (๓) ส่งเสริมสนับสนุนศิลปินและวิถีชีวิตชุมชน โดยสนับสนุนให้สมาคมเพลงพื้นบ้านภาคกลางเผยแพร่การแสดงเพลงพื้นบ้าน และอบรมถ่ายทอดเพลงพื้นบ้านภาคกลางให้แก่เด็ก เยาวชน และผู้สนใจ รวมถึงจัดให้มีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมตามปฏิทินการแสดงศิลปวัฒนธรรม และ (๔) ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ตามแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔) โดยขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร ให้เป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมหลักธรรมทางศาสนา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประเพณีวิถีวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม และนำไปปรับใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจสังคม ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
245 | รายงานการดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี : แนวทางการสร้างความเข้มแข็งของบวร เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง | วธ | 12/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีในการจัดทำแนวทางการสร้างความเข้มแข็งของ “บวร” เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ของชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้มีการประชุมหน่วยงานบูรณาการเพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางดังกล่าว เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ โดยมีผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ รวมทั้งยังได้มีการดำเนินการทดลองปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวในพื้นที่เป้าหมายจังหวัดนำร่องที่ได้คัดเลือกจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางที่มีความหลากหลายของชุมชนในเขตเมือง เขตชนบท และปริมณฑล ประกอบด้วย จังหวัดปทุมธานี นครนายก นครปฐม และกาญจนบุรี ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการเรียนรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการสร้างความเข้มแข็งของ “บวร” (บ้าน-ชุมชน/วัด-ศาสนสถาน-โรงเรียน-ส่วนราชการ) แก่ทุกภาคส่วนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากสถานที่ดังกล่าวในการเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน โดยอาจปรับเปลี่ยนแนวทางดังกล่าวให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับบริบท/สถานการณ์ของสังคมในปัจจุบัน เช่น การนำเทคโนโลยีสารสนเทศหรือสื่อการเรียนรู้ด้านดิจิทัลมาปรับใช้ด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสำรวจความพร้อมของสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ห้องน้ำสาธารณะ ทางลาดคนพิการ/ผู้สูงอายุ และดำเนินการจัดหาหรือปรับปรุงให้มีความพร้อมเพื่อรองรับการขยายผลการขับเคลื่อนแนวทางการสร้างความเข้มแข็งของ “บวร” ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
246 | ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากที่ประชุมสมัชชาครอบครัวระดับชาติ ประจำปี 2562 | พม | 22/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากที่ประชุมสมัชชาครอบครัวระดับชาติ ประจำปี ๒๕๖๒ จำนวน ๓ ประเด็น รวม ๒๐ ข้อ เกี่ยวกับเรื่องการสื่อสารในครอบครัวเชื่อมสัมพันธ์ทุกช่วงวัย เรื่องเพศคุยได้ในครอบครัว และครอบครัวรู้เท่าทันสื่อ ซึ่งจากความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในที่ประชุมสมัชชาครอบครัวฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) ได้นำมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางการขับเคลื่อน โดยจำแนกเป็น ๓ กระบวนงาน ได้แก่ (๑) การพัฒนาองค์ความรู้ หลักสูตร นวัตกรรม เพื่อส่งเสริมการสื่อสารในครอบครัว (๒) การส่งเสริมการสร้างพื้นที่เรียนรู้เพื่อครอบครัว และ (๓) การส่งเสริมการผลิตสื่อสร้างสรรค์เพื่อครอบครัว และได้มีการนำเสนอคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ครอบครัวแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบในการประชุมครั้งที่ ๑/๑๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๒ แล้ว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) รับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรนำข้อเสนอแนะดังกล่าวไปพิจารณาเชื่อมโยงกับโครงการสำคัญที่จะขับเคลื่อนในปี ๒๕๖๒-๒๕๖๔ พร้อมทั้งกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบหลักและรับผิดชอบรอง รวมถึงเป้าหมายและระยะเวลาในการดำเนินงานที่ชัดเจน โดยใช้กลไกที่จัดตั้งภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว พ.ศ. ๒๕๖๒ ทั้งระดับชาติและระดับพื้นที่ในการขับเคลื่อนข้อเสนอแนะฯ ควบคู่กับการมีกระบวนการในการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามมติสมัชชาฯ ในปีที่ผ่านมา เพื่อให้ทราบถึงปัญหา อุปสรรค และปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จสำหรับนำไปใช้เป็นบทเรียนต่อการขับเคลื่อนในปีต่อ ๆ ไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามแนวทางการขับเคลื่อนข้อเสนอมติสมัชชาครอบครัวฯ ตามมติคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ครอบครัวแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๒ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
247 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการอนุญาตเกี่ยวกับการส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. .... | มท | 22/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการอนุญาตเกี่ยวกับการส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาตเกี่ยวกับการส่งเสริมกิจการฮัจย์ เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจย์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงวัฒนธรรมที่เห็นควรระบุข้อความในหมวด ๒ การคุ้มครองผู้ไปประกอบพิธีฮัจย์ ข้อ ๑๑ (๙) และแก้ไขข้อความในร่างข้อ ๒ (ก) ให้ชัดเจน รวมทั้งกรณีการออกคำสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต ควรระบุรายชื่อกรรมการหรือผู้มีอำนาจจัดการแทนของนิติบุคคลที่เป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้นถูกสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตไว้ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการไปจดทะเบียนนิติบุคคลใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติฮัจย์ พ.ศ. ๒๕๒๔ ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฮัจย์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมที่เห็นควรกำหนดให้ช่วงระยะเวลาทำการบินรับ-ส่ง ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ต่อเนื่องกันทั้งขาไปและขากลับเนื่องจากเป็นภารกิจเฉพาะ โดยในปี พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๒ การทำการบินมีระยะห่างช่วงเวลาประมาณ ๒๐ วัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการอำนวยความสะดวกของผู้เดินทาง เช่น การให้บริการเต็นท์ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
248 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านสังคม ให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักการ “บวร : บ้าน วัด โรงเรียน” ซึ่งถือเป็นสถาบันที่มีบทบาทใกล้ชิดต่อวิถีชีวิตของคนไทยไปขับเคลื่อนและดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้เป็นแหล่งปลูกฝัง บ่มเพาะ และเผยแพร่องค์ความรู้ที่มีประโยชน์ เพื่อพัฒนาจิตใจและจิตสำนึกด้านจริยธรรมให้แก่ประชาชนทุกระดับให้มีสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม รู้รักสามัคคี เสียสละ และกตัญญูรู้คุณ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของคนไทยที่ควรธำรงรักษาไว้ รวมทั้งให้เป็นแหล่งกระจายข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนเข้าใจและเข้าถึงโครงการต่าง ๆ ดังกล่าวอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ เร่งตรวจสอบสภาพพนังกั้นน้ำ ฝายชะลอน้ำ หรือคันกั้นน้ำที่ชำรุดทรุดโทรมเพื่อดำเนินการปรับปรุงและซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพปกติและพร้อมใช้งานโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้พิจารณาดำเนินการให้ครอบคลุมถึงกรณีพนังกั้นน้ำ ฝายชะลอน้ำ หรือคันกั้นน้ำที่เป็นดินซึ่งชำรุดเสียหายซ้ำซากจากเหตุอุทกภัย และสมควรเปลี่ยนแปลงรูปแบบและวัสดุการก่อสร้างให้มั่นคงถาวรกว่าเดิม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
249 | คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงวัฒนธรรม) | วธ | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๘ คณะ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการประสานงานฝ่ายไทยว่าด้วยวัฒนธรรมและสนเทศอาเซียน ๑.๒ คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ๑.๓ คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ๑.๔ คณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยสภาการพิพิธภัณฑ์ระหว่างชาติ (Thai National Committee for ICOM) ๑.๕ คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ๑.๖ คณะกรรมการพัฒนากฎหมายกระทรวงวัฒนธรรม ๑.๗ คณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์มรดกไทย ๑.๘ คณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมรับไปพิจารณาทบทวนความจำเป็นเหมาะสมในการขอให้คงอยู่ของคณะกรรมการฯ ตามข้อ ๑ ที่ไม่มีการประชุมเลย หรือที่มีการจัดประชุมเพียง ๑-๒ ครั้ง ในรอบ ๓ ปี ที่ผ่านมา (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๒) อีกครั้งหนึ่ง และให้แจ้งยืนยันไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยด่วนเพื่อดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
250 | ขออนุมัติเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการงานพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานตามหลักเกณฑ์สำนักพระราชวัง | วธ | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของกระทรวงการคลังให้กระทรวงวัฒนธรรมเช่ารถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว จำนวน ๓ ประเภท ได้แก่ รถโดยสารขนาดไม่น้อยกว่า ๑๒ ที่นั่ง เครื่องยนต์แบบเบนซินและ NGV จำนวน ๑๒๐ คัน รถบรรทุก (ดีเซล) ขนาด ๑ ตัน ขนาดปริมาตรกระบอกสูบไม่ต่ำกว่า ๒,๔๐๐ ซีซี จำนวน ๑๖ คัน และ รถบรรทุก ๖ ล้อ ขนาดปริมาตรกระบอกสูบไม่ต่ำกว่า ๗,๕๐๐ ซีซี จำนวน ๙๐ คัน รวม ๒๒๖ คัน ระยะเวลาเช่า ๕ เดือน โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานการปฏิบัติงานพิธี และเนื่องจากรถยนต์ที่กระทรวงวัฒนธรรมจัดหา จำนวน ๒ ประเภท ได้แก่ รถโดยสารขนาดไม่น้อยกว่า ๑๒ ที่นั่ง เครื่องยนต์แบบเบนซินและ NGV และรถบรรทุก ๖ ล้อ ขนาดปริมาตรกระบอกสูบไม่ต่ำกว่า ๗,๕๐๐ ซีซี เป็นรถยนต์ที่แตกต่างไปจากบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ของสำนักงบประมาณ และอัตราค่าเช่ารถยนต์นอกเหนือจากที่กระทรวงการคลังกำหนด ในส่วนนี้เห็นควรให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) พิจารณาร่วมกับสำนักงบประมาณ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๐ วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๕ และวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
251 | การรายงานผลการเดินทางไปราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ณ ประเทศญี่ปุ่น | วธ | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ “Thai Textiles : A Touch of Thai” ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในงาน ประกอบด้วย การแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไทยร่วมสมัย นิทรรศการผ้าไทย การบรรเลงดนตรีไทยร่วมสมัย และงานเลี้ยงรับรองอาหารไทย ๒. กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินโครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยในประเทศญี่ปุ่น ภายใต้แนวคิด “ผ้าไทยสู่สากล” ใน ๓ เมืองหลักของญี่ปุ่น ประกอบด้วย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว กรุงโตเกียว The Garden Oriental Osaka นครโอซากา และโรงแรม Okura Fukuoka เมืองฟูกุโอกะ โดยได้มีการนำเสนอถึงความเป็นไปได้ของผ้าไทยในตลาดสากล มีการนำไปออกแบบอย่างร่วมสมัยทั้งเครื่องนุ่งห่ม เคหะภัณฑ์ ฯลฯ โดยใส่ใจกับผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน รวมถึงการทอผ้าไทยร่วมกับเส้นใยยับยั้งแบคทีเรีย ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ กระบวนการผลิตมีทั้งแบบทอมือและระบบโรงงาน ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกกับผ้าไทยมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผ้าไทยสามารถขยายตลาดไปสู่อุตสาหกรรมการแพทย์และการดูแลสุขภาพด้วย ๓. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและคณะผู้บริหารของกระทรวงวัฒนธรรมได้พบหารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ทางด้านวัฒนธรรมในกรุงโตเกียว ได้แก่ (๑) พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีรูปแบบการจัดแสดงโบราณวัตถุ ชิ้นงานทางศิลปะ ที่จัดเรียงตามยุคสมัยของญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (๒) พิพิธภัณฑสถานโอเดะ (Edo-Tokyo Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่มาของกรุงโตเกียว และมีการใช้เครื่องมือนำชมแบบพกพาซึ่งมีให้เลือกหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วย (๓) พิพิธภัณฑ์ดิจิทัล (Team Lab : Borderless Digital Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ดิจิทัลแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นที่ผสมผสานเทคนิคการจัดแสดงทั้งแสง สี เสียง และกลิ่น โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลทั้งหมด ซึ่งมีส่วนสำคัญให้ผู้เข้าชมได้จินตนาการและมีอิสระในการสร้างผลงานทางศิลปะอย่างสร้างสรรค์ และ (๔) พิพิธภัณฑ์ Tobido Gallery (Nippon Maruonochi Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงเทคโนโลยีของบริษัท Toppan จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี อาทิ เครื่องสแกนสามมิติขนาดพกพาที่นำมาใช้สแกนเพื่อบันทึกข้อมูลสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ได้ เครื่องพิมพ์ ๓ มิติที่สามารถจำลองชิ้นงานศิลปะหรือโบราณวัตถุให้มีขนาดและน้ำหนักเทียบเท่ากับของจริง และการใช้เทคโนโลยี Visual Reality ร่วมกับระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (5G Internet) จัดแสดงผ่านคอมพิวเตอร์ให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือผู้ที่อยู่ห่างไกลสามารถเข้าร่วมพิพิธภัณฑ์ได้โดยไม่ต้องเดินทางมาที่พิพิธภัณฑ์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
252 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายประทีป เพ็งตะโก) | วธ | 17/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายประทีป เพ็งตะโก ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
253 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 13/08/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ จำนวน ๒ ราย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามลำดับ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นายอิทธิพล คุณปลื้ม) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
254 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม) | วธ | 13/08/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายเวียง วรเชษฐ์ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ๒. นายพิกิฏ ศรีชนะ ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงวัฒนธรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
255 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม | ดศ | 06/08/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จำนวน ๒ ราย ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ โดยให้รวมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมด้วย และให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ สิงหาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามลำดับ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นายอิทธิพล คุณปลื้ม)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
256 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม | วธ | 06/08/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวราวุธ ศิลปอาชา) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ สิงหาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
257 | การรายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย | วธ | 18/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ของรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) และรัฐนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๗ เมษายน ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การเข้าร่วมงานเปิดตัวและจัดฉายภาพยนตร์แอนิเมชัน เรื่องรามเกียรติ์ จากจิตรกรรมรอบพระระเบียงพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตอนรามาวตาร โดยการจัดฉายภาพยนตร์แอนิเมชันดังกล่าวเป็นกิจกรรมหนึ่งในปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน ๒๕๖๒ ในวาระที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน และเป็นกิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสที่องค์การยูเนสโกประกาศขึ้นบัญชีโขนในประเทศไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ โดยใช้นวัตกรรมสื่อสมัยใหม่ในการสร้างภาพยนตร์เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาสาระง่ายสอดคล้องกับยุคสมัย ต่อยอดมรดกภูมิปัญญาและทุนทางวัฒนธรรม โดยได้มีการเปิดตัวและจัดฉายภาพยนตร์ ณ Usma Ismail Hall กรุงจาการ์ตา และโรงภาพยนตร์ CGV ศูนย์การค้า Hartono Shopping Mall เมืองยอกยาการ์ตา ๒. การเข้าเฝ้าฯ สุลต่านแห่งเมืองยอกยาการ์ตา โดยได้หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน และโดยที่เมืองยอกยาการ์ตาเป็นเมืองพี่เมืองน้องกับจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้กำหนดให้มีการแลกเปลี่ยนศิลปินด้านจิตรกรรมและทัศนศิลป์ระหว่างกัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการส่งเสริม เพิ่มพูน และต่อยอดความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพในส่วนกลาง อาทิ ศิลปินร่วมสมัย งานศิลปะ ผ้าบาติก และการแลกเปลี่ยนนักศึกษา เป็นต้น ๓. การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรุงจาการ์ตา พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชวา (History of Java Museum) กลุ่มโบราณสถานปรัมบานัน และพุทธศาสนสถานบุโรพุทโธ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
258 | การเสนออุทยานธรณีโคราชเป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) | ทส | 18/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรธรณีรับเรื่อง การเสนออุทยานธรณีโคราชเป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) ไปพิจารณาทบทวนให้ชัดเจนว่า การเสนออุทยานธรณีโคราชเป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกจะมีผลกระทบหรือก่อให้เกิดข้อจำกัดในการเข้าใช้ประโยชน์ บริหารจัดการ หรือดำเนินการใด ๆ ในพื้นที่ดังกล่าวในอนาคตของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนเจ้าของพื้นที่หรือไม่ ประการใด โดยให้จัดทำข้อมูลที่ครบถ้วนและชัดเจนเสนอต่อคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรม สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ในอนาคตหากมีโครงการพัฒนาพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อโบราณสถาน ขอให้แจ้งไปยังกระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง รวมทั้งควรส่งเสริมศักยภาพของชุมชนและท้องถิ่น และเพิ่มบทบาทการมีส่วนร่วมของเครือข่ายภาคประชานในการบริหารจัดการ และการพัฒนาอุทยานธรณีโคราชให้มากขึ้น เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
259 | ขอความเห็นชอบเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดดนตรีและมาร์ชชิ่งอาร์ทชิงแชมป์โลก 2020 | วธ | 18/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรมร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดดนตรีและมาร์ชชิ่งอาร์ทชิงแชมป์โลก ๒๐๒๐ (WAMSB World Championship 2020) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๙ กรกฎาคม-๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมพัฒนาเยาวชน บุคลากรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวงการดนตรีและมาร์ชชิ่งอาร์ทของไทย รวมทั้งเพื่อยกระดับภาพลักษณ์ด้านดนตรีสากลของไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล และเพื่อสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนอันจะนำไปสู่การยกระดับความสามารถด้านดนตรีของประเทศ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๓ เห็นควรให้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรมปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปดำเนินการก่อน สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ นั้น เห็นควรให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
260 | โครงการจัดทำพระไตรปิฎก ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version) | วธ | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการดำเนินโครงการจัดทำพระไตรปิฎก ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version) ในนามรัฐบาล โดยการบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม มหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อถวายพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวิชรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่พระองค์เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย และประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก และเพื่อเป็นการเผยแผ่และสืบทอดพระพุทธศาสนาสู่ประชาคมโลก ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เห็นควรให้กรมการศาสนาพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณไปดำเนินการก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป เห็นควรให้กรมการศาสนาจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรี (๒๗ มกราคม ๒๕๕๘) เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ
|
.....