ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 12 จากทั้งหมด 59 หน้า แสดงรายการที่ 221 - 240 จากข้อมูลทั้งหมด 1166 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
221 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกและประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | วธ | 05/05/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกและประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยกำหนดคุณสมบัติของศิลปินแห่งชาติให้เหมาะสม และกำหนดให้คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติอาจยกเลิกการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติซึ่งมีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก อันจะเป็นประโยชน์ต่อภาพลักษณ์ของศิลปินแห่งชาติและสังคมโดยตรง ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
222 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของกระทรวงวัฒนธรรมภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน : กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ห้วงวันที่ 7-16 เมษายน 2563 | วธ | 21/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของกระทรวงวัฒนธรรมภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน : กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ห้วงวันที่ ๗-๑๖ เมษายน ๒๕๖๓ โดยเน้นการสร้างความตระหนักและกระตุ้นเตือนประชาชนในช่วงประเพณีสงกรานต์ โดยดำเนินการออกประกาศกระทรวงวัฒนธรรม เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาลประเพณีสงกรานต์ และการขับเคลื่อนภายหลังการประกาศกระทรวงวัฒนธรรม เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาลประเพณีสงกรานต์ สำหรับการประเมินผลการดำเนินงานในภาพรวม พบว่า ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือในการปฏิบัติเป็นอย่างดี นอกจากนี้ สื่อมวลชนทั้งในส่วนกลางและในท้องถิ่นเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนและนำเสนอข้อมูลเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการยั่วยุให้มีพฤติกรรมการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
223 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศูนย์คุณธรรม | วธ | 07/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศูนย์คุณธรรม รวม ๖ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ เมษายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ประธานกรรมการ ๒. นางสาวชุติมา บุณยประภัศร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. ศาสตราจารย์ สมคิด เลิศไพฑูรย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. ศาสตราจารย์ รณชัย คงสกนธ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
224 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของกระทรวงวัฒนธรรมภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน : กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ห้วงวันที่ 31 มีนาคม - 6 เมษายน 2563 | วธ | 07/04/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของกระทรวงวัฒนธรรมภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน : กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ห้วงวันที่ ๓๑ มีนาคม-๖ เมษายน ๒๕๖๓ ประกอบด้วย (๑) การจัดทำจดหมายเหตุ เพื่อบันทึกเหตุการณ์สำคัญของประเทศไทย : กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (๒) การออกประกาศกระทรวงวัฒนธรรม เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีการต่าง ๆ กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (๓) การบูรณาการความร่วมมือกับชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนพลังบวร ภาคีเครือข่าย และหน่วยงานต่าง ๆ (๔) การรับรู้ข้อมูลข่าวสารตามแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีการต่าง ๆ กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และ (๕) การทำงานนอกที่ตั้งสำนักงาน และเหลื่อมเวลาทำงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม รวมทั้งการดำเนินงานในส่วนที่ให้บริการประชาชน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
225 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2550 | วธ | 31/03/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ จำนวน ๑๐ รูป/คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) ๒. นายสันติ เสือสมิง ๓. นายมาโนช แจ้งมุข ๔. พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ (ชวิน รังสิพราหมณกุล) ๕. นายกิตติพันธ์ ใจดี ๖. นายปรารพ เหล่าวานิช ๗. นายกล้า สมตระกูล (อายุ ๗๕ ปี) ๘. นายบัญชา พงษ์พานิช ๙. นายอภิชัย พันธเสน (อายุ ๗๗ ปี) ๑๐. นายเกริก มีมุ่งกิจ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
226 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของกระทรวงวัฒนธรรมภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน : กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) | วธ | 31/03/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของกระทรวงวัฒนธรรมภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน : กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ประกอบด้วย (๑) การแต่งตั้งคณะทำงานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงวัฒนธรรม (๒) การดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อเป็นการติดตามเฝ้าระวังและให้ความช่วยเหลือประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี และมาตรการที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค (๓) การบูรณาการความร่วมมือกับชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร และภาคีเครือข่าย เพื่อป้องกันและบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และ (๔) การจัดทำองค์ความรู้และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เพื่อช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติตัว และมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
227 | การดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดฃองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | นร | 31/03/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้การบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ดังนี้
๑. การรวบรวมข้อมูลมาตรการและจัดทำจดหมายเหตุสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ๑.๑ ให้กระทรวงสาธารณสุขรวบรวมข้อมูลมาตรการป้องกัน การรักษา และการบริหารจัดการ ๑.๒ ให้กระทรวงการคลังรวบรวมข้อมูลมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ๑.๓ ให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดทำจดหมายเหตุสถานการณ์และการดำเนินการในมิติต่าง ๆ ทั้งในส่วนของประเทศไทยและภาพรวมของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ๒. ให้กระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดการออกประกาศเพื่อยกเว้นอากรสำหรับสินค้านำเข้าที่เกี่ยวกับการตรวจรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) เช่น ยาและเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย เครื่องมือ ชุดตรวจ และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ โดยเร็ว ทั้งนี้ ให้มีผลย้อนหลังนับแต่วันที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์) เร่งรัดการดำเนินการตรวจรับรองมาตรฐานอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่นำเข้าจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในการตรวจคัดกรองและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด (ภายใน ๕ วัน) รวมทั้งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและป้องกันไม่ให้มีการทุจริตและเรียกรับผลประโยชน์ ๔. ให้กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแลการผลิตและการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีพของประชาชนให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเข้มงวดในราคาที่เป็นธรรม รวมทั้งพิจารณาทบทวนความจำเป็นและเหมาะสมของระยะเวลาการห้ามส่งออกไข่ไก่สดไปนอกราชอาณาจักรที่กำหนดไว้ ๗ วัน ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อง ห้ามส่งออกไข่ไก่สดไปนอกราชอาณาจักร ๕. ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาประเมินผลมาตรการห้ามการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่เขตจังหวัดที่ใช้ในจังหวัดภูเก็ต และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส) หากมีผลสัมฤทธิ์เป็นที่น่าพอใจ สมควรที่จะนำไปปรับใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศต่อไป ๖. ให้ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อมิให้มีการรวมกลุ่มของประชาชน เช่น การจัดการชกมวย การลักลอบเล่นการพนัน การมั่วสุมดื่มสุรา และเสพยาเสพติด การจัดการแข่งขันรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนถนน รวมถึงกรณีที่ผู้ให้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ (วินมอเตอร์ไซค์) ไม่ใส่หน้ากากอนามัยและมีการพูดคุยกับผู้โดยสารในระหว่างการขับขี่ ๗. การจัดสรรและแจกจ่ายหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้ภายในประเทศ จำนวน ๒,๓๐๐,๐๐๐ ชิ้น ระหว่างวันที่ ๓๐ มีนาคม-๓ เมษายน ๒๕๖๓ (๕ วัน) ให้จัดสรรให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงก่อน โดยดำเนินการ ดังนี้ ๗.๑ ให้กระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบการจัดหาหน้ากากอนามัยให้แก่กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๑,๕๐๐,๐๐๐ ชิ้น และกระทรวงมหาดไทย จำนวนไม่น้อยกว่า ๘๐๐,๐๐๐ ชิ้น เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่กลุ่มเป้าหมายในแต่ละวัน ๗.๒ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมประสานงานบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด รับผิดชอบการขนส่งหน้ากากอนามัยไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยกำหนด ๗.๓ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบการบริหารจัดการการแจกจ่ายหน้ากากอนามัย จำนวน ๑,๕๐๐,๐๐๐ ชิ้นต่อวัน ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ ทั้งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงสถานพยาบาลของเอกชน ๗.๔ ให้กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบการบริหารจัดการการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยจำนวนไม่น้อยกว่าวันละ ๘๐๐,๐๐๐ ชิ้น ให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐทั่วประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งปฏิบัติงานให้บริการแก่ประชาชน เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทหาร ตำรวจ รวมทั้งประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้ การจัดสรรหน้ากากอนามัยสำหรับประชาชนให้พิจารณาดำเนินการในระยะต่อไป ๘. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและกระทรวงสาธารณสุขประสานงานในการระดมนักศึกษาแพทย์และพยาบาล ตลอดจนนักศึกษาด้านสาธารณสุขอื่น ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนการดูแลผู้ป่วย เพื่อแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงเตรียมการรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ๙. ให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการพิจารณากำหนดแนวทางการนำคนไทยที่อยู่ต่างประเทศเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย โดยให้มีการกักกันตามมาตรการที่กำหนด รวมทั้งประสานประเทศต่าง ๆ ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องรับชาวต่างประเทศกลับประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
228 | การเสนอสงกรานต์ในประเทศไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก | วธ | 24/03/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. เอกสารนำเสนอสงกรานต์ในประเทศไทย ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก ๒. ให้อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เป็นผู้ลงนามในเอกสารนำเสนอสงกรานต์ในประเทศไทย ในฐานะตัวแทนของประเทศไทย เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
229 | รายงานการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2559-2564) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | วธ | 24/03/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยใช้กลไกภาคีเครือข่ายในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมบูรณาการในการดำเนินงาน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การสร้างความเข้าใจในการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔) มีการดำเนินงาน เช่น จัดการประชุมสัมมนา “การส่งเสริมและพัฒนาองค์กรชุมชน อำเภอ และจังหวัดคุณธรรม จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ ติดตามการดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนาองค์กร ชุมชน อำเภอและจังหวัดคุณธรรม และจัดสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๐ ภายใต้แนวคิดหลัก “๑ ทศวรรษ สร้างสังคมคุณธรรม : วินัยคนสะท้อนวินัยชาติ” เป็นต้น ๒. ด้านวิชาการและการประชาสัมพันธ์ มีการดำเนินงาน เช่น จัดทำหนังสือ “การส่งเสริมคุณธรรม พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา สร้างคนดีสู่สังคม” เพื่อเผยแพร่เป็นแนวทางการดำเนินงานแก่หน่วยงานทุกภาคส่วน และจัดทำหนังสือการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๒ ภายใต้แผนแม่บทฯ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลงานของแต่ละหน่วยงาน เป็นต้น ๓. ด้านการส่งเสริมชุมชน องค์กร อำเภอ จังหวัดคุณธรรม โดยจัดทำเกณฑ์การประเมิน ๙ ขั้นตอน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาองค์กร ชุมชน อำเภอ จังหวัดคุณธรรม ใน ๓ ระดับ ได้แก่ ระดับส่งเสริมคุณธรรม ระดับคุณธรรม และระดับคุณธรรมต้นแบบ ๔. แนวทาง/แผนการดำเนินการต่อไป เช่น จัดประชุมติดตามการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔) ในระดับภูมิภาคทั้ง ๔ ภาค เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
230 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย พ.ศ. 2551 (จำนวน 12 ราย 1. นางกนกวลี กันไทยราษฎร์ ฯลฯ) | วธ | 24/03/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย จำนวน ๑๒ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ มีนาคม ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. ผู้ทรงคุณวุฒิจากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านศิลปะร่วมสมัย ๑.๑ นางกนกวลี กันไทยราษฎร์ สาขาวรรณศิลป์ ๑.๒ นายกรีพงศ์ เทียมเศวต สาขาศิลปะการแสดง (อายุ ๗๐ ปี ๓ เดือน) ๑.๓ นายนิธิ สถาปิตานนท์ สาขาสถาปัตยกรรม (อายุ ๗๓ ปี) ๑.๔ นายปัญญา วิจินธนสาร สาขาทัศนศิลป์ ๑.๕ นายพิชิต วีรังคบุตร สาขาเรขศิลป์ ๑.๖ นายวรนันทน์ ชัชวาลทิพากร สาขาทัศนศิลป์ ๑.๗ นายศิริชัย ทหรานนท์ สาขาออกแบบเครื่องแต่งกาย ๑.๘ นายสมเถา สุจริตกุล สาขาดนตรี ๒. ผู้ทรงคุณวุฒิจากนักวิชาการด้านศิลปะร่วมสมัยจากสถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน ๒.๑ ศาสตราจารย์พรรัตน์ ดำรุง สาขาศิลปะการแสดง ๒.๒ ผู้ช่วยศาสตราจารย์โสภาวรรณ บุญนิมิตร สาขาภาพยนตร์ ๒.๓ นายอานันท์ นาคคง สาขาดนตรี ๒.๔ ศาสตราจารย์เอกชาติ จันอุไรรัตน์ สาขามัณฑนศิลป์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
231 | คำแนะนำเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีต่าง ๆ และพิธีทางศาสนาในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | วธ | 17/03/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำแนะนำเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีต่าง ๆ และพิธีทางศาสนาในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. คำแนะนำการปฏิบัติโดยทั่วไปในการจัดกิจกรรมตามเทศกาล ประเพณีต่าง ๆ และพิธีทางศาสนา โดยควรงวดเว้น หรือเลื่อนกำหนดการจัดงานเทศกาล งานประเพณี หรืองานอื่นใดที่มีการรวมตัวของคนเป็นกลุ่มหรือการรวมตัวกันของคนหมู่มากไปก่อน หากเป็นงานจำเป็นที่ไม่สามารถเลื่อนออกไปได้ เช่น งานศพ ควรดำเนินการมาตรการของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขกำหนด รวมถึงควรเน้นแบบแผนที่ปฏิบัติที่เป็นคุณค่าและสาระที่ถูกต้อง และตระหนักถึงสุขภาวะและความปลอดภัยของคนในชุมชน และหากพื้นที่ใดที่รัฐบาล หรือกระทรวงสาธารณสุขประกาศให้เป็นพื้นที่งดเว้นการจัดกิจกรรมใด ๆ ให้ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ควรส่งเสริมให้มีการปฏิบัติตามวิถีวัฒนธรรมไทยอันดีงาม และไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) เช่น การสวัสดีและไหว้แบบไทย ๒. คำแนะนำสำหรับเทศกาลประเพณีสงกรานต์ในปี ๒๕๖๓ เป็นการเฉพาะ ๒.๑ การสืบสานคุณค่าสาระในประเพณีสงกรานต์แบบไทยหรือท้องถิ่น โดยงดเว้นการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับและปฏิบัติเฉพาะภายในครัวเรือนเท่านั้น เช่น ทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระพุทธรูป รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ โดยสมาชิกในครอบครัวเข้าร่วมกิจกรรม สำหรับสมาชิกที่เดินทางไปทำงานต่างถิ่นควรงดการเดินทางกลับภูมิลำเนา ในช่วงเวลาที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาออกไปก่อน โดยอาจจะแสดงความสัมพันธ์ต่อครอบครัวและเครือญาติผ่านทางระบบสื่อสารสมัยใหม่ อาทิ โทรศัพท์ หรือสื่อสังคมสมัยใหม่ (Social Media) เช่น facebook Line ฯลฯ ๒.๒ การปฏิบัติตน สมาชิกที่ร่วมกิจกรรมในครัวเรือนควรแต่งกายให้มิดชิด สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล หรือด้วยน้ำสะอาด และสบู่เหลว กรณีการรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ควรตระหนักว่าการรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ที่เป็นผู้สูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย ทั้งนี้ การทำความสะอาดบ้านเรือน ควรสวมใส่ถุงมือ สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาดด้วย และควรหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนเป็นกลุ่มหรือการรวมตัวกันของคนหมู่มาก หรือในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งงดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเสพของมึนเมาทุกชนิด ทั้งนี้ ควรคำนึงถึงการมีจิตสำนึกและรับผิดชอบต่อสังคม โดยไม่ประพฤติปฏิบัติในลักษณะที่เป็นพฤติกรรมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคตามคำแนะนำและมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
232 | การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการได้มาและการจำหน่ายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และการเช่าที่ดินเพื่อใช้เป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดสงขลา ในรูปแบบหนังสือแลกเปลี่ยน | กต | 10/03/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๑.๑ เห็นชอบให้รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนถือครองที่ดินเพิ่มเติม ดังนี้ ๑.๑.๑ ให้รัฐบาลจีนซื้อที่ดินจากภาคเอกชนเพื่อใช้เป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่จีน ณ จังหวัดขอนแก่น จำนวน ๙ ไร่ ๓ งาน ๗๓.๔ ตาราวา และจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน ๑๒ ไร่ ๗๖ ตารางวา โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์) เป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์แทนรัฐบาลจีน และรัฐบาลจีนทำสัญญาเช่าที่ดินต่อจากรัฐบาลไทยในอัตราค่าเช่าปีละ ๑ บาท ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่รัฐบาลไทยเคยดำเนินการกรณีการจัดที่ดินให้สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ๑.๑.๒ ให้รัฐบาลจีนเช่าที่ดินที่ราชพัสดุจังหวัดสงขลา หมายเลข สข. ๑๑๐๐ (บางส่วน) ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เนื้อที่ ๕ ไร่ ๖๕.๘ ตารางวา เพื่อใช้เป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่จีน ณ จังหวัดสงขลา โดยให้ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเช่าที่ดินที่ราชพัสดุ ๑.๒ เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการได้มาและการจำหน่ายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและการเช่าที่ดินเพื่อใช้เป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่จีน ณ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดสงขลา (ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฉบับใหม่) โดยกำหนดระยะเวลาการเช่าที่ดินแต่ละแปลงรวมกันไม่เกินแปลงละ ๗๐ ปี (๓๐ ปี+๓๐ ปี+๑๐ ปี) และกำหนดให้ฝ่ายจีนชำระค่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อใช้เป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่จีน ณ จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดเชียงใหม่ และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างเพื่อเป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่จีน ณ จังหวัดสงขลา ภายหลังสิ้นสุดการเช่า โดยยกเว้นค่าอากรและค่าธรรมเนียมการโอน ตลอดจนภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ โดยนำหลักประติบัติต่างตอบแทนมากำหนดเป็นเงื่อนไขในสัญญาเช่าที่ดินทั้งสองกรณี ๑.๓ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฝ่ายไทย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงบประมาณ กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า เช่น การจัดซื้อที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อสร้างสถานกงสุลใหญ่จีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ควรคำนึงถึงอัตลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย เป็นต้น ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
233 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป : โครงการพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยให้เป็นพื้นที่ให้บริการทางวัฒนธรรมระดับนานาชาติ ระยะที่ 2 | วธ | 21/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงวัฒนธรรม สำหรับโครงการพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยให้เป็นพื้นที่ให้บริการทางวัฒนธรรมระดับนานาชาติ ระยะที่ ๒ วงเงินงบประมาณทั้งโครงการรวมทั้งสิ้น ๓,๐๐๐,๐๒๑,๙๓๗.๘๘ บาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงวัฒนธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการ โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง และมีสถานที่/พื้นที่พร้อมจะดำเนินการ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ของรัฐและประชาชนที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการอย่างยั่งยืน รวมทั้งจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วนอย่างโปร่งใส และตรวจสอบได้ และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
234 | การส่งเสริมพหุวัฒนธรรมและเศรษฐกิจชุมชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ | วธ | 21/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง การส่งเสริมพหุวัฒนธรรมและเศรษฐกิจชุมชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้บูรณาการความร่วมมือกับภาคส่วนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแนวทางการส่งเสริมพหุวัฒนธรรมและเศรษฐกิจชุมชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกำหนดประเด็นการพัฒนา ๓ ด้าน ได้แก่ (๑) ส่งเสริมวิถีชีวิตและสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง โดยส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหา การป้องกัน และการส่งเสริมความมั่นคงยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (๒) นำหลักพลัง “บวร” หรือ “บรม” ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม เพื่อสร้างคนดี สังคมดี ให้คุณธรรมนำการพัฒนา ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ในการนำหลักการพลัง “บวร : บ้าน วัด หรือโรงเรียน/ราชการ” หรือ “บรม : บ้าน โรงเรียน/ราชการ มัสยิด” ไปขับเคลื่อนและดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ และ (๓) การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนจากฐานวัฒนธรรม เพื่อพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยพัฒนาศักยภาพและเชื่อมโยงแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชื่อมโยง ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
235 | การแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการจัดทำพระไตรปิฎก ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version) | วธ | 02/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการจัดทำพระไตรปิฎก ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version) จำนวน ๒ คณะ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒ มกราคม ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. คณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดทำพระไตรปิฎก ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version) ประกอบด้วย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เป็นประธานกรรมการ กรรมการมหาเถรสมาคม จำนวน ๑๙ รูป เป็นกรรมการ และพระพรหมบัณฑิต เป็นกรรมการและเลขานุการ ๒. คณะกรรมการอุปถัมป์โครงการจัดทำพระไตรปิฎก ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Vesior) ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นรองประธานกรรมการ คนที่ ๑ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานกรรมการ คนที่ ๒ ปลัดกระทรวง จำนวน ๒๐ กระทรวง นายกราชบัณฑิตยสภา ผู้อำนวยการศูนย์พหุภาษาการแปลและล่ามแห่งอาเซียน เป็นกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและอธิบดีกรมการศาสนา เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม และมีกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการร่วมอีก จำนวน ๔ ราย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
236 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวภัคพดี อยู่คงดี) | วธ | 24/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวภัคพดี อยู่คงดี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโบราณคดี (โบราณคดี และพิพิธภัณฑ์) (นักโบราณคดีทรงคุณวุฒิ) กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ตั้งแต่วันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
237 | การจัดกิจกรรม "ความสุขแบบวิถีไทย" ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2563 | วธ | 17/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดกิจกรรม “ความสุขแบบวิถีไทย” ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นการเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมในช่วงการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพื่อสร้างความสุขให้แก่ประชาชนในมิติทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม จำนวน ๔ กิจกรรม ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กิจกรรมทำความดีช่วงปีใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคล อาทิ สวดมนต์ข้ามปีถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย ๒๕๖๓ จัดช่องทางพิเศษและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่มาไหว้พระช่วงปีใหม่ และสักการะพระพุทธรูปสำคัญ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ ๒. กิจกรรมท่องเที่ยวสุขสันต์ในแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อาทิ เปิดแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ให้เข้าชมฟรี และเปิดหอศิลป์ร่วมสมัยให้ประชาชนเข้าชมฟรี และหอศิลป์ภาคเอกชนในส่วนภูมิภาคเข้าฟรี หรือลดค่าเข้าชมเป็นกรณีพิเศษ ๓. กิจกรรมความหลากหลายทางวัฒนธรรมนำความสุข อาทิ กิจกรรมศิลปวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กิจกรรม ทึ่ง! หนังโลก โดยฉายภาพยนตร์เรื่อง “Seven Samurai : เจ็ดเซียนซามูไร” ในวันเสาร์ที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ โรงภาพยนตร์สกาลา กรุงเทพมหานคร ๔. กิจกรรมส่งความสุขปีใหม่ด้วยของขวัญวิถีไทย อาทิ ให้บริการบัตรอวยพรส่งความสุขปีใหม่รูปแบบ e-card และสอนวิธีการจัดทำผ่านออนไลน์ รวมทั้งจัดอบรมให้แก่ผู้ที่สนใจ และกิจกรรม “ของขวัญ ของฝาก จากวัฒนธรรมไทย” และจัดงานออกร้านจำหน่าย สาธิต และจัดแสดงในรูปแบบ Road Show
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
238 | การรายงานผลการเดินทางไปราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา | วธ | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ ๒๙-๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๒ เพื่อเข้าร่วมพิธีปิดโครงการธรรมยาตรา ๕ แผ่นดินลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ ๒ ตามคำเชิญของสภาบันโพธิคยาวิชชาลัย ๙๘๐ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้เข้าร่วมพิธีปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ วัดเทพโพธิวงศ์ เมืองเสียมราฐ โดยมีสมเด็จพระอัครมหาสังฆราชาธิบดี เทพ วงศ์ สมเด็จพระสังฆราชแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และสมเด็จพิชัยเสนา เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และเข้าร่วมพิธีมอบเสาเสมาธรรมจักร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโครงการธรรมยาตรา ๕ แผ่นดินลุ่มน้ำโขง ให้แก่สมเด็จพิชัยเสนา เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา รวมทั้งเข้าร่วมพิธีปิดโครงการธรรมยาตรา ๕ แผ่นดินลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ ๒ ณ โรงแรมโซฟิเทล โพคีธารา เมืองเสียมราฐ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
239 | การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัติ | นร11 | 03/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๒ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการกำหนดหน่วยงานเจ้าภาพและภารกิจในการขับเคลื่อนประเด็นแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ หน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนเป้าหมายระดับประเด็นของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และหน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนเป้าหมายระดับแผนย่อยของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และมอบหมายให้หน่วยงานเจ้าภาพประสานและบูรณาการการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ๑.๒ เห็นชอบแนวทางการจัดทำแผนระดับที่ ๓ ในส่วนของแผนปฏิบัติการด้าน... และมอบหมายสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณากำกับการดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว เพื่อให้เกิดการถ่ายระดับของแผนทั้งสามระดับอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งเห็นชอบให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนเร่งรัดดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติราชการ แผนวิสาหกิจ และแผนปฏิบัติการ ตามลำดับ และขอความร่วมมือให้หน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติราชการ โดยให้ใช้ชื่อตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้เกิดการถ่ายทอดเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งนำเข้าแผนในระบบการติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (Electronic Monitoring and Evaluation System of National Strategy and Country Reform : eMENSCR) ๑.๓ เห็นชอบให้คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานของรัฐในการจัดทำโครงการสำคัญ นำไปสู่การก่อให้เกิดการสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติให้บรรลุผลตามเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่วางไว้ได้อย่างเป็นรูปธรรม และใช้เป็นคำของบประมาณประจำปี ๒๕๖๔ ต่อไป ๑.๔ มอบหมายให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการ (๑) นำเข้าข้อมูลผลการดำเนินโครงการ/การดำเนินงานในความรับผิดชอบในระบบ eMENSCR ให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๒ และ (๒) นำเข้าข้อมูลสถิติ สถานการณ์ หรือข้อมูลอื่นใดในระบบ eMENSCR สำหรับการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ให้เกิดการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายเดียวกันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป รวมทั้งเชื่อมโยงระบบข้อมูลสารสนเทศในความรับผิดชอบ โดยเฉพาะระบบข้อมูลสารสนเทศด้านงบประมาณของสำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเข้ากับระบบ eMENSCR นอกจากนี้ ให้หน่วยงานที่อยู่ระหว่างหรือจะดำเนินการพัฒนาระบบการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลใช้ระบบ eMENSCR ในการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล ก่อนที่จะมีการพัฒนาระบบ ๑.๕ เห็นชอบการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายคณะกรรมการปฏิรูปประเทศดำเนินการตามขั้นตอนและกรอบระยะเวลาของกฎหมาย ทั้งนี้ ในการรับฟังความคิดเห็นของภาคส่วนต่าง ๆ ให้ดำเนินการร่วมกัน เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินการ การประหยัดเวลาและงบประมาณต่อไป ๒. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เช่น ควรให้ทบทวนความคุ้มค่าของผลสัมฤทธิ์ที่ได้ตามแผนระดับที่ ๓ และควรให้คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง เป็นผู้กำหนดแนวทางในการขับเคลื่อนและบูรณาการการปฏิรูปประเทศด้วย เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
240 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงในกระทรวงวัฒนธรรม (นางประนอม คลังทอง และคณะ รวม 3 ราย) | วธ | 03/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นางประนอม คลังทอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางศศิฑอณร์ สุวรรณมณี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายประสพ เรียงเงิน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
.....