ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดฃองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | นร | 31/03/2563 | ||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้การบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ดังนี้
๑. การรวบรวมข้อมูลมาตรการและจัดทำจดหมายเหตุสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ๑.๑ ให้กระทรวงสาธารณสุขรวบรวมข้อมูลมาตรการป้องกัน การรักษา และการบริหารจัดการ ๑.๒ ให้กระทรวงการคลังรวบรวมข้อมูลมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ๑.๓ ให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดทำจดหมายเหตุสถานการณ์และการดำเนินการในมิติต่าง ๆ ทั้งในส่วนของประเทศไทยและภาพรวมของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ๒. ให้กระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดการออกประกาศเพื่อยกเว้นอากรสำหรับสินค้านำเข้าที่เกี่ยวกับการตรวจรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) เช่น ยาและเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย เครื่องมือ ชุดตรวจ และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ โดยเร็ว ทั้งนี้ ให้มีผลย้อนหลังนับแต่วันที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์) เร่งรัดการดำเนินการตรวจรับรองมาตรฐานอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่นำเข้าจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในการตรวจคัดกรองและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด (ภายใน ๕ วัน) รวมทั้งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและป้องกันไม่ให้มีการทุจริตและเรียกรับผลประโยชน์ ๔. ให้กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแลการผลิตและการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีพของประชาชนให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเข้มงวดในราคาที่เป็นธรรม รวมทั้งพิจารณาทบทวนความจำเป็นและเหมาะสมของระยะเวลาการห้ามส่งออกไข่ไก่สดไปนอกราชอาณาจักรที่กำหนดไว้ ๗ วัน ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อง ห้ามส่งออกไข่ไก่สดไปนอกราชอาณาจักร ๕. ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาประเมินผลมาตรการห้ามการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่เขตจังหวัดที่ใช้ในจังหวัดภูเก็ต และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส) หากมีผลสัมฤทธิ์เป็นที่น่าพอใจ สมควรที่จะนำไปปรับใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศต่อไป ๖. ให้ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อมิให้มีการรวมกลุ่มของประชาชน เช่น การจัดการชกมวย การลักลอบเล่นการพนัน การมั่วสุมดื่มสุรา และเสพยาเสพติด การจัดการแข่งขันรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนถนน รวมถึงกรณีที่ผู้ให้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ (วินมอเตอร์ไซค์) ไม่ใส่หน้ากากอนามัยและมีการพูดคุยกับผู้โดยสารในระหว่างการขับขี่ ๗. การจัดสรรและแจกจ่ายหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้ภายในประเทศ จำนวน ๒,๓๐๐,๐๐๐ ชิ้น ระหว่างวันที่ ๓๐ มีนาคม-๓ เมษายน ๒๕๖๓ (๕ วัน) ให้จัดสรรให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงก่อน โดยดำเนินการ ดังนี้ ๗.๑ ให้กระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบการจัดหาหน้ากากอนามัยให้แก่กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๑,๕๐๐,๐๐๐ ชิ้น และกระทรวงมหาดไทย จำนวนไม่น้อยกว่า ๘๐๐,๐๐๐ ชิ้น เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่กลุ่มเป้าหมายในแต่ละวัน ๗.๒ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมประสานงานบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด รับผิดชอบการขนส่งหน้ากากอนามัยไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยกำหนด ๗.๓ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบการบริหารจัดการการแจกจ่ายหน้ากากอนามัย จำนวน ๑,๕๐๐,๐๐๐ ชิ้นต่อวัน ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ ทั้งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงสถานพยาบาลของเอกชน ๗.๔ ให้กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบการบริหารจัดการการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยจำนวนไม่น้อยกว่าวันละ ๘๐๐,๐๐๐ ชิ้น ให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐทั่วประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งปฏิบัติงานให้บริการแก่ประชาชน เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทหาร ตำรวจ รวมทั้งประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้ การจัดสรรหน้ากากอนามัยสำหรับประชาชนให้พิจารณาดำเนินการในระยะต่อไป ๘. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและกระทรวงสาธารณสุขประสานงานในการระดมนักศึกษาแพทย์และพยาบาล ตลอดจนนักศึกษาด้านสาธารณสุขอื่น ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนการดูแลผู้ป่วย เพื่อแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงเตรียมการรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ๙. ให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการพิจารณากำหนดแนวทางการนำคนไทยที่อยู่ต่างประเทศเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย โดยให้มีการกักกันตามมาตรการที่กำหนด รวมทั้งประสานประเทศต่าง ๆ ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องรับชาวต่างประเทศกลับประเทศ
|
.....