ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 8 จากทั้งหมด 10 หน้า แสดงรายการที่ 141 - 160 จากข้อมูลทั้งหมด 191 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
141 | การเปิดโครงข่ายขยายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต (โครงการงบ Big Rock) ตามหลักการโครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network) | ดศ. | 14/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเปิดโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต
(โครงการงบ Big Rock)
ตามหลักการโครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network)
โดยใช้แนวทางที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในการประชุม ครั้งที่ ๓/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๑ เพื่อให้มีการเชื่อมโยงเครือข่ายไปให้บริการปลายทาง
(Last Mile Access) ยังทุกภาคส่วน
ซึ่งเป็นการใช้โครงข่ายดังกล่าวให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุดลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม
และรับทราบการโอนทรัพย์สินภายใต้โครงการเน็ตประชารัฐ
และโครงการขยายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต (โครงการงบ Big
Rock)
ให้กับสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ตามมติคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในคราวประชุม ครั้งที่
๒/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อเสนอแนะของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เช่น
ควรพิจารณาจัดทำฐานข้อมูลของโครงการรวมทั้งการติดตั้งอุปกรณ์ switch ต้นทาง และอุปกรณ์ปลายทาง (SDP : Splitter Distribution Point)
ทั้งหมดในพื้นที่ให้สามารถเข้าถึงและตรวจสอบจุดให้บริการหรือการขอใช้บริการได้ผ่านบริการเว็บ
ควรขยายความครอบคลุมเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ทั่วถึงทั้งประเทศโดยเร็ว
ควรปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่รัฐและประชาชนจะได้รับ เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. โดยที่โครงการเน็ตประชารัฐและโครงการ
Big Rock มีประเด็นการค้างชำระค่าใช้จ่าย
ค่าบริการแก่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด
(มหาชน) การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตั้งแต่ปี ๒๕๖๒-๒๕๖๕
จึงมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเร่งหารือกับกระทรวงมหาดไทย
สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินดังกล่าวของโครงการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
รวมทั้งให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเร่งศึกษาทางเลือกรูปแบบธุรกิจของโครงการดังกล่าวข้างต้นที่เหมาะสมภายใต้หลักการโครงข่ายแบบเปิด
(Open Access Network) เพื่อให้มีช่องทางสร้างรายได้อย่างเพียงพอและยั่งยืนต่อไปในอนาคต |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
142 | การจำแนกประเภทหน่วยงานของรัฐในกำกับของฝ่ายบริหาร กรณีสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน | นร.12 | 14/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนเสนอ
ดังนี้ ๑.๑
ให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานของรัฐในกำกับของฝ่ายบริหาร
ประเภทหน่วยธุรการขององค์การของรัฐที่เป็นอิสระ ๑.๒
ให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นหน่วยงานของรัฐในกำกับของฝ่ายบริหาร
ประเภทกองทุนที่เป็นนิติบุคคล ๒. ให้คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมที่ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด และข้อสังเกตของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการบริหารกองทุนดังกล่าวจะบริหารในรูปของคณะกรรมการ
ซึ่งไม่มีหน่วยธุรการรองรับการทำหน้าที่ใน ๓ รูปแบบที่กำหนด ได้แก่ รัฐวิสาหกิจ
องค์การมหาชนตามพระราชบัญญัติ หรือส่วนราชการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖
มีนาคม ๒๕๖๒ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
143 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายโครงการฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง (โครงการหนองขวัญ) | กษ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๓๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายโครงการฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง (โครงการหนองขวัญ) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
รับความเห็นของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่ควรพิจารณาศึกษาและปรับปรุงเป็นโครงสร้างถาวรเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า
และการใช้ประโยชน์ในอนาคต และจัดทำแผนการดำเนินงาน พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประชาชนเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
144 | โครงการให้บริการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 3 ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) | คค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย
จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการให้บริการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ ๓ ตามหลักการของโครงการฯ
ที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
เพื่อให้การดำเนินโครงการให้บริการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ของผู้ประกอบการรายที่ ๓ เป็นไปตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตร ๒๙ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคม บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการคัดเลือก ตามมาตรา ๓๖
แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๑๐๖/๑๓๗๐
ลงวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖) และคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (หนังสือคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
ที่ กค ๐๘๒๐.๑/๓๑๖ ลงวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖
และหนังสือคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ด่วนที่สุด ที่ กค
๐๘๒๐.๑/๖๑๑ ลงวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖) เช่น
ควรมีการจัดทำแผนการปฏิบัติงานในภาพรวมของโครงการ
เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความล่าช้าที่เกิดขึ้น
พร้อมทั้งพิจารณาความเหมาะสมในการพัฒนา/ปรับปรุงระดับการให้บริการของท่าอากาศยานให้สามารถรองรับความต้องการเดินทางและขนส่งสินค้าของท่าอากาศยานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เร่งลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้เป็นไปตามแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิฉบับปี
๒๕๔๖ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
145 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. .... | มท. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม
โดยกำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารที่จะใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมต้องดำเนินการตามที่กำหนดในส่วนที่เกี่ยวกับโครงสร้างของโรงแรม
ระบบป้องกัน และระงับอัคคีภัย ระบบทางหนีไฟ ลักษณะภายใน และภายนอกของอาคาร
และการนำอาคารลักษณะพิเศษมาใช้ประกอบธุรกิจโรมแรม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
146 | พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 | สผ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันเข้าชื่อเสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา ๑๗๓ ว่า
พระราชกำหนดฉบับดังกล่าวไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้บัญญัติไว้นรัฐธรรมนูญ มาตรา
๑๗๒ วรรคหนึ่ง และมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม (การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ)
สำนักงานตำรวจแห่งชาติกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำคำชี้แจงและเอกสารประกอบในเรื่องดังกล่าวเป็นการด่วน
แล้วจัดส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อเตรียมการไว้เป็นการล่วงหน้าสำหรับประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ตามแนวทางปฏิบัติ อ้างถึง ๒ (หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๕๐๓/ว ๓๘๐
ลงวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๒) ตามที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
147 | การขออนุมัติปรับแผนการดำเนินงานและแผนเบิกจ่ายงบประมาณ รวมทั้งขอความเห็นชอบหลักการแนวทางดำเนินการโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กิจกรรมที่ 2 การเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Digital Hub) | ดศ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการปรับแผนการดำเนินงานและแผนเบิกจ่ายการดำเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
กิจกรรมที่ ๒
การเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน
(ASEAN Digital Hub) (กิจกรรมที่
๒) กิจกรรมย่อยที่ ๓ การร่วมก่อสร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำระบบใหม่ฯ
จากเดิมสิ้นสุดปี ๒๕๖๕ เป็นสิ้นสุดปี ๒๕๖๗ ๑.๒
เห็นชอบในหลักการขยายความจุเพิ่มเติมของระบบเคเบิลใต้น้ำ ASIA Direct Cable (ADC) ภายใต้กิจกรรมที่ ๒
กิจกรรมย่อยที่ ๓ การร่วมก่อสร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำระบบใหม่ฯ จากเดิม ๒๐๐ Gbps
ซึ่งเป็นความจุเบื้องต้นของประเทศไทยที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไว้
เป็นไม่เกินสิทธิการใช้วงจรทั้งหมด (เบื้องต้นที่ประมาณ ๙,๐๐๐ Gbps) โดยใช้งบประมาณของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)
(บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ) และให้ความจุเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ๒. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
และ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เช่น ควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. หากมีการขยายกรอบวงเงินลงทุนโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
กิจกรรมที่ ๒
การเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน
(ASEAN Digital Hub) กิจกรรมย่อยที่
๓ การร่วมก่อสร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำระบบใหม่ที่เชื่อมต่อประเทศไทยกับประเทศต่าง
ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพิ่มเติมจาก ๒,๑๘๐ ล้านบาท
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้อง
เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ๔. ในกรณีที่สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพิจารณาอนุมัติให้
บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ขยายความจุเพิ่มเติมของระบบเคเบิลใต้น้ำ Asia Direct Cable (ADC) ในแต่ละครั้งแล้ว
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรายงานผลการพิจารณาดังกล่าวต่อคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติโดยเร็วด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
148 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายพิชิต บุญสุด) | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพิชิต บุญสุด
ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ตำแหน่งอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
149 | รายงานผลการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่น รัฐบาลนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.11 สศช | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด
ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่น
เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
โดยมีข้อเสน ๘ ด้าน รวม ๖๑ ประเด็น
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ
(กรอ.) เสนอ สรุปผลการดำเนินการได้ ดังนี้ ๑.
ผลการดำเนินการในภาพรวม โครงการที่ดำเนินการไปแล้ว จำนวน ๘ ประเด็น
ส่วนใหญ่อยู่ในด้านการเยียวยา ฟื้นฟู และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน ๓๗ ประเด็น
ส่วนใหญ่อยู่ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน
๑ ปี ซึ่งมีความจำเป็นต้องมีการศึกษาออกแบบและการจัดทำการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนการขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมาย
และโครงการที่อยู่ระหว่างขอรับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน ๑๖ ประเด็น
เนื่องจากพบปัญหาอุปสรรคบางประการ เช่น ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ
และผู้เข้าร่วมโครงการยังไม่มีความรู้ความเข้าใจในหลักการโครงการ ๒.
ผลที่ได้รับจากการดำเนินงาน เช่น
ยกระดับภาคการเกษตรไปสู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูงโดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ในการแปรรูปสินค้าเกษตร
พัฒนาพื้นที่เพื่อเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลก
พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพและเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน ๓.
ปัจจัยความสำเร็จที่มีผลต่อการดำเนินงาน เช่น
การดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอนและบูรณาการกับทุกภาคส่วนในพื้นที่
และการมีกระบวนการที่มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ๔.
ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานระยะต่อไป เช่น
ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจสามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ
พัฒนาและแก้ไขปัญหาที่มาจากการเติบโตของความเป็นเมือง และสนับสนุนกรสร้างความเข้มแข็งให้กับกลไก
กรอ.
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
150 | มาตรการรองรับการเสียภาษีขั้นต่ำ (Global Minimum Tax) ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา | นร.13 | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการรองรับการเสียภาษีขั้นต่ำ
(Global Minimum Tax) ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา
โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
ดำเนินการให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๐ เพื่อเพิ่มเติมแหล่งเงินของกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
ในส่วนของเงินที่ได้รับการจัดสรรจากรายได้จากการจัดเก็บ Top-up Tax ตาม Pillar 2 และนำเสนอมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
โดยให้การสนับสนุนให้นักลงทุนที่มีการลงทุนหรือค่าใช้จ่ายที่นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและก่อให้เกิดการลงทุนอย่างยั่งยืนในประเทศ
ภายใต้พระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๐ ต่อคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
และนำเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบจากแนวทางการจัดเก็บภาษีรูปแบบใหม่
ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. ๒๕๒๐ ต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และให้กระทรวงการคลัง
โดยกรมสรรพากร ดำเนินการตามกฎหมาย และ/หรือกำหนดแนวทางการดำเนินการตามความเหมาะสม
เช่น การจัดเก็บ Top-up Tax ตาม Pillar 2 การจัดสรรรายได้จากการจัดเก็บ Top-up Tax
ให้แก่กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายในอัตราอย่างน้อยร้อยละ
๕๐ แต่ไม่เกินร้อยละ ๗๐ ของเงินรายได้ดังกล่าว และการจัดส่งข้อมูลผู้ชำระ Top-up
Tax ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ
และให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหารือในรายละเอียดการดำเนินการตามมาตรการฯ
ร่วมกับกรมสรรพากรให้ชัดเจน เหมาะสม
แล้วดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้
ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กรมสรรพากร
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นควรพิจารณาออกกฎระเบียบ
มาตรการอุดหนุน และมาตรการอื่น ๆ ที่มิใช่ภาษีที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรศึกษา
ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการ
รวมถึงสถานการณ์ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
สำนักงานคณะกรรมการส่ง เสริมการลงทุนและกรมสรรพากรควรร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมพัฒนาปัจจัยพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจและสังคมเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน
รวมถึงการติดตามและประเมินผลจากมาตรการการรองรับการเสียภาษีขั้นต่ำอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
ควรเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของกองทุนให้มีการนำเงินไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของกองทุนอย่างแท้จริง
และจะต้องจัดทำรายละเอียดข้อมูลการขอจัดตั้งกองทุน เสนอคณะกรรมการบริหารทุนหมุนเวียนตามนัยมาตรา
๑๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๕๘ และมาตรา ๖๓
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
151 | รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2565 และรายงานผลการติดตามการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2563 | ทส. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๕ และรายงานผลการติดตามการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุม ครั้งที่ ๕/๒๕๖๕
เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๕ ประกอบด้วย (๑) รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. ๒๕๖๕ เช่น สถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมรายสาขาที่มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นและที่ควรเฝ้าติดตาม
และข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งในระยะสั้น
(๑-๒ ปี) และระยะยาว (๑๐ ปี ข้างหน้า) และ (๒)
รายงานผลการติดตามการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๖๕ ข้อเสนอแนะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม ๕๒ หน่วยงาน
ได้ดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๔๖๘ โครงการ โดยแบ่งการดำเนินโครงการเป็น ๓
ด้าน คือ (๑) ด้านกฎหมายและนโยบาย (๒) ด้านการบริหารจัดการ และ (๓)
ด้านการสนับสนุน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
152 | ขอความเห็นชอบให้กรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม “ป่าสวนเมี่ยง” เนื้อที่ประมาณ 361 ไร่ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม นำไปดำเนินการตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม | กษ. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม
“ป่าสวนเมี่ยง” เนื้อที่ประมาณ ๓๖๑ ไร่ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
นำไปดำเนินการตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ที่เห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวจะต้องเป็นไปด้วยความถูกต้องและชัดเจนตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
รวมทั้งควรชี้แจงและทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้และเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน
และให้ดำเนินการแจ้งคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด)
เพื่อพิจารณานำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม “ป่าสวนเมี่ยง” เนื้อที่ประมาณ ๓๖๑
ไร่ (เฉพาะกรณี) ออกจากพื้นที่เป้าหมาย คทช. และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
กำกับ ดูแล สมาชิกสมาคมทหารผ่านศึกพิการแห่งประเทศไทย ให้ปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
153 | ขออนุมัติ (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2566 - 2570 | สพร. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
154 | รายงานผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และประชารัฐสวัสดิการใหม่ให้แก่ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ | กค. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบรายงานผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
ปี ๒๕๖๕ และกรอบระยะเวลาในการดำเนินโครงการฯ ปี ๒๕๖๕
โดยในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงกรอบระยะเวลาในการดำเนินการและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมพิจารณาปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ ให้รายงานคณะรัฐมนตรีทราบในโอกาสแรกด้วย รวมทั้งเห็นชอบการจัดสรรประชารัฐสวัสดิการใหม่
โดยมอบหมายให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเป็นผู้รับผิดชอบกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประชารัฐสวัสดิการสำหรับผู้ได้รับสิทธิ์ตามโครงการฯ
และผู้ที่ได้รับมอบอำนาจให้ใช้สิทธิ์แทน รวมถึงการกำหนดแนวทางการดำเนินการกับผู้ได้รับสิทธิ์ตามโครงการฯ
ที่กระทำผิดหลักเกณฑ์การจัดสรรประชารัฐสวัสดิการ รวมทั้งอนุมัติงบประมาณงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๙,๑๔๐.๓๕๑๑ ล้านบาท
ให้แก่กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเสนอ
สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ให้กระทรวงการคลัง
(สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง) ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการคลัง คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้ความสำคัญในเรื่องความพร้อมของการดำเนินการและประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการดังกล่าวให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทราบในโอกาสแรก
และควรมีการติดตามประเมินผลประสิทธิภาพการใช้จ่ายเงินเพื่อให้การจัดสวัสดิการตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่กำหนดไว้
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติให้ถูกต้อง
เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัดโดยให้ผู้ที่ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบข้อมูลการได้รับสิทธิเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนเองเท่านั้นตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ (เรื่อง โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) ๓.
ให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
155 | ขอทบทวนการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทาง เรื่อง ค่าบริการทางการแพทย์และเงินเหมาจ่ายช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล กรณีผู้บาดเจ็บจากสถานการณ์เหตุระเบิดแยกราชประสงค์ วันที่ 17 สิงหาคม 2558 ของกระทรวงสาธารณสุข | กค. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
156 | ขออนุมัติทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 เรื่อง อนุมัติให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ดำเนินงานก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) | คค. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
157 | ร่างเอกสารที่จะมีการรับรองและลงนามในระหว่างการประชุม The 1st Asia Zero Emission Community (AZEC) Ministerial Meeting | พน. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
158 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือภายใต้โครงการทุนการศึกษา Stipendium Hungaricum ประจำปี ค.ศ. 2023-2025 ระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกับกระทรวงการต่างประเทศและการค้าฮังการี | อว. | 21/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
159 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเว้นภาษีอากรสำหรับการร่วมทุนในบริษัท LNG Receiving Terminal (แห่งที่ 2) ณ บ้านหนองแฟบ ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง) | กค. | 21/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
160 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เรื่อง แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” | ทส. | 21/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||