ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 01/11/2559 | |||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ดังนี้
๑. การเตรียมการรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเข้าถวายบังคมพระบรมศพ ดังนี้ ๑.๑ ให้ศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจัดระเบียบการดำเนินการทุกกิจกรรมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งเรื่องการบริการอาหารและเครื่องดื่ม การดูแลไม่ให้มีการนำสิ่งของที่ผู้มีจิตศรัทธานำมาแจกจ่ายให้ประชาชนไปจำหน่ายต่อ การรักษาความสะอาด การกำจัดขยะ และการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ ให้ดำเนินการโดยละมุนละม่อม ๑.๒ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดหาที่พักชั่วคราวแก่ประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นอกเหนือจากบริเวณสนามหลวง เช่น บริเวณสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง และจัดรถรับส่งเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและลดปัญหาการจราจรด้วย ๑.๓ บริเวณจุดพักคอยสำหรับประชาชนบริเวณสนามหลวงที่ได้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั้น ให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำเสนอข้อมูลการดำเนินการของรัฐบาลในเรื่องต่าง ๆ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไปพร้อมกันด้วย เพื่อสร้างความรับรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชน ๒. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย สำรวจความต้องการใช้เครื่องมือและเครื่องจักรกลทางการเกษตรของเกษตรกรกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มเกษตรกรที่ทำการเกษตรแบบแปลงใหญ่ กลุ่มสหกรณ์การเกษตร เป็นต้น และให้การสนับสนุนเครื่องมือและเครื่องจักรกลทางการเกษตรแก่กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวตามลำดับความพร้อมในการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงเครื่องมือเครื่องจักรกลดังกล่าว นั้น ให้ขยายการดำเนินการให้ครอบคลุมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวจัดตั้งโรงสีของตนเองขึ้นในพื้นที่ด้วย เพื่อลดต้นทุนการผลิต และให้มีการประเมินผลความสำเร็จของการดำเนินการตามข้อสั่งการและรายงานนายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย ๓. การบริหารจัดการน้ำบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์ลงมาจนถึงอ่าวไทย ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๓.๑ ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำและประสบปัญหาอุทกภัยเป็นประจำ เช่น จังหวัดอ่างทอง จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น โดยแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และดูแลประชาชนให้ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวน้อยที่สุด รวมทั้งสร้างความรับรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืนที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ด้วย ๓.๒ ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยดำเนินการขุดลอกคูคลองต่าง ๆ เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้เร็วขึ้น รวมทั้งเร่งสำรวจและพิจารณาความเป็นไปได้ในการขุดคลองแห่งใหม่เพื่อใช้ประโยชน์ในการกักเก็บน้ำและการระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย ทั้งนี้ ให้ควบคุมดูแลการกักเก็บน้ำและการระบายน้ำให้เหมาะสมแก่สถานการณ์ด้วย ๓.๓ ร่วมกับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณพิจารณาจัดหาแหล่งเงินที่เหมาะสมเพื่อใช้ดำเนินการตามข้อ ๓.๒ โดยอาจขอความร่วมมือจากภาคเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ ๔. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันปรับปรุงกระบวนงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) เช่น การเริ่มประกอบธุรกิจ การขออนุญาตก่อสร้าง การบริการไฟฟ้า การจดทะเบียนทรัพย์สิน การเข้าถึงสินเชื่อ การคุ้มครองนักลงทุน การจ่ายและการคืนภาษี การค้าขายข้ามแดน การดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญา การล้มละลาย กฎหมาย และระเบียบที่โปร่งใส ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงาน ก.พ. ร่วมกันกำหนดตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์และเป้าหมายการดำเนินการที่ชัดเจนและเป็นสากล โดยอย่างน้อยต้องกำหนดให้อันดับของประเทศไทยใน Ease of Doing Business สูงขึ้นทุกปี ๕. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกส่วนราชการที่เสนอขอเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการต่อคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) พิจารณาทบทวนการเสนอขอเพิ่มอัตรากำลัง โดยคำนึงถึงภาระงบประมาณที่เป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรและปริมาณภารกิจเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดจ้างผู้มีคุณวุฒิพิเศษมาดำเนินภารกิจเฉพาะ รวมทั้งการจ้างพนักงานราชการเพื่อทดแทนการบรรจุข้าราชการด้วย นั้น ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับ คปร. พิจารณากำหนดกรอบอัตรากำลังบุคลากรภาครัฐทุกประเภทให้สอดคล้องและเหมาะสมกับภารกิจในอนาคต รวมทั้งปรับปรุงวิธีการสรรหาบุคลากรภาครัฐ โดยให้มีการจัดจ้างผู้ที่มีคุณวุฒิพิเศษหรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้ามาปฏิบัติงานเต็มเวลาหรือไม่เต็มเวลา (part time) ในช่วงระยะเวลาที่กำหนดตามความจำเป็นของภารกิจ สำหรับการจัดสรรอัตราว่างจากการเกษียณอายุของข้าราชการในแต่ละปี ให้พิจารณากำหนดสัดส่วนการรับบุคลากรภาครัฐที่เป็นข้าราชการประจำกับผู้มีคุณวุฒิพิเศษหรือผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้สอดคล้องกับกรอบอัตรากำลังที่กำหนดข้างต้นด้วย และให้รายงานผลต่อนายกรัฐมนตรีภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๙ ๖. การจัดงานแสดงสินค้า การประชุม การพบปะหารือกับผู้นำต่างประเทศต่าง ๆ ให้ส่วนราชการผู้รับผิดชอบหรือเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปด้วยว่า ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับผลประโยชน์ใดจากการดำเนินการดังกล่าวด้วย เช่น เป็นการเพิ่มโอกาสทางการค้า การเพิ่มรายได้ เป็นต้น ๗. ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดทำโครงการหรือกิจกรรมต่าง ๆ ใช้กลไกการจัดทำประชาคมเพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการคิดและการดำเนินการโครงการหรือกิจกรรมเหล่านั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ และให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่เพื่อประกอบการจัดทำและดำเนินโครงการอย่างจริงจังด้วย โดยการทำประชาคมและรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวนั้น ให้กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพในการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดทำโครงการหรือกิจกรรมกับประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และให้ถือว่าการจัดทำประชาคมและการรับฟังความคิดเห็นเป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินการในทุกโครงการและกิจกรรมด้วย
|
.....