ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 82 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 1621 - 1640 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1621 | การแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการกำกับกิจการพลังงาน (1. นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ฯลฯ จำนวน 8 คน) | พน. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการกำกับกิจการพลังงาน
จำนวน ๘ คน ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑. นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพลังงาน ๒. นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง ๓. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง ๔. นายพสุ โลหารชุน ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ๕. นายคมสัน เหล่าศิลปเจริญ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นผู้ประกอบกิจการพลังงาน ๖. นายขวัญชัย ลีเผ่าพันธุ์ ผู้แทนสภาวิศวกร ๗. นายพงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล ผู้แทนของอธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ๘. นายสมศักดิ์ สันธินาค ผู้แทนองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรในทางธุรกิจ ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงาน
(สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน)
รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1622 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (1. นายสำราญ สาราบรรณ์ ฯลฯ รวม 6 คน) | กษ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จำนวน ๖ ราย เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑. นายสำราญ สาราบรรณ์ ประธานกรรมการ ๒. นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ๓. นางสาวศิริพร บุญชู กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเกษตร ๔. นายรัตนะ สวามีชัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารจัดการ ๕. ผศ.ดร.ทวี
วัชระเกียรติศักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและกระบวนการเรียนรู้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1623 | รายงานการโอนงบประมาณรายจ่าย ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 51 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | นร.07 | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการโอนงบประมาณรายจ่าย ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๕๑ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๗ ในระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
และให้รายงานต่อรัฐสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1624 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | ยธ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศ พ.ศ. ....
เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป และเมื่อร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศฯ
มีผลใช้บังคับแล้ว จะได้พิจารณาเสนอแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้ใช้ถ้อยคำที่เป็นกลางทางเพศต่อไป
การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์
พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อรองรับการมีบุตรโดยใช้เทคโนโลยี ช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ของคู่สมรสที่มีความหลากหลายทางเพศ
ได้มีการแก้ไขกฎ ระเบียบ และแนวปฏิบัติเพื่อรองรับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศแล้ว
เช่น แนวทางการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศในสถานที่ควบคุม
และข้อบังคับเนติบัณฑิตยสภาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๖
ให้สมาชิกที่มีอัตลักษณ์ทางเพศ
หรือวิถีเพศไม่ตรงกับเพศโดยกำเนิดมีสิทธิแต่งกายตามเพศสภาพหรืออัตลักษณ์ทางเพศของตน
รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมจัดการอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรเกี่ยวกับกฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างต่อเนื่อง
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1625 | ร่างกฎกระทรวงการโอนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี เครื่องกำเนิดรังสี วัสดุนิวเคลียร์สถานประกอบการทางนิวเคลียร์ และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการโอนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
เครื่องกำเนิดรังสี วัสดุนิวเคลียร์ สถานประกอบการทางนิวเคลียร์
และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการโอนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี เครื่องกำเนิดรังสี
วัสดุนิวเคลียร์ สถานประกอบการทางนิวเคลียร์
และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1626 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... | นร.09 | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมการเรียนรู้
กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแบ่งส่วนราชการในกรมส่งเสริมการเรียนรู้
กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อกำหนดหน้าที่และอำนาจของแต่ละส่วนราชการให้เหมาะสมกับการดำเนินงานในปัจจุบัน
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงนาม
และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1627 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง ฯลฯ จำนวน 6 ราย) | กต. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและตำแหน่งที่จะว่าง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. นางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา
สาธารณรัฐออสเตรีย ๒. นายตุลย์ ไตรโสรัส ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ
กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ๓. นางสุพรรณวษา โชติกญาณ ถัง ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงโคเปนเฮเกน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก ๔. นายจุลวัจน์ นรินทรางกูร ณ อยุธยา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ๕. นายไกร มหาสันทนะ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายพงศ์ปราชญ์ มากแจ้ง ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1628 | รายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | ดศ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ โดยรายงานสถานะทางการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๕ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
และการบริหารกองทุนฯ ได้มีการจัดสรรงบประมาณของกองทุนฯ ไปใช้ในการดำเนินโครงการ/กิจกรรม
ดังนี้ ๑)
เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือหน่วยงานของรัฐและเอกชนหรือบุคคลทั่วไปในการดำเนินการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
จำนวน ๔๑ โครงการ วงเงิน ๒,๔๙๙.๑๐ ล้านบาท ๒) จัดสรรเงินให้กับสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
จำนวน ๑๑ โครงการ วงเงิน ๕๙๐.๙๐ ล้านบาท.และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จำนวน
๙ โครงการ วงเงิน ๑,๒๘๗.๓๒ ล้านบาท และ ๓)
สนับสนุนโครงการ/กิจกรรม เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทยในส่วนของการต่อยอดการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี
5G จำนวน ๘ โครงการ วงเงิน ๒๙๖.๖๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอรายงานดังกล่าวภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชีของทุกปีเพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เห็นว่ารายงานสถานะการเงินควรมีการแสดงรายละเอียดแผนการให้เงินสนับสนุนเทียบกับผลการเบิกจ่ายที่เกิดขึ้นจริงประจำปี
ทั้งในรูปของจำนวนเงินและอัตราส่วนที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านรายงานสถานะการเงินมีความเข้าใจได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น และรายงานประจำปีควรเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโครงการที่ส่งเสริม
สนับสนุน
หรือให้ทุนอุดหนุนไปในห้วงปีที่ผ่านมาว่าก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1629 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง และการคำนวณค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการสกัดกั้น หรือการปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น พ.ศ. .... | กห. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง
และการคำนวณค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการสกัดกั้น
หรือการปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าใช้จ่ายในการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นของผู้ควบคุมอากาศยานและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเพื่อปฏิบัติภารกิจการตรวจและพิสูจน์ฝ่ายการสกัดกั้น
การเคลื่อนย้ายอากาศยาน การเก็บรักษาอากาศยาน สิ่งของ และหลักฐาน
และการใช้อาวุธเพื่อปฏิบัติการทำลายอากาศยานเป็นค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องอันเกิดจากการสกัดกั้น
หรือการปฏิบัติการเพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น
และกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการสกัดกั้นหรือการปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร
เพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงคมนาคม เห็นว่าในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเดินทางตามข้อ
๒ (๒) และข้อ ๔ ของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวสามารถเทียบเคียงจากหลักเกณฑ์ และอัตราตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนดไว้สำหรับเดินทางไปราชการของเจ้าหน้าที่ทางฝ่ายทหารด้วยแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1630 | ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... | นร.09 | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสียใหม่ โดยยกเลิกกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๘ และแก้ไขชื่อ “คณะเทคโนโลยี” เป็น “คณะเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์”
เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจและการดำเนินงานในปัจจุบัน
โดยเป็นการปรับชื่อส่วนราชการระดับคณะที่มีอยู่เดิมให้สอดคล้องกับการจัดการเรียนการสอนและการพัฒนาทางวิชาการของสถาบันอุดมศึกษา
และสอดคล้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศให้มีประสิทธิภาพ
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1631 | การเร่งเสนอมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูประชาชนผู้ประสบอุทกภัย | นร. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐส่งเรื่องเกี่ยวกับมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบอุทกภัยไปที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เพื่อพิจารณาในภาพรวมโดยด่วน
ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป นั้น ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายลง
และกำลังอยู่ในช่วงการเยียวยาและฟื้นฟู จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือ
เยียวยา และฟื้นฟูประชาชนผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าวและเสนอไปยัง ศปช. โดยด่วน
เพื่อรวบรวมและพิจารณากลั่นกรองให้เหมาะสม ไม่ซ้ำซ้อน
และตอบสนองต่อสภาพปัญหาและความต้องการของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน
ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1632 | การต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติในรูปแบบหนังสือแลกเปลี่ยนสำหรับการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ (United Nations Regional Course in lnternational Law) ประจำปี 2567 | กต. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติ
ปี ๒๕๖๐ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ปี ๒๕๖๕
สำหรับการจัดการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ (United Nations Regional Course in International
Law) ประจำปี ๒๕๖๗ ระหว่างวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน - ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ณ
กรุงเทพมหานคร และอนุมัติให้เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก
สหรัฐอเมริกา หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ
ของฝ่ายไทยสำหรับการฝึกอบรมฯ ประจำปี ๒๕๖๗ โดยร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ มีสาระสำคัญเป็นการยอมรับในการต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติ
สำหรับการฝึกอบรมฯ ประจำปี ๒๕๖๗ มีวัตถุประสงค์เพื่ออบรมกฎหมายระหว่างประเทศให้แก่ผู้ที่มีภูมิหลังด้านกฎหมายหรือประสบการณ์ในการทำงานด้านกฎหมายระหว่างประเทศจากภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก
จำนวนไม่เกิน ๓๐ คน โดยไทยสามารถส่งผู้แทนเข้าร่วมการอบรมได้ จำนวน ๕ คน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรองรับค่าใช้จ่ายดังกล่าวไว้แล้ว สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศรวบรวมผลการปรับแก้ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ และผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องรายงานต่อคณะรัฐมนตรีทราบในคราวเดียวกัน
รวมทั้งสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ไทยจะได้รับด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1633 | การเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย NBSAP Accelerator Partnership | ทส. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย NBSAP Accelerator Partnership และเห็นชอบต่อร่างหนังสือ letter of support การเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย
NBSAP Accelerator Partnership โดยให้เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะหน่วยประสานงานกลางอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
เป็นผู้ลงนามในหนังสือ letter of support การเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายฯ
โดยร่างหนังสือฯ ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการดำเนินการเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
และขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านความหลากหลายทางชีวภาพระดับชาติของประเทศไทยที่มีความสอดคล้องกับเป้าประสงค์และเป้าหมายตามกรอบงานคุนหมิง
: มอนทรีออลว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของโลก
ยืนยันว่าประเทศไทยมีความยินดีในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย NBSAP
Accelerator Partnership และเห็นว่าการเข้าร่วมเครือข่ายฯ
จะช่วยเสริมสร้างการขับเคลื่อนการดำเนินงานและการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผน
ส่งเสริมความสอดคล้องกันในเชิงนโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพ
และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1634 | แถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 ครั้งที่ 27 | กค. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการต่อแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
+ ๓ (Joint Statement of the 27th ASEAN + 3 Finance Ministers’
and Central Bank Governors’ Meeting) (การประชุม AFMGM+3) ครั้งที่ ๒๗ เมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ณ เมืองทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย
โดยที่แถลงการณ์ร่วมฯ มีสาระสำคัญเพื่อแสดงถึงเจตนารมณ์ร่วมกันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
+ ๓ เพื่อสนับสนุนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ
และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของความร่วมมือทางการเงินของภูมิภาค ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1635 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกกับรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง ฉบับใหม่ | สกพอ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกกับรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง
ฉบับใหม่ และอนุมัติให้เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ
ฉบับใหม่ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ
มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง
เพื่อส่งเสริมการลงทุน ความเชื่อมโยงด้านต่าง ๆ
รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการวางแผนพัฒนา การบริหารจัดการ และในด้านอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมที่เห็นควรมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
(Green
Transportation) อย่างเป็นรูปธรรม
โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ
รวมทั้งส่งเสริมผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศให้มีความเข้มแข็ง
พึ่งพาสัดส่วนวัสดุอุปกรณ์ที่ผลิตได้ภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น
ตลอดจนให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี
เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นว่า ร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ฉบับใหม่ ไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา
๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1636 | ขอความเห็นชอบต่อร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับองค์การอนามัยโลกต่อการจัดการประชุมสุขภาพช่องปากโลก (WHO Global Oral Health Meeting) | สธ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1637 | (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านความหลากหลายทางชีวภาพระดับชาติ พ.ศ. 2566 - 2570 | ทส. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1638 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสราวุธ อ่อนละมัย และนายมนตรี ปาน้อยนนท์) | สธ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายสราวุธ อ่อนละมัย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
(นายเดชอิศม์ ขาวทอง) ๒. นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
[ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายเดชอิศม์
ขาวทอง)]
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1639 | การแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติว่าด้วยกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (Thai National Committee for International Humanitarian Law) | กต. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติว่าด้วยกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
(Thai National Committee
for International Humanitarian Law) อนุมัติองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการระดับชาติฯ
โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมสนธิสัญญาและกฎหมายและกรมองค์การระหว่างประเทศ
ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติฯ ต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1640 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์) | อว. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม
๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|