ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 801 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 16001 - 16020 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16001 | รายงานผลการจัดประชุม CIBJO CONGRESS 2017 และ WORLD RUBY FORUM 2017 | พณ | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการจัดประชุม CIBJO CONGRESS 2017 และ WORLD RUBY FORUM 2017 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศร่วมกับสมาพันธ์เครื่องประดับโลก (CIBJO) จัดการประชุมฯ ระหว่างวันที่ ๕-๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุม CIBJO CONGRESS 2017 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยสนับสนุนไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับภายในอีก ๕ ปี อีกทั้งช่วยยกระดับมาตรฐานสินค้าและภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย สร้างความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนไทยกับผู้มีชื่อเสียงและนักลงทุนจากนานาชาติ ส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยมีประเด็นสำคัญจากการประชุมฯ เช่น อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับตลอดห่วงโซ่อุปทานต้องให้ความสำคัญต่อความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) และการผลิตการค้าที่ยั่งยืน (Sustainability) คุณภาพมาตรฐานสินค้าอัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่าจะต้องมีการสื่อสารที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เป็นต้น ๒. การประชุม WORLD RUBY FORUM 2017 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับทับทิมที่ถูกต้องให้ผู้คนทั่วโลก รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าและความงามของทับทิม ซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ ๔ ของโลก โดยมีประเด็นสำคัญจากการประชุมฯ เช่น ไทยได้รับการยอมรับในฝีมือการปรับปรุงคุณภาพทับทิมให้สวยงามและมีคุณค่าเพิ่มขึ้น ภาคอุตสาหกรรมอาจสื่อสารคุณค่านี้ไปยังผู้บริโภค รวมถึงนำความเชื่อ ค่านิยม และวัฒนธรรมของคนในแต่ละประเทศมาเชื่อมโยงเข้ากับทับทิมเพื่อกระตุ้นความต้องการในตลาด เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16002 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 53/2560 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง | สลธ.คสช. | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕๓/๒๕๖๐ เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ลงวันที่ ๒๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16003 | สรุปผลการประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับ World Economic Forum | พณ | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมเชิงปฏิบัติการ Workshop on Competitiveness and Inclusive Growth : Navigating Towards Thailand 4.0 ณ ประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ซี่งกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ World Economic Forum (WEF) จัดการประชุมฯ ขึ้น โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับ (๑) การวิเคราะห์ผลการจัดอันดับความสามารถทางการแข่งขัน และการเจริญเติบโต อย่างทั่วถึง โดยผู้แทนจาก WEF เพื่อให้ไทยทราบจุดอ่อนจุดแข็ง และประเด็นที่ควรปรับปรุง เพื่อนำไปประกอบการกำหนดนโยบาย Thailand 4.0 (๒) การประชุมอภิปรายเพื่อระบุประเด็นการพัฒนาที่ไทยต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก (๓) การประชุมอภิปรายกลุ่มย่อยประเด็นความสามารถในการแข่งขัน ๕ กลุ่ม ได้แก่ การพัฒนาด้านสถาบันเพื่อให้มีธรรมาภิบาล การปรับ/ลดกฎระเบียบเพื่อสร้างความมีประสิทธิภาพของตลาดและสินค้า การสร้างความพร้อมทางเทคโนโลยี การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม และการพัฒนาทักษะ (๔) การประชุมอภิปรายกลุ่มย่อยประเด็นด้านการพัฒนาที่ทั่วถึง และ (๕) การอภิปรายด้านเทคนิคเกี่ยวกับการประเมินความสามารถในการแข่งขัน และเกณฑ์ชี้วัดใหม่ของ WEF (GCI 4.0) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการดำเนินการตามประเด็นในการพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน ๕ ด้าน ให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ได้แก่ ๒.๑ การพัฒนาด้านสถาบันเพื่อให้มีธรรมาภิบาล (Public Institutions) ๒.๒ การปรับ/ลดกฎระเบียบเพื่อสร้างความมีประสิทธิภาพของตลาดและสินค้า (Product Market Efficiency) ๒.๓ การสร้างความพร้อมทางเทคโนโลยี (Technological readiness & adoption) ๒.๔ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม (Innovation capacity) ๒.๕ การพัฒนาทักษะ (Skills) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมุ่งเน้นการพัฒนาด้านการศึกษาและบุคลากรของประเทศให้สอดคล้องกับความต้องการกำลังคนในประเทศในระยะ ๕-๑๐ ปีข้างหน้า
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16004 | การขอต่ออายุวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี (การเคหะแห่งชาติ) | พม | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ต่ออายุวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารออมสิน วงเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ออกไปอีกเป็นระยะเวลา ๓ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๑ ครบกำหนดวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๔ โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกัน ซี่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากที่คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติเห็นชอบให้ต่ออายุสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีจนถึงวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๑ เพื่อเป็นการสำรองวงเงินไว้สำหรับกรณีที่มีความจำเป็นและขาดแคลนเงินทุนหมุนเวียนในช่วงใดช่วงหนึ่ง และเพื่อมิให้การดำเนินงานต้องกระทบกระเทือนหรือหยุดชะงักลง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย กคช. รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเบิกจ่ายเงินกู้ดังกล่าวเท่าที่จำเป็นและสอดคล้องกับแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งให้ใช้จ่ายตามช่วงเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นเท่านั้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16005 | โครงการทุนการศึกษาต่อสำหรับนักเรียนกลุ่มโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย (โรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาค) ไปศึกษาต่อ ณ National Institute of Technology (KOSEN) ประเทศญี่ปุ่น | ศธ | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบโครงการทุนการศึกษาต่อสำหรับนักเรียนกลุ่มโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย (โรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาค) ในการศึกษาต่อในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ ณ National Institute of Technology (KOSEN) ของประเทศญี่ปุ่น สำหรับนักเรียนรุ่นที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ และนักเรียนรุ่นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายนักเรียนทุนในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๘ เห็นควรให้จัดสรรงบประมาณในกรอบวงเงิน ๑๐๙.๖๙ ล้านบาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ข้อเสนอแนะของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรมีการประเมินผลในระหว่างดำเนินดำเนินงานเพื่อการพัฒนาและขยายผลให้มากยิ่งขึ้นในระยะเวลาที่เหมาะสมต่อไป และในการสรรหาและคัดเลือกนักเรียนทุน ควรพิจารณาผู้ที่มีผลงานหรือโครงการในระดับมัธยมที่มีความสอดคล้องกับการพัฒนาด้านวิศวกรรม การพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ การพัฒนานวัตกรรม หรือแนวโน้มในการต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ประเทศกำลังมีความต้องการเพื่อพัฒนาไปสู่ประเทศไทย ๔.๐ รวมทั้งควรชี้แจงให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของโครงการ ระบบและรายละเอียดการศึกษา ตลอดจนการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีตามหลักสูตรดังกล่าวให้กับผู้ปกครองและผู้รับสมัครรับทุนทราบ นอกจากนี้ ควรให้ผู้รับทุนได้มีโอกาสเรียนรู้สังคม ภาษา วัฒนธรรมของไทย กิจกรรมสัมพันธ์ หรือปลูกฝังค่านิยมในการรับราชการ หรือการฝึกงานในประเทศไทยในช่วงปิดภาคการศึกษา หรือจัดสรรหน่วยงานต้นสังกัดให้กับผู้รับทุนก่อนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เพื่อช่วยให้ผู้รับทุนสามารถที่จะปรับตัวและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงควรที่จะขยายโครงการทำนองนี้ด้วยการเพิ่มจำนวนเงินและทุนการศึกษาให้มากขึ้น และขยายขอบเขตการคัดเลือกนักเรียนที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศให้กระจายครอบคลุมไปสู่กลุ่มนักเรียนด้านวิทยาศาสตร์ในสังกัดโรงเรียนทั่วไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๓.๑ กำหนดเงื่อนไขการรับทุนการศึกษาให้มีความชัดเจนและเหมาะสม โดยเน้นให้ผู้รับทุนให้ความสำคัญกับการกลับมาปฏิบัติงานจริงในภาคราชการหลังจากจบการศึกษา รวมถึงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อผูกพันต่าง ๆ ในการรับทุนการศึกษาดังกล่าวอย่างเคร่งครัดด้วย ๓.๒ พิจารณาความเป็นไปได้ในการสนับสนุนส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพสูงของประเทศญี่ปุ่น เช่น KOSEN เข้ามาจัดการศึกษาในประเทศไทยในสาขาที่ขาดแคลนและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทย เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและทำให้สามารถเพิ่มจำนวนผู้เข้ารับการศึกษาได้มากยิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16006 | ขออนุมัติเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐคีร์กีซประจำประเทศไทย และแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐคีร์กีซประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) (นางสาวปริม จิตจรุงพร) | กต | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ เปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐคีร์กีซประจำประเทศไทย และแต่งตั้ง นางสาวปริม จิตจรุงพร ให้ดำรงตำแหน่ง กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐคีร์กีซประจำประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16007 | การแต่งตั้งโฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายข้าราชการประจำ) | รง | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งโฆษกกระทรวงแรงงาน ซึ่งกระทรวงแรงงานได้มีการเปลี่ยนแปลงโฆษกกระทรวงแรงงาน จากเดิม นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็น นางเพชรรัตน์ สินอวย รองปลัดกระทรวงแรงงาน ตามคำสั่งกระทรวงแรงงานที่ ๓๕๐/๒๕๖๐ สั่ง ณ วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เรื่อง แต่งตั้งโฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายข้าราชการประจำ) ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16008 | ร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับคนพิการซึ่งไม่มีสัญชาติไทย) | กค | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับคนพิการซึ่งไม่มีสัญชาติไทย) มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่ผู้มีเงินได้ที่เป็นคนพิการซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่มีหนังสือรับรองความพิการจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และมีอายุไม่เกิน ๖๕ ปีบริบูรณ์ เฉพาะเงินได้ส่วนที่ไม่เกิน ๑๙๐,๐๐๐ บาทต่อปี ทั้งนี้ สำหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติต่อคนพิการซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16009 | ขอความเห็นชอบให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทอื่นลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายพระกุศลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 4 กรกฎาคม 2560 โดยไม่ถือเป็นวันลา | นร01 | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ รวมทั้งลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวของหน่วยงานรัฐ และพนักงานรัฐวิสาหกิจที่เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายพระกุศลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ลาอุปสมบทได้ไม่เกิน ๑๕ วัน โดยนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ ๑๓-๒๑ มกราคม ๒๕๖๑ โดยไม่ถือเป็นวันลา เสมือนการปฏิบัติราชการและได้รับเงินเดือนตามปกติ ๑.๒ ให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ รวมทั้งลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการหน่วยงานรัฐ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ไม่เคยลาอุปสมบทระหว่างรับราชการ หากได้ลาอุปสมบทเพื่อถวายพระกุศลฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้แล้ว ไม่มีผลกระทบถึงสิทธิในการลาอุปสมบทในอนาคต ซึ่งเป็นการให้สิทธิลาอุปสมบทครั้งแรกตั้งแต่เริ่มรับราชการ ตามระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยยังคงได้สิทธิการลาอุปสมบท และยังคงได้สิทธิในการรับเงินเดือนตามปกติตามพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑.๓ การใช้สิทธิตามมติคณะรัฐมนตรี ผู้ลาอุปสมบทจะต้องเข้าร่วมอุปสมบทในโครงการที่ส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชนร่วมกับคณะสงฆ์จัดขึ้นเป็นโครงการอย่างชัดเจน และมีการจัดอบรมตามหลักสูตรสำหรับผู้บวชระยะสั้นที่คณะสงฆ์กำหนด ภายในระยะเวลาที่กำหนดของโครงการ หากอุปสมบทเป็นเอกเทศ โดยไม่เข้าร่วมโครงการตามที่กำหนด จะไม่ได้รับสิทธิในการลา ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี งบรายจ่ายอื่น รายการค่าใช้จ่ายในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ จำนวน ๕,๗๙๐,๐๐๐ บาท ซึ่งได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีจนถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม ๒๕๖๑ แล้ว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16010 | ความต้องการงบประมาณของศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2560 - 31 มีนาคม 2561) | อื่นๆ | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๑ ภายในกรอบวงเงิน ๓๖๔,๒๕๕,๒๐๐ บาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม ๒๕๖๑ ตามที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16011 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 รวม 3 ฉบับ | สธ | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ รวม ๓ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างกฎกระทรวง การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท พ.ศ. .... (๒) ร่างกฎกระทรวง การขึ้นทะเบียนวัตถุตำรับที่มีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... และ (๓) ร่างกฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตให้ผลิตหรือนำเข้าตัวอย่างของวัตถุตำรับ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การขอออกใบแทนใบอนุญาตการนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท การขึ้นทะเบียนวัตถุตำรับที่มีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ และการขออนุญาตและการอนุญาตให้ผลิตหรือนำเข้าตัวอย่างของวัตถุตำรับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวง การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท พ.ศ. .... ไม่จำเป็นต้องกำหนดให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรต้องสลักหลังสำเนาใบอนุญาตดังกล่าว และส่งกลับมายังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เนื่องจากปัจจุบันกรมศุลกากรได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลใบอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์กับหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจผ่านระบบ National Single Window (NSW) ดังกล่าวแล้ว แต่เห็นว่าร่างกฎกระทรวงดังกล่าวยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์แต่อย่างใด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16012 | ขออนุมัติเช่ารถประจำตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน 1 คัน และขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ | อก | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี กรณีเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการต่ำกว่า ๕ ปี โดยดำเนินการเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมตามความจำเป็นและเหมาะสมกับเงื่อนเวลาของภารกิจในลักษณะของการจ้างเหมาบริการเป็นกรณีเฉพาะราย และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่าย หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ แล้วแต่กรณี โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16013 | การประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 2 | กต | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแผนปฏิบัติการระยะ ๕ ปี ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๒) และร่างปฏิญญาพนมเปญ สำหรับการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ ๒ โดยแผนปฏิบัติการฯ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกแม่โขง-ล้านช้าง เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานของกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ในระยะเวลา ๕ ปีข้างหน้า โดยอิงตามปฏิญญาซานย่า และมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อเพิ่มความกินดีอยู่ดีของประชาชน ลดช่องว่างการพัฒนาภายในภูมิภาคและการสร้างชุมชนแห่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในประเทศลุ่มแม่น้ำโขงและในอาเซียน โดยคำนึงถึงความต้องการในการพัฒนาของทุกประเทศสมาชิกบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ หลักฉันทามติ และความสมัครใจ ส่วนแผนปฏิบัติการฯ เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำของประเทศสมาชิกฯ โดยมีสาระที่อิงตามปฏิญญาซานย่า และแผนปฏิบัติการฯ ๑.๒ อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ ๒ (The 2nd Mekong-Lancang Leaders’ Meeting) ที่กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ในวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๑ และเป็นผู้ร่วมให้การรับรองแผนปฏิบัติการฯ และร่างปฏิญญาฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติการฯ และร่างปฏิญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16014 | โครงการบ้านฅนไทย | กค | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ กรอบการดำเนินโครงการบ้านฅนไทย ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ ประเภทที่อยู่อาศัย กลุ่มเป้าหมาย กรอบวงเงินโครงการ และรูปแบบ : โครงการการผ่อนชำระสู่การเช่าระยะยาว ๑.๒ ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน แยกบัญชีโครงการบ้านฅนไทย เป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) โดยไม่ขอรับการชดเชยจากรัฐบาลและขอนำผลกระทบรายได้และค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการบ้านฅนไทยมาปรับตัวชี้วัดทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ และขอไม่นับรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loans : NOLs) ที่เกิดจากการดำเนินโครงการฯ เป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของ ธอส. และธนาคารออมสิน (กรณี % NPLs ที่เกิดขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย NPLs ของธนาคารในภาพรวม) และขอนำผลกระทบต่อรายได้และค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการบวกกลับกำไรสุทธิเพื่อการคำนวณโบนัสพนักงาน ๒. ให้เปลี่ยนชื่อโครงการจากเดิม “โครงการบ้านฅนไทย” เป็น “โครงการบ้านคนไทยประชารัฐ” และให้กระทรวงการคลังดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าของการดำเนินการ มาตรฐานของที่อยู่อาศัยที่จะพัฒนาขึ้น และการตรวจสอบคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการฯ ให้มีความชัดเจน รวมทั้งควรคำนึงถึงการกระจายพื้นที่โครงการให้ครอบคลุมทั้ง ๖ ภาค การมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย และภาระหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องของวัตถุประสงค์การดำเนินโครงการฯ ตลอดจนความรับผิดชอบ และประโยชน์ที่ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับเป็นสำคัญ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และระยะเวลาการพิจารณาการจัดสรรที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านคนไทยประชารัฐ กรณีที่มีอุปทาน (supply) เหลือจากกลุ่มเป้าหมายที่ ๑ (ประชาชนที่อยู่ในทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐกับกระทรวงการคลัง) เพื่อพิจารณาให้กลุ่มเป้าหมายที่ ๒ (ประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน ๓๕,๐๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน) และกลุ่มเป้าหมายที่ ๓ (ประชาชนทั่วไป) ให้เหมาะสม ชัดเจน และประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ได้รับทราบอย่างถูกต้องและทั่วถึง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ดังกล่าวสามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้อย่างถูกต้องต่อไป ๔. ให้กระทรวงการคลังได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16015 | ขอให้พิจารณนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 54/2560 เรื่อง การจุดพลุในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่) | สลธ.คสช. | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕๔/๒๕๖๐ เรื่อง การจุดพลุในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ลงวันที่ ๒๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16016 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) (นางแน่งน้อย เวทยพงษ์) | วท | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางแน่งน้อย เวทยพงษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16017 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) (นายเฉลิมศักดิ์ จันทโร) | พน | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายเฉลิมศักดิ์ จันทโร เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16018 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) (นายอภิชัย สมบูรณ์ปกรณ์) | วท | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายอภิชัย สมบูรณ์ปกรณ์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16019 | การรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (จำนวน 2 ราย 1. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี 2. นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) | กต | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราขการได้ และในกรณีที่ไม่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ๑.๒ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ๒. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ เรื่อง การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16020 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ [รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายอุตตม สาวนายน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์)] | พณ | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ และในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามลำดับ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายอุตตม สาวนายน) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์)
|
.....