ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 783 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 15641 - 15660 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15641 | รายงานผลการดำเนินงานด้านสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ปี 2560 | พณ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานด้านสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือสินค้า GI (Geographical Indication : GI) ปี ๒๕๖๐ ประกอบด้วย การส่งเสริมและคุ้มครองสินค้า GI การส่งเสริมการจดทะเบียนสินค้า GI และการส่งเสริมการรับรองมาตรฐานสินค้า GI และสร้างโอกาสทางการตลาด ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย พิจารณาดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ ให้กำหนดเป้าหมายมูลค่าการตลาดของการจำหน่ายสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (สินค้า GI) ในปี ๒๕๖๑ เป็น ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท ๒.๒ ให้กำหนดมาตรการในการดำเนินการส่งเสริมการขึ้นทะเบียนและการจำหน่ายสินค้า GI เพื่อให้มีชนิดสินค้าและจำนวนผู้ประกอบการเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้า GI ที่เป็นผลผลิตทางการเกษตรชนิดต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานในพื้นที่พิจารณานำกลไกประชารัฐและกลไกไทยนิยม ยั่งยืน มาสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าวข้างต้นเพื่อสร้างแรงจูงใจและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการด้วย ๒.๓ ให้เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้และความนิยมเกี่ยวกับสินค้า GI ให้ทั่วถึงและต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15642 | ความคืบหน้าผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 เรื่อง การปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายของเด็กหรือเยาวชน ครั้งที่ 1 | ยธ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. ๒๕๕๗ เรื่อง การปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายของเด็กหรือเยาวชน ครั้งที่ ๑ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิรูประบบทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายของเด็กหรือเยาวชน มีผลการดำเนินการ ได้แก่ (๑) การปฏิรูปการเข้าสู่ระบบและค่านิยม (๒) การปฏิรูปหลักสูตรการฝึกอบรม (๓) การปฏิรูปค่าตอบแทนและสิ่งจูงใจพิเศษ และ (๔) การปฏิรูปการประเมินคุณภาพ ๒. การปฏิรูปด้านการประชาสัมพันธ์ อยู่ระหว่างจัดทำการประชาสัมพันธ์เชิงรุกในทุกเขตอำนาจของศาลจังหวัดเพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่าง ๆ ที่ทนายความและประชาชนมีส่วนได้เสียไปยังสาธารณะ ๓. การปฏิรูปด้านอื่น ๆ แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษารายละเอียดและผลกระทบที่เกี่ยวข้องในการผลักดันการแก้ไขข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการอบรม ระเบียบปฏิบัติของที่ปรึกษากฎหมาย การแจ้งและลบชื่อออกจากบัญชี พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อพิจารณาข้อเสนอเรื่องการกำหนดสัดส่วนคณะกรรมการกำกับดูแลที่ปรึกษากฎหมาย ตามข้อบังคับดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15643 | การแต่งตั้งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายเลี่ยว จวิ้นยหวิน (Mr. Liao Junyun)] | กต | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเลี่ยว จวิ้นยหวิน (Mr. Liao Junyun) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดขอนแก่น อำนาจเจริญ บึงกาฬ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ เลย มหาสารคาม มุกดาหาร นครพนม นครราชสีมา หนองบัวลำภู หนองคาย ร้อยเอ็ด สกลนคร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานี และยโสธร สืบแทน นายหลี่ หมิงกัง (Mr. Li Minggang) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15644 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (จำนวน 8 ราย 1. นายสมชาย ไวกิตติพงษ์ ฯลฯ) | สธ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๘ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายสมชาย ไวกิตติพงษ์ ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลยะลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๙ ๒. นายเจริญ เกียรติวัชรชัย ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลหาดใหญ่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๙ ๓. นายวิศิษฎ์ ประสิทธิศิริกุล ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มวิจัยและพัฒนาโรคเอดส์และโรคติดเชื้อสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๐ ๔. นายนพดล ไพบูลย์สิน ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานพัฒนารูปแบบการควบคุมโรค กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ๕. นายสมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ๖. นายสุรพร ลอยหา ดำรงตำแหน่ง สาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ ๗. นายไพศาล ธัญญาวินิชกุล ดำรงตำแหน่ง สาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ ๘. นางวิระวรรณ ถิ่นยืนยง ดำรงตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ด้านสุขาภิบาล) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15645 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....ซึ่งกระทรวงการคลังได้ดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แล้วโดยกระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเชิงรุกในการประชาสัมพันธ์โครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุซึ่งครอบคลุมถึงวัตถุประสงค์ในการจัดหาแหล่งเงินเข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อนำมาจ่ายเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดให้มีการประกันสุขภาพ การประกันอุบัติเหตุ และการประกันชีวิตให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์การออมที่มีประกันสุขภาพ และการประกันชีวิตให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยด้วย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15646 | การเสนอความเห็นการยุบเลิกทุนหมุนเวียนของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน | กค | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ยุบเลิกเงินทุนสำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา ตามมติคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน ครั้งที่ ๖/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๐ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรสนับสนุนงบประมาณแก่สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษาเพิ่มเติมตามความจำเป็น เพื่อให้สามารถบริหารงานในฐานะหน่วยบริการรูปแบบพิเศษได้อย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาคุณภาพการให้บริการงานพิมพ์แก่ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และประชาชน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15647 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง "ข้อเสนอเพื่อพัฒนาการจัดหน่วยงานของภาครัฐในรูปหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ (Service Delivery Unit : SDU)" ของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง “ข้อเสนอเพื่อพัฒนาการจัดหน่วยงานของภาครัฐในรูปหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ (Service Delivery Unit : SDU)” โดยสำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และที่ประชุมเห็นพ้องร่วมกันว่า การที่หน่วยบริการรูปแบบพิเศษมีสถานะไม่เป็นนิติบุคคล แต่เป็นหน่วยบริการภายในให้กับส่วนราชการ มิได้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานแต่อย่างใด เนื่องจากได้รับมอบอำนาจจากหัวหน้าส่วนราชการเจ้าสังกัด ทำให้มีอำนาจทำนิติกรรมและสามารถบริหารงานได้ตามกฎหมายกำหนด และหน่วยบริการรูปแบบพิเศษควรปรับระเบียบปฏิบัติให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น ไม่ยึดกรอบทางราชการเพื่อให้สามารถแข่งขันกับหน่วยงานอื่นได้ และได้ดำเนินการตามแนวทางที่คณะกรรมาธิการฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะแล้ว ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15648 | การลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ | ยธ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (Department of Special Investigation : DSI) และสำนักงานตำรวจแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ มีวัตถุประสงค์เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลและเสริมสร้างความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติในด้านต่าง ๆ เช่น การค้ามนุษย์ การลักลอบขนคนเข้าเมือง การฟอกเงิน เป็นต้น โดยมีกำหนดการลงนามที่กรุงเทพมหานคร ๑.๒ ให้อธิบดี DSI เป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ รวมทั้งให้กระทรวงยุติธรรม โดย DSI หารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาปรับแก้ไขหนังสือแสดงเจตจำนงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหากมีความจำเป็นต้องมีการแก้ไขในภายภาคหน้า โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงยุติธรรม (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้กระทรวงยุติธรรม (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเกี่ยวกับหนังสือแสดงเจตจำนงฯ ไม่มีการกล่าวถึงกฎหมายที่กำกับโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงเห็นควรสนับสนุนโดยขอให้พิจารณากฎหมายอื่นของไทยที่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15649 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 อาคารพักอาศัยแปลง G ครบรอบ 1 ปี | พม | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๗) ของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) โดยผลการดำเนินงานโครงการฯ ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๑) กคช. เริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารพักอาศัยแปลง G ได้ถึงร้อยละ ๔๕.๑๐ คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมิถุนายน ๒๕๖๑ ส่วนการดำเนินงานโครงการฯ ระยะที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๓) คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาเห็นชอบรายละเอียดโครงการฯ ระยะที่ ๒ แล้ว และจะเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป สำหรับการดำเนินงานโครงการฯ ระยะที่ ๓-๔ (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๗) อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15650 | ร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ชุดยกระดับการกำกับดูแลตลาดทุนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล) | กค | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาให้มีมาตรการควบคุม กำกับดูแลผลิตภัณฑ์ทางการเงินดิจิทัล (Crypto Currencies) และสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) รวมทั้งปรับปรุงกฎหมาย กฎเกณฑ์ และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรายงาน และให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการต่อไปโดยเร็ว ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับบทนิยามการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ การกำหนดทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทหลักทรัพย์ การเพิ่มเติมกลไกในการหาทางออกเพื่อแก้ไขปัญหาของบริษัทจดทะเบียนในกรณีที่ไม่สามารถใช้กลไกปกติได้ การจัดการกองทุนรวม การกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดทุน การจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (Capital Market Development Fund : CMDF) รวมทั้งปรับปรุงบทกำหนดโทษเพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินอื่น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๓. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลาและกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๔. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี (คณะพิเศษ) ที่เห็นควรให้กระทรวงการคลังพิจารณาดำเนินการปรับโครงสร้างของตลาดหลักทรัพย์โดยแยกบทบาทและอำนาจหน้าที่ให้ชัดเจนระหว่างการกำกับดูแล (Regulators) และการดำเนินการ (Operators) อันจะส่งผลให้การกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนให้มีประสิทธิภาพและมีความสอดคล้องมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุนไทยและเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในตลาดทุน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15651 | รายงานการชำระบัญชีของสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (สำนักงาน ก.ส.ล.) และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประทศไทย (AFET) | พณ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการชำระบัญชีของสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (สำนักงาน ก.ส.ล.) และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) โดยคณะกรรมการผู้ชำระบัญชีของ ก.ส.ล. และคณะกรรมการผู้ชำระบัญชีของ AFET ได้ดำเนินการจำหน่ายทรัพย์สินและชำระหนี้สิน รวมทั้งโอนทรัพย์สินคงเหลือของสำนักงาน ก.ส.ล. และ AFET ให้แก่กระทรวงการคลังแล้ว ดังนี้
๑. โอนทรัพย์สินคงเหลือของสำนักงาน ก.ส.ล. ให้แก่กระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้แผ่นดิน เป็นเงินจำนวน ๕,๒๗๓,๔๐๗.๒๗ บาท และมอบสมุด บัญชี และเอกสารทั้งหมดของสำนักงาน ก.ส.ล. ให้แก่กระทรวงพาณิชย์ ๒. โอนทรัพย์สินคงเหลือของ AFET ให้แก่กระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้แผ่นดิน เป็นเงินจำนวน ๑๖๒,๘๒๘,๖๗๙.๔๗ บาท และมอบสมุด บัญชี และเอกสารทั้งหมดของ AFET ให้แก่กระทรวงพาณิชย์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15652 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-อินเดียด้านการเกษตรและป่าไม้ ครั้งที่ 4 | กษ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-อินเดียด้านการเกษตรและป่าไม้ ครั้งที่ ๔ (4th ASEAN-India Ministerial Meeting on Agriculture and Forestry : AMMAF) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้เข้าร่วมการประชุมฯ ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๒ มกราคม ๒๕๖๑ ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยที่ประชุมฯ มีมติรับทราบผลการดำเนินงานตามแผนการดำเนินงานระยะกลาง ปี ๒๕๕๔-๒๕๕๘ และเห็นชอบให้มีความร่วมมือระหว่างอาเซียนและอินเดียในด้านการเกษตรและป่าไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความมั่นคงทางอาหาร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งการเสริมสร้างศักยภาพด้านการศึกษา การวิจัย และพัฒนาด้านการเกษตร และรับรองแผนการดำเนินงานตามแผนการดำเนินงานระยะกลาง ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓ โดยสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมการดำเนินงานตามแผนดังกล่าว และมีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและจัดลำดับความสำคัญของโครงการความร่วมมืออาเซียนและอินเดีย พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ เช่น การสร้างเครือข่ายระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย การส่งเสริมการลงทุน การแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ และนวัตกรรมด้านการเกษตร ป่าไม้ ประมง การดำเนินการตามกรอบนโยบายบูรณาการด้านความมั่นคงด้านอาหารของอาเซียน และแผนกลยุทธ์ความมั่นคงด้านอาหารของอาเซียน เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประชุมหารือกับอธิบดีศูนย์สารสนเทศแห่งชาติ กระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ของสาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งศูนย์ดังกล่าวมีการออกแบบโปรแกรมประยุกต์ที่สนับสนุนการดำเนินงานด้านการเกษตรหลายโปรแกรม เช่น โปรแกรมห้องปฏิบัติการตลาดค้าส่งของหน่วยงานของรัฐ ผู้ผลิตปุ๋ยและเมล็ดพันธุ์ เป็นต้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15653 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง "บุคลากรในกระบวนการดูแลผู้สูงอายุ" ของคณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง “บุคลากรในกระบวนการดูแลผู้สูงอายุ” โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้มีข้อเสนอแนะดังนี้ ๑) ข้อเสนอแนะด้านนโยบาย ได้แก่ ๑.๑) บุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรสนับสนุนทางการแพทย์ และ ๑.๒) ผู้ดูแลผู้สูงอายุ แบ่งออกเป็น ๑.๒.๑) มาตรฐานหลักสูตร ๑.๒.๒) มาตรฐานการประกอบอาชีพและเส้นทางอาชีพ และ ๒) ข้อเสนอแนะด้านกฎหมาย ได้แก่ ๒.๑) ผู้ดูแลผู้สูงอายุ และ ๒.๒) ผู้ประกอบอาชีพรับดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งสรุปผลการพิจารณาได้ว่า ประเด็นส่วนใหญ่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยและได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ แล้ว ยกเว้นในประเด็นการแก้ไขกฎหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ทั้งด้านการส่งเสริมดูแลและสงเคราะห์ผู้สูงอายุ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเห็นว่ากฎหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ให้อำนาจหน้าที่ในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายแต่อย่างใด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15654 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองตาก พ.ศ. .... | มท | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองตาก พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลไม้งาม ตำบลหนองบัวเหนือ ตำบลหัวเดียด ตำบลป่ามะม่วง ตำบลหนองหลวง ตำบลน้ำรึม ตำบลระแหง ตำบลแม่ท้อ ตำบลเชียงเงิน ตำบลวังหิน และตำบลหนองบัวใต้ อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้มีการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติ ควรให้มีการพิจารณาเพิ่มประเภทหรือชนิดโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ลำดับที่ ๘๘ ๑๐๑ ๑๐๕ และ ๑๐๖ ควรให้มีการจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน มีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรมบางประเภท และควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำหนดแนวเขตปฏิรูปที่ดินพร้อมทั้งสัญลักษณ์สีแดงแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน และพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแล ควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15655 | การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Health of the Kingdom of Bhutan) | สธ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเลื่อนการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Health of the Kingdom of Bhutan) ซึ่งเป็นบันทึกความเข้าใจฉบับเดียวกันกับที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๐ มีสาระสำคัญ เช่น การส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยกับภูฏาน เช่น การควบคุมโรค ความปลอดภัยของอาหาร การแพทย์แผนดั้งเดิม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศึกษาและวิจัยทางการแพทย์ เป็นต้น ซึ่งเดิมกำหนดการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๐ เป็นกำหนดการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15656 | รายงานผลการดำเนินโครงการพัฒนาด้านการเกษตร "โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน" และขออนุมัติขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายค่าจ้างแรงงาน | กษ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการดำเนินโครงการพัฒนาด้านการเกษตร "โครงการ ๙๑๐๑ ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน" ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวเสร็จสิ้นตามวัตถุประสงค์ของโครงการแล้ว จำนวนทั้งสิ้น ๒๔,๑๔๗ โครงการ สามารถเบิกจ่ายงบประมาณทั้งสิ้น ๑๙,๙๘๗.๐๓ ล้านบาท และมีผลประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น เกษตรกร จำนวน ๑.๕๖ ล้านราย ได้มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพัฒนาการเกษตรของชุมชน เกิดกระบวนการเรียนรู้จากการจัดทำโครงการต่าง ๆ และเกิดการกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจฐานรากก่อให้เกิดกระแสเงินทุนหมุนเวียนในภาพรวมเพิ่มขึ้น ๕๔,๐๔๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้เปลี่ยนชื่อโครงการดังกล่าว เป็น “โครงการเกษตรยั่งยืน ๑” ๒. อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายค่าจ้างแรงงานโครงการของชุมชน จำนวน ๕ ชุมชน ในพื้นที่อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร (ชุมชนเหล่าปอแดง ๑ และ ๒ โครงการปุ๋ยหมักจากผักตบชวา ชุมชนพังขว้าง โครงการเพาะเห็ดนางฟ้าในโรงเรือนชุมชนหนองลาด โครงการเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ และชุมชนโคกก่อง โครงการทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวา) จำนวนเงินทั้งสิ้น ๔,๕๖๘,๕๙๕ บาท โดยให้ดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินโครงการในระยะต่อไป ควรนำข้อสังเกตจากการประเมินผล และข้อเสนอแนะของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรไปปรับปรุงการดำเนินโครงการให้มีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืนมากขึ้น รวมทั้งพิจารณาชุมชนที่มีศักยภาพสำหรับต่อยอดการผลิตที่พัฒนาไปสู่สินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มและสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนมากขึ้น เช่น การผลิตสินค้าอินทรีย์ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีเกษตร เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15657 | ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศย | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดการบริหารงานบุคคลเกี่ยวกับผู้พิพากษาศาลยุติธรรมให้มีความเป็นอิสระและดำเนินการโดยคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา ๑๙๖ ประกอบมาตรา ๒๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งกำหนดให้คณะรัฐมนตรีเสนอกฎหมายในเรื่องนี้ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในหนึ่งปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ภายในวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๑) ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15658 | การเข้าเป็นภาคีพิธีสารแก้ไขอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ | คค | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีพิธีสาร ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) พิธีสารเกี่ยวกับการแก้ไขข้อ ๕๐ (เอ) ของอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (Protocol relating to an amendment to Article 50 (a) of the Convention on International Civil Aviation) ลงนาม ณ เมืองมอนตริออล เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และ (๒) พิธีสารเกี่ยวกับการแก้ไขข้อ ๕๖ ของอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (Protocol relating to an amendment to Article 56 of the Convention Civil Aviation) ลงนาม ณ เมืองมอนตริออล เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ มีสาระสำคัญเป็นการเพิ่มจำนวนสมาชิกคณะมนตรี จากเดิม ๓๖ ประเทศ เป็น ๔๐ ประเทศ และเพิ่มจำนวนสมาชิกคณะกรรมาธิการการเดินอากาศ จากเดิม ๑๙ คน เป็น ๒๑ คน ตามลำดับ เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนรัฐภาคีขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ที่เพิ่มขึ้นจาก ๑๖๒ ประเทศ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ และ ๑๘๕ ประเทศ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็น ๑๙๒ ประเทศ ในปัจจุบัน ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจัดทำสัตยาบันสาร (Instrument of Ratification) สำหรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารฯ ทั้งสองฉบับ และยื่นต่อเลขาธิการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศต่อไป ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรและสร้างแรงจูงใจในการเตรียมบุคลากรของไทยไปสู่เวทีระดับโลกด้านการบิน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15659 | ร่างกรอบความร่วมมือระหว่างไทยกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ฉบับปี ค.ศ. 2018-2021 | กษ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างกรอบความร่วมมือระหว่างไทยกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ฉบับปี ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๑ [The Kingdom of Thailand, Food and Agriculture Organization of the United Nations (FAO) Country Programming Framework (CPF) 2018-2021] และกิจกรรมหรือโครงการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นภายใต้กรอบความร่วมมือดังกล่าว มีสาระสำคัญเกี่ยวกับ (๑) การสนับสนุนของ FAO และผลลัพธ์ที่คาดหวังในประเทศไทยในประเด็นความปลอดภัยและมาตรฐานของอาหารได้รับการปรับปรุงเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคและเพื่อส่งเสริมการค้า สนับสนุนและเพิ่มโอกาสของการจัดการห่วงโซ่คุณค่าการผลิตสินค้าเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน (๒) การสนับสนุนความช่วยเหลือใต้-ใต้ หรือความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา และ (๓) การดำเนินการ การตรวจสอบ และรายงานความคืบหน้าของกรอบความร่วมมือ CPF ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการที่ไทยอาจใช้เครือข่าย FAO มาพัฒนาองค์ความรู้ในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ประโยชน์ในการทำเกษตร (Smart/Precision farming) สำหรับการกำหนดงบประมาณในแต่ละโครงการมีจำนวนไม่มาก ซึ่งการดำเนินงานโครงการส่วนใหญ่เป็นการดำเนินงานในเชิงลึก อาจทำให้การดำเนินงานไม่สามารถตอบสนองหรือบรรลุผลผลิตตามวัตถุประสงค์ได้ หากได้รับความช่วยเหลือจาก FAO ในการดำเนินการติดตามและตรวจสอบในรูปแบบของผู้เชี่ยวชาญ องค์ความรู้ หรือเทคโนโลยี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อขอรับความช่วยเหลือหรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในส่วนที่เกี่ยวข้อง และควรเผยแพร่ผลการดำเนินโครงการที่ได้รับความช่วยเหลือดังกล่าวด้วย นอกจากนี้การนำเสนอร่างกรอบความร่วมมือ CPF ในระยะต่อไป ควรนำเสนอผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นตามร่างกรอบความร่วมมือ CPF ฉบับปี ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๑ ให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างกรอบความร่วมมือ CPF ฉบับปี ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๑ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15660 | ขอความเห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยชีวจริยธรรม ครั้งที่ 26 [26th Session of the International Bioethics Committee of UNESCO (IBC)] และการประชุมคณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยจริยธรรมในความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 11 [11th Session of the World Commission on Ethics of Scientific Knowledge and Technology (COMEST)] ในปี 2562 | วท | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยชีวจริยธรรม ครั้งที่ ๒๖ [26th Session of the International Bioethics Committee of UNESCO (IBC)] และการประชุมคณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยจริยธรรมในความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ ๑๑ [11th Session of the World Commission on Ethics of Scientific Knowledge and Technology (COMEST)] ในปี ๒๕๖๒ ซึ่งการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการสะท้อนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมและกฎหมายที่เกิดจากการวิจัยทางด้านชีววิทยาศาสตร์และการประยุกต์ใช้ สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดและข้อมูลระหว่างประเทศสมาชิก รวมถึงเพื่อหารือการกำหนดโครงการทำงานเบื้องต้นในการแก้ปัญหาด้านจริยธรรมในความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสร้างโอกาสในการทำงานร่วมกันระหว่างคณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยชีวจริยธรรม (IBC) และคณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยจริยธรรมในความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (COMEST) และมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดการประชุมฯ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ทั้งนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาจใช้เวทีนี้ในการหารือจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับจริยธรรมด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ (Artificial Intelligence/Robotics) ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และการใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) เพื่อเสนอต่อ COMEST หรือนำไปต่อยอดในการศึกษาเชิงลึก ตามความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ในส่วนของกรอบงบประมาณการจัดประชุมฯ จำนวน ๑๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ภายในกรอบวงเงินดังกล่าวตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
.....