ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 781 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 15601 - 15620 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15601 | ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 พ.ศ. .... | นร07 | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พ.ศ. .... พร้อมเอกสารประกอบงบประมาณ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๑ วงเงินงบประมาณ ๑๕๐,๐๐๐ ล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินในการดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อรักษาทิศทางความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างยั่งยืน ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้นำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว พร้อมเอกสารประกอบงบประมาณ เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไป ๓. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15602 | รายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | นร07 | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐-๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ งบประมาณ จำนวน ๒,๙๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๑,๒๗๑,๖๙๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๔๓.๘๕ ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ ๑.๖๘ (เป้าหมายภาพรวมร้อยละ ๔๕.๕๓) จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ จำนวน ๒,๒๔๐,๒๑๙ ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๑,๑๓๐,๐๑๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๐.๔๔ สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ ๒.๒๑ (เป้าหมายรายจ่ายประจำร้อยละ ๔๘.๒๓) และรายจ่ายลงทุน จำนวน ๖๕๙,๗๘๑ ล้านบาท มีการก่อหนี้แล้ว จำนวน ๓๒๕,๔๕๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๔๙.๓๓ และเบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๑๔๑,๖๘๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๒๑.๔๗ ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ ๑๔.๘๗ (เป้าหมายรายจ่ายลงทุนร้อยละ ๓๖.๓๔) ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างเคร่งครัด ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15603 | ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 6 | คค | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๖ รวมทั้งท่าทีและความพร้อมของประเทศไทย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งจะมีการรับรองแถลงการณ์ร่วมฯ ในการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๖ ในวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๑ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงถ้อยคำหรือสาระสำคัญของร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ให้กระทรวงคมนาคมถือปฏิบัติตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) อย่างเคร่งครัด ดังนี้ ๑.๑ หากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้สามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ๑.๒ หากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวขัดหรือไม่สอดคล้องกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนดำเนินการ โดยห้ามมิให้แก้ไขก่อนที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบการปรับเปลี่ยนนั้น ๒. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15604 | ขออนุมัติผู้แทนรัฐบาลไทยลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการซื้อขายสะพานเครื่องหนุนมั่น (Modular Fast Bridge) จำนวน 1 ชุด | กห | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการซื้อขายสะพานเครื่องหนุนมั่น (Modular Fast Bridge) จำนวน ๑ ชุด ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งการลงนามในเอกสารการแก้ไขข้อตกลงดังกล่าวในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ๒. ให้กระทรวงกลาโหมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกยาน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15605 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสมชาย เสียงหลาย) [ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ)] | นร04 | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายสมชาย เสียงหลาย ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ มีนาคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15606 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร (จำนวน 7 คน 1. นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ฯลฯ) | อื่นๆ | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร แทนประธานกรรมการและกรรมการที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ รวม ๗ คน ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ มีนาคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ ดังนี้
๑. นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการ ๒. นางสาวบุษราภรณ์ กอบกิจพานิชผล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายสุเทพ นิ่มสาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายณรงค์ คองประเสริฐ กรรมการภาคเอกชน ๖. นายสรภพ เชื้อดำรง กรรมการภาคเอกชน ๗. นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการภาคเอกชน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15607 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (นางสาวสุทธาภา อมรวิวัฒน์) | วท | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวสุทธาภา อมรวิวัฒน์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านธุรกิจและการลงทุนในคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ แทน นายภักดี โพธิศิริ ที่พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากมีอายุครบ ๗๐ ปีบริบูรณ์ โดยให้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ มีนาคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15608 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ธุรกิจ และการบริการในคณะกรรมการสภาการศึกษา แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ (นายณรงค์ศักดิ์ ภูมิศรีสอาด) | ศธ | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบกรณี นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ธุรกิจ และการบริการในคณะกรรมการสภาการศึกษา พ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเนื่องจากลาออก เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ๑.๒ เห็นชอบแต่งตั้ง นายณรงค์ศักดิ์ ภูมิศรีสอาด เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ธุรกิจ และการบริการในคณะกรรมการสภาการศึกษา แทนผู้ที่ลาออก ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ มีนาคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าวในครั้งต่อไป ให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อให้การดำเนินการของคณะกรรมการเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ (เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15609 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม 2561 | นร | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รายงานว่า ได้รับการประสานจากคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การกำกับดูแลเครื่องกำเนิดรังสี) ซึ่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้เสนอ (นายเจตน์ ศิรธนานนท์ กับคณะ) ว่าหากคณะรัฐมนตรีไม่ขัดข้องในการเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะได้บรรจุในระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป โดยคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายเจตน์ ศิรธนานนท์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ส่วนใหญ่มีความสอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งอยู่ระหว่างการยกร่าง ส่วนประเด็นที่มีความแตกต่างสามารถไปพิจารณาในชั้นกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ จึงไม่ขัดข้องในการเสนอร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ โดยคณะรัฐมนตรีสามารถรับร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอมาพิจารณาก่อนรับหลักการ โดยให้รอการพิจารณาไว้ภายในกำหนด ๓๐ วัน เพื่อจะได้เสนอร่างพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอต่อไป ๒. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๑ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับข้อสังเกตไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15610 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำนินงานของศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม 2561) | นร | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15611 | ร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้ปิโตรเลียม) | นร | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15612 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน รวม 2 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลพานพร้าว และตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ) | กษ | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองแม่ไก่ ตำบลคำหยาด และตำบลทางพระ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลพานพร้าว และตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าทำการสำรวจพื้นที่ที่จะจัดทำเป็นโครงการจัดรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับการดำเนินการจัดรูปที่ดินตามแผนแม่บทการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15613 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ
๑. ด้านเศรษฐกิจ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้มีการบริโภคน้ำนมข้าวให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้สร้างการรับรู้เกี่ยวกับคุณประโยชน์จากการบริโภคน้ำนมข้าวเพื่อเป็นการส่งเสริมสินค้าที่แปรรูปมาจากข้าวและให้เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถบริโภคผลิตภัณฑ์นมที่มาจากสัตว์ด้วย นั้น มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางการส่งเสริมให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)/วิสาหกิจชุมชนผลิตและจำหน่ายน้ำนมข้าวให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ประกอบการเกี่ยวกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่มาจากข้าว เพื่อให้วิสาหกิจดังกล่าวมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ๑.๒ ให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาวิจัยคุณค่าทางโภชนาการของน้ำนมข้าว โดยอาจเปรียบเทียบกับผลงานวิจัยของต่างประเทศด้วย แล้วเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวให้ประชาชนผู้บริโภคได้ทราบโดยทั่วกันต่อไป ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงกลาโหม กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานในระดับท้องถิ่นเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อกำจัดขยะมูลฝอย กำจัดผักตบชวา และบำบัดน้ำเสียในแม่น้ำลำคลองในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝนที่จะมาถึง ทั้งนี้ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยที่ดีของประชาชน รวมถึงเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่เกิดจากสิ่งปฏิกูลกีดขวางทางน้ำด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15614 | รายงานผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | นร07 | 06/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๒,๙๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ไตรมาสที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม-๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๐ เบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๘๙๗,๗๖๘.๐๘ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓๐.๙๖ สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ ๐.๖๗ ๒. การประเมินผลสัมฤทธิ์งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พบว่า มีปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญ ได้แก่ (๑) ด้านการใช้จ่ายงบประมาณ เช่น รายการที่มีคุณลักษณะพิเศษ มีการประกวดราคาหลายครั้งเนื่องจากผู้รับจ้างขาดคุณสมบัติ ไม่มีผู้ยื่นเสนอราคาหรือมีผู้เสนอราคารายเดียว และการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ดำเนินการทำให้ต้องปรับปรุงรูปแบบรายการ และ TOR ให้สอดคล้องกับพื้นที่และวัตถุประสงค์การใช้งาน เป็นต้น และ (๒) ด้านการปฏิบัติงาน เช่น การประสบปัญหาอุทกภัยทำให้บางหน่วยงานไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามแผนที่กำหนดไว้ เป็นต้น ๓. สำนักงบประมาณมีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานทบทวนจัดทำแผนการปฏิบัติงานและรายงานการติดตามผลสัมฤทธิ์จากการปฏิบัติงาน และเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ รวมทั้งข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีที่ให้พยายามแก้ไขปัญหาต่อไป สร้างความเข้าใจหน่วยงานและสังคมไปด้วย ให้ร่วมกันแก้ไข
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15615 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 1/2561 : การส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อสังคม (Social Economy) สถาบันการเงินชุมชนกองทุนยุติธรรมและเครือข่ายอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม | นร04 | 06/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๑ ตามที่ กขร. เสนอ ซึ่งมีความคืบหน้าการดำเนินการใน ๕ ประเด็น สรุปได้ ดังนี้
๑. การส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ที่ประชุม กขร. มีมติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (ฉบับที่ ..) เพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓ เดือน (เมษายน ๒๕๖๑) และจัดลำดับเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญเพื่อเร่งรัดการพิจารณาในขั้นตอนต่าง ๆ ต่อไป ๒. การปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อสังคม (Social Economy) ที่ประชุม กขร. มีมติให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมดำเนินการตามบทบัญญัติมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ และเสนอเรื่องการจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนต่อคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน รวมทั้งดำเนินการตามขั้นตอนการเสนอร่างกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๑ ๓. สถาบันการเงินชุมชน : ร่างพระราชบัญญัติสถาบันการเงินประชาชน พ.ศ. .... ที่ประชุม กขร. มีมติให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเร่งรัดการพิจารณานำเสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบันการเงินประชาชน พ.ศ. .... ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ในวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ณ จังหวัดจันทบุรีต่อไป ๔. กองทุนยุติธรรม ที่ประชุม กขร. มีมติให้กระทรวงยุติธรรมเร่งรัดการดำเนินการเพื่อให้มีการใช้หนังสือรับรองการชำระเงินของกองทุนยุติธรรม เพื่อใช้เป็นหลักประกันในการขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลย และประชาสัมพันธ์เผยแพร่การดำเนินการของกองทุนยุติธรรม เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง ๕. เครือข่ายอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ที่ประชุม กขร. มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยพิจารณาโครงการเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในแต่ละภูมิภาค เพื่อนำเสนอ กขร. ในการประชุมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15616 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 13/2561 | นร | 06/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๓/๒๕๖๑ วันพฤหัสบดีที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๑
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15617 | รัฐบาลสาธารณรัฐเยเมนเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสาธารณรัฐเยเมนประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายอาดิล มุฮัมมัด อะลี บา ฮะมีด (Mr. Adel Mohamed Ali Ba Hamid)] | กต | 06/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอาดิล มุฮัมมัด อะลี บา ฮะมีด (Mr. Adel Mohamed Ali Ba Hamid) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเยเมนประจำประเทศไทย คนใหม่ สืบแทน นายอับดุลเลาะ โมฮาเมด อาลี อัล-มุนต์ซีร์ (Mr. Abdulla Mohamed Ali Al-Montser) โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15618 | การจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของไทยต่อประเด็นทะเลจีนใต้ | กต | 06/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของไทยต่อประเด็นทะเลจีนใต้ เพื่อเป็นกลไกในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ของไทยต่อการปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีฝ่ายต่าง ๆ ในทะเลจีนใต้ (Declaration on the Conduct of Parties in the South China Sea : DOC) การเจรจาจัดทำประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ (Code of Conduct in the South China Sea : COC) และโครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมและมีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้แทน เป็นรองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นอีกจำนวน ๒๗ คน โดยมีอธิบดีกรมอาเซียน เป็นกรรมการและเลขานุการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กลไกคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของไทยต่อประเด็นทะเลจีนใต้ดำเนินงานอย่างเห็นผลเป็นรูปธรรมในการขับเคลื่อนการปฏิบัติตามปฏิญญา DOC และผลักดันหลักการสำคัญของ COC โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมให้ทะเลจีนใต้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาที่ยั่งยืน ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจทางทะเลที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายและประเทศไทยอย่างเท่าเทียมกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15619 | ขอขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายสินเชื่อ "โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สำหรับผู้ประกอบกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)" | กค | 06/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายสินเชื่อโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สำหรับผู้ประกอบกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จากเดิม ให้ธนาคารออมสินเบิกจ่ายสินเชื่อให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๐ เป็น ให้ธนาคารออมสินเบิกจ่ายสินเชื่อให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๑ โดยการขยายระยะเวลาดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ภายใต้กรอบวงเงินเดิมที่ธนาคารออมสินได้รับอนุมัติไว้ ทั้งนี้ ให้ธนาคารออมสินร่วมกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการฯ เร่งรัดการเบิกจ่ายสินเชื่อให้ทันภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๑ เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ในการส่งเสริมการลงทุนในประเทศของผู้ประกอบการ SMEs ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ธนาคารออมสินร่วมกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้ทันภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๑ และดำเนินการปิดโครงการฯ ให้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับภาระงบประมาณที่รัฐบาลจะต้องชดเชยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น เห็นควรจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป รวมทั้งเห็นควรมีการติดตามและประเมินผลลัพธ์และผลกระทบการดำเนินโครงการฯ เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง และรายงานให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในฐานะหน่วยงานวางแผนและประสานการขับเคลื่อนการส่งเสริม SMEs รับทราบ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15620 | บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขและแพทยศาสตรศึกษาแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข | สธ | 06/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขและแพทยศาสตรศึกษาแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ซึ่งจะมีการลงนามระหว่างการเยือนสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๑ โดยบันทึกความเข้าใจฯ จะมีส่วนช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และมีส่วนช่วยในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านสาธารณสุขซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เช่น การพัฒนาระบบประกันสุขภาพ การผลิตยาและเครื่องมือทางการแพทย์ และการพัฒนาเวชศาสตร์ครอบครัว (โครงการหมอครอบครัว) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยกระทรวงการต่างประเทศไม่ต้องออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตามหลักการของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ [เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers)] ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ในกรณีมีความจำเป็นต้องจัดทำข้ออนุวัติการเพื่อรองรับการดำเนินงานของบันทึกความเข้าใจฯ ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดส่งร่างความตกลงให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
.....