ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 786 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 15701 - 15720 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15701 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถือว่าเป็นตลาดแบบตรง พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการวางหลักประกันการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | นร03 | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถือว่าเป็นตลาดแบบตรง พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการวางหลักประกันการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถือว่าเป็นตลาดแบบตรง และกำหนดจำนวนเงินหลักประกันที่ผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงต้องวางหลักประกันต่อนายทะเบียน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถือว่าเป็นตลาดแบบตรง พ.ศ. .... ควรแก้ไขให้ครอบคลุมถึงการขายสินค้าหรือบริการของผู้ประกอบธุรกิจที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ ในประเภทสหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ประมง สหกรณ์นิคม และกลุ่มเกษตรกร โดยไม่ถือว่าเป็นตลาดแบบตรงที่ต้องเข้าหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการวางหลักประกันการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง รวมทั้งควรมีแนวทางในการเฝ้าระวังในเรื่องคุณภาพของสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคจะได้รับ และควรแก้ไขถ้อยคำในร่างกฎกระทรวงดังกล่าว จาก “จดทะเบียน” เป็น “ขึ้นทะเบียน” เพื่อให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงที่กำหนดว่า หากผู้ประกอบการจะขอรับความช่วยเหลือจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต้องมาขึ้นทะเบียนสมาชิกกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภครับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานด้านการจดทะเบียนธุรกิจ และการพัฒนาช่องทางการค้าออนไลน์ทั้ง e-market place และ social media ต่าง ๆ ทำการประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ผู้ประกอบการโดยทั่วไปรับทราบและปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15702 | รายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 (ตุลาคม 2559 - กันยายน 2560) | กค | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ ๔ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (กรกฎาคม-กันยายน ๒๕๖๐) และปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (ตุลาคม ๒๕๕๙-กันยายน ๒๕๖๐) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ไตรมาสที่ ๔ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (กรกฎาคม-กันยายน ๒๕๖๐) สินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่ม ได้แก่ ผลไม้ น้ำหอมและเครื่องสำอาง นาฬิกาและอุปกรณ์ กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง สูท เสื้อ กระโปรง กางเกง สำหรับบุรุษ สตรี เด็กชาย เด็กหญิง และเนคไท สุราต่างประเทศ รองเท้าหนังและรองเท้าผ้าใบ แว่นตา ปากกา และอุปกรณ์ ไวน์ เครื่องประดับที่ทำด้วยคริสตัล กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ ผ้าทอทำด้วยขนสัตว์ ไฟแช็คและอุปกรณ์ ดอกไม้ และเครื่องแก้วชนิดใช้บนโต๊ะอาหารหรือใช้ตกแต่งภายในที่ทำด้วยคริสตัล มีมูลค่านำเข้า ๙๗๗.๖๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ๒๐.๐๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๒.๐๑ สินค้าที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด ๓ อันดับแรก ได้แก่ น้ำหอมและเครื่องสำอาง ผลไม้ กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง ๑.๒ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (ตุลาคม ๒๕๕๙-กันยายน ๒๕๖๐) สินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่ม มีมูลค่ารวม ๓,๗๔๕.๑๖ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ๒๙๒.๑๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๗.๒๔ สินค้าที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด ๓ อันดับแรก ได้แก่ น้ำหอมและเครื่องสำอาง ผลไม้ กระเป๋าและเข็มขัดหนัง ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยมาใช้ประกอบการพิจารณากำหนดแนวทางส่งเสริมการผลิตและเพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้กับสินค้าในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น น้ำหอม เครื่องสำอาง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15703 | รัฐบาลสาธารณรัฐมัลดีฟส์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมัลดีฟส์ประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายมุฮัมมัด นะชีด (Mr. Mohamed Nasheed)] | กต | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายมุฮัมมัด นะชีด (Mr. Mohamed Nasheed) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมัลดีฟส์ประจำประเทศไทย คนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร เป็นคนแรก สืบแทน นายมุฮัมมัด ซากิ (Mr. Mohamad Zaki) ซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมัลดิฟส์ประจำประเทศไทย คนล่าสุด ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายอักษรสาส์นตราตั้ง เมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15704 | รัฐบาลราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายเกส ปีเตอร์ ราเดอ (Mr. Kees Pieter Rade)] | กต | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเกส ปีเตอร์ ราเดอ (Mr. Kees Pieter Rade) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายกาเริล โยฮันเนิส ฮาร์โตค (Mr. Karel Johannes Hartogh) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15705 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. ....) | มท | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดชลบุรี เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15706 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม พ.ศ. .... | กษ | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๙ และกำหนดกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุมขึ้นใหม่ เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้มีคุณภาพและป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรืออันตรายต่อผู้บริโภคหรือกิจการของผู้อื่น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นควรเพิ่มการเพาะเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิช (Crayfish) ทุกชนิด การเพาะเลี้ยงปูทะเลทุกชนิด และการเพาะเลี้ยงจระเข้ทุกชนิดในอันดับ CROCODYLIA เป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุมตามกฎกระทรวงฉบับนี้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15707 | ขอแจ้งรายชื่อโฆษกกระทรวงพาณิชย์และรองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ | พณ | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเปลี่ยนแปลงโฆษกกระทรวงพาณิชย์ จากเดิม นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร เป็น นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ และเปลี่ยนแปลงรองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ จากเดิม นางสาวรัตนา เธียรวิศิษฎ์สกุล และนางวิไลวรรณ ทัพวงศ์ศรี เป็น นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เพื่อให้การดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ของกระทรวงพาณิชย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ตามคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ ที่ ๕๖/๒๕๖๑ เรื่อง การแต่งตั้งโฆษกกระทรวงพาณิชย์และรองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ สั่ง ณ วันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15708 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... | มท | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้ผู้เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงดังกล่าว และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด รวมทั้งพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ลุ่มน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรม พิจารณามิให้เป็นอุปสรรคต่อการจัดสร้างระบบรวบรวมหรือระบบบำบัด/กำจัดมลพิษ รวมทั้งควรจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเผยแพร่ต่อสาธารณะให้ทราบว่ามีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นไปแล้วเท่าใด และควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแล และควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15709 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2560 | ทส | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นเรื่องเชิงนโยบายที่สำคัญและได้ข้อยุติแล้ว จำนวน ๔ เรื่อง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. รายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก นครราชสีมา ระยะที่ ๒ (เพื่อขยายโอกาสใช้พลังงานสะอาดและลดมลภาวะในภาคขนส่งและอุตสาหกรรมเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง) ครั้งที่ ๒ ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ที่อำเภอสูงเนิน อำเภอปักธงชัย อำเภอโชคชัย และอำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ๒. โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา (ช่วงชุมทางบ้านภาชี-นครราชสีมา) (ภายใต้โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ๓. แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๔. การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๙-๒๕๔๐ (กรณีจัดซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย เทศบาลเมืองเลย จังหวัดเลย) เนื่องจากเทศบาลเมืองเลยยังไม่ได้ก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย ประกอบกับสภาพพื้นที่ตามแนวเขตท่อ และจุดพักน้ำเสียจากการศึกษาออกแบบ ได้เปลี่ยนแปลงไปสำหรับการจัดการน้ำเสียในเขตเทศบาลเมืองเลย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15710 | ขออนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทยต่ออายุสัญญาเงินกู้ วงเงิน 800 ล้านบาท ออกไปอีก 1 ปี | คค | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต่ออายุสัญญาเงินกู้ วงเงิน ๘๐๐ ล้านบาท กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ต่อไปอีก ๑ ปี ตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๓๙ (๔) เพื่อให้ รฟท. สามารถดำเนินงานและให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดตามความเหมาะสม สำหรับการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการค้ำประกันเงินกู้ให้ รฟท. ขอความเห็นชอบต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ รฟท. เร่งดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๕ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของการให้บริการ เน้นการเพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์จากทรัพย์สินให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งควบคุมและลดรายจ่ายเพื่อบรรเทาสภาวะการขาดสภาพคล่องทางการเงินในระยะยาว นอกจากนี้ รฟท. ควรใช้จ่ายเงินกู้ดังกล่าวตามช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อเป็นการสร้างวินัยทางการเงินการคลังและลดภาระต้นทุนทางการเงิน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแลให้ รฟท.ดำเนินการตามแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง ขออนุมัติกู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑) อย่างเคร่งครัดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15711 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กับหน่วยงานต่างประเทศ | ยธ | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติ (๑) ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับหน่วยบัญชาการสอบสวนทางอาญา (Scientific Investigation Laboratory, Criminal Investigation Command : CIC) กระทรวงกลาโหม สาธารณรัฐเกาหลี (๒) ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์บริการแห่งชาติ (National Forensic Service : NFS) กระทรวงบริหารจัดการสาธารณะและความมั่นคง สาธารณรัฐเกาหลี และ (๓) ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับสถาบันนิติเวชศาสตร์แห่งรัฐวิกตอเรีย (The Victorian Institute of Forensic Medicine : VIFM) เครือรัฐออสเตรเลีย มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความร่วมมือทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อยกระดับคุณภาพงานตรวจพิสูจน์ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และหน่วยงานต่างประเทศทั้ง ๓ หน่วยงาน จะมีความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ เช่น การแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่อศึกษาหาความรู้ การฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ การพัฒนาวิธีการวิเคราะห์ การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ เป็นต้น ๑.๒ อนุมัติให้ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจทั้ง ๓ ฉบับดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจทั้ง ๓ ฉบับดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15712 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา พ.ศ. .... | มท | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลเกาะยาวน้อย อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา เพื่อประโยชน์ในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นควรตรวจสอบรายละเอียดแผนที่ท้ายกฎกระทรวงฯ แนวเขตปฏิรูปที่ดิน และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ และควรพิจารณารายละเอียดของมาตรการและข้อกำหนดเกี่ยวกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งควรมีการจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเผยแพร่ต่อสาธารณะ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเพิ่มเติมเงื่อนไขในการจัดตั้งโรงงานบางประเภท การสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแล และควบคุมใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15713 | ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร10 | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สายงานวิศวกรรมรังวัด ระดับเชี่ยวชาญ เป็นสายงานและระดับที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาการ ในอัตรา ๙,๙๐๐ บาท ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น เห็นควรให้ดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานเป็นลำดับแรก และเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15714 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาข้อเสนอแนะและแนวทางการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. .... ของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการแรงงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการแรงงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เกี่ยวกับแนวทางการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. .... ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยได้แก้ไขเพิ่มเติมตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ เช่น การแก้ไขบทนิยามของ “ผลิตภัณฑ์สมุนไพร” การเพิ่มองค์ประกอบของคณะกรรมการสมุนไพรแห่งชาติ โดยเพิ่มองค์กรภาคเอกชนเป็นกรรมการ เป็นต้น และในบางประเด็นได้ยืนยันตามร่างพระราชบัญญัติฯ ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว เช่น บทนิยามคำว่า “ผู้รับอนุญาต” การกำหนดหน่วยงานที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ เป็นต้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15715 | ขออนุมัติหลักการเช่ารถประจำตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 2 คัน รถประจำตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 1 คัน และรถประจำตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 2 คัน | กษ | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่ารถประจำตำแหน่ง จำนวน ๔ คัน ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๖ วงเงินทั้งสิ้น ๑๓,๔๑๓,๖๐๐ บาท ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นกรณีเฉพาะราย ประกอบด้วย (๑) ค่าเช่ารถประจำตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน ๒ คัน วงเงินรวม ๙,๑๘๐,๐๐๐ บาท และ (๒) ค่าเช่ารถประจำตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน ๒ คัน วงเงินรวม ๔,๒๓๓,๖๐๐ บาท ๒. ให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จากแผนงานพื้นฐานด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผลผลิตอำนวยการและบริหารจัดการด้านการเกษตร จำนวน ๘๒๓,๖๘๐ บาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๑๒,๕๘๙,๙๒๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖ โดยให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนให้สอดคล้องกับวงเงินตามสัญญาต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความจำเป็นอย่างเหมาะสม อันสอดคล้องกับเงื่อนเวลาของภารกิจดังกล่าว และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15716 | สรุปภาพรวมดัชนีราคาปี 2560 และแนวโน้มปี 2561 | พณ | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปภาพรวมดัชนีราคาปี ๒๕๖๐ และแนวโน้มปี ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ดัชนีราคาสำคัญ ปี ๒๕๖๐ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ) สูงขึ้นร้อยละ ๐.๖๖ ดัชนีราคาผู้ผลิต สูงขึ้นร้อยละ ๐.๗ และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง สูงขึ้นร้อยละ ๑.๙ ๒. ภาวะเศรษฐกิจจากดัชนีราคา ปี ๒๕๖๐ ราคาสินค้าอุปโภคโดยเฉลี่ยสูงขึ้นจากปี ๒๕๕๙ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง และราคาเกี่ยวกับการตรวจรักษา การศึกษา และยานพาหนะ ราคาอาหารสดผันผวนตลอดปี โดยเฉพาะช่วงก่อนและหลังอุทกภัย โดยเฉลี่ยราคาลดลงทั่วประเทศ เนื่องจากอุปทานที่ออกมาจำนวนมาก สะท้อนจากราคาที่ผู้ผลิตขายหน้าฟาร์มลดลง เช่น ปาล์ม ผัก ไก่ และสุกร ราคาอาหารสำเร็จรูป อาหารบริโภคในบ้านและนอกบ้านสูงขึ้น โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร และเมืองท่องเที่ยว เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และราคาส่วนประกอบและเครื่องปรุงอาหารที่สูงขึ้น ๓. ดัชนีราคาระดับภูมิภาค และรายจังหวัด เดือนมกราคม-พฤศจิกายน ๒๕๖๐ พบว่าภาคใต้เป็นพื้นที่ที่ราคาสินค้าทุกประเภทเพิ่มสูงขึ้นมากว่าภาคอื่น โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค เนื่องจากอยู่ในภูมิภาคที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ตามด้วยภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคอื่น ๆ ในขณะที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีราคาอาหารสดที่ลดลงมากกว่าภาคอื่น ๆ เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญ ๔. สัดส่วนการใช้จ่ายของประชาชน ปี ๒๕๖๐ พบว่าค่าใช้จ่ายครัวเรือนเฉลี่ยทั้งประเทศ คิดเป็น ๒๐,๓๔๗ บาทต่อเดือน ค่าใช้จ่ายของครัวเรือนที่มีรายได้น้อย คิดเป็น ๑๑,๕๐๗ บาทต่อเดือน และค่าใช้จ่ายของครัวเรือนในชนบท คิดเป็น ๑๔,๙๓๖ บาทต่อเดือน ๕. แนวโน้มเงินเฟ้อ ปี ๒๕๖๑ กระทรวงพาณิชย์ประมาณการไว้ที่ร้อยละ ๐.๗-๑.๗ ต่อปี ภายใต้สมมุติฐาน GDP ของไทยขยายตัวร้อยละ ๓.๖-๔.๖ ราคาน้ำมันดิบดูไบ ๕๕-๖๕ ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน ๓๒-๓๔ บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งได้ปรับตามค่าแรงขั้นต่ำที่จะมีผลในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๑ ที่เพิ่มขึ้น ๑๐.๕ บาททั่วประเทศ ซึ่งส่งผลทำให้ต้นทุนราคาสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ ๐.๕ อย่างไรก็ตาม สมมุติฐานดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสแรก ๖. จากดัชนีราคาสำคัญในปี ๒๕๖๐ มาตรการช่วยเหลือของภาครัฐในด้านต่าง ๆ ทั้งการดูแลราคาสินค้าและการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการประชารัฐ รวมถึงการส่งเสริมสินค้าอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคของร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเป็นการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยได้อีกทางหนึ่ง และสามารถขยายการดำเนินการ โดยเพิ่มประเภทสินค้าที่เกี่ยวกับอาหารและเร่งกระจายร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ (Mobile unit) สำหรับประชาชนทั่วไป อาจต้องหามาตรการลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทาง ค่าพาหนะ และเคหสถานต่อไปในอนาคต
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15717 | รายงานดัชนีภาวะการค้าภาคบริการของไทยเดือนธันวาคม 2560 | พณ | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานดัชนีภาวะการค้าภาคบริการของไทยเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ดัชนีภาวะการค้าภาคบริการของไทยเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ อยู่ที่ระดับ ๑๐๖.๖ สูงขึ้นร้อยละ ๕.๘ (YoY) เป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๑๑ ติดต่อกัน และรวมทั้งปี ๒๕๖๐ ดัชนีภาวะการค้าภาคบริการ (Trade in Services Performance and Potential Index : TSPPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๔ (YoY) ซี่งสะท้อนถึงสถานการณ์การค้าภาคบริการที่ยังอยู่ในระดับดี ๒. ดัชนีภาวะการค้าภาคบริการรายสาขาเกือบทุกสาขาปรับตัวดีขึ้นในเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ โดยเฉพาะสาขาอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวร้อยละ ๒๔.๑ สาขาการเงินและการประกันภัยขยายตัวร้อยละ ๑๓.๗ สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหารขยายตัวร้อยละ ๑๐.๑ และสาขาการขายส่งและขายปลีกขยายตัวร้อยละ ๙.๓ ที่มีอัตราการขยายตัวดีกว่าดัชนีรวม ๓. แนวโน้มภาวะการค้าภาคบริการในปี ๒๕๖๑ คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับสาขาบริการที่มีศักยภาพ และแนวโน้มการขยายตัวได้ดี ได้แก่ สาขาอสังหาริมทรัพย์ สาขาบริการทางการเงิน สาขาสุขภาพ และสาขาขายส่งและการขายปลีก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15718 | รายงานผลการประชุมทวิภาคีไทย - ลาว เรื่อง ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 16 | ยธ | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมทวิภาคีไทย-ลาว เรื่อง ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ ๑๖ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๐-๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งมีพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ โดยประเด็นสำคัญของการประชุมฯ เช่น (๑) การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารผ่านกลไกความร่วมมือต่าง ๆ อาทิ โครงการสกัดกั้นยาเสพติด ณ ท่าอากาศยานสากลอาเซียน ศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย สำนักงานประสานงานปราบปรามยาเสพติดชายแดน (Border Liaison Offices : BLO) (๒) การสนับสนุนความร่วมมือภายใต้โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ (Letter of Agreement : LoA) (๓) การเห็นชอบให้สำนักงาน BLO ไทย-ลาว เพิ่มการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์ยาเสพติดตามพื้นที่ชายแดน (๔) การส่งผลการวิเคราะห์ยาเสพติดพร้อมด้วยรูปภาพให้ฝ่ายไทยแทนการส่งตัวอย่างยาเสพติด (๖) การฝึกอบรมให้ความรู้เพิ่มขีดความสามารถให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในสำนักงาน BLO และ (๗) การสกัดกั้นยาเสพติด เคมีภัณฑ์ และสารตั้งต้น รวมทั้งการจับกุมนักค้ายาเสพติดตามแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย ๖ ประเทศ ระยะเวลา ๓ ปี (๒๕๕๙-๒๕๖๑) และแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยตอนล่าง ๓ ประเทศ ระยะเวลา ๒ ปี (๒๕๖๐-๒๕๖๑) เป็นต้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15719 | การเปลี่ยนสถานะของมูลนิธิศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (Asian Disaster Preparedness Center-ADPC) เป็นองค์การระหว่างประเทศ (ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย พ.ศ. ....) | กต | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการออกกฎหมายเพื่อรองรับและคุ้มครองการดำเนินงานของศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎบัตรของศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำสัตยาบันสาร เพื่อให้กฎบัตรของศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชียมีผลผูกพันต่อไป ทั้งนี้ ให้ยื่นสัตยาบันสารเมื่อร่างพระราชบัญญัติฯ ได้ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว ๓. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านภัยพิบัติภาครัฐร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคประชาชนดำเนินการเชิงรุกในการเสริมสร้างศักยภาพของประชาชนและเตรียมความพร้อมอย่างมีระบบด้านการบรรเทาและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ไปพิจารณาดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15720 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้แก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัตินี้และมีข้อสังเกตเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการอนุญาต การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐแห่งอื่นปฏิบัติหน้าที่แทนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม การแก้ไขเพิ่มเติมนิยามหรือกำหนดให้ชัดเจน การให้ผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนและชุมชนที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน การจัดทำหรือทบทวนกฎหมายลำดับรอง การศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการตั้งหน่วยงานกลางในการจัดทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการเพิ่มอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
.....