ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 753 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 15041 - 15060 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15041 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารออมสิน (นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข) | กค | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) เป็นกรรมการในคณะกรรมการธนาคารออมสิน แทน นายประภาศ คงเอียด ที่ขอลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15042 | ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี | นร04 | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๔๕/๒๕๖๑ เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ในส่วนของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ ๑.๓.๑๘ “๑.๓.๑๘ คณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน” ๒. ในส่วนของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ ๖.๕.๕ “๖.๕.๕ รองประธานกรรมการในคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน”
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15043 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561) | นร | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15044 | พิธีสารเพื่อแก้ไขภาคผนวก 2 และภาคผนวก 5 ของความตกลงการค้าเสรีไทย - ออสเตรเลีย (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561) | นร | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอพิธีสารเพื่อแก้ไขภาคผนวก ๒ และภาคผนวก ๕ ของความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15045 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตร) [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561)] | นร09 | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตร) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15046 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (หลักเกณฑ์การไต่สวนมูลฟ้อง การพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำเลย และค่าธรรมเนียม) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561) | นร | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (หลักเกณฑ์การไต่สวนมูลฟ้อง การพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำเลย และค่าธรรมเนียม) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15047 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านสังคม ๑.๑ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น เพื่อดำเนินการกวดขันและจับกุมการเล่นการพนันที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการพนันให้สอดคล้องกับสภาวการณ์การเล่นการพนันในปัจจุบัน เช่น การจัดการพนันและเล่นการพนันออนไลน์ เป็นต้น และดำเนินการต่อไปโดยด่วน ๑.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น ศึกษาและพัฒนาความร่วมมือด้านนวัตกรรมและการวิจัยกับประเทศที่มีศักยภาพในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการทำการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น รัฐอิสราเอล เพื่อนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาปรับใช้ในการพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการเพิ่มผลผลิต และมูลค่าสินค้าทางการเกษตรของไทย ทั้งนี้ ให้เผยแพร่องค์ความรู้ดังกล่าวไปสู่เกษตรกรเพื่อต่อยอดและนำไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพต่อไปด้วย ๑.๓ ให้กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวชาวเวียดนามเข้ามาประกอบอาชีพในประเทศไทยในสาขาที่มีความจำเป็นเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่กำหนดไว้แล้วในปัจจุบันในงานกรรมกร ในกิจการก่อสร้าง และกิจการประมงทะเล ๒. ด้านเศรษฐกิจ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับพืชเกษตรอย่างครบวงจร จำแนกเป็น พืชเศรษฐกิจ (ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา อ้อย และข้าวโพด) พืชเพื่อการพาณิชย์ พืชเพื่อการบริโภค โดยแสดงให้เห็นถึงการดำเนินการที่เกี่ยวกับพืชแต่ละชนิดดังกล่าว ตลอดจนห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เช่น พื้นที่การเพาะปลูก กระบวนการผลิต กระบวนการแปรรูป การจำหน่าย ความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ แนวโน้มราคาผลผลิต เป็นต้น และให้นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการสร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปให้ถูกต้องและทั่วถึงเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการทำการเกษตรของเกษตรกรได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยนำเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรีภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๑ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15048 | ขอให้เร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับการฟ้องร้องคดี | นร | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อเป็นการรักษาประโยชน์ของรัฐและเป็นการป้องกันความเสียหายใด ๆ อันอาจเกิดขึ้นจากการที่ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการฟ้องร้องคดีต่าง ๆ จึงมีมติให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ดังนี้
๑. ในส่วนของคดีเกี่ยวกับการดำเนินโครงการจำนำข้าวเปลือก ซึ่งมีทั้งคดีความอาญาและคดีความแพ่งซึ่งใกล้จะหมดอายุความและอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อฟ้องร้องคดี นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร) และกระทรวงพาณิชย์ (องค์การคลังสินค้า) เร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จทุกคดีโดยเร็ว แล้วส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดอย่างช้าสุดภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๑ เพื่อดำเนินการฟ้องร้องคดีให้ทันภายในกำหนดอายุความ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีคดีใดที่ส่วนราชการเจ้าของเรื่องมีประเด็นที่เห็นควรจะประนีประนอม ยอมความ ไกล่เกลี่ย หรือตกลงให้เป็นไปตามคำร้องขอของคู่ความ ส่วนราชการเจ้าของเรื่องจะดำเนินการเช่นนั้นได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายก่อน แล้วแต่กรณี ๒. ในส่วนของคดีความอื่น ๆ นอกเหนือจากข้อ ๑ ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งที่เป็นเจ้าของเรื่องตรวจสอบและเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้การดำเนินการฟ้องร้องคดีทันภายกำหนดอายุความของคดีนั้น ๆ ทั้งนี้ หากส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐใดปล่อยปละละเลยจนคดีขาดอายุความ จะถือเป็นความบกพร่องของหัวหน้าส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐนั้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15049 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม 4 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม 3 ฉบับ) | อก | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถยนต์และส่วนพ่วง ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถยนต์เชิงพาณิชย์และส่วนพ่วง ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถจักรยานยนต์และโมเปด และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลม : ข้อกำหนดด้านเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุน ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง ๔ ฉบับ ได้แก่ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถยนต์และส่วนพ่วง ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถยนต์เชิงพาณิชย์และส่วนพ่วง ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถจักรยานยนต์และโมเปด ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลม : ข้อกำหนดด้านเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุน ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเร่งรัดดำเนินการโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ณ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการช่วยยกระดับมาตรฐานและการวิจัยที่นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าและการสร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์และยางล้อของประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15050 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม พ.ศ. .... | มท | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม พ.ศ. ... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม ในท้องที่ตำบลท่าสองคอน ตำบลเกิ้ง ตำบลตลาด ตำบลแก่งเลิงจาน ตำบลเขวา และตำบลแวงน่าง อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม เพื่อประโยชน์ในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดแนวเขตปฏิรูปที่ดินและสัญลักษณ์สีแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไว้ในแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน และมีข้อกำหนดให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไว้ในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมือง รวมทั้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงดังกล่าว และเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด โดยคำนึงถึงการควบคุมการก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เป็นอุปกสรรคกับการระบายน้ำในพื้นที่ ควรพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อมและพื้นที่ชุ่มน้ำ ควรจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเผยแพร่ต่อสาธารณะให้ทราบการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นไปแล้วเท่าใดและใช้ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานในการกำหนดผังเมืองรวมฉบับที่จะมีการปรับปรุงของแต่ละเมือง ควรให้มีการยกเว้นให้สามารถติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนขนาดเล็กเพื่อสนับสนุนภาคการเกษตรและใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ได้ ควรเพิ่มประเภทโรงงานและกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรมบางประเภท และควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแลและควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาฐานเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชนให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15051 | ผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2561 | นร | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ โดยผลการประชุมฯ มีเรื่องสำคัญ ๕ เรื่อง ได้แก่ (๑) ปรับปรุงกระบวนการจัดทำแผนงาน โครงการ และงบประมาณ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบ (๒) แผนงานโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ปี ๒๕๖๒-๒๕๖๕ (๓) โครงการระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ในจังหวัดหนองบัวลำภู (๔) การปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๕๐ และ (๕) การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ ด้านนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามผลการประชุมฯ ต่อไป โดยรายละเอียดของงบประมาณในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ตามแผนงานเร่งด่วน ให้หน่วยงานพิจารณาดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ก่อนเป็นลำดับแรก สำหรับโครงการตามแผนงานโครงการขนาดใหญ่ และโครงการสำคัญ ปี ๒๕๖๒-๒๕๖๕ โครงการที่มีความพร้อม สำนักงบประมาณได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ รองรับไว้แล้วบางส่วน ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการสำรวจ ออกแบบ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการ โดยพิจารณาถึงความจำเป็น เหมาะสม ประโยชน์ที่จะได้รับ และเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณตามแผนที่กำหนดไว้ในแต่ละปีตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการปฏิบัติตามนัยของกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ระยะที่ ๒ เห็นควรให้ดำเนินการตามแนวทางการขอจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ.ร. ที่ นร ๑๒๐๐/ว๑๓ ลงวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๐ เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ ไปดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ในกรณีเรื่องใดที่เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีในการให้ความเห็นชอบหรืออนุมัติ ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งรัด/ขับเคลื่อนการดำเนินงานและโครงการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบที่มีความจำเป็นเร่งด่วน โครงการตามพระราชดำริที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และโครงการตามแผนงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดที่มีความพร้อมและได้รับอนุมัติงบประมาณแล้ว ให้แล้วเสร็จโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15052 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารเรียนและปฏิบัติการคณะอุตสาหกรรมเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง | ศธ | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารเรียนและปฏิบัติการคณะอุตสาหกรรมเกษตร จากเดิมจำนวน ๑๐๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็นจำนวน ๑๐๗,๔๘๓,๔๐๐ บาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการก่อหนี้ผูกพันหรือจ่ายเงิน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนัยมาตรา ๓๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15053 | ร่างกฎกระทรวงการให้เจ้าของเรือประมงที่ใช้สนับสนุนเรือที่ใช้ทำการประมงหรือเรือขนถ่ายสัตว์น้ำถือปฏิบัติ พ.ศ. .... | กษ | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการให้เจ้าของเรือประมงที่ใช้สนับสนุนเรือที่ใช้ทำการประมงหรือเรือขนถ่ายสัตว์น้ำถือปฏิบัติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้เจ้าของเรือประมงที่ใช้สนับสนุนเรือที่ใช้ทำการประมงหรือเรือขนถ่ายสัตว์น้ำถือปฏิบัติเพื่อประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบ ควบคุม และเฝ้าระวังการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมที่เห็นควรปรับปรุงถ้อยคำในข้อ ๕(๔) ของร่างกฎกระทรวงฯ เป็น “แจ้งงดการใช้เรือตามกฎหมายว่าด้วยเรือไทย โดยแนบสำเนาที่เกี่ยวข้องมาด้วย” เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติเกี่ยวกับการงดใช้เรือตามที่กฎหมายว่าด้วยเรือไทยบัญญัติไว้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรร่วมกันประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการเรือประมงเข้าใจถึงความจำเป็นในการดำเนินการตามร่างกฎกระทรวงฯ และพิจารณาแนวทางสนับสนุนผู้ประกอบการในช่วงที่มีการปรับเปลี่ยนหรือติดตั้งระบบติดตามเรือใหม่ รวมทั้งพัฒนาระบบติดตามเรือให้มีความเสถียร ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15054 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาข้อเสนอเชิงนโยบาย เรื่อง โครงการคูปองพัฒนาครูของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง โครงการคูปองพัฒนาครูของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นด้วยกับข้อเสนอเชิงนโยบายของคณะกรรมาธิการฯ และได้ดำเนินการตามข้อเสนอแล้ว เช่น มีการร่วมพัฒนาระหว่างเครือข่ายมหาวิทยาลัยกับโรงเรียน มีระบบการติดตามผลจากการพัฒนาหลักสูตรโดยหน่วยงานของคุรุสภาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมออยู่ทุกจังหวัด เป็นต้น และมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมว่า ควรมี Big Data ที่สามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับครูและวิทยฐานะทั้งหมด ควรจะมี Platform ที่สามารถใช้งานได้ทั้งประเทศโดยสามารถใช้ได้ร่วมกันทุกหน่วยงาน รวมทั้งควรศึกษาและทดลองนำร่องโครงการและติดตามประเมินผลโครงการในเบื้องต้นว่า มีความเหมาะสมและคุ้มค่าที่จะดำเนินการต่อไปหรือไม่ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15055 | ขอรับการพิจารณาบำเหน็จประจำปี (2 ขั้น) นอกเหนือโควตาปกติให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการพิจารณาบำเหน็จประจำปี (๒ ขั้น) นอกเหนือโควตาปกติให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และให้ฝ่ายความมั่นคง คณะรักษาความสงบแห่งชาติรับไปพิจารณาทบทวนรายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การพิจารณาบำเหน็จให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรมอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15056 | แนวทางพัฒนางานวัฒนธรรมเพื่อสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนท้องถิ่น ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 | วธ | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางพัฒนางานวัฒนธรรมเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนท้องถิ่น ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ โดยกระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับภาคประชารัฐกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ ได้จัดทำแนวทางพัฒนางานวัฒนธรรมฯ มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างคนดี สังคมดี สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ บนฐานทรัพยากรทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ วิถีชีวิตและภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยกำหนดประเด็นการพัฒนาไว้ ๔ ด้าน ได้แก่ (๑) การพัฒนาศักยภาพแหล่งประวัติศาสตร์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม (๒) การพัฒนาผลิตภัณฑ์และส่งเสริมกิจกรรมทางวัฒนธรรม (๓) การส่งเสริมศิลปินพื้นบ้าน และ (๔) การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้รวบรวมแผนงาน/โครงการ ที่สำคัญและเห็นควรได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔ จำนวน ๗๗ โครงการ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๗๗๐,๑๓๗,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15057 | การต่ออายุสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีของสำนักงานธนานุเคราะห์ | พม | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ต่ออายุสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารออมสิน วงเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ของสำนักงานธนานุเคราะห์ ออกไปอีกเป็นเวลา ๒ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ เพื่อเป็นเงินทุนสำรองหมุนเวียนรับจำนำและสำหรับใช้จ่ายในการบริหารการเงินให้เกิดสภาพคล่องในกิจการ โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสำนักงานธนานุเคราะห์ รับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับหนี้เงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีดังกล่าว จะชำระคืนด้วยรายได้ของสำนักงานธนานุเคราะห์ที่ไม่เป็นภาระต่องบประมาณหรือภาระทางการคลัง จึงไม่ต้องดำเนินการตามมาตรา ๒๗ และ ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15058 | ขออนุมัติผ่อนผันการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการก่อสร้างและเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารหอประชุม พร้อมรายการประกอบ จังหวัดอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | ศธ | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารหอประชุม พร้อมรายการประกอบ จังหวัดอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จากวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณไว้เดิม จำนวน ๒๗๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็นจำนวน ๒๘๔,๗๘๐,๐๐๐ บาท โดยใช้เงินรายได้ของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีสำหรับวงเงินค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากสัญญาเดิม จำนวน ๑๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท ได้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ทั้งนี้ การก่อหนี้ผูกพันหรือจ่ายเงิน มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนัยมาตรา ๓๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ รวมถึงการตรวจสอบกรณีที่ไม่ได้ดำเนินการตามนัยของระเบียบดังกล่าว และความรับผิดชอบของข้อคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้น เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีในโอกาสแรกด้วย ๒. การดำเนินการแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ในครั้งต่อไป ให้กระทรวงศึกษาธิการกำชับให้หน่วยงานในสังกัดถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐) ที่กำหนดให้ในขั้นตอนการริเริ่มโครงการให้ส่วนราชการตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการนั้น ๆ อย่างละเอียดรอบคอบ ให้ถูกต้อง ครบถ้วนในทุกมิติก่อน อย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15059 | สรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนล่าง 2 | นร11 | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางและข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในการปฏิบัติราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ (จังหวัดกำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร และอุทัยธานี) ระหว่างวันที่ ๓๑ พฤษภาคม-๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ ซึ่งมีประเด็นการพัฒนาและข้อสั่งการ ได้แก่ (๑) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกระบวนการผลิตข้าวและสินค้าเกษตรปลอดภัยที่ได้รับมาตรฐาน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ (๒) การส่งเสริมการแปรรูป การตลาด และการกระจายสินค้าเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน (๓) การพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวตามมาตรฐานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และ (๔) ประเด็นอื่น ๆ เช่น การติดตามสถานการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ การตรวจติดตามโครงการป่าชุมชนบ้านไตรคีรี การตรวจติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรในพื้นที่ประสบภัยแล้ง และเยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนเด็กปฐมวัยในโรงเรียนของรัฐ เป็นต้น และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสั่งการไปพิจารณาดำเนินการ แล้วรายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15060 | ผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกร เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 | นร11 | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกร เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ (จังหวัดกำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร และอุทัยธานี) ระหว่างวันที่ ๓๑ พฤษภาคม-๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ (๑) ด้านการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพครบวงจร (Bio Hub) อย่างยั่งยืน (๒) ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร (๓) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (๔) ด้านโครงสร้างพื้นฐาน และ (๕) ด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนการปรับปรุงสนามบินเกษตรนครสวรรค์เพื่อเป็นสนามบินเชิงพาณิชย์ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าว แล้วรายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งต่อ ๆ ไป ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกร เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ประสานงานกับภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพของภาค กลุ่มจังหวัด และจังหวัด ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคมเพื่อนำมาเป็นข้อมูลหลักสำหรับจัดทำข้อเสนอในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกลุ่มจังหวัดและจังหวัด โดยข้อเสนอดังกล่าวต้องมีความเชื่อมโยงกับโครงการ/แผนงานตามนโยบายของรัฐบาลทั้งโครงการ/แผนงานที่รัฐบาลได้ดำเนินการแล้วหรืออยู่ระหว่างดำเนินการ ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
.....