ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 528 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 10541 - 10560 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
10541 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา (FEALAC FMM) ครั้งที่ 9 ณ สาธารณรัฐโดมินิกัน และเอกสาร Santo Domingo Declaration | กต | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา [Forum for East Asia-Latin America Cooperation : FEALAC FMM (Foreign Ministers Meeting)] ครั้งที่ ๙ ระหว่างวันที่ ๗-๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ สาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งที่ประชุมฯ ได้มีการรับรองปฏิญญากรุงซันโตโดมิงโก “๒๐ ปี : ปฏิบัติการใหม่เพื่ออนาคตที่ดีกว่า” (Santo Domingo Declaration “20 Years : New Actions for a Better Future”) และเห็นชอบการปรับปรุงข้อกำหนดเงื่อนไขกองทุน FEALAC เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกเสนอโครงการได้โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก ๒ ใน ๓ ของคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุน และการจัดประชุมระดับผู้นำสมัยพิเศษ (Special Commemorative Summit) ในโอกาสที่เหมาะสม นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้มีการหารือในประเด็นอื่น ๆ กับผู้แทนคิวบา โดยเห็นพ้องที่จะส่งเสริมและขยายความร่วมมือในมิติที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะสาขาการแพทย์และอุตสาหกรรมยา การพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การโรงแรมและการท่องเที่ยว ซึ่งฝ่ายคิวบาประสงค์จะรับองค์ความรู้จากไทย ตลอดจนการสนับสนุนซึ่งกันและกันในเวทีระหว่างประเทศ รวมทั้งหารือกับผู้แทนโดมินิกันเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา และความร่วมมือทางวิชาการในด้านการพัฒนาทุนมนุษย์ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10542 | รายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำหรับปีบัญชี 2562 | อก | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำหรับปีบัญชี ๒๕๖๒ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ของ กนอ. เสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีความเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของปี ๒๕๖๒ ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญ ตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10543 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงานศาลยุติธรรม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 | ศย | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงานศาลยุติธรรม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า รายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10544 | รายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | สตง | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การตรวจเงินแผ่นดิน ประกอบด้วย การตรวจสอบการเงิน การตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย และการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพการดำเนินงาน ๒. การดำเนินการด้านความผิดวินัยการเงินการคลังของรัฐ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินได้เห็นชอบระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินว่าด้วยการพิจารณาวินิจฉัยความผิดวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๒ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๒ ๓. การดำเนินการด้านความผิดวินัยทางงบประมาณและการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการติดตามผู้กระทำความผิดที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินสั่งลงโทษปรับทางปกครอง ซึ่งต้องชำระค่าปรับทางปกครอง จำนวน ๑๒๓ ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๒๐.๖๔ ล้านบาท และได้ชำระค่าปรับทางปกครองครบถ้วนแล้ว ๒๘ ราย จำนวนเงิน ๔.๐๖ ล้านบาท ๔. การสร้างความรู้ความเข้าใจและตอบข้อสอบถามให้แก่หน่วยรับตรวจ โดยได้สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงานและการบริหารการเงินการคลังและงบประมาณแผ่นดินให้แก่หน่วยรับตรวจและหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน ๓๒๑ หน่วยงาน ๓๕๗ เรื่อง รวมทั้งได้ตอบข้อสอบถามของหน่วยรับตรวจเกี่ยวกับการปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ หรือเรื่องที่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ๕. การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มีผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ เช่น การจัดทำและพัฒนาระบบจัดเก็บสำเนารายงานการตรวจสอบเพื่อใช้ในการรวบรวมผลงานการตรวจสอบของทุกลักษณะงานจากทุกสำนักตรวจสอบในรูปแบบของไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ (PDF) และการพัฒนาระบบสารสนเทศและฐานข้อมูล “ระบบการเชื่อมโยงข้อมูลสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือกับกรมบัญชีกลาง (e-Contract)” เป็นต้น ๖. ความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น ได้รับคัดเลือกเป็นผู้แทนขององค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดแห่งเอเชีย (ASOSAI) ในการดำรงตำแหน่งองค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดระหว่างประเทศ (INTOSAI Governing Board) และเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมในระดับนานาชาติ จำนวน ๔ ครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10545 | รายงานประจำปี 2562 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๒ คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (กพยช.) ตามที่ กพยช. เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม กพยช. ได้จัดทำแนวทางการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม ซึ่งสามารถสรุปสภาพปัญหาและแนวทางเป็น ๓ ส่วน ได้แก่ (๑) การยกระดับคุณภาพการให้บริการด้านกระบวนการยุติธรรมเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน (๒) การส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมขั้นพื้นฐานให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและตรงกลุ่มเป้าหมาย และ (๓) การพัฒนากลไกหรือเครื่องมือในการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข่าวสารด้านกระบวนการยุติธรรมหรือคดีที่ได้รับความสนใจเป็นการเฉพาะ ซึ่งสำนักงานกิจการยุติธรรม (สกธ.) ได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมต่อไป ๒. ร่างแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕) สกธ. ได้จัดทำร่างแผนแม่บทฯ ฉบับที่ ๓ ซี่งมีความเชื่อมโยงกับแผนระดับ ๓ ของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น แผนแม่บทศาลปกครองระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) ยุทธศาสตร์การคุ้มครองเด็กแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) และแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ซึ่ง กพยช. ได้เห็นชอบให้ทบทวนร่างแผนแม่บทฯ ฉบับที่ ๓ และเร่งรัดให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการตามกระบวนการพิจารณากลั่นกรองร่างแผนแม่บทฯ ฉบับที่ ๓ ต่อไป ๓. การส่งเสริมค่านิยมร่วม คุณธรรมและจริยธรรมให้แก่บุคลากรในกระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน สกธ. ได้จัดทำแนวทางการส่งเสริมค่านิยมร่วมฯ โดยได้กำหนดรูปแบบและการดำเนินงานเป็น ๓ แนวทาง ได้แก่ (๑) การสร้างการรับรู้ค่านิยมร่วมในการปฏิบัติหน้าที่และกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานที่ดีและชัดเจน (๒) การกระตุ้นพฤติกรรมการให้บริการและการใช้อำนาจหน้าที่ของบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม และ (๓) การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของบุคลากรอย่างต่อเนื่องและการบริหารงานระดับองค์กรให้มีมาตรฐาน ซึ่ง กพยช. ได้เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมค่านิยมร่วมฯ เพื่อให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปเป็นแผนการดำเนินงานต่อไป ๔. หลักสูตรอบรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. ๒๕๖๒ กพยช. ได้เห็นชอบให้การรับรองหลักสูตรอบรมไกล่เกลี่ยฯ ซึ่งมีระยะเวลาในการเรียน จำนวน ๕ วัน มีเนื้อหา ประกอบด้วย ๕ กลุ่มวิชา ได้แก่ (๑) ธรรมชาติของความขัดแย้งและการวิเคราะห์ความขัดแย้ง และแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท (๒) กฎหมายกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท : การจัดกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การจัดทำข้อตกลงและบันทึกข้อตกลงระงับข้อพิพาท (๓) จิตวิทยาเพื่อการสื่อสารกับภาษากายกับการไกล่เกลี่ย (๔) คุณสมบัติ จริยธรรมของผู้ไกล่เกลี่ยและปัจจัยแห่งความสำเร็จ ข้อท้าทายและอุปสรรคในการเจรจาไกล่เกลี่ย การจัดการกับบุคคลที่ยากกับการเจรจาและการจัดการอารมณ์ของตนเอง และ (๕) ฝึกปฏิบัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่ง ทางอาญา และประเด็นสาธารณะโดยใช้สถานการณ์จำลอง ๕. ผลการดำเนินงานของ สกธ. เพื่อสนับสนุนภารกิจ กพยช. ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เช่น การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้ กพยช. จำนวน ๘ คณะ และการจัดทำโครงการขับเคลื่อนระบบงานยุติธรรมในมิติเชิงพื้นที่ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10546 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้เพิ่มปริญญาในสาขาวิชาเทคโนโลยี สาขาวิชาศิลปกรรมศาสตร์ และสาขาวิชาศึกษาศาสตร์ และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา รวมทั้งกำหนดสีประจำสาขาวิชาดังกล่าว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขชื่อสาขาวิชาในร่างมาตรา ๓ (๑๑) จาก “สาขาวิชาศิลปกรรมศาสตร์” เป็น “สาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์” เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เรื่อง หลักเกณฑ์การกำหนดชื่อปริญญา พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10547 | รายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | กค | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการและเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายด้านการคลัง โดยแบ่งการตรวจสอบเป็น (๑) การตรวจสอบการเงินและบัญชี (๒) การตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และ (๓) การตรวจสอบการดำเนินงาน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10548 | รายงานการเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | กค | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ประกอบด้วย งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ งบกระแสเงินสด รายงานการรับจ่ายเงินประจำปีงบประมาณ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10549 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมธนารักษ์ พ.ศ. .... | กค | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมธนารักษ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะ ชนิด และประเภทของเครื่องแบบพิเศษข้าราชการกรมธนารักษ์เพิ่มขึ้นจากเครื่องแบบข้าราชการพลเรือน เพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจของกรมธนารักษ์ที่เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10550 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ประจำปี 2562 | พน | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประจำปี ๒๕๖๒ โดยรายงานฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงงบกำไรขาดทุน ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10551 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล) | กค | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง (เศรษฐกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10552 | ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีผู้ประกอบอาชีพประมงได้รับผลกระทบจากกฎหมายและนโยบายแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing : IUU Fishing) | สม | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการพิจารณาคำร้องของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รวม ๔ ประเด็น ดังนี้ ๑.๑ กรณีการจัดการ การขึ้นทะเบียน และการตรวจสอบแรงงาน เห็นว่า แม้การกำหนดขั้นตอนและกระบวนการในการจัดการ การขึ้นทะเบียน และการตรวจสอบแรงงานของคณะรัฐมนตรีและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยหน่วยงานในสังกัดจะเป็นการเพิ่มขั้นตอนการดำเนินการในการประกอบอาชีพประมงของสมาชิกสมาคมชาวประมงอำเภอบ้านแหลม แต่เมื่อพิจารณาจากวัตถุประสงค์ของการดำเนินการที่เป็นไปเพื่อการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการใช้แรงงานผิดกฎหมาย และเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพในการทำงานของแรงงานในภาคการประมงทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว ๑.๒ กรณีการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก เห็นว่า แม้การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก จะกระทบต่อเสรีภาพในการประกอบอาชีพของสมาชิกสมาคมชาวประมงอำเภอบ้านแหลม แต่การดำเนินการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างระบบติดตาม ควบคุม และเฝ้าระวังการทำการประมงให้มีประสิทธิภาพ ทั้งเป็นการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยได้แก้ไขปรับปรุงเป็นระยะและจัดอบรมสร้างความเข้าใจให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ๑.๓ กรณีปัญหาการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล ซึ่งเกี่ยวข้องกับการห้ามและจำกัดการใช้เครื่องมือประมงบางประเภท เห็นว่า กฎหมายและมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ผู้ประกอบอาชีพประมงใช้เครื่องมือประมงชนิดใดนั้น เป็นกรณีที่คณะรัฐมนตรีและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาถึงเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล และความเหมาะสมของพื้นที่ แม้อาจกระทบต่อเสรีภาพในการประกอบอาชีพของสมาชิกสมาคมชาวประมงอำเภอบ้านแหลม แต่การดำเนินการดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำและการรักษาสมดุลของระบบนิเวศเพื่อรักษาหรือฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำและให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทะเลอย่างยั่งยืน ๑.๔ กรณีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบอาชีพประมงที่ได้รับผลกระทบและแนวทางในการรับซื้อเรือประมงคืน เห็นว่า แม้ปัจจุบันการดำเนินการโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนโดยกรมประมงจะยังไม่แล้วเสร็จ ยังคงมีเรือประมงที่เข้าร่วมโครงการและรอการพิจารณาเพื่อรับการชดเชยเยียวยาและบรรเทาผลกระทบ จึงอาจกระทบต่อสิทธิของบุคคลในทรัพย์สินของสมาชิกสมาคมชาวประมงอำเภอบ้านแหลม แต่เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกรมประมง ๒. รับทราบข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีผู้ประกอบอาชีพประมงได้รับผลกระทบจากกฎหมายและนโยบายแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing : IUU Fishing) ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติร่วมกันแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ตั้งแต่ปี ๒๕๕๘ เป็นต้นมา ได้นำเสนอปัญหาความเดือดร้อนหรือความเสียหายที่ได้รับ รวมถึงมีส่วนร่วมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอย่างสมดุลและยั่งยืน และหากมีกรณีใดที่ต้องดำเนินการเยียวยาความเดือดร้อนหรือความเสียหายให้แก่ประชาชนหรือชุมชนที่ได้รับผลกระทบควรดำเนินการอย่างเป็นธรรมและโดยไม่ชักช้า ๓. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางดังกล่าวของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามข้อ ๒ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10553 | คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงการคลัง) | กค | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ยกเลิกคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของกระทรวงการคลัง จำนวน ๑๓ คณะ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแต่งตั้งคณะกรรมการที่สอดคล้องและเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๒ (เรื่อง คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี) จำนวน ๑ คณะ คือ คณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล ๒. ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาทบทวนความจำเป็นและเหมาะสมในการขอให้คงอยู่ของคณะกรรมการที่แต่งตั้งไว้เดิม และที่ขอแต่งตั้งเพิ่มเติม จำนวนรวม ๗ คณะ ได้แก่ คณะกรรมการป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบ คณะกรรมการพิจารณากำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษ คณะกรรมการเพื่อพิจารณากำหนดขอบเขตที่ดินกำแพงเมือง-คูเมือง คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการจำหน่ายน้ำมันดีเซลสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร คณะกรรมการกลั่นกรองการจัดเอาประกันภัยทรัพย์สินของรัฐ คณะกรรมการกลั่นกรองการจัดตั้งทุนหมุนเวียน และคณะกรรมการพิจารณากำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษระดับจังหวัด ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๒ (เรื่อง คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี) ซึ่งมีหลักเกณฑ์ประกอบด้วย (๑) มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับส่วนราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (๒) มีนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ (๓) มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล และ (๔) ในรอบสามปีที่ผ่านมา (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๒) มีการจัดประชุมคณะกรรมการอย่างสม่ำเสมอ โดยให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในประเด็นการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ไม่สอดคล้องตามหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๒ และความซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการที่มีอยู่แล้ว ไปประกอบการพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ในการเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีในครั้งต่อ ๆ ไป ให้ระบุความสอดคล้องของคณะกรรมการแต่ละคณะกับหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวให้ชัดเจนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10554 | รายงานผลการปฏิบัติงาน กสทช. ประจำปี 2562 | กสทช | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๒ ประกอบด้วย (๑) ผลการดำเนินงานสำคัญของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ. ประจำปี ๒๕๖๒ (๒) แผนการดำเนินงานและงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๓ (๓) งบการเงิน และรายงานการตรวจสอบภายใน (๔) ปัญหาและอุปสรรคในการประกอบกิจการ (๕) คุณภาพและอัตราค่าบริการโทรคมนาคมประเภทต่าง ๆ (๖) ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภค ในกรณีกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (๗) ประสิทธิภาพของกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ และ (๘) รายงานสภาพตลาดและการแข่งขัน ทั้งนี้ งบการเงินของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติยังไม่ได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเสนอ ๒. ในส่วนของรายงานงบการเงินสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๒ ซึ่งยังไม่ได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน นั้น ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติดำเนินการให้ครบถ้วนตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๗๖ วรรคสอง (ที่บัญญัติให้รายงานการปฏิบัติงานประจำปีอย่างน้อยต้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับงบการเงินและรายงานของผู้สอบบัญชีด้วย) แล้วให้เสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ๓. ในการรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติต่อคณะรัฐมนตรีในปีต่อ ๆ ไป ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ (เรื่อง ข้อมูลงบการเงินที่ปรากฏในรายงานผลการปฏิบัติงาน กสทช. ประจำปี ๒๕๖๑ ที่ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว เพิ่มเติม) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10555 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยกำหนดให้เพิ่มปริญญาในสาขาวิชาการจัดการ สาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ และสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา รวมทั้งกำหนดสีประจำสาขาวิชาดังกล่าว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10556 | ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาประโยชน์ตอบแทนคณะกรรมการ เลขานุการคณะกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ศย | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกรอบระยะเวลาของกระบวนการโต้แย้งเขตอำนาจศาล แก้ไขเพิ่มเติมระยะเวลาการพิจารณาคำร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล กรณีคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ถึงที่สุดระหว่างศาลขัดแย้งกัน กำหนดให้มีผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลและได้รับประโยชน์ตอบแทนตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. เห็นชอบพระราชกฤษฎีกาประโยชน์ตอบแทนคณะกรรมการ เลขานุการคณะกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงอัตราประโยชน์ตอบแทนประธานกรรมการ กรรมการ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้ร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้มีผลใช้บังคับไม่ก่อนวันที่ร่างพระราชบัญญัติตามข้อ ๑ มีผลใช้บังคับ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10557 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2559 รวม 7 ฉบับ | อว | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ รวม ๗ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อมูลและรายละเอียดของรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ฉบับเบื้องต้น ประเภทสถานที่ใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อการผลิตพลังงานและสถานที่ใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดข้อมูลและรายละเอียดของรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ฉบับเบื้องต้น ประเภทสถานที่ใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อการผลิตพลังงานและสถานที่ใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัย ๒. ร่างกฎกระทรวงการเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาในการเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดศักยภาพทางเทคนิคและการเงินของผู้ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดศักยภาพทางเทคนิคและการเงินของผู้ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ๔. ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต และการขอต่ออายุใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ๕. ร่างกฎกระทรวงกำหนดระยะเวลาและกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ต้องทบทวนและปรับปรุงรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดระยะเวลาและกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ต้องทบทวนและปรับปรุงรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ๖. ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต และการต่ออายุใบอนุญาตก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ๗. ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาต การบรรจุเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ วัสดุนิวเคลียร์ หรือเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว การทดสอบการเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หรือการทดสอบการบรรจุวัสดุนิวเคลียร์ หรือเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว และการรายงานการทดสอบ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การบรรจุเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ วัสดุนิวเคลียร์ หรือเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว การทดสอบการเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์หรือการทดสอบการบรรจุวัสดุนิวเคลียร์หรือเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว และการรายงานการทดสอบ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10558 | รายงานการเงินประจำปีพร้อมรายงานผลการตรวจสอบ | อส | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเงินประจำปี ๒๕๖๒ ของสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมรายงานผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า รายงานการเงินไม่ถูกต้องอย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่ได้แสดงฐานะการเงินของสำนักงานอัยการสูงสุด ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ และผลการดำเนินงาน สำหรับปีสิ้นสุดในวันเดียวกัน โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนดในประเด็นการแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ และรายการที่ไม่สามารถหาหลักฐานการสอบบัญชีที่เหมาะสมอย่างเพียงพอ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและปรับปรุงแก้ไขบัญชีตามความเห็นของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10559 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. .... | ทส | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. ๒๕๔๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยปรับปรุงองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ รวมทั้งหน้าที่และอำนาจของสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นว่า (๑) อำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติที่ปรับปรุงใหม่ได้ครอบคลุมการกำหนดและเสนอแนะนโยบาย มาตรการและแผนพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ ที่อาจมีความซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว และคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (๒) ควรพิจารณาเพิ่มเติมบทเฉพาะกาลรองรับองค์ประกอบของสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติในวาระเริ่มแรกให้ปฏิบัติหน้าที่ตามร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีนี้ได้ไปพลางก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิตามร่างข้อ ๖ (๖) เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติมีความต่อเนื่องสามารถบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพตามแผนการปฏิรูปประเทศต่อไปได้ และ (๓) ควรปรับร่างข้อ ๑๕ ที่กำหนดบทเฉพาะกาลรองรับเฉพาะกรณีระเบียบคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการเข้าถึงทรัพยากรชีวภาพ และการได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากทรัพยากรชีวภาพ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อเป็นการอุดช่องว่างของกฎหมายและลดปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากการยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. ๒๕๔๓ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10560 | ร่างพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยแก้ไขบทนิยาม “การอนุรักษ์ดินและน้ำ” ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน หน้าที่กรมพัฒนาที่ดิน และแก้ไขเพิ่มเติมให้เกษตรกรสามารถขอใช้บริการวิเคราะห์ ตรวจสอบตัวอย่างดิน น้ำ พืช ปุ๋ย หรือสิ่งปรับปรุงดินจากหน่วยงานพัฒนาที่ดินในท้องที่ซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และให้ผู้ที่ประสงค์ในการยื่นคำขอใช้บริการเกี่ยวกับการปรับปรุงดินหรือที่ดินอนุรักษ์ดินและน้ำ บริการแผนที่ ข้อมูลทางแผนที่ สามารถยื่นคำขอต่อหน่วยงานพัฒนาที่ดินในท้องที่ซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่โดยการเสียค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามกฎกระทรวง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติที่เห็นว่า (๑) การแก้ไขบทนิยามคำว่า “การอนุรักษ์ดินและน้ำ” ควรกำหนดขอบเขต/พื้นที่ดำเนินงาน กลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนและไม่ซ้ำซ้อนกับภารกิจของหน่วยงานอื่น เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในการจัดสรรและใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐในภาพรวม (๒) ภารกิจของกรมพัฒนาที่ดิน ในส่วนของการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กซึ่งเป็นไปตามบทนิยามคำว่า “การอนุรักษ์ดินและน้ำ” จะต้องคำนึงถึงพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๒ ที่กำหนดให้กรมพัฒนาที่ดินถ่ายโอนภารกิจการพัฒนาและปรับปรุงซ่อมแซมแหล่งน้ำขนาดเล็กตามขอบเขตการถ่ายโอน ขั้นตอน/วิธีปฏิบัติของแผนฯ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการแทน จึงเห็นควรให้มีการพิจารณาทบทวนหรือกำหนดบทบาทความรับผิดชอบระหว่างหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เกิดความชัดเจนและสอดคล้องกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนไป และ (๓) เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดินฯ ได้แก้ไขบทนิยามคำว่า “การอนุรักษ์ดินและน้ำ” จึงควรดำเนินการให้สอดคล้องกับบทบัญญัติมาตรา ๓๕ (๑) และมาตรา ๑๗ (๓) แห่งพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย ไปประกอบการพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมพัฒนาที่ดินประชาสัมพันธ์บทบาทและภารกิจของกรมพัฒนาที่ดินที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามร่างพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดินฯ เพื่อการเข้าถึงบริการและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกร ตลอดจนควรติดตามและเฝ้าระวังกรณีการปนเปื้อนจากสารเคมีหรือมลพิษที่อาจส่งผลต่อความเสื่อมโทรมของดินอย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายสำหรับควบคุมมลพิษได้อย่างเหมาะสมและไม่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....