ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 523 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 10441 - 10460 จากข้อมูลทั้งหมด 124251 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
10441 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน | คค. | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
จำนวน ๒ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ กรกฎาคม
๒๕๖๓) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. นายสรพงศ์
ไพฑูรย์พงษ์ ๒. นายอนุชา เศรษฐเสถียร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10442 | ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (การจัดตั้งกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการดังกล่าว) | ตช. | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. ....
และร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมการแบ่งส่วนราชการ
และอำนาจหน้าที่ของกองบัญชาการและกองบังคับการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่รับผิดชอบและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับเกลี่ยตำแหน่งและกำลังพลภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งจำนวนและระดับตำแหน่งที่มีอยู่เดิมให้สอดคล้องกับปริมาณงานที่จะต้องปฏิบัติตามภารกิจใหม่
ส่วนงบประมาณด้านบุคลากร งบดำเนินงาน และงบลงทุน
เพื่อรองรับการจัดตั้งกองบัญชาการขึ้นใหม่นั้น ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๓.
ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร.
เช่น (๑)
ควรพิจารณามิให้เกิดความทับซ้อนของอำนาจหน้าที่และภารกิจที่ต้องปฏิบัติของหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่และหน่วยงานที่มีอยู่เดิม
(๒) ควรใช้วิธีการปรับเกลี่ยตำแหน่งและกำลังพลภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งจำนวนและระดับตำแหน่งที่มีอยู่เดิมให้สอดคล้องกับภารกิจและปริมาณงานที่จะต้องปฏิบัติ
และ (๓)
ควรนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเหมาะสมมาใช้ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรืออาชญากรรมไซเบอร์
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10443 | ร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเวลาประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนี่ง พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. .... | นร.05 | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณชี้แจงว่า
โดยที่สมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่งจะสิ้นกำหนดเวลาในวันที่ ๑๘ กันยายน
๒๕๖๓ ซึ่งตามปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ วุฒิสภาจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ในวันที่ ๒๑-๒๒ กันยายน ๒๕๖๓ ดังนั้น
เพื่อมิให้การดำเนินการตราพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
เกินกว่ากรอบระยะเวลาที่กำหนด และเพื่อให้รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐมีงบประมาณไปใช้จ่ายเพื่อการบริหารราชการแผ่นดินและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชน
จึงสมควรขยายระยะเวลาประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง
และปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กันยายน
๒๕๖๓ ๒.
ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เรื่อง
ร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. ....
(ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๓) ๓.
เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเวลาประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง
พ.ศ. ....
และร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ.
.... รวม ๒ ฉบับ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
โดยให้ระบุวันปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ตั้งแต่วันที่
๒๕ กันยายน ๒๕๖๓ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๔.
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10444 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ รายสัปดาห์ ครั้งที่ 11 | นร10 | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ รายสัปดาห์ ครั้งที่ ๑๑ (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓) ซี่งได้รับข้อมูลจาก ๑๔๗ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๙๙ ของส่วนราชการทั้งหมด (๑๔๘ ส่วนราชการ) ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ มีส่วนราชการการมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กลับมาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการตามปกติเพิ่มมากขึ้น (๗๒ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๔๙) เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา (๓๖ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๒๔) และส่วนราชการพิจารณากำหนดให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เหลื่อมเวลาในการทำงานเป็น ๓ ช่วงเวลาเพิ่มมากขึ้น (๖๖ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๔๕) ๒. การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ (Work From Home) มีส่วนราชการมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการลดลง (๗๕ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๕๑) โดยในจำนวนนี้มีส่วนราชการ ๑๗ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๑๒ มอบหมายให้ทุกคนปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งมี ๑๙ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๑๓)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10445 | ร่างหนังสือความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี | ยธ | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างหนังสือความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี (Note of Cooperation in Countering Drug Crimes between the Office of the Narcotics Control Board of Thailand and the National Intelligence Service Korea) และมอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนฝ่ายไทยในการลงนามหนังสือความร่วมมือฯ โดยร่างหนังสือความร่วมมือฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและสกัดกั้นภัยคุกคามจากอาชญากรรมที่ก่อขึ้นโดยเครือข่ายการค้ายาเสพติดข้ามชาติและสมาชิก รวมถึงองค์กรอื่น ๆ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศคู่ภาคี โดยมีขอบเขตความร่วมมือ เช่น การรวบรวมและการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมยาเสพติด การให้การสนับสนุนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด เป็นต้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการพิจารณากำหนดเป้าหมายของการดำเนินความร่วมมือด้านอาชญากรรมยาเสพติดกับต่างประเทศ โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากแนวปฏิบัติที่ดีจากความร่วมมือด้านอาชญากรรมยาเสพติดกับประเทศต่าง ๆ ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาและลดจำนวนการกระทำผิดในคดียาเสพติดของคนไทยในต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและศักดิ์ศรีของไทยในสายตาของประชาคมโลกในฐานะประเทศที่ปลอดจากปัญหายาเสพติดในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือความร่วมมือฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10446 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (เรื่อง สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย กรณีนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ หายตัวไปที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งอาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง) | สม | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (เรื่อง สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย กรณีนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ หายตัวไปที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งอาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง) ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๓ โดยได้พิจารณาข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในสองประเด็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การรับเรื่องเป็นคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และการเร่งรัดเสนอกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10447 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 10/2563 | นร | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ โดยสาระสำคัญของการประชุมฯ ได้แก่ (๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ (๒) ความก้าวหน้าในการสนับสนุนการผลิตวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย (๓) รายงานการประเมินผลการดำเนินมาตรการผ่อนคลาย (๔) การจำหน่ายหน้ากากอนามัย (๕) การพิจารณาความเหมาะสมในการขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (๖) ความคืบหน้าการจัดทำข้อตกลง (Special Arrangement) และมาตรการสำหรับบุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศหรือผู้แทนรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศที่มาปฏิบัติงานในประเทศไทย (๗) การพิจารณาแนวทาง มาตรการ หลักเกณฑ์ และวิธีการปฏิบัติสำหรับการนำแรงงานต่างด้าว ๓ สัญชาติ (เมียนมา ลาว กัมพูชา) เข้ามาในราชอาณาจักร และ (๘) การพิจารณาการเตรียมความพร้อมเพื่อผ่อนคลายการบังคับใช้กฎหมายในอนาคต ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10448 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 12/2563 | นร11 | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในชุมชนของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นค่าตอบแทนให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) รวมจำนวนไม่เกิน ๑,๐๕๔,๗๒๙ คนต่อเดือน ระยะเวลาตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๓ (รวม ๗ เดือน) กรอบวงเงินไม่เกิน ๓,๖๒๒.๓๑๙๕ ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุข (กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ) ดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งให้เร่งดำเนินการให้ทันต่อสถานการณ์และการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้อง ครบถ้วน อย่างเคร่งครัด ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10449 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการขออนุญาตให้ยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร นำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ประเภท 3 หรือประเภท 4 เพื่อใช้ในยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร พ.ศ. .... | สธ | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร นำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ เพื่อใช้ในยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การขอรับใบแทนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตให้ยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร นำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ในปริมาณเท่าที่จำเป็นต้องใช้ในการปฐมพยาบาลหรือในกรณีเหตุฉุกเฉินในยานพาหนะ เพื่อใช้ในยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศที่จดทะเบียนในราชอาณาจักรได้ โดยวัตถุออกฤทธิ์ประเภท ๒ เป็นวัตถุออกฤทธิ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ แต่มีอันตรายต่อสุขภาพมากหากไม่อยู่ภายใต้การดูแลของผู้ประกอบวิชาชีพ เช่น อัลปราโซแลม (Alprazolam) ลอร์คาเซริน (Lorcaserin) และแอมฟีพราโมน (Amfepramone) วัตถุออกฤทธิ์ประเภท ๓ เป็นวัตถุออกฤทธิ์ที่ใช้ในทางการแพทย์และอาจก่อให้เกิดการนำไปใช้หรือมีแนวโน้มในการนำไปใช้ทางที่ผิด เช่น อะโมบาร์บิตาล (Amobarbital) และบิวตาลบิตาล (Butalbital) หรือวัตถุออกฤทธิ์ประเภท ๔ เป็นวัตถุออกฤทธิ์ที่ใช้ในทางการแพทย์และอาจก่อให้เกิดการนำไปใช้หรือมีแนวโน้มในการนำไปใช้ทางที่ผิดน้อยกว่าประเภท ๓ เช่น อัลโลบาร์บิตาล (Allobarbital) และบาร์บิตาล (Barbital) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10450 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย 1 ขวา ของคลองนครหลวง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย ๑ ขวา ของคลองนครหลวง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย ๑ ขวา ของคลองนครหลวง ในท้องที่ตำบลปากท่า อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10451 | รายงานผลการดำเนินการยกระดับการบริการภาครัฐในส่วนที่ขอใช้เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (Structural Adjustment Loan : SAL) | นร12 | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10452 | ขออนุมัติใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินการโครงการการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย | กษ. | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อดำเนินการโครงการการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น
๑๗๑.๖๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น (๑) การให้ความสำคัญในการควบคุม
กำกับดูแล โครงการการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย
ให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด และ (๒) การปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และ (๓) การกำหนดบทบาท ภารกิจ
และตัวชี้วัดของโครงการฯ
รวมทั้งรายละเอียดของงบประมาณที่แต่ละหน่วยงานขอรับการจัดสรรเพื่อการปฏิบัติภารกิจ
เพื่อให้เกิดความชัดเจนของขอบเขตงานในการปฏิบัติงานร่วมกันและการติดตามประเมินความสำเร็จของโครงการฯ
ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ควรรายงานผลการดำเนินโครงการฯ
ให้คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติรับทราบต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10453 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ | กค | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) จำนวน ๕๕ แห่ง ในสัปดาห์ช่วงระหว่างวันที่ ๑๓-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (ปฏิบัติงานที่บ้านหรือที่พักหรือสถานที่ตามที่รัฐวิสาหกิจกำหนด) รัฐวิสาหกิจ ๑๗ แห่ง ที่ให้พนักงานกลับมาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งตามปกติแล้ว เพิ่มขึ้น ๑ แห่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๖-๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๓) ทั้งนี้ จากจำนวนพนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด จำนวน ๒๗๒,๕๔๐ คน มีพนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง จำนวน ๑๒,๕๗๙ คน หรือคิดเป็นร้อยละ ๕ ๒. การปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสากิจ (การปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา) รัฐวิสาหกิจ ๒๒ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา โดยมีรัฐวิสาหกิจยกเลิกนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาเพิ่มขึ้น ๑ แห่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๖-๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๓) โดยมีรัฐวิสาหกิจ ๒๒ แห่ง มีช่วงเวลาเริ่มปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น.-๑๐.๐๐ น.
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10454 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราส่วนทุนกับเงินกู้ที่จะใช้ในการประกอบธุรกิจแก่ผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงินจากเหตุระบาดของโรคติดเชื้่อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. .... | พณ | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราส่วนทุนกับเงินกู้ที่จะใช้ในการประกอบธุรกิจแก่ผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงินจากเหตุระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อไม่นำเงื่อนไขอัตราส่วนทุนกับเงินกู้ที่จะใช้ในการประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา ๔๓ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๘๑ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ มาใช้บังคับกับผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) ที่ได้รับสินเชื่อและได้ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยให้ได้รับการผ่อนปรนเงื่อนไขในช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรเพิ่มถ้อยคำให้ครอบคลุมผู้ประกอบวิสาหกิจการเงินที่ได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และควรกำหนดวิธีปฏิบัติรองรับการกลับไปใช้อัตราส่วนทุนกับเงินกู้ตามปกติ ภายหลังสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนปรน เช่น การทยอยลดสัดส่วนการก่อหนี้เดิมลง เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) สามารถเตรียมการได้ รวมทั้งอาจทบทวนการขยายระยะเวลาการผ่อนปรนเงื่อนไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคต ไปประกอบการพิจารณา โดยพิจารณาให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) ที่เป็นผู้ประกอบการชาวไทยด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และธนาคารแห่งประเทศไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรหารือร่วมกันเพี่อพิจารณาถึงความเหมาะสมของการขอปรับปรุงหลักเกณฑ์เงื่อนไขดังกล่าว โดยให้คำนึงถึงความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน และความเป็นธรรมกับผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงินที่เป็นผู้ประกอบการชาวไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10455 | ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการออกระเบียบของ ก.บ.ศป.) | ศป | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10456 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมตลอดทั้งการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฏ ระเบียบ หรือคำสั่ง (เรื่อง สิทธิพลเมืองอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิในชีวิตและร่างกาย กรณีกล่าวอ้างว่า นายณัฐพงศ์ ศรีคะโชติ ถูกบังคับให้สูญหายจากบ้านพัก) | สม | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10457 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีประชาชนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ของบริษัทเอกชน | สม | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10458 | รัฐบาลสาธารณรัฐโมซัมบิกเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสาธารณรัฐโมซัมบิกประจำประเทศไทย (นายเบลมีรู จูแซ มาลาตี) | กต | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเบลมีรู จูแซ มาลาตี (Mr. Belmiro Jose Malate) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐโมซัมบิกประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สืบแทน นางมาเรีย กุสตาวา (Mrs. Maria Gustava) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10459 | การจัดทำความร่วมมือในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ | นร | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า ปัจจุบันมีแรงงานไทยจำนวนมากที่มีทักษะและความสามารถตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานในต่างประเทศ ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงมีมติมอบหมายให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดการจัดทำความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพและเป็นตลาดแรงงานที่สำคัญ เช่น สาธารณรัฐเกาหลี และประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงความปลอดภัย คุณภาพชีวิตที่ดีและโอกาสในการได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือของแรงงานไทยด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10460 | การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ | นร | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อร่วมกันดำเนินโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและชุมชนต่าง ๆ เช่น การขุดเจาะบ่อบาดาล การจัดสร้าง ปรับปรุง และซ่อมแซมฝายกั้นน้ำหรือฝายชะลอน้ำแบบชั่วคราว ให้พร้อมใช้งานได้โดยเร็ว เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ รองรับน้ำที่ไหลลงมาจากที่สูง ทำให้เกิดพื้นที่ชุ่มน้ำเพิ่มมากขึ้น สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ได้ยาวนานยิ่งขึ้นในช่วงฤดูแล้ง และช่วยป้องกันอุทกภัยในช่วงฤดูน้ำหลาก รวมทั้งให้พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการขุดลอกทางระบายน้ำไปยังชุมชนในแต่ละพื้นที่เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากน้ำได้อย่างสะดวกและทั่วถึง ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ให้ประสานขอความร่วมมือรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนต่าง ๆ เพื่อเข้าร่วมดำเนินการในรูปกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ขององค์กรด้วย
|