ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 443 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 8841 - 8860 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
8841 | รายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง การศึกษามาตรการป้องกันการเกิดโรคระบาดหรือโรคติดต่อในประเทศไทย ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ
เรื่อง การศึกษามาตรการป้องกันการเกิดโรคระบาดหรือโรคติดต่อในประเทศไทย
ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร
โดยกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วเห็นว่า
รายงานฉบับนี้มีเนื้อหาสาระที่มีความถูกต้องตามหลักวิชาการ และได้ให้คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานต่าง
ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดหรือดำเนินมาตรการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019
(โควิด 19) อยู่หลายประเด็น เช่น
การยกระดับอนามัยส่วนบุคคล และการสร้างความรอบรู้ในการดูแลสุขภาพตนเอง
(รวมถึงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเกิดความตระหนักรู้ถึงสถานการณ์และปฏิบัติตนได้เหมาะสมกับความเสี่ยง)
การแก้ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย เวชภัณฑ์ และทรัพยากรทางสาธารณสุขที่สำคัญ
การพัฒนาฐานข้อมูลและแอปพลิเคชันเพื่อการเฝ้าระวังและติดตามกลุ่มเสี่ยงหรือผู้สัมผัสโรค
หรือเพื่อการติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารสำคัญที่เกี่ยวข้องโดยทั่วไป
การดูแลสุขภาพและภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์
และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มนักเรียนชั้นประถมศึกษา
โดยมาตรการเหล่านี้กระทรวงสาธารณสุขจะได้นำไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปกำหนดเป็นนโยบายและแนวปฏิบัติต่อไป นอกจากนี้
กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้มีการพิจารณาดำเนินการมาตรการต่าง
ๆ เพิ่มเติม ซึ่งแม้ว่าจะเป็นมาตรการที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายงานฉบับนี้อย่างขัดเจน
แต่ก็มีความสอดคล้องกับหลักการหรือข้อสังเกตหลายประเด็นที่กล่าวถึงตามรายงาน
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8842 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำท่าจีน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำท่าจีน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำท่าจีน
ในท้องที่ตำบลวัดสำโรงและตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
และในท้องที่ตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8843 | ร่างกฎ ก.พ.อ. การได้รับเงินประจำตำแหน่งผู้บริหารและข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาของสถาบันวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. .... | อว. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎ ก.พ.อ.
การได้รับเงินประจำตำแหน่งผู้บริหารและข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาของสถาบันวิทยาลัยชุมชน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขสำหรับการได้รับเงินประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการพลเรือน
ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ
และผู้ดำรงตำแหน่งประเภทผู้บริหารในสถาบันวิทยาลัยชุมชน
เพื่อให้การรับเงินประจำตำแหน่งและการเบิกจ่ายเงินประจำตำแหน่งของบุคลากรในสถาบันวิทยาลัยชุมชนมีความชัดเจนและสอดคล้องกับข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาและข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงบประมาณที่เห็นว่า (๑)
การพิจารณาแต่งตั้งรองผู้อำนวยการวิทยาลัย สำหรับวิทยาลัยที่ยังแต่งตั้งไม่ครบเต็มจำนวนอัตราสูงสุดที่กำหนดให้มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งจากเงินงบประมาณแผ่นดิน
(ไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง) ก.พ.อ. ควรคำนึงถึงปริมาณภาระงานที่แตกต่างกันและความคุ้มค่าของงบประมาณค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐในภาพรวมด้วย
และ (๒) ภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว
เห็นควรให้สถาบันวิทยาลัยชุมชนใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
ซึ่งได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับไว้แล้ว ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป
ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องครบถ้วน และให้ดำเนินการตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8844 | หลักการของร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน และร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม พ.ศ. .... | พม. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบหลักการของร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน
ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายกลางในระดับพระราชบัญญัติขึ้นเพื่อกำกับการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกันในประเทศไทย
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
โดยให้เพิ่มรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้รักษาการตามร่างกฎหมายนี้
และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม
พ.ศ. .... ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดกลไกในการส่งเสริมและสนับสนุนศักยภาพ
และสร้างความเข้มแข็งขององค์กรภาคประชาสังคม ซึ่งมีหลักการเช่นเดียวกับหลักการของร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
ซึ่งจะเป็นกฎหมายกลางเพื่อกำกับการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกันในประเทศไทย
รวมทั้งความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น
ความจำเป็นในการกำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม
การจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคมอาจซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น
และเป็นการสร้างภาระงบประมาณภาครัฐในระยะยาว
ควรพิจารณาปรับบทบาทภารกิจหน่วยงานที่มีอยู่แล้วแทนการจัดตั้งสำนักงานขึ้นใหม่
และการจัดตั้งสำนักงานดังกล่าวยังต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย เป็นต้น
ไปประกอบการยกร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน
ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
๒.
มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงมหาดไทยร่วมกันเป็นหน่วยงานเจ้าของเรื่องในการนำหลักการของร่างกฎหมายดังกล่าวไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างกฎหมาย
ตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ และให้ส่งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการยกร่างกฎหมายดังกล่าวต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8845 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างเป็นระบบ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM๒.๕ อย่างเป็นระบบ
ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
PM๒.๕ อย่างเป็นระบบ
สภาผู้แทนราษฎร โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วมีความเห็นว่า
รายงานและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
สอดคล้องกับการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ
“การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” พร้อมทั้งมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
PM ๒.๕
ซึ่งแบ่งตามแหล่งกำเนิดของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕
เช่น สนับสนุนให้มีการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเชิงพื้นที่
รถยนต์ของหน่วยราชการควรเป็นรถยนต์มลพิษต่ำ ควรสนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงเครื่องฟอกอากาศโดยใช้มาตรการหรือแรงจูงใจทางเศรษฐศาสตร์
ให้ความสำคัญกับมาตรการจัดการเชื้อเพลิง
และบริหารจัดการเศษซากวัสดุจากเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง
จัดสรรงบประมาณและบุคลากรเพิ่มเติมเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่อนุรักษ์
ประสานงานเลขาธิการอาเซียนและกลุ่มประเทศสมาชิกเพื่อสนับสนุนเสริมสร้างศักยภาพในการติดตาม
เฝ้าระวังสถานการณ์คุณภาพอากาศ
รวมทั้งการพิจารณาใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือระดับทวิภาคี เป็นต้น
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8846 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ศบค.) ครั้งที่ 3/2564 | นร. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ (๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ
(๒)
การดำเนินการให้เป็นไปตามข้ออนุมัติของนายกรัฐมนตรีตามการเสนอของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (๓) การเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียและคณะ
(๔)
การพิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
คราวที่ ๑๐ (๕) การปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรสำหรับการผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม
(๖) แผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 และ (๗) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8847 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนมกราคม 2564 | นร.11 | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ
ณ เดือนมกราคม ๒๕๖๔ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น
การเร่งรัดการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติ การจัดทำแผนขับเคลื่อน Big Rock และการสร้างการตระหนักรู้ ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของภาคีต่าง ๆ
รวมทั้งข้อเสนอแนะประเด็นที่ควรเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ คือ
การกระจายโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ของนักเรียนและประชาชนทั่วไปให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกพื้นที่
และการเร่งขจัดความยากจนและการพัฒนาคนทุกช่วงวัย
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8848 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้เช่า เช่าซื้อ หรือโอนที่ดินหรือทรัพย์สินอื่นของกรมชลประทานเพื่อใช้ในการทำเกษตรกรรม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินสำหรับแปลงที่ดินในเขตโครงการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | กษ. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวง จำนวน ๒ ฉบับ
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้เช่า เช่าซื้อ
หรือโอนที่ดินหรือทรัพย์สินอื่นของกรมชลประทานเพื่อใช้ในการทำเกษตรกรรม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้เช่า เช่าซื้อ
หรือโอนที่ดินหรือทรัพย์สินอื่นของกรมชลประทานไปยังเกษตรกร
เพื่อใช้ในการทำเกษตรกรรม
๑.๒
ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินสำหรับแปลงที่ดินในเขตโครงการจัดรูปที่ดิน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ
เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดินดำเนินการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินสำหรับแปลงที่ดินในเขตโครงการจัดรูปที่ดิน ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้โดยเร็วและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(กรมชลประทาน) ควรมีมาตรการในการติดตามตรวจสอบพื้นที่เกษตรกรรมที่ให้เช่า เช่าซื้อ
หรือโอนที่ดินหรือทรัพย์สินอื่นของกรมชลประทานตามร่างกฎกระทรวงข้อ ๑.๑ อย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้คงสภาพพื้นที่เกษตรกรรมตามเจตนารมณ์แห่งพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
พ.ศ. ๒๕๕๘ ตลอดไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8849 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับประเภท ลักษณะ ขนาด การให้บริการ หรือธุรกรรมของผู้มีหน้าที่รายงาน พ.ศ. .... | กค. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับประเภท
ลักษณะ ขนาด การให้บริการ หรือธุรกรรมของผู้มีหน้าที่รายงาน พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับประเภท ลักษณะ ขนาด การให้บริการ
หรือธุรกรรมของผู้มีหน้าที่รายงานตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ
พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8850 | ขออนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | กค. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการคลัง
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการคลังก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อเป็นค่าเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จำนวน ๑ คัน
ตามอัตราค่าเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งระดับรัฐมนตรีหรือเทียบเท่า
(ขนาดปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน ๓,๐๐๐ ซีซี) ไม่เกินเดือนละ ๗๖,๕๐๐ บาท/คัน/เดือน
โดยผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-พ.ศ. ๒๕๖๙ ภายในกรอบวงเงิน ๔,๕๙๐,๐๐๐
บาท สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวน ๕๓๕,๕๐๐ บาท ให้สำนักงานปลัดกระทรวงการคลังพิจารณาโอนเงินจัดสรร
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
ส่วนที่เหลือ จำนวน ๔,๐๕๔,๕๐๐ บาท
ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนให้สอดคล้องกับวงเงินตามสัญญาต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8851 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลพรหมนิมิต และตำบลสร้อยทอง อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... | กษ. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน
ในท้องที่ตำบลพรหมนิมิต และตำบลสร้อยทอง อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน เพื่อดำเนินโครงการจัดรูปที่ดิน
ในท้องที่ตำบลพรหมนิมิต และตำบลสร้อยทอง อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
อันจะเป็นการส่งเสริมเกษตรกรรมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
และมีมาตรฐานการครองชีพสูงขึ้น
โดยพัฒนาที่ดินทุกแปลงให้ได้รับประโยชน์จากโครงการชลประทานและการสาธารณูปโภคให้ทั่วถึง
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดมาตรการสนับสนุนการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่
ความต้องการของตลาด และนโยบายสำคัญของรัฐบาล เช่น การส่งเสริมการทำเกษตรแปลงใหญ่
เกษตรกรรมแม่นยำสูง และการสนับสนุนทางเลือกในการทำเกษตรกรรมยั่งยืน
โดยเฉพาะเกษตรผสมผสาน เพื่อเสริมสร้างรายได้และลดความเสี่ยงด้านราคาผลผลิต
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและชุมชนในระยะยาว รวมทั้งสร้างทัศนคติให้เกษตรกรร่วมกันบำรุงรักษาระบบชลประทานให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งานต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8852 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | ยธ. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ซึ่งการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ
ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ จำนวน ๔ คณะ ได้แก่
คณะอนุกรรมการติดตามและตรวจสอบกรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ
คณะอนุกรรมการเยียวยากรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ
คณะอนุกรรมการป้องกันการกระทำทรมานและบังคับให้หายสาบสูญ
และคณะอนุกรรมการคัดกรองกรณีถูกกระทำทรมานและบังคับให้หายสาบสูญ
โดยแต่ละคณะอนุกรรมการต่าง ๆ มีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น (๑) การติดตามและตรวจสอบ
รวมทั้งส่งข้อมูลบุคคลตามบัญชีของคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยการหายสาบสูญโดยถูกบังคับหรือไม่สมัครใจให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อนำส่งคณะทำงานดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
จำนวน ๖๗ ราย (๒) การลงพื้นที่เพื่อเข้าพบญาติของผู้ถูกบังคับให้หายสาบสูญ
โดยจะดำเนินการให้ครบถ้วนทุกคน และ (๓)
การพิจารณาเยียวยาให้กับผู้ถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ เป็นต้น
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8853 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งที่ 1 | กค. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้ ๑.๑
อนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๑ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
ตามมติที่ประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๔ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐวิสาหกิจ
จำนวน ๒ แห่ง ได้แก่ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
ที่มีสัดส่วน DSCR ต่ำกว่า ๑
สามารถกู้เงินและบริหารหนี้ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔
ปรับปรุงครั้งที่ ๑ โดยให้ กยท. รฟท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะไปดำเนินการด้วย ๑.๓
อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ
การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ
ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
และตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมทั้งเห็นควรอนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา
และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้กรอบวงเงินของแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔
ปรับปรุงครั้งที่ ๑ และเห็นควรให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน
วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
ทั้งนี้
หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เองก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น
ๆ ๒.
ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น ควรกำกับ ติดตาม
และเร่งรัดการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจ จำนวน ๒ แห่ง ได้แก่ กยท. และ รฟท.
ที่มีสัดส่วน DSCR ต่ำกว่า ๑
ให้เป็นไปตามความเห็นของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
รวมทั้งติดตามและเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการให้มีการดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้
โดยเฉพาะแผนการกู้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้พระราชกำหนดฯ
เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า ทันต่อสถานการณ์
และเกิดประสิทธิผลต่อการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมอย่างแท้จริง
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8854 | ร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่เป็นประจำทุกปี พ.ศ. 2550 พ.ศ. .... | คค. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข
๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่เป็นประจำทุกปี พ.ศ.
๒๕๕๐ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข
๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่เป็นประจำทุกปี พ.ศ.
๒๕๕๐ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8855 | ร่างความตกลงระหว่างสำนักงานกลางแห่งชาติตำรวจสากลประเทศไทย (ตำรวจสากลกรุงเทพ) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าด้วยการเข้าถึงระบบข้อมูลข่าวสารขององค์การตำรวจสากลโดยตรง | ยธ. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างสำนักงานกลางแห่งชาติตำรวจสากลประเทศไทย
(ตำรวจสากลกรุงเทพ) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ว่าด้วยการเข้าถึงระบบข้อมูลข่าวสารขององค์การตำรวจสากลโดยตรง และให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้ลงนามในความตกลงฯ
โดยร่างความตกลงฯ
มีสาระสำคัญเป็นการอนุญาตและกำหนดเงื่อนไขการอนุญาตให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าถึงระบบข้อมูลข่าวสารขององค์การตำรวจสากล
จำนวน ๙ ฐานข้อมูลได้โดยตรง เช่น เอกสารการเดินทางที่ถูกขโมยหรือสูญหาย
เอกสารราชการที่ถูกขโมยภาพการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กระหว่างประเทศ เป็นต้น เพื่อความมุ่งประสงค์ในภารกิจงานตำรวจและการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติเป็นการเฉพาะ
รวมทั้งกำหนดหน้าที่ที่ทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๒. ให้กระทรวงยุติธรรม
(กรมสอบสวนคดีพิเศษ) รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่เห็นควรคำนึงถึงการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์เพื่อสร้างความมั่นใจและเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยของระบบฐานข้อมูล
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8856 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564) | ปสส. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันศุกร์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๔ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
และครั้งที่ ๕ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8857 | การขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร | นร.08 | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๔ จนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔ ๒.
เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่
๑๐) และร่างประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒ รับทราบร่างประกาศ
เรื่อง การให้ข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ
๓. ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8858 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตท่าเรือตำมะลัง เขตท่าเรือเจ๊ะบิลัง เขตท่าเรือปากบารา เขตจอดเรือ และเขตควบคุมการเดินเรือ จังหวัดสตูล พ.ศ. .... | คค. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตท่าเรือตำมะลัง เขตท่าเรือเจ๊ะบิลัง
เขตท่าเรือปากบารา เขตจอดเรือ และเขตควบคุมการเดินเรือ จังหวัดสตูล พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตท่าเรือตำมะลัง เขตท่าเรือเจ๊ะบิลัง เขตท่าเรือปากบารา เขตจอดเรือและเขตควบคุมการเดินเรือ
จังหวัดสตูล
เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการคมนาคมขนส่งทางน้ำที่เพิ่มมากขึ้นในสภาวการณ์ปัจจุบัน
เพื่อควบคุมดูแลความปลอดภัย จัดระเบียบการจราจรทางน้ำ การขนส่งทางน้ำ
และวางระบบการขนส่งทางน้ำให้มีความปลอดภัยและมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ตลอดจนเพื่อประโยชน์ในการควบคุมมลภาวะทางน้ำ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น ให้กระทรวงคมนาคมและกรมเจ้าท่าปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
และควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทราบถึงข้อพึงปฏิบัติเกี่ยวกับการกำหนดเขตพื้นที่ดังกล่าวเพื่อเตรียมการก่อนที่จะมีผลใช้บังคับต่อไป
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8859 | แจ้งผลคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ระหว่าง นายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล ผู้ฟ้องคดี องค์การเภสัชกรรม ที่ 1 กับพวกรวม 5 คน ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรีผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5) เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง | นร 05 | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด
ในคดีหมายเลขดำที่ อ. ๙๐๗/๒๕๕๘ ระหว่าง นายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล ผู้ฟ้องคดี องค์การเภสัชกรรม
ที่ ๒ กับพวกรวม ๕ คน ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๕) เรื่อง
คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง
ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดีเป็นเงินจำนวน ๙,๓๑๖, ๖๙๒.๔๖ บาท
พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินจำวน ๙,๒๒๗,๐๙๖ บาท
นับถัดจากวันฟ้องเป็นตันไป จนกว่าจะชำระเสร็จ ทั้งนี้ ให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐
วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
ให้คืนค่าธรรมเนียมศาลในชั้นศาลปกครองชั้นต้นและในชั้นอุทธรณ์บางส่วนตามส่วนแห่งกาชนะคดีแก่ผู้ฟ้องคดี
ยกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ถึงผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๕ คำขออื่นให้ยก
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8860 | รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2561 และ พ.ศ. 2562 | ยธ. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน
ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๑ และ พ.ศ. ๒๕๖๒ ของสำนักงาน ป.ป.ส.
ประกอบด้วย เหตุผลความเป็นมาของการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงาน ที่มา อำนาจหน้าที่
และการใช้อำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปฏิบัติงาน การกำกับดูแลและติดตามผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน
ป.ป.ส. รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี
พ.ศ. ๒๕๖๑ และ พ.ศ. ๒๕๖๒ การกระทำความผิดของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๑
และ พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ๒.
เห็นชอบให้นำข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี
ได้แก่ (๑) สำนักงาน ป.ป.ส.
ควรมีการทบทวนโครงสร้างองค์กรและระบบงานภาครัฐให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว
และเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ (๒) สำนักงาน ป.ป.ส.
ควรอาศัยศักยภาพและโอกาสจากพัฒนาการด้านเทคโนโลยีเร่งให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารงานและการบริการภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
ผลักดันองค์กรให้เข้าสู่กระบวนการปรับเปลี่ยนเป็นรัฐบาลดิจิทัล และ (๓) สำนักงาน
ป.ป.ส.
ควรมีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
ป.ป.ส. ตลอดจนการทำงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ให้กับประชาชนได้รับทราบโดยทั่วไป
และนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
๓.
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับรายงานดังกล่าวจะมีเนื้อหาครบถ้วน
สมบูรณ์ ยิ่งขึ้น หากในรายงานมีข้อมูลครอบคลุมถึงผลการดำเนินการกับเจ้าพนักงาน
ป.ป.ส. ที่กระทำความผิดด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|