ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 308 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 6141 - 6160 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
6141 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2565 | กค. | 12/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6142 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 รวม 3 ฉบับ | สธ. | 12/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถานพยาบาลและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงพยาบาลผู้สูงอายุซึ่งมีลักษณะของสถานพยาบาลและการให้บริการของสถานพยาบาลเช่นเดียวกับโรงพยาบาลทั่วไป
ซึ่งไม่เพียงพอและไม่สอดคล้องกับการให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้สูงอายุที่มีความเฉพาะด้าน
อีกทั้งในปัจจุบันมีการพัฒนาการให้บริการในลักษณะส่งเสริมฟื้นฟูผู้สูงอายุด้วย
เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และร่างกฎกระทรวงกำหนดวิชาชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดวิชาชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชาชีพในโรงพยาบาลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลส่งเสริมฟื้นฟูผู้สูงอายุ
รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่เห็นว่าร่างข้อ
๑๒/๓ วรรคสอง ควรพิจารณาว่า ต้องมีหน่วยบริการ (๖) แผนกิจการบำบัด
เนื่องจากเป็นการดูแลระยะกลางในการส่งเสริม
และการฟื้นฟูสมรรถภาพที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นหายของผู้ป่วยก่อนกลับไปอยู่บ้าน
ร่างข้อ ๕ (๑) (๒) (๓) (๔) สัดส่วนที่กำหนดควรพิจารณาให้สอดคล้องกับภาระงาน
(กรณีผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง)
เนื่องจากในกรณีที่มีผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลมากหรืออยู่ในระยะพึ่งพิงระดับสูง
เช่น ผู้สูงอายุที่มีปัญหาสมองเสื่อม และผู้ป่วยติดเตียง
ควรเพิ่มจำนวนพยาบาลวิชาชีพผู้ดูแล เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
และเห็นชอบให้ส่งร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้
ยาและเวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ
เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์
หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาลโรงพยาบาลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลส่งเสริมฟื้นฟูผู้สูงอายุ
ให้เป็นไปโดยเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาให้สอดคล้องกับร่างกฎกระทรวงทั้ง
๒ ฉบับดังกล่าว แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เห็นว่า
ร่างข้อ ๔ (๓) อาคารที่ให้บริการผู้ป่วยต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารสำหรับคนพิการหรือทุพพลภาพ
และผู้สูงอายุ และควรจัดให้มีทางลาดชัน ห้องน้ำ ที่จอดรถ ป้ายสัญลักษณ์
ตลอดจนพัฒนาบทบาทของกลุ่มจิตอาสาในการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน และพัฒนาองค์กรอื่น ๆ
อาทิ วัด โรงเรียน องค์กรภาคเอกชน ภาคประชาสังคมในพื้นที่
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงกำหนดชื่อสถานพยาบาล และการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถานพยาบาล
ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์
ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่น และสิทธิของผู้ป่วย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
เพื่อรัฐมนตรีสาธารณสุขพิจารณาลงนาม
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปพร้อมกับร่างกฎกระทรวง รวม ๓ ฉบับ ตามข้อ ๑
เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว |
||||||||||||||||||||||||||||||
6143 | มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง | กค. | 12/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ
และมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดนิทรรศการ งานแสดงสินค้าภายในประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภายในประเทศและสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานด้านการท่องเที่ยว
และเพื่อเป็นการสนับสนุนการจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าภายในประเทศ
อีกทั้งสนับสนุนการจ้างงาน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายไปในการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศให้แก่ลูกจ้าง
เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายในการอบรมสัมมนาที่เกิดขึ้นในท้องที่จังหวัดท่องเที่ยวรอง
และร้อยละห้าสิบของรายจ่ายในการอบรมสัมมนาในท้องที่ที่ไม่ใช่ท้องที่จังหวัดท่องเที่ยวรอง
และยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าเช่าพื้นที่หรือค่าบริการในการเข้าร่วมงานออกร้าน
งานนิทรรศการ หรืองานแสดงสินค้าภายในประเทศ ที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ.
๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ รวม ๒
ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็น และประโยชน์ที่จะได้รับ
ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้
เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ และควรให้ความสำคัญกับการยกระดับการท่องเที่ยวภายในประเทศสู่การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพควบคู่ไปกับมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจต่อไปได้
รวมถึงควรให้ความสำคัญกับการกระจายผลตอบแทนทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
ตลอดจนผู้ประกอบการท้องถิ่นเพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและชุมชนด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6144 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางศศิธร ตั้งสวัสดิ์) | สธ. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6145 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. .... | ยธ. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษเพิ่มเติม จากเดิมจำนวน ๔
ชนิด เป็น ๖ ชนิด ได้แก่ ๑) เครื่องแบบปฏิบัติงานปกติ เสื้อนอกคอแบะ (เพิ่มใหม่)
๒) เครื่องแบบปฏิบัติงานปกติ ๓) เครื่องแบบปฏิบัติงานลำลอง ๔)
เครื่องแบบปฏิบัติงานสนามสีเทาดำ (เพิ่มใหม่) ๕) เครื่องแบบปฏิบัติงานสนามสีกรมท่า
และ ๖) เครื่องแบบปฏิบัติงานสนามสีพรางเทาแกมดำ
และปรับปรุงสิ่งประกอบเครื่องแบบและอินทรธนูเพิ่มเติม
เพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจและพื้นที่ปฏิบัติการในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6146 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 | กค. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะทางการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6147 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 ครั้งที่ 25 | กค. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+๓ ครั้งที่ ๒๕ (ASEAN+3 Finance Ministers’ and
Central Bank Governors’ Meeting AFMGM+3) ผ่านการประชุมรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุม
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑. สรุปผลการประชุม AFMGM+3 ประกอบด้วย ๑.๑
พัฒนาการและแนวโน้มเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาค เช่น
ที่ประชุมรับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจโลกและภูมิภาคอาเซียน+๓
ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าในปี ๒๕๖๕ เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ร้อยละ
๓.๖ และเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียจะขยายตัวร้อยละ ๔.๙ ส่วนในปี ๒๕๖๖
เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ร้อยละ ๓.๖ และเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียจะขยายตัวร้อยละ
๕.๑ ๑.๒
การเสริมสร้างความร่วมมือทางการเงินของภูมิภาค เช่น
ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าของการเฝ้าระวังเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+๓
ข้อสรุปร่วมของประเทศสมาชิกในประเด็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงใหม่และกระบวนการการนำเงินสกุลท้องถิ่นมาสมทบในมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี
และทิศทางความร่วมมือทางการเงินอาเซียน+๓ ในอนาคต ๑.๓ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างครอบคลุมและยั่งยืน
รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาตลาดพันธบัตรของภูมิภาคอาเซียน+๓
และสนับสนุนความคิดริเริ่มในการหารือประเด็นเทคโนโลยีทางด้านการเงินและการเงินเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน
มีความสอดคล้องกับประเด็นสำคัญของกรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค
ประจำปี ๒๕๖๕ ในวาระที่ไทยดำรงตำแหน่งเจ้าภาพเอเปค ๒.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+๓
ได้เห็นชอบเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมในรูปแบบแถลงการณ์ร่วม
และมีการปรับปรุงถ้อยคำเพื่อให้มีความเหมาะสมและสะท้อนข้อเท็จจริงมากขึ้น
โดยไม่กระทบหรือขัดต่อผลประโยชน์ของไทย
และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม
๒๕๖๕ เช่น
การเพิ่มข้อความเพื่อแสดงการสนับสนุนโครงการกองทุนประกันภัยพิบัติของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6148 | รายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการออกระเบียบและประกาศตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 | ดศ. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6149 | การโอนเงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF 1 และ FIDF 3 | กค. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนเงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนตนเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ เพิ่มเติม จำนวน ๔,๐๓๑ ล้านบาท เพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยที่กระทรวงการคลังกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๑ (FIDF
1) และพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ (FIDF 3) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
รวมจำนวนทั้งสิ้น ๖,๕๓๑ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6150 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไข หรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี การจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ | พม. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
โดยกรมกิจการผู้สูงอายุใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ภายในกรอบวงเงิน ๘,๓๘๒,๒๐๑,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ
เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ จำนวน ๑๐,๙๔๖,๖๔๖ บาท เป็นระยะเวลา ๖ เดือน (เมษายน-กันยายน ๒๕๖๕) ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับ ดูแล ดำเนินการดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
และให้จัดทำระบบข้อมูลผู้สูงอายุ
โดยจำแนกผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองได้ดี
กลุ่มที่พอช่วยเหลือตนเองได้บ้าง และกลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
เพื่อให้ความช่วยเหลือสอดคล้องกับความต้องการของผู้สูงอายุแต่ละกลุ่มอย่างแท้จริง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
6151 | ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพอากาศ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กห. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการจัดทำประมวลกฎหมายและกฎเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้โดยสะดวก
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการจัดทำประมวลกฎหมายและกฎเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้โดยสะดวกขึ้น เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำประมวลกฎหมายและกฎ
โดยมีประวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมกฎหมายและกฎในเรื่องเดียวกัน เกี่ยวข้อง
หรือเกี่ยวเนื่องกัน ไว้ในแหล่งเดียวกัน เข้าไว้ด้วยกัน จัดหมวดหมู่บทบัญญัติส่วนต่าง ๆ
ให้เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบและเป็นเหตุผล เป็นผล โดยไม่มีการแก้ไขหลักการ
เนื้อความ หรือสาระสำคัญเดิม และใช้บังคับแทนกฎหมาย และกฎที่นำมารวบนั้น
เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงตัวบทกฎหมายต่าง ๆ ได้โดยสะดวกและสามารถเข้าใจกฎหมายได้ง่ายเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง
ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ
ตามนัยมาตรา ๒๗๐ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอรัฐสภาต่อไป
โดยให้แจ้งประธานรัฐสภาทราบด้วยว่า
ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้ตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6152 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอุดรธานี พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฏกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอุดรธานี พ.ศ. 2553) | มท. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอุดรธานี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอุดรธานี พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่อปรับปรุงข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม
(สีเขียว) สำหรับการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อกิจการอื่นในพื้นที่บางบริเวณ
ให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินเพิ่มขึ้น จาก ไม่เกินร้อยละ ๕ เป็น ไม่เกินร้อยละ ๑๐
ของที่ดินประเภทนี้ในแต่ละบริเวณ เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดินในปัจจุบัน
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||
6153 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคม แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยความร่วมมือด้านการปราบปรามแก๊ง Call Center และ Hybrid Scam | ดศ. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบและอนุมัติให้มีการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
ว่าด้วยความร่วมมือด้านการปราบปรามแก๊ง Call
Center และ Hybrid Scam (Memorandum of Understanding
between the Ministry of Digital Economy and Society of the Kingdom of Thailand
and the Ministry of Post and Telecommunications of the Kingdom of Cambodia on
Cooperation for Suppressing Call Center Gang and Hybrid Scam) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมอบหมาย
เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ (จะมีการลงนามในวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕) โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดกรอบความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามแก๊ง Call
Center และ Hybrid Scam โดยกำหนดกิจกรรมความร่วมมือในเรื่องต่าง
ๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญเชิงเทคนิค
และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการปราบปรามแก๊ง Call Center และ Hybrid
Scam การแต่งตั้งผู้ประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบหาหลักฐานในประเทศไทยและกัมพูชา
และการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่าย ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๒. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น
กระทรวงการต่างประเทศ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ไม่มีถ้อยคำหรือบริบทที่จะมุ่งก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ
ร่างบันทึกความเข้าใจฯ จึงไม่ใช่สนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ
และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และเห็นควรเร่งดำเนินการพัฒนาทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
(Digital Literacy) รวมทั้งการรู้เท่าทันภัยที่มากับสื่อและเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชน
เพื่อลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมอันเกิดจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั้งในระดับปัจเจกบุคคลและระดับประเทศ
และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนทุกภาคส่วนในการใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล
ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6154 | การเข้าร่วมเป็นสมาชิกโครงการ The Asia Initiative และการลงนามในปฏิญญา The Asia Initiative (The Asia Initiative Declaration) | กค. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6155 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การส่งเสริมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนจากพลังงานทางเลือกของคณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา | สว. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การส่งเสริมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนจากพลังงานทางเลือก
ของคณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงพลังงานได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยเห็นชอบกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว และมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
สรุปได้ว่า (๑) ด้านนโยบาย เช่น การกำหนดพื้นที่เป้าหมาย (Zoning) สำหรับปลูกไม้โตเร็ว
ได้มีการกำหนดกลุ่มพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่นาดอน ๑๘.๕ ล้านไร่
และพื้นที่ปลูกยางพารา ๖.๑ ล้านไร่ ที่ไม่เหมาะสมและให้ผลผลิตต่ำ
เป็นพื้นที่ให้เกษตรกรปลูกไม้โตเร็วแล้ว (๒) ด้านกฎ ระเบียบ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การกำหนดเกี่ยวกับสมาชิกของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน
ควรใช้เกณฑ์ของพื้นที่ที่มีศักยภาพของวัตถุดิบที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าเป็นหลัก
ปัจจุบันไม่ได้มีการกำหนดเกณฑ์ของพื้นที่ที่มีศักยภาพของวัตถุดิบเป็นหลัก
แต่จะพิจารณาความพร้อมในการดำเนินโครงการ
โดยมุ่งเน้นผลประโยชน์ที่เศรษฐกิจฐานรากจะได้รับ
สำหรับการพิจารณาโรงไฟฟ้าเดิมที่มีความประสงค์ให้มีสิทธิ์ขอเปลี่ยนเป็นโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากนั้น
กระทรวงพลังงานจะได้คำนึงถึงการพิจารณาเรื่องสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเดิมกับคู่สัญญาและเงื่อนไขตามที่ระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าฯ
กำหนด (๓) ด้านการดูแลและการขับเคลื่อน เช่น การพิจารณาคัดเลือกสายพันธุ์ไม้โตเร็ว
สำหรับให้เกษตรกรนำไปปลูกเพื่อให้ได้รับผลผลิตและประสิทธิภาพสูงสุด
กรมป่าไม้ได้เข้าร่วมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นในการพิจารณาคัดเลือกสายพันธุ์ไม้โตเร็วที่มีคุณภาพสำหรับให้เกษตรกรนำไปปลูกเพื่อให้ได้รับผลผลิตและประสิทธิภาพสูงสุด
(๔) ด้านเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เช่น การคัดเลือกเทคโนโลยีระบบผลิตไฟฟ้า
ควรให้ความสำคัญในการบริหารจัดการ และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชน
กระทรวงพลังงานได้พิจารณาความพร้อมด้านเทคโนโลยีหรือมาตรการในการบริหารจัดการร่วมกับชุมชนให้เกิดความยั่งยืน
สำหรับโรงไฟฟ้าที่จะเข้าร่วมโครงการนี้จะต้องมีการแบ่งปันผลประโยชน์ให้ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า
เพื่อเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เช่น ด้านการสาธารณสุข
ด้านสาธารณูปโภค ด้านการศึกษา และ (๕) ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะต่อหลักการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ
ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน
๒๕๖๓ เช่น
ควรส่งเสริมสนับสนุนให้มีการรับซื้อเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า
อันเป็นการลดการกำจัดเศษวัสดุดังกล่าวโดยการเผาไหม้ ได้มีการระบุไว้ในแผนการจัดหาเชื้อเพลิง
โดยมีสัญญารับซื้อในรูปแบบเกษตรพันธสัญญา (Contract farming) ซึ่งพืชพลังงานที่จะนำมาใช้ต้องมาจากวิสาหกิจชุมชนหรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนหรือเกษตรกรบริเวณใกล้เคียงอย่างน้อยร้อยละ
๘๐ และในส่วนร้อยละ ๒๐ ผู้ประกอบการสามารถรับซื้อเศษวัสดุเหลือใช้ของเกษตรกรจากเกษตรกรมาเป็นเชื้อเพลิงได้
ทั้งนี้
จะได้มีการส่งเสริมให้นำวัสดุชีวมวลเหลือทิ้งทางการเกษตรเพื่อเป็นเชื้อเพลิงเข้าสู่โรงไฟฟ้าชุมชน
นอกเหนือจากการใช้ไม้โตเร็ว เพื่อหมุนเวียนและรองรับการขาดแคลนเชื้อเพลิง
และได้คำนึงถึงต้นทุนค่าขนส่งด้วย ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6156 | โครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 2565 | พณ. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑
อนุมัติการดำเนินโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี ๒๕๖๕
ทั้งนี้ ในการดำเนินการโครงการฯ
จะพิจารณาสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสำหรับการส่งออกเฉพาะน้ำมันปาล์มดิบ
เมื่อระดับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่า ๓๐๐,๐๐๐ ตัน
และราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่าราคาตลาดโลก ๑.๒
อนุมัติวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อดำเนินโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี ๒๕๖๕
รวมทั้งสิ้น ๓๐๙ ล้านบาท ๑.๓
เห็นชอบหลักเกณฑ์การขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ
ตามโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี ๒๕๖๕ ๒.
ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ
เช่น ควรมีการติดตาม กำกับดูแลคุณภาพของสินค้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
ควรมอบหมายให้กรมการค้าภายในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานการตรวจสอบปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือภายในประเทศ
เพื่อประกอบการพิจารณาในการผลักดันการส่งออกให้มีความสัมพันธ์ในแต่ละห้วงเวลา
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการเพื่อควบคุมราคาน้ำมันปาล์มสำหรับการบริโภคให้มีความเหมาะสมและส่งผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด |
||||||||||||||||||||||||||||||
6157 | การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เพื่อรองรับการฟื้นฟูประเทศภายหลังการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | รง. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา
และเวียดนาม
เพื่อรองรับการฟื้นฟูประเทศภายหลังการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒.
อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย รวม ๗ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.๑ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๓ (ฉบับที่ ..) ๒.๒ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๒
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๒.๓ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๓
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๒.๔ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
ซึ่งใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๒.๕ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘
กันยายน ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๒.๖ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ .... ๒.๗ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ .... ๓.
เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงแรงงาน รวม ๘ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓.๑ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๒
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๓.๒ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๓
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๓.๓ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
ซึ่งใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๓.๔ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘
กันยายน ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๓.๕ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ .... ๓.๖ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งได้รับอนุญาตทำงานถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
.... ๓.๗ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การกำหนดเงื่อนไขการทำงานกับนายจ้างรายใหม่ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว
และเมียนมา
ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
ภายใต้บันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ ๓.๘ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การยกเว้นหน้าที่การแจ้งข้อมูลการเข้าทำงานของคนต่างด้าวตามมาตรา ๖๔/๒ ๔.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปรับปรุงระบบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวให้ตอบสนองต่อความจำเป็นของตลาดแรงงานได้อย่างรวดเร็วและมีความโปร่งใสในกระบวนการจัดหาแรงงาน
รวมทั้งจัดทำแผนการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวและมาตรการลดแรงจูงใจในการทำผิดกฎหมายที่เป็นรูปธรรม
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๕.
ให้กระทรวงแรงงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6158 | องค์กรร่วมไทย-มาเลเซียขอความเห็นชอบร่างสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 3 สัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติแปลง B-17 & C-19 และแปลง B-17-01 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (ฉบับแก้ไข) | พน. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๓
สัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติแปลง B-17 & C-19 และแปลง B-17-01 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย
(ฉบับแก้ไข) นี้ เพื่อให้ออกเป็นร่างสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๓
สัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติแปลง B-17 & C-19 และแปลง B-17-01
ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย ๑.๒ ให้องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย
โดยหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารองค์กรร่วมฯ
ลงนามในร่างสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๓ฯ
กับกลุ่มผู้ซื้อก๊าซธรรมชาติและรองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารองค์กรร่วมฯ
ลงนามในฐานะพยาน ๒.
ให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุดที่เห็นว่า
ในการสำรวจและการจัดหาก๊าซธรรมชาติ
ควรมีการคำนึงถึงผลกระทบด้านมลพิษและสิ่งแวดล้อมที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย และก่อนการลงนามสัญญา
องค์กรร่วมฯ ต้องตรวจสอบถึงความเหมาะสมและความถูกต้องของเงื่อนไขทางเทคนิคตามข้อตกลงทางธุรกิจ
รวมทั้งความสอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการจัดทำสัญญาด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
6159 | องค์กรร่วมไทย-มาเลเซียขอความเห็นชอบการผนวกสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17 & C-19 และพื้นที่ว่าง (แปลง B-17-02) เข้ากับสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01 โดยการออกสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) ของสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01 | พน. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การผนวกสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17 & C-19 และพื้นที่ว่าง
(แปลง B-17-02) เข้ากับสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01
โดยการออกสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๓)
ของสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01 ๑.๒ การเปลี่ยนแปลงอัตราการหักค่าใช้จ่าย
จากเดิมสูงสุดไม่เกินร้อยละ ๕๐ หรือ ๖๐ เป็นสูงสุดไม่เกินร้อยละ ๗๕
สำหรับค่าใช้จ่ายของน้ำมันดิบ (Cost Oil) และก๊าซธรรมชาติ (Cost Gas) ในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ ๓) ของสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01 ๑.๓ ร่างสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๓)
ของสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01 ระหว่างองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย (องค์กรร่วมฯ) กับบริษัทผู้ได้รับสัญญา
ได้แก่ บริษัท PETRONAS Carigali (JDA) Sdn. Bhd. (PC JDA) และบริษัท
ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ปตท.สผ. อินเตอร์) ๑.๔ ให้องค์กรร่วมฯ
โดยหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารองค์กรร่วมฯ เป็นผู้ลงนามในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ ๓) ของสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01
กับบริษัทผู้ได้รับสัญญา
และให้รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารองค์กรร่วมฯ ลงนามในฐานะพยาน ๒.
ให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมเกี่ยวกับการสำรวจและการจัดหาก๊าซธรรมชาติ
ควรมีการคำนึงถึงผลกระทบด้านมลพิษและสิ่งแวดล้อมที่อาจจะเกิดขึ้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
6160 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2565) | ปสส. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕
ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิธีการที่ประชาชนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
และได้รับการเยียวยาที่จำเป็นอันเกิดจากผลกระทบของการทำหนังสือสัญญาที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
สังคม หรือการค้าหรือการลงทุนของประเทศอย่างกว้างขวาง พ.ศ. ....
พิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง)
วันอังคารที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕
พิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๘
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕
พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๑๑
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๕ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่
๔ ครั้งที่ ๑๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันศุกร์ที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|