ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1947 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 38921 - 38940 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
38921 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี (จำนวน 9 ราย 1. นายสุเมธ ตันธุวนิตย์ฯ) | คค | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี จำนวน 9 คน
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (26 พฤษภาคม 2552) เป็นต้นไป ดัง 1. นายสุเมธ ตันธุวนิตย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศ 2. นายเชาวลิต เมธยะประภาส กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการขนส่งทางน้ำ 3. นายเสถียร วงศ์วิเชียร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกิจการท่าเรือ 4. นายภูมินทร์ หะรินสุต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกิจการการเดินเรือไทย 5. นาวาเอก ชุมพล พรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุมิ ด้านกิจการอู่เรือ 6. นายไผทชิต เอกจริยกร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกฎหมายพาณิชยนาวี 7. นางคมคาย ธูสรานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการประกันภัยทางทะเล 8. นายสุวิทย์ รัตนจินดา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการค้าระหว่างประเทศ 9. นายเปี่ยมศักดิ์ เมนะเศวต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านสิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||||||||
38922 | โครงการบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออก ปี 2552 | กษ | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินโครง
การบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออก ปี พ.ศ. 2552 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2552 โดยในส่วน ของวงเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ฯ สำนักงบประมาณได้พิจารณาอนุมัติให้สำนักงาน ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 60,000,000 บาท ในงบรายจ่ายอื่น และที่ประชุมคณะกรรม การสงเคราะห์เกษตรกร ครั้งที่ 5/2552 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2552 ได้มีมติอนุมัติให้กรมส่งเสริมการเกษตร ยืมเงินปลอดดอกเบี้ย จำนวน 60,000,000 บาท แต่เนื่องจากระยะเวลาการดำเนินการเร่งด่วน จึงให้เบิกเงินจาก กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรไปก่อน และเมื่อสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับเงินงวดแล้ว ก็ให้นำ เงินส่งเข้ากองทุน ฯ โดยเร่งด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
38923 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 | วธ | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระ
ราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 จำนวน 5 ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกา ซึ่งทำให้อาจเสร็จไม่ทันกรอบระยะเวาที่พระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 กำหนดคือภาย ใน 1 ปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัติ ฯ มีผลใช้บังคับ (2 มิถุนายน 2551)
|
|||||||||||||||||||||||||||
38924 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ | กต | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ
(Draft Joint Statement of the ASEAN-Republic of Korea Commemorative Summit) ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะลง นามในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ และหากมีการแก้ไขเพิ่มเติมร่างแถลงการณ์ ร่วม ฯ ที่มิใช่สาระสำคัญและไม่กระทบผลประโยชน์ของไทย อนุมัติให้คณะผู้แทนไทยพิจารณาดำเนินการตามความ เหมาะสมได้ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||
38925 | การรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมสหประชาชาติระดับสูงสุดว่าด้วยวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลกและผลกระทบต่อการพัฒนา | กต | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอร่างผลลัพธ์การประชุมสหประชาชาติ
ระดับสูงสุดว่าด้วยวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลกและผลกระทบต่อการพัฒนา และหากจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุง ร่างเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญก่อนมีการรับรอง ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการ ได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก
|
|||||||||||||||||||||||||||
38926 | มาตรการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ | กค | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ
โดยให้ส่วนราชการในภูมิภาค หรือส่วนราชการในส่วนกลางที่มีหน่วยงานตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค ซึ่งอยู่ในเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจที่จะทำการจัดซื้อในวงเงินเกิน 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 15,000,000 บาท หรือจัดจ้างในวงเงิน เกิน 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 30,000,000 บาท ให้สามารถจัดซื้อ จัดจ้าง โดยวิธีพิเศษตามระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้โดยอนุโลม ทั้งนี้ โดยให้อยู่ในอำนาจของหัวหน้าส่วน ราชการนั้น หรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี ที่จะพิจารณาให้ความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ เป็นสำคัญ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
38927 | ขออนุมัติเพิ่มจำนวนกรรมการในคณะกรรมการบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) | ทก | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มจำนวนกรรมการในคณะกรรมการบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
จากเดิม 11 คน เป็น 15 คน เพื่อดำเนินการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นกรรมการในคณะกรรม การบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ให้ครบตามจำนวนต่อไป ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสารเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
38928 | แต่งตั้งผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (นายวิเศษ ชำนาญวงษ์) | มท | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายวิเศษ ชำนาญวงษ์ เป็นผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค โดย
ให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในปีแรกอัตราเดือนละ 300,000 บาท ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (19 พฤษภาคม 2552) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
38929 | ร่างพระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติรับราชการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | กห | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจำนวน 2 ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ดังนี้ 1. ร่างพระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดประเภทบุคคลที่จะเป็นกำลังพล สำรอง การดำเนินการทั้งหลายเกี่ยวกับกิจการกำลังพลสำรอง และการกำหนดหน้าที่และสิทธิของกำลังพลสำรอง ในการเข้ารับราชการทหาร 2. ร่างพระราชบัญญัติรับราชการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติใน กฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหารที่กำหนดให้ทหารกองเกินและทหารกองหนุนมีหน้าที่เข้ารับราชการทหารใน การเรียกพลหรือระดมพล และบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อมิให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดความซ้ำซ้อน
|
|||||||||||||||||||||||||||
38930 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สสป | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของ
สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติเสนอ มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกความในมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายใน การดำเนินงานของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2544 และกำหนดค่าใช้จ่ายในการเดิน ทางไปดำเนินงานโดยให้ประธานสภา รองประธานสภา ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับข้าราชการพลเรือน ประเภท บริหารระดับสูง และสมาชิกให้ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับข้าราชการพลเรือน ประเภทบริหารระดับต้น และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
38931 | ขอปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2541 เรื่อง มาตรการในการควบคุมการก่อสร้างอาคารของภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐอย่างอื่นที่อาจพึงมีในบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ | ทส | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้ปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2541 เรื่อง มาตรการในการควบคุมการก่อ สร้างอาคารของภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐอย่างอื่นที่อาจพึงมีในบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ ตามที่ รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมือง เก่า เสนอ โดยมติที่ปรับปรุงใหม่จะปรับเปลี่ยน ดังนี้ 1.1 ชื่อคณะกรรมการ จากเดิม คณะกรรมการโครงการกรุงรัตนโกสินทร์ เป็น คณะกรรมการอนุรักษ์ และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า 1.2 หน่วยงาน จากเดิม กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เป็น กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2. ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ให้ควรปรับปรุง ข้อความจาก "ส่งเรื่องและแบบแปลนให้คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า" เป็น "ส่ง เรื่องและแบบแปลนที่จะทำการก่อสร้างให้คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า" และให้ กำหนดกรอบระยะเวลาให้คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนา ฯ พิจารณาให้ความเห็นถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ภายในระยะเวลาสองเดือนเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถวางแผนการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมอบหมายให้ หน่วยงานหรือสถาบันการศึกษาประเมินผลมาตรการในการควบคุมการก่อสร้างในบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์นับตั้ง แต่ ปี พ.ศ. 2542 จนถึงปัจจุบันว่ามีผลดี หรือผลกระทบอย่างไรเกิดขึ้นบ้าง รวมทั้งกลไกการขับเคลื่อนมาตรการ ดังกล่าวโดยพิจารณาความเหมาะสมในการปรับปรุงและเสริมบทบาทของกรุงเทพมหานครซึ่งปัจจุบันมีความพร้อม ในการควบคุมการก่อสร้างอาคารในเชิงอนุรักษ์และพัฒนาอยู่แล้ว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
38932 | ข้อเสนอทางนโยบายเรื่อง ผลกระทบจากอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุดและจังหวัดระยอง | สช | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอทางนโยบายเรื่อง ผลกระทบจากอุตสาหกรรมในพื้นที่ มาบตาพุดและจังหวัดระยอง ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 4/2551 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 ตามที่สำนักงาน คสช. เสนอ ไปพิจารณาดำเนินการดังนี้ 1.1 ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเปิดเผยข้อมูลผลกระทบทางสุขภาพจากอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ในพื้นที่มาบตาพุดและอำเภอบ้านฉาง รวมถึงเผยแพร่วิธีป้องกันผลกระทบและวิธีการสร้างเสริมสุขภาพในภาวะ มลพิษให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงโดยเร็วและต่อเนื่อง และให้จัดทำแผนและกฎการปฏิบัติการสำหรับป้องกัน และบรรเทาอุบัติภัยจากอุตสาหกรรมและการจัดทำแผนป้องกันและบรรเทาอุบัติภัยสารเคมีระดับจังหวัดโดยให้ ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรและประชาชนในพื้นที่ 1.2 ให้ คสช. สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพกลไกกลางในการดำเนินงานและความเข้มแข็งของภาค ประชาชน ได้แก่ การศึกษาแนวทางในการจัดตั้งกลไกผู้ตรวจการสำหรับการป้องกันและแก้ไขผลกระทบทางสุข ภาพ การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของภาคประชาชน และการสนับสนุนภาคประชาสังคมจังหวัด ระยองติดตามความเคลื่อนไหวทางนโยบายโดยใช้กระบวนการสมัชชาสุขภาพเฉพาะพื้นที่ 2. ส่วนข้อเสนอที่สำนักงาน คสช. เสนอคือ 2.1 ให้รัฐบาลทบทวนและปรับแนวทางการพัฒนาจังหวัดระยอง โดยจัดตั้งคณะกรรมการจากทุก ภาคส่วน วางและจัดทำผังเมืองรวมบริเวณอุตสาหกรรมหลักและชุมชนจังหวัดระยองฉบับใหม่ ปรับปรุงระบบและ มาตรการทางการคลัง และจัดตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดระยอง จัดให้มีระบบและกลไกการป้องกันและ แก้ไขปัญหาทางสังคม โดยเฉพาะปัญหาเด็กและเยาวชน และจัดให้มีบริการทางสังคมซึ่งเป็นความสำคัญขั้นพื้น ฐานอย่างเพียงพอ โดยสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ในทุกขั้นตอน 2.2 ให้รัฐบาลชะลอการขยายและก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่มาบตาพุดและบ้านฉาง ในระหว่างการทบทวนและปรับแนวทางการพัฒนาจังหวัดระยอง โดยให้มีการกำหนดแนวทางและกระบวนการ ตัดสินใจในการให้อนุมัติ/อนุญาต/ให้ความเห็นชอบการขยายโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ให้เป็นไปตามมาตรา 67 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นั้น ให้คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก ซึ่งมีรอง นายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) เป็นประธาน รับไปพิจารณาทบทวนความเหมาะสมตามอำนาจหน้าที่ และความสอดคล้องของกฎหมาย กฎ ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||||||||
38933 | การจ่ายเงินชดเชยการดำเนินการตามมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนกรณีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | กค | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้จ่ายเงินชดเชยเพื่อเป็นรายได้ชดเชยส่วนต่างระหว่างเงินชดเชยที่
ใช้หลักต้นทุนในการคำนวณและเงินชดเชยที่ใช้หลักรายได้เฉลี่ยในการคำนวณ ตามกรอบวงเงินที่องค์การขนส่งมวล ชนกรุงเทพได้จัดทำประมาณการต้นทุนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2552-กรกฎาคม 2552 วงเงินประมาณ 639.13 ล้าน บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่างประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น |
|||||||||||||||||||||||||||
38934 | การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการอนุรักษ์และการจัดการพะยูน และแหล่งที่อยู่อาศัยของพะยูนโดยครอบคลุมพื้นที่อาศัยของพะยูนทั้งหมด | ทส | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบและมอบอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงนามใน บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการอนุรักษ์และการจัดการพะยูนและแหล่งที่อยู่อาศัยของพะยูน โดยให้ครอบคลุมพื้นที่ อาศัยของพะยูนทั้งหมด ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรมีการ พิจารณาในข้อกฎหมายให้มีความชัดเจนว่าบันทึกความเข้าใจดังกล่าวเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาด้วยหรือไม่ ไป พิจารณาดำเนินการก่อนที่จะลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าวด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
38935 | ขอเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน น.ส. 3 ก. เลขที่ 832 เนื้อที่ 500 ไร่ 1 งาน ในเขตอำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี | อก | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้ยกเลิกการจัดตั้งโครงการจัดสร้างศูนย์บริหารจัดการวัสดุหลือใช้อุตสาหกรรม (กากอุตสาห กรรมที่เป็นของเสียอันตราย) ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์ที่ดิน น.ส. 3 ก. เลขที่ 832 เนื้อที่ 500 ไร่ 1 งานในเขตอำเภอ วังม่วง จังหวัดสระบุรี และให้เปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าวเป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินตามโครงการในสม เด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 2. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ควรมีการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับ คุณภาพดินและน้ำ การใช้ประโยชน์ที่ดินในอดีตและปัจจุบันเพื่อประกอบการรับมอบและส่งมอบที่ดิน และประกอบ การดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชในพื้นที่ดังกล่าว และมีการกำกับดูแลโรงงานอุตสาหกรรมให้ปฏิบัติตาม มาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้เกี่ยวกับการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด รวม ทั้งติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการภายใต้โครงการจัดทำแผนแม่บทการจัดการกากอุตสา หกรรม และศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งสถานีรวบรวมและขนถ่ายกากอุตสาหกรรมซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ ให้ เป็นไปตามแผนงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการกำจัดกากอุตสาหกรรม ไม่ให้เกิดปัญหาการ ลักลอบทิ้งและการรั่วไหลที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน และสภาพแวดล้อมในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนิน การด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
38936 | ขอให้พิจารณาลดหย่อนการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินของตู้โทรศัพท์สาธารณะ | ทก | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การประเมินค่า
รายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินสำหรับตู้โทรศัพท์สาธารณะให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศให้แล้วเสร็จ ก่อนการจัดเก็บภาษีประจำปี พ.ศ. 2552 |
|||||||||||||||||||||||||||
38937 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ พ.ศ. .... | นร | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่าง
อื่นของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ มีสาระ สำคัญดังนี้ 1. กำหนดให้กรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ ได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงิน เพิ่มเป็นรายเดือนตามบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ตั้งแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งให้ ดำรงตำแหน่ง 2. กำหนดให้กรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ มีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาล หรือการประกันสุขภาพตามที่จ่ายจริง ในอัตราเบี้ยประกันคนละไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี รวมทั้งกำหนดความ หมายของคำว่า "การประกันสุขภาพ" 3. กำหนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้บริการวิทยุโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามที่กระทรวงการคลังกำหนดมา ใช้บังคับกับการเบิกจ่ายของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์โดยอนุโลม 4. กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณบำเหน็จตอบแทน โดยให้กรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ และกรรมการวินิจ ฉัยร้องทุกข์ มีสิทธิได้รับบำเหน็จตอบแทนเป็นเงินซึ่งจ่ายครั้งเดียว เมื่อพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่กำหนด โดยให้นับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่มีการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งจนถึงวันที่สิ้นสุดการ ปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งกำหนดให้สิทธิในบำเหน็จตอบแทนเป็นสิทธิเฉพาะตัว จะโอนไม่ได้ ทั้งนี้ กรณีที่กรรมการวินิจ ฉัยอุทธรณ์ และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์พ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุถึงแก่ความตาย ให้จ่ายบำเหน็จตอบแทนแก่ ทายาทโดยธรรม 5. กำหนดให้กรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นตามพระราชกฤษฎีกานี้นับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
38938 | การปรับแผนการฝึกอบรม จัดประชุมสัมมนา และการดูงาน | นร | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติว่า
1. รับทราบผลการปรับแผนการฝึกอบรม จัดประชุม สัมมนา และดูงานในต่างประเทศ ของส่วน ราชการต่าง ๆ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ 2. ให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ในส่วนการฝึกอบรม จัดประชุม สัมมนา และดูงานต่างประเทศ 3. ให้กระทรวงมหาดไทยประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อขอความร่วมมือให้ ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการฝึกอบรม จัดประชุม สัมมนา และดูงานในต่างประเทศด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
38939 | ขอมติคณะรัฐมนตรีให้หน่วยงานราชการสำรวจและจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการเข้าถึงได้ | พม | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
ดังนี้ 1. กำหนดให้น่วยงานราชการดังต่อไปนี้ดำเนินการสำรวจและจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกเนื่องจากมี คนพิการใช้บริการมาก ตามลำดับ คือ 1.1 โรงพยาบาล จัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามกฎกระทรวง พ.ศ. 2548 ซึ่ง กำหนดให้มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคารสำหรับคนพิการหรือทุพพลภาพและคนชรา 1.2 หน่วยงานราชการ ได้แก่ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ/สำนักงานเขต ที่ทำการขององค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่น (องค์การบริหารส่วนจังหวัด/ส่วนตำบล/สำนักงานเทศบาลนคร/เมือง/ตำบลและเมือง พัทยา) สถาบันการศึกษา และสถานีตำรวจ จัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ทางลาด ห้องน้ำ ที่ จอดรถ ป้ายและสัญญลักษณ์ และบริการข้อมูล ภายในปี พ.ศ. 2554 2. ให้หน่วยงานราชการดังกล่าวสามารถขอตั้งงบประมาณหรือเจียดจ่ายหรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ในการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ โดยให้เป็นอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการ หรือผู้ว่าราชการ จังหวัดอนุมัติ 3. ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับความจำเป็นต้องจัดให้มีสิ่ง อำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ให้ใช้จากเงินรายได้หรือเงินเหลือจ่าย หรือปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณ รายจ่ายประจำปีของหน่วยงาน หรือเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความเหมาะสมและความจำเป็น โดยพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการ ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
38940 | การขออนุญาตดำเนินการก่อสร้างเสริมระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ | มท | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทย โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2534 (เรื่อง รายงานการศึกษาสถานภาพปัจจุบันของป่าไม้ชายเลนและปะการัง ของประเทศ) วันที่ 22 สิงหาคม 2543 (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการ จัดการพื้นที่ป่าชายเลน) และวันที่ 17 ตุลาคม 2543 (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ 3/ 2543 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรีอื่น ๆ ที่กำหนดห้ามการใช้ ประโยชน์ในพื้นที่ปาชายเลน เพื่อให้ กฟภ. ใช้พื้นที่ป่าชายเลนก่อสร้างจุดขึ้น-ลงสายเคเบิลใต้น้ำ และปักเสาพาด สายขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าไปยังเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย โดยให้กระทรวงมหาด ไทย โดย กฟภ. ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2. ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟภ. รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่ให้ กฟภ. ดำเนินศึกษา สำรวจทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญในพื้นที่บริเวณแนววางสายเคเบิลใต้น้ำให้ชัดเจนก่อนดำเนินการและจัดทำแผน ปฏิบัติงานที่สามารถใช้ในการปฏิบัติงานได้ชัดเจนโดยใช้เทคนิคและวิชาการที่เหมาะสมในการวางสายเคเบิลใต้น้ำ และการดำเนินการโครงการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ต้องไม่ขัดกับประกาศกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในท้องที่อำเภออ่าว ลึก อำเภอเมืองกระบี่ อำเภอเหนือคลอง อำเภอคลองท่อม และอำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ในเรื่องที่เกี่ยวกับ มาตรการห้ามกระทำการหรือประกอบกิจกรรมการเก็บหรือทำลายปะการัง ซากปะการัง หรือหินปะการัง หรือ การกระทำใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายหรือมีผลกระทบ หรือทำให้ปะการัง ซากปะการัง หรือหินปะการัง ถูกทำลาย หรือเสียหาย และให้ กฟภ. หลีกเลี่ยงการก่อสร้างจุดขึ้น-ลงในพื้นที่ป่าชายเลนให้มากที่สุด เป็นต้น ไปพิจารณา ดำเนินการด้วย |
.....