ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1946 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 38901 - 38920 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
38901 | ขอเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารเรียนแบบ 324 ล.ตอกเข็มโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี | ศธ | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โอนเปลี่ยนแปลงราย
การเงินกันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารเรียนแบบ 324 ล. ตอกเข็ม โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี ในวงเงินทั้งสิ้น 13,290,485 บาท ก่อนไปดำเนินการตามรายการดังต่อไปนี้ 1. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 แผนงานจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน งานจัดการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน จากงบลงทุน สิ่งก่อสร้าง รายการอาคารเรียนแบบ 324 ล. ตอกเข็ม 1 หลัง จำนวน 1,292,900 บาท ไปตั้งจ่ายแผนงานและงานเดียวกัน งบดำเนินงาน เพื่อจ่ายค่าชดใช้ค่างานให้แก่ผู้รับจ้าง จำนวน 547,920 บาท และงบลงทุนเป็นค่าก่อสร้างปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้างอื่นที่ชำรุดทรุด โทรม และที่ประสบอุทกภัย จำนวน 744,980 บาท 2. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 แผนงานงบประมาณ : สร้างสังคมแห่งการ เรียนรู้ตลอดชีวิต พัฒนาคนให้มีความรู้คู่คุณธรรมและจริยธรรม โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอาคารและ สิ่งก่อสร้าง งบลงทุน สิ่งก่อสร้าง จากรายการอาคารเรียนแบบ 324 ล. ตอกเข็ม 1 หลัง จำนวน 11,997,585 บาท ไปตั้งจ่ายแผนงบประมาณ โครงการเดียวกัน งบลงทุน เป็นค่าก่อสร้างปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคาร ประกอบ และสิ่งก่อสร้างอื่นที่ชำรุดทรุดโทรมและที่ประสบอุบัติภัย จำนวน 11,997,585 บาท
|
|||||||||||||||||||||
38902 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี | ศธ | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพิ่มวงเงินค่าก่อสร้าง
อาคารเรียนอเนกประสงค์ 5 ชั้น พร้อมลิฟต์และครุภัณฑ์ 1 หลัง ของโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี จากวง เงิน 35,000,000 บาท เป็นวงเงิน 41,430,000 บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปี งบประมาณ พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2552 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2553 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 7,000,000 บาท งบประมาณ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวน 5,250,000 บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2553 อีกจำนวน 29,180,000 บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
38903 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต | ศธ | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณค่าก่อสร้างอาคาร
เรียนแบบ 324 ล. ตอกเข็ม จำนวน 1 หลัง ของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต จังหวัดปทุมธานี จากเดิมวง เงิน 16,403,000 บาท เป็นวงเงิน 22,200,000 บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปี งบประมาณ พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2552 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2553 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 3,280,600 บาท และเบิกจ่าย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวน 16,569,400 บาท ส่วนที่ขาดอยู่อีกจำนวน 2,350,000 บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ต่อไป ตามความเห็นของ สำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
38904 | ความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง การขอใช้เงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พ.ศ. 2534 | นร | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอความเห็นของคณะกรรมการ
กฤษฎีกา (คณะที่ 12) เรื่อง การขอใช้เงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พ.ศ. 2534 สรุปได้ดังนี้ 1. ในการใช้จ่ายเงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กำหนดไว้ในข้อ 19 แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบ ฯ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2543 กล่าวคือ การใช้จ่ายเงินกองทุนต้องเป็นไปโดยมติคณะกรรมการ นโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและเฉพาะกรณีตามที่กำหนดไว้ ส่วนคณะกรรมการซึ่งกำกับดูแลสินค้า เกษตรชุดต่าง ๆ ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง คณะกรรมการ นโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นคณะกรรมการระดับนโยบายที่แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีและมติคณะรัฐมนตรี ซึ่ง คณะกรรมการดังกล่าว มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและมาตรการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรสำหรับสินค้าเกษตร ในภาพรวม ไม่มีอำนาจตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรสำหรับสินค้าที่ดูแลรับผิดชอบแต่อย่าง ใด อย่างไรก็ตาม หากคณะกรรมการนโยบาย ฯ เห็นว่า สินค้าเกษตรที่คณะกรรมการชุดต่าง ๆ ดูแลรับผิดชอบ อยู่เป็นสินค้าเกษตรที่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกร ก็สามารถจัดสรรเงินจากกองทุนรวม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้แก่คณะกรรมการชุดต่าง ๆ เพื่อใช้ดำเนินการสำหรับสินค้าเกษตรที่อยู่ในอำนาจหน้า ที่ของตนได้ 2. ทั้งนี้ ในการดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรตามข้อ 19 แห่งระเบียบสำนัก นายกรัฐมนตรี ฯ อาจมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกิดขึ้น ซึ่งหากเป็นผลโดยตรงจากการดำเนินการโครงการช่วยเหลือ เกษตรกรย่อมถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามปกติของการดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ดังนั้น จึงสามารถ จัดสรรเงินจากกองทุน ฯ ไปใช้จ่ายเพื่อการดังกล่าวได้
|
|||||||||||||||||||||
38905 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงยุติธรรมและส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม | ยธ | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
1. รับทราบการแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงยุติธรรม สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาค รัฐ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานอัยการสูงสุด ดังนี้ 1.1 นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็น ปคร. ของกระทรวงยุติธรรม 1.2 นายชาติชาย สุทธิกลม ที่ปรึกษาป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็น ปคร. ของสำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 1.3 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เป็น ปคร. ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 1.4 นายประสิทธิ์ ปทุมารักษ์ รองอธิบดีอัยการฝ่ายการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ เป็น ปคร. ของสำนักงานอัยการสูงสุด 2. สำหรับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เนื่องจากยังไม่มีผู้ที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ซึ่งเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเป็น ปคร. ได้ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา พ.ศ. 2551 ข้อ 5 ดังนั้น ในระหว่างนายอรรณพ ลิขิตจิตถะ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงิน ซึ่งเป็นผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้เสนอชื่อมาจะเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. ของสำนักงาน ฯ ไป พลางก่อน เมื่อมีการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการแล้ว ให้ดำเนินการแต่งตั้ง คปร. ของสำนักงาน ฯ และ แจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบเพื่อดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||
38906 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 290 สายถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ตอนถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมาด้านทิศใต้ พ.ศ. .... | คค | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้าง
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 290 สายถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ตอนถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ด้านทิศใต้ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้าง ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 290 สายถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ตอนถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ด้านทิศใต้ ในท้องที่อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
38907 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลีและกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการจัดส่งแรงงานไทยไปสาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ | รง | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างบันทึก ความเข้าใจระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี และกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วย การจัดส่งแรงงานไทยไปสาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และแจ้งให้สภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป 2. ให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดแจ้งผลการพิจารณาดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสา มัญ ฯ ที่เห็นว่า เนื่องจากปัญหาการว่างงานที่อาจมีมากขึ้นในอนาคตจึง ควรมีการเจรจาด้านแรงงานกับประเทศ ต่าง ๆ เพื่อเปิดตลาดแรงงานอื่น ๆ ทั้งนี้ ควรเป็นการเจรจาในระดับประเทศไม่ใช่การเจรจาในระดับหน่วยงาน เพื่อให้เกิดอำนาจต่อรอง โดยเฉพาะควรมีการรวมกลุ่มกับประเทศผู้ส่งออกแรงงานอื่น ๆ ในการเจรจาต่อรอง เช่น ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้มากยิ่งขึ้น 3. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปพิจารณาศึกษา และเสนอแนวทางที่จะดำเนินการตามข้อสังเกต ของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยด่วน กรณีในอนาคตควรมีการหารือระหว่างรัฐบาลและรัฐสภาเพื่อสร้างความ ชัดเจนในประเด็นขอบเขตการปฏิบัติตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ว่า มีเรื่องใดบ้างที่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาตามมาตรานี้ เพื่อความชัดเจนในทางปฏิบัติ แล้วนำเสนอคณะ รัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
38908 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ปี 2553 (ค.ศ. 2010) | นร | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอเรื่อง การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานา
ชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต International Anti-Corruption Conference (IACC) ครั้งที่ 14 ในปี พ.ศ. 2553 (ค.ศ. 2010) ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีพิจารณา แล้ว เห็นชอบให้รัฐบาลร่วมเป็นเจ้าภาพในจัดการประชุมดังกล่าว โดยมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วย งานหลักในการประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||
38909 | รายงานผลการประชุมคณะมนตรีประศาสน์การโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 25 | ทส | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการประชุม
คณะมนตรีประศาสน์การโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 25 (the 25th Session of the Governing Council/Global Ministerial Environment Forum of the United Nations Environment Programme : UNEP GC/GMEF) ระหว่างวันที่ 14-22 กุมภาพันธ์ 2552 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา โดยผลการประชุม ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1. การประชุมระดับรัฐมนตรี (Ministerial Consultation) ที่ประชุมได้มีการหารือใน 2 หัวข้อ คือ Global Crisis, National Chaos? Toward a green economy โดยให้ความสำคัญต่อเรื่องเศรษฐกิจสีเขียว (green economy) กำหนดหัวข้อที่ให้โลกตระหนักถึงคือ "Green is the new big deal" โดยเน้นถึงความสมดุลระหว่างการ ปกป้องสิ่งแวดล้อม การลดปัญหาความยากจน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยสรุปเศรษฐกิจสีเขียวจะเป็นทาง ออกของวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พลังงาน น้ำ และอาหาร และ IEG Reform Help or Hindrance โดยเน้นถึงความสำคัญของการนำแนวทางในระดับการเมืองมาหารือและกำหนดเป้าหมายให้ แล้วเสร็จภายในสามปีข้างหน้า และเน้นดำเนินการตามแผนกลยุทธ์บาหลี (Bali Strategic Plan) และการเสริม สร้างความเข้มแข็งของ UNEP รวมถึงบทบาทของสำนักงานภูมิภาคต่าง ๆ 2. การประชุมคณะกรรมการรวม (Committee of the Whole) ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการจัดการ สารเคมี รวมถึงปรอท การจัดการขยะ ความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา กฎหมายสิ่งแวดล้อม Intergovern mental Science-policy Platform on Biodiversity and Ecosystem Services (IPBES) การดำเนินงานตามหลัก ธรรมาภิบาลด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ ยุทธศาสตร์และนโยบายด้านทรัพยากรน้ำ งบประมาณและแผนการ ดำเนินงานของ UNEP ในปี พ.ศ. 2553-พ.ศ. 2554 และรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||
38910 | ข้อเสนอสมัชชาแรงงานนอกระบบ | รง | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสรุปข้อเสนอของเวทีสมัชชาแรงงานนอกระบบ ตามที่กระทรวงแรงงาน
เสนอ ดังนี้ 1. เสนอปรับปรุงสิทธิประโยชน์มาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 จาก 3 กรณี (คลอดบุตร ทุพพลภาพ และตาย) เพิ่มเป็น 5 กรณี (เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย คลอดบุตร และชราภาพ) เพื่อ เพิ่มแรงจูงใจในการสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 และให้เกิดความคุ้มค่ากับสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ ทั้งนี้ เพราะปัจจุบันผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ต้องจ่ายเงินสมทบฝ่ายเดียว จำนวน 3,360 บาทต่อปี 2. ให้รัฐบาลจ่ายเงิน จำนวน 2,000 บาท (ตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากร ภาครัฐ) ให้แก่แรงงานนอกระบบที่สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในปี พ.ศ. 2552 โดยเงิน 2,000 บาท จ่ายเข้ากองทุนประกันสังคม (ไม่ได้จ่ายให้แรงงานนอกระบบนำไปใช้จ่าย) ทั้งนี้ เพื่อลดภาระแรงงานนอกระบบ ในการจ่ายเงินสมทบปีแรก 3. ในปีต่อ ๆ ไป ควรกำหนดเป็นกฎหมายให้รัฐบาลร่วมจ่ายเงินสมทบกรณีผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เช่นเดียวกับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่รัฐบาลจ่ายให้ 4. ควรแก้ไขกฎหมายให้การใช้จ่ายเงินสมทบกรณีมาตรา 40 สามารถจ่ายเป็นรายเดือนแทนการจ่าย คราวเดียว จำนวน 3,360 บาทต่อปี
|
|||||||||||||||||||||
38911 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... | ลต | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ
เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ มีสาระสำคัญคือ ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ เขต เลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง ในวันที่ 28 มิถุนายน 2552 และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
38912 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตเปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนประเภทสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. .... | ศธ | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและ
การอนุญาตเปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนประเภทสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการ ขออนุญาตให้เปลี่ยนชื่อหรือเปลี่ยนประเภทสถาบันอุดมศึกษาเอกชน และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
38913 | สรุปภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกและแนวโน้มปี 2552 | นร | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
สรุปภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก และแนวโน้มปี พ.ศ. 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 1/2552 หดตัวร้อยละ 7.1 ต่อเนื่องจากการ หดตัวร้อยละ 4.2 ในไตรมาสสุดท้ายของปี พ.ศ. 2551 การหดตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกรุนแรงกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยที่รุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ จากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยรุน แรงทำให้การส่งออกสินค้าและบริการท่องเที่ยวของไทยหดตัวมากกว่าในไตรมาสที่ 4/2551 การใช้จ่ายและการ ลงทุนภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 2.6 และ 17.7 ตามลำดับ จากที่มีการขยายตัวร้อยละ 2.1 และหดตัวเพียงร้อยละ 1.3 ในไตรมาสสี่ ปี พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอยที่ทำให้การส่งออกและ การผลิตหดตัว ทำให้มีกำลังการผลิตส่วนเกินสูง และมีการยกเลิกจ้างงานจำนวนมาก อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ราคาสินค้าเกษตรสำคัญลดลงมาก ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงทำให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยน้อยลง รวมทั้งการผลิตของประเทศหดตัวลงมากในหลายสาขา 2. แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี พ.ศ. 2552 คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะหดตัวต่อเนื่องในครึ่ง แรก โดยอัตราการขยายตัวเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ในช่วงประมาณร้อยละ (-3.5) ถึง (-2.5) ซึ่งเป็นการปรับลดการ ประมาณการลงจากการขยายตัวร้อยละ (-1) ถึง (0) เป็นการปรับลดการประมาณการตามภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ถดถอยมากกว่าที่คาดไว้และส่งผลกระทบให้การส่งออกของไทยหดตัวมากและเร็วกว่าที่คาดไว้เดิม โดยเฉพาะใน ครึ่งแรกของปี และส่งผลกระทบต่อเนื่องให้การใช้จ่ายและการลงทุนในภาคธุรกิจเอกชนหดตัวชัดเจนมากขึ้น ภาค ธุรกิจลดการผลิตและการจ้างลงมาก และกระทบต่อรายได้และกำลังซื้อของประชาชน กำลังการผลิตส่วนเกินอยู่ ในระดับสูง สถาบันการเงินมีความเข้มงวดมากขึ้นในการขยายสินเชื่อ รวมทั้งความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจยังอยู่ใน ระดับต่ำ ทำให้คาดว่าการลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัวต่อเนื่องตลอดทั้งปีโดยเฉพาะในสาขาอุตสาหกรรม สาขา การก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ สาขาการค้าปลีกค้าส่ง และสาขาการขนส่ง
|
|||||||||||||||||||||
38914 | การแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการดำเนินโครงการตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 | นร | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการดำเนินโครงการตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 โดยมีนายพนัส สิมะเสถียร เป็นประธานกรรมการ และรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) เป็นเลขานุการ 2. เห็นชอบให้ทบทวนอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ฯ ในส่วนการกำกับ ติดตามการดำเนินโครง การต่าง ๆ ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการติด ตามเร่งรัดการดำเนินโครงการตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 แทน
|
|||||||||||||||||||||
38915 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) (นายจุมพล รอดคำดี) | สสส. | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายจุมพล รอดคำดี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชนด้านการสื่อ
สารมวลชนในคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ แทนนายมานิจ สุขสมจิตร ซึ่งพ้นจากตำแหน่ง ตามที่ประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (26 พฤษภาคม 2552) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
38916 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (พลเอก สุภาษิต วรศาสตร์) | นร | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งพลเอก สุภาษิต วรศาสตร์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ทั้งนี้ โดย
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง ใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ได้รับแต่งตั้งลาออกจากตำแหน่งอื่นๆ ที่เป็นลักษณะต้องห้ามให้เรียบร้อย ตาม ที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
38917 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายซาตา อาแวกือจิ) | นร | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง นายซาตา อาแวกือจิ ดำรงตำแหน่งประจำ
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2552 เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
38918 | ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนเมษายน 2552 | พณ | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความเคลื่อนไหวดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป
และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนเมษายน 2552 สรุปได้ดังนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของเดือน เมษายน 2552 เท่ากับ 104.6 เทียบกับเดือนมีนาคม 2552 (103.6) สูงขึ้นร้อยละ 1.0 โดยดัชนีหมวดอาหาร และเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 1.2 จากการสูงขึ้นของราคาผักและผลไม้ ร้อยละ 6.6 เนื้อสุกร ร้อยละ 4.8 ไข่ ร้อย ละ 8.0 ปลาและสัตว์น้ำ ร้อยละ 0.4 ข้าวสารเจ้า ร้อยละ 0.3 และเครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 0.3 และดัชนี หมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.7 จากการสูงขึ้นของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงโดย เฉลี่ยภายในประเทศ ร้อยละ 7.8 ค่าน้ำประปา ร้อยละ 6.3 รวมทั้งสินค้าที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และของใช้ส่วนบุคคล สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนเมษายน 2552 เท่ากับ 102.9 เทียบ กับเดือนมีนาคม 2552 สูงขึ้นร้อยละ 0.1 เดือนเมษายน 2551 สูงขึ้นร้อยละ 1.0 และเฉลี่ยช่วงระยะเดียวกัน (เดือนมกราคม-เมษายน 2551) สูงขึ้นร้อยละ 1.4
|
|||||||||||||||||||||
38919 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นายสำราญ รักชาติ) | ทส | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสำราญ รักชาติ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนัก
งานปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
38920 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 4 ราย 1. นางสาวสุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ฯ) | กษ | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรง
ตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 4 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ 1. นางสาวสุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2. นายเฉลิมพร พิรุณสาร ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานการปฏิรูปที่ ดินเพื่อเกษตรกรรม 3. นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 4. นายศุภชัย บานพับทอง ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมส่งเสริมสหกรณ์
|
.....