ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1948 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 38941 - 38960 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
38941 | การลงนามในเอกสารแก้ไขเอกสารเพิ่มเติมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วน (บันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย ว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค) | ยธ | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานของสำนัก
งาน ป.ป.ส. เป็นผู้ลงนามในเอกสารแก้ไขเอกสารเพิ่มเติมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนของบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย ว่า ด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค ระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชาสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชา ธิปไตยประชาชนลาว สหภาพพม่า ราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และ United Nations Office On Drugs and Crime (UNODC) ทั้งนี้ การลงนามในเอกสารแก้ไขเอกสารเพิ่มเติมฯ ดังกล่าวจะเป็นการยืนยันเจตนา รมณ์ของประเทศไทยร่วมกับประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่ายฯ ในการช่วยเหลือตนเองในการแก้ไขปัญหายา เสพติดในอนุภูมิภาคอีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศภาคีสมาชิกบันทีกความเข้าใจฯ ใน อีกทางหนึ่ง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ |
||||||||||||||||||||||||
38942 | การส่งคืนวัตถุโบราณจำนวน 7 ชิ้น ให้แก่ประเทศกัมพูชา | นร | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการให้รัฐบาลไทยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการ บรรจุหีบห่อและการขนส่งวัตถุโบราณ จำนวน 7 ชิ้น คืนให้แก่ราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 336,980 บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศ 2. อนุมัติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 (เรื่อง การ มอบโบราณวัตถุเขมร จำนวน 7 ชิ้น คืนให้ประเทศกัมพูชา) ซึ่งกำหนดให้ราชอาณาจักรกัมพูชาออกค่าใช้ จ่ายในการบรรจุหีบห่อและการขนส่งวัตถุโบราณดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย
|
||||||||||||||||||||||||
38943 | รายงานประจำปี 2551 กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ | สสส. | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเสนอราย
งานประจำปี พ.ศ. 2551 ของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้แก่ 1. ผลการดำเนินงานตามภารกิจหลัก 6 ด้าน ได้แก่ การสร้างนโยบายสาธารณะที่เอื้อประโยชน์ต่อสุข ภาพ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพองค์กร การรณรงค์สร้างค่านิยมด้านสุขภาพแก่ประชาชน การสร้าง ชุมชนเข้มแข็งด้านการสร้างเสริมสุขภาพ การวิจัยและการประชุมเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ และการลดปัจจัยเสี่ยงและ พัฒนาสุขภาวะเด็กและเยาวชน 2. รายงานงบแสดงฐานะการเงิน งบรายได้และค่าใช้จ่าย และงบกระแสเงินสด ซึ่งสำนักงานการตรวจ เงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว โดยงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 สสส. มีสินทรัพย์รวม 3,459,420,020.57 บาท มีหนี้สินรวม 50,809,452.58 บาท โดยมีสินทรัพย์สุทธิรวม 3,408,610,567.99 บาท สำหรับงบแสดงรายได้และค่าใช้จ่าย สสส. มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 2,797,536,053.62 บาท มี และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม 2,914,915,775.58 บาท โดยมีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน 117,379,721.96 บาท และงบกระแสเงินสด สสส. มีเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงานรวม 13,701,086.07 บาท มีกระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุนรวม 462,318,639.84 บาท มีเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมจัดหา เงิน 7,636,737.90 บาท โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลงสุทธิ 468,382,988.01 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
38944 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บำรุงรักษา ใช้และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... | กค | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บำรุงรักษา
ใช้และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดให้ใช้ที่ราชพัสดุเพื่อประโยชน์แก่การจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการได้ 2. กำหนดให้ผู้ใช้ที่ราชพัสดุจัดทำรายงานเกี่ยวกับที่ราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองหรือประโยชน์ ต่อกรมธนารักษ์ 3. กำหนดให้ที่ราชพัสดุที่กระทรวง ทบวง กรม สงวนไว้แต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ในทางราชการ หรือที่ ราชพัสดุที่ใช้ประโยชน์เป็นสนามบินและยังไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อดำเนินการท่าอากาศยาน นำมาจัดหาประโยชน์ โดยการจัดให้เช่าหรือโดยวิธีการจัดทำสัญญาต่างตอบแทนอื่น 4. กำหนดให้ผู้ใช้ที่ราชพัสดุส่งที่ราชพัสดุที่มีที่ว่างหรือมีการใช้ประโยชน์ไม่เหมาะสมหรือไม่คุ้มค่าคืน กรมธนารักษ์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางราชการตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจอื่นที่เหมาะสมและมีความคุ้ม ค่ากว่าต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
38945 | แต่งตั้งผู้แทนกระทรวงการคลังเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ชลสิน จำกัด | กค | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้แต่งตั้งผู้แทนจากกระทรวงการคลังเป็นกรรมการผู้แทนภาครัฐบาลในคณะกรรมการบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ชลสิน จำกัด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1.1 แต่งตั้งนายจักรกฤศฏ์ พาราพันธกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวง การคลัง เป็นกรรมการผู้แทนภาครัฐบาลในคณะกรรมการบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) 1.2 แต่งตั้งนายสุวิชญ์ โรจนนานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการ คลัง เป็นกรรมการผู้แทนภาครัฐบาลในคณะกรรมการบริษัท ชลสิน จำกัด 2. สำหรับการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2551 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอโดยขอให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาแต่งตั้งผู้แทนกระทรวงการคลังเป็นผู้แทนฝ่ายรัฐบาลในคณะกรรม การบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ชลสิน จำกัด ในโอกาสต่อไป นั้น อาจมีปัญหาเกี่ยวกับข้อ กำหนดในสัญญาให้ผลประโยชน์พิเศษตอบแทนในการอนุญาตทำเหมืองแร่ในทะเล ข้อ 5(2) ซึ่งกำหนดให้นายก รัฐมนตรีแต่งตั้งผู้แทนเป็นกรรมการบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) อย่างน้อย 1 คน และข้อกำหนดใน สัญญาเกี่ยวกับการสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำ ข้อ 7(9) ซึ่งกำหนดให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท ชลสิน จำกัด แต่งตั้งผู้แทนของรัฐบาลเข้ามาเป็นกรรมการในคณะกรรมการของบริษัท ฯ จำนวน 1 คน และในทางปฏิบัติที่ผ่าน มากระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงการคลังได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณามาโดยตลอด และโดยที่เป็นเรื่อง เกี่ยวกับสัญญา จึงให้กระทรวงการคลังรับไปหารือร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง หนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
38946 | คณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง รวม 2 คณะ (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้แก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการพิจารณาค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเตรียมการหรือดำเนิน การรับเสด็จ ฯ งานพิธีในหัวเมือง เนื่องจากมีความคลาดเคลื่อนขององค์ประกอบ รวม 6 รายการ ตามที่กระทรวง มหาดไทยเสนอ 2. ให้กระทรวงมหาดไทยรับเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องการขอเปลี่ยนแปลงชื่อจังหวัด อำเภอ และตำบล หมู่บ้าน หรือสถานที่ราชการอื่น ๆ ไปหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ชัดเจนก่อน ว่า คณะรัฐมนตรีจะมีอำนาจอนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2551 ซึ่ง เป็นวันก่อนที่คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันเข้าบริหารราชการแผ่นดินได้หรือไม่
|
||||||||||||||||||||||||
38947 | ขออนุมัติให้บริษัท เชฟรอน ปัตตานี จำกัด โอนสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 1/2549/69 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G4/48 | พน | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้บริษัท เชฟรอน ปัตตานี จำกัด ผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 1/2549/69
ในแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G4/48 โอนสิทธิ ประโยชน์ และพันธะตามสัมปทานปิโตรเลียมให้แก่ บริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น จำกัด และบริษัท ปตท.สผ. (ประเทศไทย) จำกัด ในอัตราร้อยละ 23.75 และ 5 ของสัมปทานตามลำดับ โดยอาศัยความตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2550 โดยให้กระทรวงพลังงานออกเป็น สัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) ของสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 1/2549/69 ตามที่กระทรวงพลังงาน เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
38948 | ขออนุมัติให้บริษัท เพิร์ล ออย (อมตะ) จำกัด โอนสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 7/2549/75 และ 4/2550/80 สำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G1/48 และ G6/48 | พน | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอให้บริษัท เพิร์ล ออย (อมตะ) จำกัด ผู้รับสัมปทาน
และผู้ดำเนินงานตามสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 7/2549/75 และ 4/2550/80 สำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าว ไทยหมายเลข G1/48 และ G6/48 โอนสิทธิ ประโยชน์ และพันธะตามสัมปทานปิโตรเลียม ซึ่งบริษัท ฯ มีอยู่ใน อัตราร้อยละ 60 ของสัมปทาน และมีบริษัท Northern Gulf Petroleum Pte. Ltd. เป็นผู้ร่วมรับสัมปทาน ถือสิทธิ ประโยชน์ ร้อยละ 40 ให้แก่บริษัท Horizon Oil (G1) Limited และบริษัท Horizon Oil (G3) Limited ในอัตราร้อยละ 20 ของสัมปทาน ตามลำดับ โดยอาศัยความตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2550 โดยให้กระทรวงพลังงานออกเป็น สัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) ของสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 7/2549/75 และ 4/2550/80
|
||||||||||||||||||||||||
38949 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณค่าเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการ (ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 - 2556) | วธ | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ถอนเรื่อง ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณค่าเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการ
ออกไปก่อน โดยให้สำนักงบประมาณรับไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง เพื่อให้ได้ข้อยุติว่า การขออนุมัติก่อหนี้ ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ในขณะที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2553 ยังไม่มีผลใช้บังคับ โดยมีเงื่อนไขว่าจะทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันได้ต่อเมื่อพระราชบัญญัติงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 มีผลใช้บังคับแล้วจะสามารถกระทำได้หรือไม่ อย่างไร แล้วจึง นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
38950 | ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. .... ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 141 | ศร | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยว
กับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. .... ตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 141 โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่างพระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
|
||||||||||||||||||||||||
38951 | รายงานการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (ประจำไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2551) | กค | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี
ศุลกากรจากประเทศสมาชิกใหม่อาเซียน [กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และ พม่า] ประจำไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 และไตรมาศที่ 4 ของปี พ.ศ. 2551 สรุปได้ดังนี้ 1. ในไตรมาสที่ 2 ปี พ.ศ. 2551 (เมษายน-มิถุนายน) มีการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทาง ภาษีศุลกากร มีมูลค่ารวม 269,055,071 บาท แยกเป็นมูล มูลค่าสินค้าที่ยกเว้นอากร 268,764,841 บาท และมูลค่าสินค้าที่ลดหย่อนอากร 290,230 บาท ลดลงจากไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2551 จำนวน 69,343,058 บาท 2. ในไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ. 2551 (กรกฎาคม-กันยายน) มีการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทาง ภาษีศุลกากร มีมูลค่ารวม 788,922,636 บาท แยกเป็น มูลค่าสินค้าที่ยกเว้นอากร 788,542,696 บาท และ มูลค่าสินค้าที่ลดหย่อนอากร 379,940 บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ปี พ.ศ. 2551 จำนวน 519,867,565 บาท 3. ในไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2551 (ตุลาคม - ธันวาคม) มีการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทาง ภาษีศุลกากร มีมูลค่ารวม 635,855,267 บาท แยกเป็น มูลค่าสินค้าที่ยกเว้นอากร 635,780,836 บาท และ มูลค่าสินค้าที่ลดหย่อนอากร 74,431 บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ. 2551 จำนวน 153,067,369 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
38952 | การดำเนินงานโครงการนำร่องการประกันภัยพืชผลโดยใช้ดัชนีภูมิอากาศ | กค | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอผลการดำเนินงานโครงการนำร่องการประกันภัยพืชผลโดย ใช้ดัชนีภูมิอากาศของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สรุปได้ดังนี้ ผลการดำเนินงานใน ปี พ.ศ. 2551 ในพื้นที่โครงการนำร่อง 9 อำเภอ 5 จังหวัด ได้แก่ อำเภอบึงสามพัน วิเชียรบุรี ศรีเทพ จังหวัดเพชร บูรณ์ อำเภอตากฟ้า ตาคลี ไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี อำเภอมวกเหล็ก จังหวัด สระบุรี และอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา สามารถขายกรมธรรม์ได้จำนวน 388 ราย คิดเป็นพื้นที่ 7,238 ไร่ ส่วนการจ่ายสินไหมทดแทน ผลการคุ้มครองช่วงการคุ้มครองที่ 1 (ช่วงเพาะปลูก) ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมให้เกษตรกรผู้เอาประกัน จำนวน 21 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 43,188.46 บาท ประกอบด้วย เกษตรกรผู้เอาประกัน แผนที่ 1 (80 บาทต่อไร่) จำนวน 7 ราย พื้นที่ 99 ไร่ จ่ายค่าสินไหม ม.ม. ละ 2.05 บาทต่อไร่ รวมเป็นเงิน 9,498.06 บาท และเกษตรกรผู้เอาประกัน แผนที่ 2 (120 บาทต่อไร่) จำนวน 14 ราย พื้นที่ 230 ไร่ จ่ายค่าสินไหม ม.ม. ละ 3.13 บาทต่อไร่ รวมเป็นเงิน 33,690.40 บาท โดยได้มีการจ่าย ชดเชยให้แก่เกษตรกรไปแล้วเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2551 สำหรับแผนการดำเนินงานปีการผลิต 2552 ธ.ก.ส. มีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ในการรับประกันภัยพืชผล ประเภทภัยแล้ง การเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีการผลิต 2552 จำนวน 100,000 ไร่ ในจังหวัดที่มีพื้นที่การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่ 60,000 ไร่ขึ้นไป รวมทั้งมีสถานี ตรวจวัดอากาศอุตุนิยมวิทยาตั้งอยู่ 18 จังหวัด 2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดเสนอระบบประกันภัยพืชผลอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ ต่อ คณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล
|
||||||||||||||||||||||||
38953 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้ผลิต นำเข้า หรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 พ.ศ. .... | สธ | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาต
และการออกใบอนุญาตให้ผลิต นำเข้า หรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎ กระทรวง ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาต 2. กำหนดหลักเกณฑ์การยื่นขอรับใบอนุญาต 3. กำหนดเงื่อนไขในการออกใบอนุญาตและกำหนดให้เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาเป็นผู้ กำหนดแบบของใบอนุญาต 4. กำหนดเงื่อนไขให้ผู้รับอนุญาตต้องรายงานผลการดำเนินการตามที่ได้รับใบอนุญาตนั้น 5. กำหนดให้ยื่นคำขอตามกฎกระทรวงนี้ ณ กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา กระทรวงสาธารณสุข
|
||||||||||||||||||||||||
38954 | การเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ (จำนวน 11 คัน) | สว | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ถอนเรื่อง การเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ จำนวน 11 คัน ของสำนักงานเลขธิการ
วุฒิสภา ออกไปก่อน โดยให้สำนักงบประมาณรับไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลังเพื่อให้ได้ข้อยุติว่า การขออนุมัติ ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ในขณะที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ยังไม่มีผลใช้บังคับ โดยมีเงื่อนไขว่าจะทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันได้ต่อเมื่อพระราชบัญญัติงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 มีผลใช้บังคับแล้ว จะสามารถกระทำได้หรือไม่ อย่างไร แล้วจึงนำ เสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
38955 | การเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งมาใช้ในราชการ (จำนวน 6 คัน) | สว | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนเรื่อง การเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งมาใช้ในราชการ ของสำนักงานเลขา
ธิการวุฒิสภา ประกอบด้วย รถประจำตำแหน่งของเลขาธิการวุฒิสภา จำนวน 1 คัน และรถประจำตำแหน่งของรอง เลขาธิการวุฒิสภา จำนวน 5 คัน ออกไปก่อน โดยให้สำนักงบประมาณรับไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลังเพื่อให้ ได้ข้อยุติว่า การขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ในขณะที่พระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ยังไม่มีผลใช้บังคับ โดยมีเงื่อนไขว่าจะทำสัญญาก่อหนี้ผูกพัน ได้ต่อเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 มีผลใช้บังคับแล้วจะสามารถกระทำ ได้หรือไม่ อย่างไร แล้วจึงนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
38956 | การเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งมาใช้ในราชการ (จำนวน 7 คัน) | สม | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ถอนเรื่อง การเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งมาใช้ในราชการ ของสำนักงานคณะกรรม
การสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกก่อน โดยให้สำนักงบประมาณรับไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลังเพื่อให้ได้ข้อยุติ ว่าการขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ในขณะที่พระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ยังไม่มีผลใชับังคับ โดยมีเงื่อนไขว่าจะทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันได้ต่อเมื่อพระ ราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 มีผลใช้บังคับแล้วจะสามารถกระทำได้หรือไม่ อย่าง ไร แล้วจึงนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
38957 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์งบประมาณ 10 ชช.) ทดแทนข้าราชการที่เกษียณอายุ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (จำนวน 2 ราย 1. นางชุมศรี พจนปรีชาฯ) | นร | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี
ให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2551 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ 1. นางชุมศรี พจนปรีชา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ งบประมาณ 10 ชช.) สำนักงบประมาณ 2. นางนีรนุช กาญจนะวรรณ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ งบประมาณ 10 ชช.) สำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
38958 | ขอความเห็นชอบการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำสาธารณรัฐตูนิเซีย (นายกะรีม อะเยด) | กต | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายกะรีม อะเยด ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำสาธารณรัฐ
ตูนิเซีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
38959 | แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงแรงงาน) (นายสิทธิพล รัตนากร) | รง | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสิทธิพล รัตนากร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ
(เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช.) สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลา คม 2551 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
38960 | รายงานความคืบหน้าของการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและการสนับสนุนส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว | คค | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการตามมติ
คณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและการสนับสนุนส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สรุปได้ดังนี้ 1. กรมการขนส่งทางอากาศ ได้ปรับลดค่าธรรมเนียมในการขึ้นลงของอากาศยาน และค่าธรรมเนียม ที่เก็บอากาศยาน ณ สนามบินที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมการขนส่งทางอากาศ ลงร้อยละ 50 ของอัตราที่ กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 2. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีมาตรการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยและ ช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบิน ให้แก่เที่ยวบินแบบประจำที่ทำการบิน ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับ ผิดชอบของบริษัท ท่าอากาศยานไทย ฯ ทุกแห่ง เป็นระยะเวลา 8 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 เวลา 24.00 น. โดยลดอัตราค่าธรรมเนียมในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing Fee) ในอัตราร้อยละ 20 และยกเว้นค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน (Parking Fee) จากเดิม 3 ชั่วโมง แรก ไม่เก็บค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน เป็น 24 ชั่วโมงแรก ไม่เก็บค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน รวมทั้ง มีมาตรการอื่น ๆ ที่มีส่วนส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย อาทิ มาตรการส่งเสริมการบินของเที่ยวบินเช่าเหมาลำ โดยการปรับลดค่าธรรมเนียมในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing Fee) และค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน (Parking Fee) ให้แก่สายการบินที่มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำระหว่างประเทศซึ่งทำการบินขึ้น-ลง ณ ท่าอากาศยาน ดอนเมือง และท่าอากาศยานภูมิภาค 3 แห่ง (ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานเชียงราย และท่าอากาศ ยานหาดใหญ่) ในอัตราร้อยละ 50 มีกำหนดระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 ถึงวันที่ 31 ตุลา คม 2553 เป็นต้น 3. ความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิ พ.ศ. .... ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
|
.....