ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1905 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 38081 - 38100 จากข้อมูลทั้งหมด 124241 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
38081 | รายงานผลการเจรจาเงินกู้กับธนาคารโลก สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) | กค | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. รับหลักการของร่างสัญญากู้เงินกับธนาคารโลก สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่อง จราจร (ระยะที่ 2) และเอกสารที่เกี่ยวข้อง แล้วเสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป 2. อนุมัติให้กระทรวงการคลังในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยดำเนินการกู้เงินจากธนาคารโลกวง เงิน 79.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 3. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ ลงนามในสัญญากู้เงินรวมทั้งเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย 4. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดเตรียมทำความเห็นทางกฎหมายโดยด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
38082 | การทำลายลำไยอบแห้งปี 2546 และปี 2547 โดยการรีไซเคิลเป็นพลังงานชีวมวลตามข้อเสนอโครงการของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | กษ | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นผู้ดำเนินการทำลายลำไยอบแห้งปี 2546 และ ปี 2547 ด้วยวิธีการรีไซเคิล โดยการบดให้แตกละเอียดหน้าคลังสินค้า แล้วนำไปอัดแท่งใช้เป็นพลังงานชีวมวล โดยไม่เกิดมลภาวะและกระทบกับสิ่งแวดล้อม และให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจำหน่ายเชื้อเพลิงอัด แท่งชีวมวลที่ผลิตได้ และนำรายได้จากการจำหน่ายส่งคืนคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) 2. อนุมัติค่าใช้จ่ายในการดำเนินการภายในวงเงินงบประมาณไม่เกิน 90 ล้านบาท แบ่งเป็น 2.1 ค่าบริหารจัดการของคณะกรรมการบริหารจัดการและทำลายลำไยอบแห้ง ฯ ในการตรวจ สอบปริมาณและส่งมอบลำไยอบแห้ง และควบคุมกำกับดูแลการดำเนินการทำลายลำไยอบแห้งให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้รับผิดชอบงบประมาณภายในวงเงินไม่ เกิน 10 ล้านบาท 2.2 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทำลายลำไยอบแห้ง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นผู้ รับผิดชอบดำเนินการภายในวงเงินไม่เกิน 80 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
38083 | การจัดสรรปริมาณข้าวโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 | พณ | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการจัดสรรปริมาณข้าวโครงการรับจำนำข้าว
เปลือกนาปรัง ปี 2552 โดยมอบหมายคณะอนุกรรมการดำเนินการรับจำนำข้าวเปลือก ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน พิจารณาจัดสรรปริมาณรับจำนำข้าวในแต่ละพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยมี เงื่อนไข ดังนี้ 1. ต้องเป็นเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรและได้รับหนังสือรับรองเป็นผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2552 กับกรมส่งเสริมการเกษตร ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2552 และต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยใช้สิทธิ์ในการเข้าร่วมโครง การรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 มาก่อน 2. ปริมาณข้าวเปลือกที่รับจำนำเพิ่มต้องไม่เกินจำนวนโควตาที่ได้รับจัดสรรไว้ตามเป้าหมายที่กำหนด จำนวน 6 ล้านตันข้าวเปลือก
|
|||||||||||||||||||||
38084 | สรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ | นร | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 7 กันยายน
2552 ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23 ปีที่ 2 ครั้งที่ 9 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ 9 กันยายน 2552 และครั้งที่ 10 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2552
|
|||||||||||||||||||||
38085 | การขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | นร | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกัน
ของรัฐสภาโดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อรับฟังความคิดเห็นของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เกี่ยวกับรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการ ปฏิรูปการเมืองและการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
|
|||||||||||||||||||||
38086 | โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล | ทส | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบสถานการณ์ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งได้แก่ แนวปะการัง แหล่งหญ้าทะเลป่าชายเลน และพื้นที่ชายฝั่ง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. เห็นชอบในหลักการโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการจัดสร้างแนวปะการังเทียมปีละ 226 แห่ง ดำเนินการภายในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2553-2557) รวมจัดสร้างแนวปะการังเทียม 1,130 แห่ง ๆ ละ 1.5 ไร่ คิดเป็นพื้นที่ปะการังเทียมรวม 1,700 ไร่ ทั้งนี้ การดำเนินการวางปะการังเทียมบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลทั่วประเทศ นั้น ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสตร์) เป็นประธานรับไปดำเนินการบูรณาการในรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยนำความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยงานระดับสำนักเพื่อดำเนินการจัดการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล โดยเฉพาะการกัดเซาะชายฝั่ง และการจัดสร้างปะการังเทียมขึ้นเป็นการเฉพาะ ให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 (ให้ส่วนราชการต่างๆ ระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงาน รวมทั้งการขอจัดตั้งองค์การมหาชนหรือหน่วยงานอื่นของรัฐในสังกัดฝ่ายบริหารและหน่วยงานบริการรูปแบบพิเศษเพิ่มใหม่ชั่วคราว) และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาจัดทำแผนการดำเนินงานและประมาณการค่าใช้จ่าย รวมทั้งจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ชัดเจน เพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับความจำเป็นและแผนการดำเนินงานในแต่ละปี ไปประกอบการพิจารณาด้วย 3. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมส่งเรื่อง การขอตั้งหน่วยงานในระดับสำนัก ให้สำนักงาน ก.พ.ร. พิจารณาตามขั้นตอน เมื่อมีความชัดเจนในบทบาทและอำนาจหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว |
|||||||||||||||||||||
38087 | ขออนุมัติปรับเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างตัวอาคารสถานีและอุโมงค์รถไฟใต้อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ | คค | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ 1.1 อนุมัติปรับเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารสถานีและอุโมงค์รถไฟใต้อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ จากเดิม 4,082,937,000 บาท เป็น 4,111,457,547.23 บาท 1.2 เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กู้เงินจำนวน 4,754,790,149.84 บาท เพื่อจ่าย คืนค่าก่อสร้างอาคารสถานีและอุโมงค์รถไฟ ฯ รวมดอกเบี้ยจ่ายคืนให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน และรัฐบาลเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณพิจารณารายละเอียด วิธีการ และเงื่อนไขการกู้เงิน โดยให้สำนัก งบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อชำระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ดังกล่าวต่อไป 1.3 ให้ รฟท. รับผิดชอบในการบริหารจัดการพื้นที่ของอาคารสถานีและอุโมงค์รถไฟ ฯ ทั้งบริเวณ พื้นที่ที่ใช้ในการเดินรถไฟ และพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งหมด โดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้บริหาร พื้นที่เชิงพาณิชย์ของอาคารสถานีและอุโมงค์รถไฟ ฯ ในเชิงพาณิชย์เป็นการทั่วไป 2. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ กิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์จะต้อง ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด และให้เร่งหาข้อยุติเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท. เรื่องการปรับโครงสร้างองค์กร โดยเฉพาะรูปแบบการบริหารจัดการโครงการรถไฟฟ้า สายสุวรรณภูมิให้มีความชัดเจนโดยเร็ว สำหรับการบริหารจัดการพื้นที่ของอาคารสถานีและอุโมงค์รถไฟ ฯ ใน ส่วนของพื้นที่เชิงพาณิชย์ ให้ รฟท. พิจารณาดำเนินการตามแนวทางการบริหารเชิงธุรกิจที่ให้ประโยชน์ตอบแทน ทางการเงินที่ดีต่อ รฟท. และเอื้อประโยชน์ หรือเพิ่มมูลค่าให้กับการให้บริการเดินรถไฟฟ้าสาย Airport Rail Link ต่อไปในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
38088 | มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2552 (ครั้งที่ 127) | พน | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้ง 5/2552 (ครั้งที่ 127)
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2552 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ 1. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการปรับสูตรการคำนวณและแนวทางการกำกับดูแลราคา NGV และให้ปรับ ปรุงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2547 เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมัน เชื้อเพลิง โดยเพิ่มเติมนิยามคำว่า "ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV)" เพื่อให้ราคาขายปลีก NGV ถูกกำกับ ดูแลภายใต้กรอบเดียวกันกับน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับภาคขนส่งชนิดอื่น ๆ เพื่อให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลัง งาน (กบง.) มีอำนาจในการกำกับดูแล NGV 2. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับข้อเสนอแนวทางการกำหนดเป้าหมายและรูปแบบการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้า ด้วยระบบ Cogeneration และให้กระทรวงพลังงานรับไปเจรจากับ ปตท. เพื่อปรับลดค่าดำเนินการ (Margin) ใน โครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าระบบ Cogeneration ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติในต่างประเทศที่มีการ ให้ราคาพิเศษ (Favorable Natural Gas Price) สำหรับการซื้อก๊าซโดยผู้ผลิตไฟฟ้าระบบ Cogeneration ซึ่งจะส่งผล ให้ราคารับซื้อไฟฟ้าลดลง และเป็นการช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชน 3. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการปรับสิทธิไฟฟ้าสาธารณะ และคำนิยามการใช้ไฟฟ้าสาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เป็นต้นไป และให้การไฟฟ้าส่วนภมิภาคพิจารณาให้ความช่วยเหลือค่าไฟฟ้าสาธารณะให้กับจังหวัด ชายแดนภาคใต้ ตามความจำเป็นและเหมาะสมโดยตรงต่อไป 4. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และมอบหมายให้ กระทรวงพลังงานนำร่างกฎกระทรวงที่ได้รับความเห็นชอบเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และส่ง ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
38089 | การลงนามพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ภายใต้พิธีสารระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐเปรู เพื่อเร่งการเปิดเสรีการค้าสินค้าและอำนวยความสะดวกทางการค้าและหนังสือแลกเปลี่ยนความเข้าใจเรื่องสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ | พณ | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. การลงนามในพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ภายใต้พิธีสารระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐเปรู เพื่อเร่งการเปิดเสรีการค้าสินค้าและอำนวยความสะดวกทางการค้า และหนังสือแลกเปลี่ยนความเข้าใจเรื่องสินค้า สัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาให้ความเห็นชอบเพื่อให้เอกสารดังกล่าวมี ผลใช้บังคับต่อไป 2. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ลง นาม และให้ผู้ลงนามสามารถพิจารณาแก้ไขข้อความที่ไม่มีนัยสำคัญได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องนำเสนอคณะ รัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง 3. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทยลงนามในพิธี สาร ฯ 4. มอบหมายให้อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หรือผู้แทน เป็นผู้ลงนามกำกับเอกสารในพิธี สาร ฯ 5. เมื่อรัฐสภาเห็นชอบพิธีสาร ฯ แล้ว มอบหมายให้หน่วยงานภายในที่เกี่ยวข้องดำเนินกระบวนการ ภายในประเทศเพื่ออนุวัติการให้เป็นไปตามสัญญา และมอบกระทรวงการต่างประเทศแจ้งภาคีคู่สัญญาทราบเพื่อ ให้หนังสือสัญญามีผลใช้บังคับต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
38090 | ขออนุมัติต่ออายุสัญญาสัมปทานการดำเนินงานของผู้ประกอบการเอกชนที่สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง | คค | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบการต่ออายุสัมปทานการดำเนินงานของผู้ประกอบการเอกชนที่สถานีบรรจุและแยกสินค้า กล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง จำนวน 6 ราย ได้แก่ สถานี A บริษัท สยามชอร์ไซด์ เซอร์วิส จำกัด (SSS), สถานี B บริษัท อิสเทิร์นซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด (ESCO), สถานี C บริษัท เอเวอร์กรีนคอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด (ECTT), สถานี D บริษัท ทิฟฟ่า ไอซีดี จำกัด (TIFFA), สถานี E บริษัท ไทยฮันจิน โลจิส ติกส์ จำกัด (THL) และสถานี F บริษัท เอ็น.วาย.เค.ดิสทริบิวชั่น เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด (NICD) เป็นระยะ เวลา 5 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2549 ถึงวันที่ 5 มีนาคม 2554 โดยกำหนดอัตราค่าเนียมสัมปทานเฉลี่ยที่ 56.40 บาทต่อตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ทุกปีสัมปทาน โดยให้มีผลตั้งแต่วันสิ้นสุดสัญญาสัมปทานเดิม ตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ 2. ให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเร่งดำเนินการก่อสร้างสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) แห่งที่ 2 เพื่อสนับสนุนให้มีปริมาณความต้องการขนส่งสินค้าทางรางเพิ่มขึ้น และข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาเกี่ยวกับสัญญาที่จัดทำขึ้นใหม่จะสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2554 สมควรที่การรถไฟ ฯ ในฐานะหน่วยงานเจ้าของ โครงการต้องพิจารณาเกี่ยวกับการดำเนินงานที่สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง เป็นการ ล่วงหน้าด้วยว่า หลังจากที่สิ้นสุดระยะเวลาตามสัญญาที่จัดทำขึ้นใหม่แล้วถ้าประสงค์ให้เอกชนดำเนินงานที่เดิมต้อง ดำเนินการตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของ รัฐ พ.ศ. 2535 ซึ่งจำเป็นจะต้องพิจารณาถึงระยะเวลาในการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ด้วย ไปพิจารณาดำเนิน การด้วย |
|||||||||||||||||||||
38091 | การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเกี่ยวกับความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา | พณ | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. การลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ (อาเซียน) และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเกี่ยวกับความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา และ นำเสนอบันทึกความเข้าใจ ฯ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาให้ความเห็นชอบเพื่อดำเนินการให้มีผลใช้บังคับต่อ ไป 2. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้ที่ ได้รับมอบหมายอื่นเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ ฯ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิ ใช่สาระสำคัญ ให้ผู้ลงนามสามารถใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ ได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก ครั้งหนึ่ง 3. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายอื่นลงนามในบันทึก ความเข้าใจ ฯ 4. เมื่อรัฐสภาเห็นชอบบันทึกความเข้าใจ ฯ แล้ว มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนัง สือแจ้งประเทศภาคีอื่น ๆ ว่าประเทศไทยได้ดำเนินการตามกระบวนการภายในเสร็จสิ้นแล้วเพื่อให้บันทึกความ เข้าใจ ฯ มีผลใช้บังคับ
|
|||||||||||||||||||||
38092 | การแต่งตั้งกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ เมืองเนเปิลส์ สาธารณรัฐอิตาลี คนใหม่ (นายมารีโอ มัตตีโอลี) | กต | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายมารีโอ มัตตีโอลี ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ เมือง
เนเปิลส์ สาธารณรัฐอิตาลี คนใหม่ สืบแทนนายอิกอร์ สุปรีนา เปโตรวิช ที่ลาออกจากตำแหน่งกงสุลใหญ่กิตติ มศักดิ์ ฯ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
38093 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองบอน ตำบลแพง ตำบลเหล่า ตำบลหัวขวาง ตำบลหนองกุงสวรรค์ ตำบลวังยาว ตำบลดอนกลาง และตำบลหนองเหล็ก อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองบอน ตำบล
แพง ตำบลเหล่า ตำบลหัวขวาง ตำบลหนองกุงสวรรค์ ตำบลวังยาว ตำบลดอนกลาง และตำบลหนองเหล็ก อำเภอ โกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ มีสาระสำคัญ คือ กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลหนองบอน ตำบลแพง ตำบลเหล่า ตำบลหัวขวาง ตำบลหนองกุงสวรรค์ ตำบลวัง ยาว ตำบลดอนกลาง และตำบลหนองเหล็ก อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
38094 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าห้วยยอดมน และป่าบุณฑริก ในท้องที่ตำบลช่องเม็ก ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร และตำบลคอแลน ตำบลโพนงาม ตำบลห้วยข่า อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. .... (เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก - ยอดมน) | ทส | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าห้วยยอดมน และป่าบุณฑริก ใน
ท้องที่ตำบลช่องเม็ก ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร และตำบลคอแลน ตำบลโพนงาม ตำบลห้วยข่า อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าห้วยยอดมน และ ป่าบุณฑริก ในท้องที่ตำบลช่องเม็ก ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร และตำบลคอแลน ตำบลโพนงาม ตำบลห้วยข่า อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก-ยอดมน) และ ให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
38095 | รัฐบาลปาปัวนิวกินีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายเวียลิ วากิ (Mr. Veali Vagi)] | กต | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเวียลิ วากิ (Mr. Veali Vagi) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญ
ผู้มีอำนาจเต็มแห่งปาปัวนิวกินีประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สืบแทน นายคริส โตเฟอร์ เซียอัว เมโร (Mr. Christopher Siaoa Mero) ซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ กรุงจาการ์ตา ตามที่กระทรวงการต่าง ประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
38096 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมแก่โรงงานที่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา พ.ศ. .... | อก | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมแก่โรงงานที่ตั้งอยู่
ในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นค่าธรรมเนียม ทุกประเภทที่เรียกเก็บตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ในระหว่างปี พ.ศ. 2553 ถึงปี พ.ศ. 2557 แก่ ผู้ประกอบกิจการโรงงานซึ่งจะตั้งโรงงานหรือผู้ประกอบกิจการโรงงานซึ่งโรงงานตั้งอยู่ในเขตท้องที่จังหวัดนรา ธิวาส จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
38097 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (จำนวน 8 คน 1. รองศาสตราจารย์สมเจตน์ ทิณพงษ์ฯ) | วท | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ
จำนวน 8 คน ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (8 กันยายน 2552) เป็นต้นไป ดังนี้ 1. รองศาสตราจารย์สมเจตน์ ทิณพงษ์ 2. นายชาตรี สุวรรณิน 3. รองศาสตราจารย์นเรศร์ จันทน์ขาว 4. รองศาสตราจารย์ธวัช ชิตตระการ 5. พลเอก นิพัฒน์ บุณยรัตพันธุ์ 6. นายภูษณ ปรีย์มาโนช 7. ศาสตราจารย์ลักษณา โพชนุกูล 8. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พรชัย ตระกูลวรานนท์
|
|||||||||||||||||||||
38098 | โครงการก่อสร้างศูนย์การแพทย์แผนไทย - จีน ณ จังหวัดภูเก็ตของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน | สธ | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่าง Design Arrangement [China-Thailand Traditional Medical Center
Project] มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการสำรวจและออกแบบศูนย์การแพทย์แผนไทย-จีน โดยมอบให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงเขต 7 เป็นผู้มีอำนาจลงนามในร่างดังกล่าวตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุขส่งร่าง Design Arrangement ให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาเพื่อความรอบคอบ ตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ |
|||||||||||||||||||||
38099 | สรุปผลการประชุมวิปรัฐบาล | นร | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอสรุปผลการประชุมวิปรัฐบาล วันจันทร์
ที่ 31 สิงหาคม 2552 เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ 2 กันยายน 2552 และวันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2552 พร้อมทั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการพิจารณาร่างพระราช บัญญัติในชั้นคณะกรรมาธิการ และร่างพระราชบัญญัติหรือการเสนอเรื่องอื่น ๆ ของคณะรัฐมนตรีที่บรรจุวาระและ จะเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
|
|||||||||||||||||||||
38100 | ร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพทันตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 08/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพทันตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ
คือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติวิชาชีพทันตกรรม พ.ศ. 2537 เพื่อกำหนดให้มีการกำหนดอายุใบอนุญาตประกอบ วิชาชีพทันตกรรมและการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อน เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
.....