ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1906 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 38101 - 38120 จากข้อมูลทั้งหมด 124241 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
38101 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงินประจำตำแหน่ง เงินค่าเบี้ยประชุม และเงินตอบแทนอื่นของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร สมาชิกสภาเขต ของกรุงเทพมหานครและกรรมการของสภากรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 08/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเงินประจำตำแหน่ง เงินค่า
เบี้ยประชุมและเงินตอบแทนอื่นของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร สมาชิกสภาเขตของกรุงเทพมหานคร และกรรม การของสภากรุงเทพมหานคร โดยให้พิจารณาแนวทางขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นประกอบด้วย แล้วนำ เสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
38102 | ร่างพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | วธ | 08/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้
ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ดังนี้ 1. ร่างพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยวัฒนธรรม แห่งชาติ และกฎหมายว่าด้วยสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เพื่อปรับปรุงให้มีการอนุรักษ์และฟื้นฟู จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปะและวัฒนธรรมอันดีของชาติและของท้องถิ่น รวมทั้งการยกย่องเชิดชูเกียรติ ให้แก่บุคคลที่สมควรเป็นศิลปินแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิทางวัฒนธรรมหรือบุคคลที่มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม อัน เป็นการรองรับและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนที่มีส่วนร่วมในการสืบสวนเรื่องดังกล่าว 2. ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยุบเลิกสำนัก งานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติและเปลี่ยนเป็นกรมวัฒนธรรมวิถีชีวิตและภูมิปัญญาเพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบ งานด้านวัฒนธรรมวิถีชีวิตและภูมิปัญญา
|
||||||||||||||||||||||||
38103 | การจัดตั้งผู้ประสานงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Officer : CCO) | ทส | 08/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการของการจัดตั้งผู้ประสานงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Officer : CCO) เพื่อพัฒนาระบบการประสานงานระหว่างกระทรวง และหน่วยงานต่าง ๆ ให้มีประสิทธิ ภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เกิดการบูรณาการการทำงานให้เป็นไปด้วยความราบรื่นมากขึ้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร. และสำนัก งบประมาณ ที่เห็นควรให้มีการปรับเปลี่ยนอักษรย่อ "CCO" เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับการแต่งตั้งผู้ บริหารการเปลี่ยนแปลง (Chief Change Officer : CCO) ทั้งระดับกระทรวง กรม และจังหวัด ไปพิจารณาด้วย 2. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับไปพิจารณาความเหมาะสมจำเป็นในภาพรวมทั้งระบบในการจัดตั้งสำนัก งานประสานการจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายใต้สังกัดสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม โดยรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ และสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นควรดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ที่เห็นชอบมาตรการ ระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงาน รวมทั้งการขอจัดตั้งองค์การมหาชนหรือหน่วยงานอื่นของ รัฐในสังกัดฝ่ายบริหาร และหน่วยงานบริการรูปแบบพิเศษเพิ่มใหม่ชั่วคราว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงสิ้นปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2552 และเพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามภารกิจดังกล่าว ส่วนราชการก็อาจเกลี่ยอัตรากำลัง เจ้าหน้าที่ที่มีอยู่มาปฏิบัติงานดังกล่าวได้ตามความจำเป็น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
38104 | ขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง ออกสลากบำรุงการกุศลพิเศษเพื่อจัดตั้งกองทุนเพื่อเด็กกำพร้าในความดูแลของมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย | กค | 08/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2551 (เรื่อง การออกสลาก
บำรุงการกุศลงวดพิเศษเพื่อจัดตั้งกองทุนเพื่อเด็กกำพร้าในความดูแลของมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย) โดยให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการออกสลากบำรุงการกุศลงวดพิเศษเพื่อจัดตั้งกองทุนเพื่อเด็ก กำพร้าในความดูแลของมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทยทุกขั้นตอน ทั้ง 15 งวด งวดละ 4 ล้านฉบับ ฉบับ ละ 40 บาท โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะได้ค่าตอบแทนร้อยละ 3 ของค่าจำหน่ายสลาก ตามที่กระทรวง การคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
38105 | ขออนุมัติออกสลากกาชาดพิเศษ เพื่อหารายได้สมทบการก่อสร้างอาคารรักษาพยาบาลรวมเฉลิมพระเกียรติ และศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย | กค | 08/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ออกสลากกาชาดพิเศษเพื่อกิจการสาธารณกุศล เป็นจำนวนเงิน 6,000 ล้าน
บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี เพื่อหารายได้สมทบการดำเนินงานโครงการก่อสร้างอาคารรักษาพยาบาลรวมเฉลิมพระ เกียรติ และศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยผ่อนผันการปฏิบัติตาม มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2541 (เรื่อง การออกสลากบำรุงการกุศลงวดพิเศษ) เป็นกรณีพิเศษ และได้ รับยกเว้นภาษีตามมาตรา 5 จตุทศ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎา กร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 310) พ.ศ. 2540 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และเห็นชอบให้สภากาชาดไทยได้รับการลดหย่อนภาษีการพนันตามกฎ กระทรวง ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2503) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2543) ฯ ข้อ 1 ด้วย ทั้งนี้ ให้สภากาชาดไทยดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรคำนึงถึงความประหยัดและความสอดคล้องกับการบริหาร จัดการด้านการผลิตแพทย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
38106 | รายงานผลการเจรจาเงินกู้กับธนาคารพัฒนาเอเชีย สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) | กค | 08/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. รับหลักการของร่างสัญญากู้เงินกับธนาคารพัฒนาเอเชีย สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) และเอกสารที่เกี่ยวข้อง แล้วเสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป 2. อนุมัติให้กระทรวงการคลังในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยดำเนินการกู้เงินจากธนาคารพัฒนา เอเชีย วงเงิน 77.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 3. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ ลงนามในสัญญากู้เงินรวมทั้งเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย 4. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดเตรียมทำความเห็นทางกฎหมายโดยด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
38107 | การออกสลากกินแบ่งเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ | กค | 08/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติออกสลากบำรุงการกุศลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อการส่ง เสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จำนวน 10 งวด ๆ ละ 8 ล้านฉบับ รวม 80 ล้านฉบับ โดยให้สำนักงาน สลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นผู้จัดพิมพ์ จัดจำหน่าย และจ่ายเงินรางวัล โดยผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2541 (เรื่อง การออกสลากบำรุงการกุศลงวดพิเศษ) เป็นกรณีพิเศษ และได้รับยกเว้นภาษี เงินได้ผู้ขาย และลดหย่อนภาษีเงินได้ของผู้ถูกรางวัล ตามมาตรา 5 จตุทศ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความ ในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 310) พ.ศ. 2540 ตามที่กระทรวงการ คลังเสนอ 2. เห็นชอบให้ลดหย่อนภาษีการพนันเป็นอัตราร้อยละ 0.5 แห่งยอดราคาสลากซึ่งมีผู้รับซื้อก่อนหัก รายจ่าย ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2503) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2543) ฯ ข้อ 1 ตามความเห็นของกระทรวงมหาดไทย |
||||||||||||||||||||||||
38108 | เป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี 2552 | กค | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี 2552 ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการเงิน ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกันใน การกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี 2552 ที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยรายไตรมาสระหว่างร้อยละ 0.5-3.0 ต่อปี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 2. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับปัจจัยที่จะกระทบต่อแนวโน้มเงินเฟ้อ ในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งควรติดตามและพิจารณาในการกำหนดกรอบเป้า หมาย ได้แก่ แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย แนวโน้มราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นมาตรการของ รัฐบาลในการกระตุ้นการลงทุนและการสิ้นสุดของมาตรการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนซึ่งเป็นมาตรการ ชั่วคราวในวิกฤตเศรษฐกิจ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
38109 | ร่างพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการให้แก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 ในมาตรา 18 วรรคหนึ่ง (2) และวรรคสอง เพิ่มเติมจากร่างพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานด้าน นิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป 2. เห็นชอบในหลักการให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ มีฐานะเป็นอธิบดี ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการเสนอ เนื่องจากการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการศึกษาเพื่อคนพิการและด้อยโอกาสเป็น ภารกิจที่สำคัญและมีความละเอียดอ่อนต้องรับผิดชอบการจัดการศึกษาของโรงเรียนทั่วประเทศ รวมถึงมูลนิธิ ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก แต่โดยที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2542 กำหนดแนวทางในการตรา กฎหมายว่าไม่ควรกำหนดการจัดตั้งส่วนราชการหรือกำหนดตำแหน่งไว้ตายตัวในกฎหมาย ประกอบกับมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบ บริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 ได้บัญญัติให้กรมมีอธิบดีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและพระ ราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 ประกอบกับกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 ได้กำหนดให้สำนักบริหาร งานการศึกษาพิเศษเป็นส่วนราชการในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักบริหารงาน ฯ จึง ไม่มีฐานะเป็นกรม ควรแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สถานะของสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษสอดคล้อง กับพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ฯ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับสำนักงาน ก.พ. และ สำนักงาน ก.พ.ร. รับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
38110 | แนวทางการลดเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี | นร | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการลดเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี และให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติ
ต่อไป ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
38111 | รายงานผลการเจรจาเงินกู้กับธนาคารโลก สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลัก เป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) | กค | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนเรื่อง รายงานผลการเจรจาเงินกู้กับธนาคารโลก สำหรับโครงการก่อ
สร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) เพื่อนำกลับไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ตามที่รัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
38112 | รายงานผลการเจรจาเงินกู้กับธนาคารพัฒนาเอเชีย สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) | กค | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนเรื่อง รายงานผลการเจรจาเงินกู้กับธนาคารพัฒนาเอเชีย สำหรับโครง
การก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
38113 | กรอบการเจรจากับสหภาพยุโรป กรณีสภาพยุโรปขอเปลี่ยนแปลงตารางข้อผูกพันภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าสัตว์ปีกแปรรูป ภายใต้องค์การการค้าโลก | พณ | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบการเจรจาสหภาพยุโรป กรณีสหภาพยุโรปขอเปลี่ยนแปลงตารางข้อผูก
พันภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าสัตว์ปีกแปรรูป ภายใต้องค์การการค้าโลก โดยมีประเด็นสำคัญของกรอบการเจรจา ฯ ดังนี้ "ให้คณะเจรจาดำเนินการเจรจา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะรักษาสิทธิของไทยในการขอรับการชดเชยจากสหภาพ ยุโรปและมีเป้าหมายที่จะพยายามรักษาระดับของการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปให้ได้รับผลกระทบจากการปรับ เปลี่ยนตารางข้อผูกพันภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าสัตว์ปีกแปรรูปของสหภาพยุโรปให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดย คำนึงความสามารถในการส่งออกสินค้าแต่ละชนิด และยึดถือประโยชน์ในภาพรวมของไทยเป็นหลัก" ตามที่กระทรวง พาณิชย์เสนอ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
38114 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแม่ข้าวต้มท่าสุด เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแม่ข้าวต้มท่า
สุดเป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่าง เก็บน้ำแม่ข้าวต้มท่าสุด จากศูนย์กลางเขื่อนดินอ่างเก็บน้ำแม่ข้าวต้มท่าสุด ขึ้นไปด้านเหนือน้ำ ในเขตตำบลท่าสุด อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ตามที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
38115 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทานเชียงใหม่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ | กษ | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยเดื่อ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียก เก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยเดื่อ ในท้องที่ตำบลแม่ งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน 2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแม่แหลงหลวง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะ เรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแม่แหลงหลวง ในท้อง ที่ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
||||||||||||||||||||||||
38116 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแควน้อย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่ง
น้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแควน้อย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวง เกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวาของแม่น้ำแควน้อย จากกิโลเมตรที่ 0.000 ในท้องที่ตำบลบ้านยาง ถึงกิโลเมตรที่ 22.657 ในท้องที่ตำบลท้อแท้ อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุ โลก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน 2. กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย 1 ขวา ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา จากกิโล เมตรที่ 0.000 แยกตรงกิโลเมตรที่ 11.454 ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลท่างาม ถึงกิโล เมตรที่ 11.454 ในท้องที่ตำบลท่างาม อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียก เก็บค่าชลประทาน 3. กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย 2 ขวา ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา จากกิโล เมตรที่ 0.000 แยกตรงกิโลเมตรที่ 11.783 ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลท่างาม ถึงกิโล เมตรที่ 1.913 ในท้องที่ตำบลท่างาม อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียก เก็บค่าชลประทาน 4. กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองระบายน้ำสายใหญ่ 1 ฝั่งขวา ของแม่น้ำแควน้อย จาก กิโลเมตรที่ 0.000 ในท้องที่ตำบลท่างาม ถึงกิโลเมตรที่ 4.255 ในท้องที่ตำบลท่างาม อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน 5. กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองระบายน้ำสายใหญ่ 2 ฝั่งขวา ของแม่น้ำแควน้อย จาก กิโลเมตรที่ 0.000 ในท้องที่ตำบลท่างาม ถึงกิโลเมตรที่ 1.620 ในท้องที่ตำบลท่างาม อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
||||||||||||||||||||||||
38117 | ขอปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ในลักษณะ Portfolio Guarantee Scheme | กค | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงและเพิ่มเติมรายละเอียดของโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ใน
ลักษณะ Portfolio Guarantee Scheme โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมค้ำประกันในปีแรกเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยให้บังคับ ใช้กับทุกรายที่บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมอนุมัติค้ำประกันตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงวันที่ 31 ธันวา คม 2552 และขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อของแต่ละรูปแบบของ Portfolio Guarantee Scheme จากเดิมไม่เกินราย ละ 20 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน เป็นไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน ตามที่กระทรวงการ คลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
38118 | ร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ พิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีสาระสำคัญโดยสรุปคือ 1. กำหนดให้ในกรณีการจ้างโดยวิธีเหมาค่าแรงให้ผู้ประกอบกิจการอยู่ในฐานะนายจ้างของลูกจ้างของ ผู้รับเหมาค่าแรง 2. กำหนดให้กระทรวงแรงงานมีอำนาจในการประกาศกำหนดอัตรา หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการจ่าย ค่ารักษาพยาบาลลูกจ้างที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย 3. แก้ไขค่าทดแทนรายเดือนในกรณีต่าง ๆ จากเดิมที่กำหนดไว้ "ร้อยละหกสิบของค่าจ้างรายเดือน" เป็น "ร้อยละเจ็ดสิบของค่าจ้างรายเดือน" 4. แก้ไของค์ประกอบคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มาซึ่งผู้แทนฝ่ายนาย จ้างและผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และ อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการแพทย์ 5. กำหนดบทเฉพาะการสำหรับผู้มีสิทธิรับเงินทดแทนก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงได้รับ ต่อไปจนกว่าจะครบถ้วนตามสิทธิ และกำหนดบทเฉพาะกาลสำหรับนายจ้างซึ่งมิได้จ่ายเงินสมทบหรือจ่ายไม่ครบ จำนวนที่ต้องจ่าย
|
||||||||||||||||||||||||
38119 | การขยายความคุ้มครองประกันสังคมแก่คู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตน | รง | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
1. รับทราบข้อมูลการขยายความคุ้มครองประกันสังคมแก่คู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตน ตามที่ กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขที่เห็นควรพัฒนาระบบ บริการและบริหารจัดการเพื่อให้หน่วยบริการปฐมภูมิในทุกระดับเข้าร่วมให้บริการในระบบประกันสังคมเพื่อ การเข้าถึงบริการของผู้มีสิทธิ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกล รวมทั้งพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ระบบ บริการ และการคุ้มครองสิทธิที่เกี่ยวข้องของประชาชนที่เคยอยู่ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ ได้รับสิทธิไม่น้อยกว่าที่เคยได้รับ และมีกระบวนการพัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่อให้ผู้มีสิทธิสามารถเข้าถึง ยาที่จำเป็น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป 2. อนุมัติในหลักการให้รัฐบาลเป็นผู้ออกเงินสมทบฝ่ายเดียวเป็นจำนวนไม่เกินกว่า "งบเหมาจ่าย รายหัว" ที่รัฐบาลจ่ายให้แก่กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายประโยชน์ทดแทนให้แก่ บุตรและคู่สมรส ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้แจ้งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการ ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อไป 3. อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามร่างมาตรา 2 จากเดิม "ให้ใช้บังคับ เมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา" เป็น "ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่ สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา" ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้แจ้งสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวต่อไป 4. ให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข้อสรุปเกี่ยวกับค่า ใช้จ่ายในการจ่ายสิทธิประโยชน์จากเงินกองทุนประกันสังคม ในส่วนของค่าบริการทางการแพทย์กรณีทั่วไป และค่าบริการทางการแพทย์กรณีพิเศษของกระทรวงแรงงาน กับค่าใช้จ่ายเหมาจ่ายรายหัวที่รัฐบาลจัดสรรให้ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นอัตราที่เหมาะสมและเป็นมาตรฐานเดียว กัน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
38120 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงจำนวนหน่วยการก่อสร้างขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรี โครงการก่อสร้างที่พักอาศัยข้าราชการสำนักงานอัยการสูงสุดพร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ | อส | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยข้าราชการ
สำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ จำนวน 153 หน่วย ในวงเงิน 298,421,868 บาท โดยให้ เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2551 แผนงบประมาณ : บริหารจัด การภาครัฐ ผลผลิต : คดีที่ดำเนินการในชั้นศาล งบลงทุน ค่าก่อสร้างที่พักอาศัยข้าราชการสำนักงานอัยการ สูงสุด พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรองรับไว้ รวมจำนวน 226,800,000 บาท ส่วนที่ เหลืออีก จำนวน 71,621,868 บาท ให้สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตาม งวดการจ่ายชำระให้ครบวงเงินตามสัญญาต่อไป ตามผลการพิจารณาของสำนักงบประมาณ
|
.....