ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1876 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 37501 - 37520 จากข้อมูลทั้งหมด 124241 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
37501 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) (จำนวน 11 แห่ง) | นร | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราช การพลเรือนและราชบัณฑิตยสถาน ซึ่งเป็นส่วนราชการที่นายกรัฐมนตรีกำกับการบริหารราชการและส่วนราชการ ที่อยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี 2. รับทราบรายชื่อ ปคร. ของส่วนราชการ ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณ สุข และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี |
||||||||||||||||||||||||
37502 | การนำน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 มาใช้แทนน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B2 ในโครงการจำหน่ายน้ำมันในเขตทะเลอาณาเขตให้ชาวประมงชายฝั่ง | กษ | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลัง
งาน (กบง.) ในการประชุมครั้งที่ 13/2552 (ครั้งที่ 50) เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2552 โดยที่ประชุม กบง. มีมติ เห็นชอบให้นำน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 มาใช้แทนน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B2 ในโครงการจำหน่ายน้ำมันในเขตทะเล อาณาเขตให้ชาวประมงชายฝั่ง (น้ำมันม่วง) โดยมีราคาต่ำกว่าราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ปกติ 2 บาท/ลิตร จนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ ฯ (ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2552-14 พฤศจิกายน 2552) โดยให้เริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2552 เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
37503 | แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงศึกษาธิการ) (นายกำจร ตติยกวี) | ศธ | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายกำจร ตติยกวี ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดม
ศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37504 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 | กค | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครง
การ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. จำนวนโครงการที่เสร็จสมบูรณ์ 103 โครงการ วงเงิน 15,102,932,583 บาท 2. จำนวนโครงการที่การลงนามในสัญญาแล้ว 1,005 โครงการ วงเงิน 11,272,969,379 บาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง/ไม่ทราบสถานะ จำนวน 20,772 โครงการ วงเงิน 173,314,291,190 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
37505 | แต่งตั้งข้าราชการ (จำนวน 7 ราย 1. นายชินภัทร ภูมิรัตน ฯลฯ) | ศธ | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 7 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้น ตามที่กระทรวง ศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ 1. นายชินภัทร ภูมิรัตน์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ 3. นายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการ การอาชีวศึกษา 4. นายวินัย รอดจ่าย ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ 5. นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน 6. นางสุทธศรี วงษ์สมาน ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ สำนักงานเลขาธิการสภา การศึกษา 7. นายสุชาติ วงศ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัด กระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ
|
||||||||||||||||||||||||
37506 | แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหาระดับสูง (นายมนัส สร้อยพลอย) | พณ | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายมนัส สร้อยพลอย ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนัก
งานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวง พาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37507 | เอกสารสำคัญของการประชุมผู้นำอาเซียน - สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 1 | กต | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 1 โดย
ร่างแถลงการณ์ร่วม ฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดทิศทางและความร่วมมือระหว่างอาเซียนและสหรัฐ ฯ ด้าน การเมืองและความมั่นคงเศรษฐกิจ ด้านสังคม การพัฒนาประเด็นต่าง ๆ ของโลกและภูมิภาค รวมทั้งการสนับ สนุนของสหรัฐ ฯ ต่อการดำเนินงานของอาเซียน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนภาย ในปี พ.ศ. 2558 และเพื่อให้นายกรัฐมนตรีร่วมรับรองร่างเอกสารดังกล่าวในระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียน- สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 1 และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขแถลงการณ์ร่วม ฯ ที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอีก ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37508 | กรอบการเจรจาข้อตกลงจัดตั้ง Credit Guarantee and Investment Mechanism (CGIM) และกรอบวงเงินทุนจัดตั้งในส่วนที่ประเทศไทยจะต้องชำระ | กค | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบการเจรจาข้อตกลงจัดตั้ง Credit Guarantee and Investment Mechanism
(CGIM) ประกอบด้วยวัตถุประสงค์การจัดตั้ง CGIM ขอบเขตการดำเนินงานของ CGIM รวมทั้งโครงสร้างการดำเนิน งานของ CGIM และกรอบวงเงินทุนจัดตั้งในส่วนที่ประเทศไทยจะต้องชำระคือ ไม่เกิน 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตาม ที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37509 | แนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ | คค | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้กระทรวงคมนาคม โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด
(มหาชน) พิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาการดำเนินกิจการท่าอากาศยาสุวรรณภูมิ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2550 (เรื่อง การแก้ไขปัญหาในการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) ต่อไป ตามความเหมาะสม
|
||||||||||||||||||||||||
37510 | การดำเนินงานภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | ทส | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอขอแก้ไขเป้าหมาย การลดก๊าซเรือนกระจกในเอกสารท่าทีและกรอบการเจรจาของประเทศไทย ในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสห ประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Conference of the Parties : COP) ณ กรุงโคเปนเฮเกน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก แนบท้ายหนังสือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด่วนที่สุด ที่ ทส 1014/ 2856 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 ข้อ 1.1 จาก "... ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40" เป็น "... อยู่ระหว่างร้อยละ 25- 40" และข้อ 2.2.2 จาก "... ซึ่งอาจไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ..." เป็น "... ซึ่งอาจไม่น้อยกว่าร้อยละ 25-40 ..." และ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแถลงเพิ่มเติมต่อที่ประชุมรัฐสภา 2. กรณีที่หน่วยงานใดจะต้องไปประชุมหรือเจรจาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ให้ประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
37511 | สรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ | นร | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน
2552 ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23 ปีที่ 2 ครั้งที่ 25 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2552
|
||||||||||||||||||||||||
37512 | ขอความเห็นชอบกรอบการเจรจาเพื่อการดำเนินงานความร่วมมือด้านการขนส่งภายใต้กรอบอาเซียน | คค | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบการเจรจาเพื่อการดำเนินงานความร่วมมือด้านการขนส่งภายใต้กรอบ
อาเซียน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป โดยสาระสำคัญของกรอบ การเจรจา ฯ มีดังนี้ 1. รูปแบบการเจรจา แบ่งออกเป็น 3 ระดับ 1.1 การประชุมระดับรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน ให้มีการประชุมร่วมกันเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง 1.2 การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการขนส่งอาเซียน ให้มีการประชุมร่วมกันเป็นประจำทุก ปี ปีละ 2 ครั้ง เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยบริการ ติดตาม และประสานโครงการตามทิศทางที่รัฐมนตรีขนส่งได้ กำหนดไว้ 1.3 การประชุมระดับคณะทำงาน คณะทำงานย่อย และคณะทำงานพิเศษ ให้มีการประชุมร่วมกัน เป็นประจำทุกปี ปีละ 1-2 ครั้ง 2. ประเด็นการเจรจา การจัดทำความตกลง กรอบและนโยบายเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการขนส่ง ภายใต้กรอบอาเซียนในทุกรูปแบบของการขนส่ง (ทางถนน ทางรถไฟ ทางน้ำ ทางอากาศ และการขนส่งต่อ เนื่องหลายรูปแบบ) มีประเด็นการเจรจาที่สำคัญ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง การอำนวย ความสะดวกในการขนส่ง โลจิสติกส์การขนส่ง ความปลอดภัยในการขนส่ง (Transport Safety) การรักษาความ ปลอดภัยในการขนส่ง (Transport Security) การเปิดตลาดบริการสาขาการขนส่งและโลจิสติกส์ การส่งเสริม ระบบการขนส่งที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือทางวิชาการและการฝึกอบรม และการกำหนด ท่าทีร่วมกันของประเทศสมาชิกอาเซียนในประเด็นที่สมาชิกอาเซียนได้รับผลกระทบร่วมกัน
|
||||||||||||||||||||||||
37513 | เสนอรายชื่อบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (จำนวน 9 คน 1. รองศาสตราจารย์ ดร. ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐฯ) | ปง | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งบุคคลดังต่อไปนี้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกัน
และปราบปรามการฟอกเงิน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะบังคับบัญชาสำนักงานป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงินเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา แล้วเสนอสภาผู้แทน ราษฎรและวุฒิสภาเพื่อให้ความเห็นชอบตามลำดับต่อไป ดังนี้ 1. รองศาสตราจารย์ ดร. ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ 2. นายถาวร พานิชพันธ์ 3. ศาสตราจารย์ ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ 4. นายบัญชา เสือวรรณศรี 5. นายวีระ ธีระภัทรานนท์ 6. พลตำรวจเอก สมชาย ประภัสภักดี 7. รองศาสตราจารย์ จารุพร ไวยนันท์ 8. นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล 9. นายมนัส สุขสวัสดิ์
|
||||||||||||||||||||||||
37514 | การดำเนินงานโครงการรับฝากข้าวเปลือกในยุ้งฉางเกษตรกรเพื่อรอการจำหน่าย ปีการผลิต 2552/53 | กค | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. ให้กระทรวงการคลังจัดหาเงินทุนเพื่อใช้ในการดำเนินงานโครงการรับฝากข้าวเปลือกในยุ้งฉาง เกษตรกรเพื่อรอการจำหนาย ปีการผลิต 2552/53 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 2. ในกรณีที่กระทรวงการคลังจัดหาเงินทุนไม่ทันกับระยะเวลาเริ่มดำเนินโครงการ ฯ ให้ใช้เงินทุน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปพลางก่อน โดยชดเชยดอกเบี้ยแทนเกษตรกรให้ แก่ ธ.ก.ส. ในอัตรา MRR-2 (เท่ากับร้อยละ 4.75) เช่นเดียวกับโครงการสินเชื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ ค้าข้าว กรณีเกษตรกรมาไถ่ถอนและชำระคืนเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 2 ธ.ก.ส. ต้องนำดอกเบี้ยดังกล่าว มาหักจากอัตราดอกเบี้ยที่รัฐต้องชดเชยด้วย ซึ่งรัฐจะชดเชยเท่ากับ MRR-2 (เท่ากับร้อยละ 2.75) โดยให้ ธ.ก.ส. ขอจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีชดเชยดอกเบี้ยแทนเกษตรกรต่อไป ตามความเห็นของสำนัก งบประมาณ 3. เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตรตาม นโยบายรัฐบาลที่สิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการแล้ว เพื่อสรุปภาวะหนี้สินทั้งหมด และจัดหาเงินทุนมาชำระหนี้ คืนให้แก่ ธ.ก.ส. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกตันละ 1,000 บาท และกรณีที่ มีผลขาดทุนจากการดำเนินโครงการ ฯ ที่รัฐรับภาระ ให้ ธ.ก.ส. รวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงเสนอสำนักงบ ประมาณเพื่อขอจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 4. ให้กระทรวงการคลัง (ธ.ก.ส.) รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเร่งรัดดำเนินการไถ่ถอนข้าวเปลือกในยุ้งฉางเกษตรกร จากโครงการรับจำนำ ข้าวเปลือก ปีการผลิต 2551/52 เพื่อให้เกษตรกรมีสถานที่รองรับในการเก็บผลผลิตข้าวเปลือก ปีการผลิต 2552/53 และเร่งชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการและสิทธิประโยชน์ในโครงการรับฝากข้าวเปลือก ฯ รวมทั้ง ราคารับฝากข้าวเปลือกในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2552 เพื่อให้เกษตรกรมีข้อมูลประกอบในการตัดสินใจใน การใช้สิทธิตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
37515 | รายงานผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 6 | กห | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลื่อน เรื่อง รายงานผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา
ครั้งที่ 6 ที่บรรจุอยู่ในระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา เรื่องที่ 9 ออกไปก่อน ตามที่เลขาธิการคณะ รัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37516 | บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและการพัฒนาความร่วมมือของตำรวจ | ตช | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียกับสำนักงานตำรวจ แห่งชาติว่าด้วยความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติและการพัฒนาตำรวจ โดยร่างบันทึกความเข้า ใจ ฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญา กรรมข้ามชาติ การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งการร่วมกันพัฒนาบุคลากร ตามที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ 2. สำหรับภาระด้านงบประมาณ เนื่องจากข้อ 9 ของร่างบันทึกความเข้าใจ ฯ เป็นข้อกำหนดที่มี ลักษณะต้องให้การสนับสนุนงบประมาณในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะมีผลผูกพันงบประมาณต่อไปในอนาคต หาก มีภาระค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติประเมินความคุ้มค่าของการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว และใช้ จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหาร งบประมาณ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
37517 | ผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 15/2552 | นร | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและ
เลขานุการคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (รศก.) เสนอ ดังนี้ 1. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการ รศก. ครั้งที่ 15/2552 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2552 โดยที่ ประชุมได้พิจารณาเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ ผลการวิเคราะห์ความเสี่ยงและผลกระทบพร้อมแนวทางแก้ไขปัญหาจากการ ออกใบอนุญาตบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 แผนการพัฒนาตลาดทุนไทย แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และแนวทางการจัดตั้งกองทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไทย (Infrastructure Fund) 2. เห็นชอบมติที่ประชุมคณะกรรมการ รศก. ดังนี้ 2.1 เห็นชอบแผนพัฒนาตลาดทุนไทยสำหรับช่วงระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2552-2556) ตามข้อเสนอ ของกระทรวงการคลัง 2.2 เห็นชอบแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 โดยให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่ง ประเทศไทยร่วมกันพัฒนาตัวชี้วัดที่ชัดเจน เพื่อใช้ประเมินและผลักดันเรื่องการลดต้นทุนในการเข้ารับบริการจาก สถาบันการเงินให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และจัดทำแนวนโยบายในการพัฒนาระบบสถาบันการเงินในรูปแบบ Microfinance แยกออกจากแผนพัฒนา ฯ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการส่งเสริมระบบสถาบันการเงินของประเทศ 2.3 เห็นชอบหลักการจัดตั้งกองทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดย ให้กระทรวงการคลังศึกษาจัดทำรายละเอียดในการจัดตั้งกองทุน ฯ ให้สอดคล้องกับแนวทางการเพิ่มบทบาทภาค เอกชนในรูปแบบ PPPs โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนำเสนอตามขั้นตอนต่อไป 2.4 ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับไปพิจารณาแนวทาง การแก้ไขปัญหาสัญญาสัมปทานระหว่างภาคเอกชน กับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (บมจ. ทีโอที) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (บมจ. กสท. โทรคมนาคม) ให้ถูกต้องตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติว่าด้วย การให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และแนวทางการแปรสัญญาสัมปทานให้สอดคล้องกับแผนแม่บทการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่คณะรัฐมนตรีได้เคยให้ความเห็นชอบแล้ว และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป 2.5 ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรอความชัดเจนทั้งในเรื่องของข้อกฎหมายและ เงื่อนไขการเปิดประมูล ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ที่ชัดเจน ก่อนที่ บมจ. ทีโอที จะ ดำเนินการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนพัฒนาโครงข่าย 3G ของ บมจ. ทีโอที ทั้งนี้ หากเงื่อนไขการ ประมูลใบอนุญาต 3G ของ กทช. มีผลกระทบต่อผลตอบแทนการเงินของของโครงการ ฯ และหาก บมจ. ทีโอที มีความจำเป็นต้องปรับปรุงแผนธุรกิจที่แตกต่างจากเงื่อนไขเดิมที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2551 ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนดำเนินการลงทุนต่อไป 2.6 ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการ คณะ กรรมการ รศก. จัดส่งข้อสังเกตเพิ่มเติมของคณะกรรมการ รศก. ในประเด็นสถานะองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ในการจัดสรรคลื่นความถี่และออกใบอนุญาตของ กทช. และ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) การประมูลคลื่นความถี่และการให้ใบอนุญาต 3G การกำหนดเงื่อน ไขกรณีการเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 3G ของผู้ประกอบการที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานกับ บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท. โทรคมนาคม รวมทั้งมูลค่าใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 เมื่อเปรียบเทียบกับสัญญาสัมปทานเดิม ให้ กทช. เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 ในระยะต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37518 | การจ่ายค่าตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานและผู้ช่วยพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ลูกจ้างประเภทที่ 1) ในปีบัญชี 2551 | กค | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้รับยกเว้นการถือปฏิบัติตามมติ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2540 (เรื่อง การดำเนินงานตามระบบประเมินผลการดำเนินงาน) และ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2545 (เรื่อง เงินตอบแทนพิเศษสำหรับพนักงานธนาคารอาคารสง เคราะห์ในปีบัญชี 2545) สำหรับการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานและผู้ช่วยพนักงาน (ลูกจ้างประเภทที่ 1) ธ.ก.ส. สำหรับการดำเนินงานในปีบัญชี 2551 เป็นกรณีพิเศษ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 2. อนุมัติให้จ่ายค่าตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานและผู้ช่วยพนักงาน (ลูกจ้างประเภทที่ 1) ธ.ก.ส. ใน อัตรา 0.6325 เท่าของเงินเดือนตามแนวทางที่ 3 คือ ให้จ่ายค่าตอบแทนพิเศษจำนวน 6 เท่าของเงินเดือนซึ่งเมื่อ หักเงินค่าตอบแทนพิเศษที่พนักงาน ธ.ก.ส. ได้รับตามระบบประเมินผลงานรัฐวิสาหกิจ จำนวน 5.3675 เท่าของ เงินเดือนแล้ว ธ.ก.ส. จึงสามารถจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษได้อีก 0.6325 เท่าของเงินเดือน ตามที่กระทรวงการ คลังเสนอ |
||||||||||||||||||||||||
37519 | แผนแม่บทโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน ระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ. 2553 - 2556) | ยธ | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนแม่บทโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่าง
ยั่งยืน ระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ. 2553-2556) เพื่อให้เป็นกรอบปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยแผนแม่บท ฉบับนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้ชุมชนที่มีปัญหาการปลูกฝิ่นซ้ำซากได้รับการพัฒนาโดยอาศัยฐานความรู้ที่เหมาะสม มี ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาวโดยไม่ต้องอาศัยการปลูกฝิ่นและค้ายาเสพติด รวมทั้งมี กระบวนการชุมชนที่เข้มแข็งในการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับ การฟื้นฟูและบริหารจัดการโดยชุมชนมีส่วนร่วม โดยมีพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 10 พื้นที่ใน 3 จังหวัด (จังหวัดเชียง ใหม่ แม่ฮ่องสอน และตาก) รวม 7 อำเภอ 15 ตำบล 115 หมู่บ้าน ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือก สุบรรณ) ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเสนอ ส่วนวงเงินเพื่อดำเนินการตามแผนแม่บท ฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-2555 จำนวน 1,550,294,840 บาท ให้กระทรวงยุติธรรมประสานกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดเสนอโครงการและงบประมาณให้มีความชัดเจน แล้วเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรอง และบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พิจารณาตามระเบียบและขั้นตอนต่อไป สำหรับค่า ใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 จำนวน 425,012,960 บาท ซึ่งจะต้องขอรับการสนับสนุนต่อเนื่องโดยใช้เงิน งบประมาณ นั้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินผลการดำเนินงานและขอจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2556 ตามความจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
37520 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนหนองพลับ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนหนองพลับ จังหวัดประจวบ
คีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรี ขันธ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อ ไปได้
|
.....